I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 1133 – อย่าได้ลืมรากเหง้า

| Martial God Asura | 3550 | 2518 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

บทที่ 1133 – อย่าได้ลืมรากเหง้า

 

“หยุดเดี๋ยวนี้!!!”

 

ในตอนที่ชูเฟิงกำลังจะสวน หลง เฉินฟู่ เสียงที่ดังจนแสบแก้วหู ก็ระเบิดออกมา

 

ในตอนนั้นเสียงได้ดังไปทั่ว ราวกับพายุและสายฟ้าที่โหมกระหน่ำ เมฆสีดำเริ่มจับตัวขึ้น กลิ่นอายเริ่มเข้าปกคลุมที่แห่งนั้น และพุ่งใส่พวกเขา

 

เมื่อเผชิญกับกลิ่นอายนั้น การโจมตีของ หลง เฉินฟู ก็เป็นแค่คลื่นลมที่เผชิญหน้ากับ พายุเท่านั้น ในตอนนั้นมันหายไปในพริบตา

 

เมื่อเชิญหน้ากับกลิ่นอายที่ทรงพลังนั่น ชูเฟิงก็ต้องขมวดคิ้วในตอนนั้นเขารู้ดีว่าตนนั้นอ่อนแอเพียงใดเมื่อเทียบกับมัน คนคนนั้นสามารถฆ่าทุกคนในที่แห่งนี้โดยไร้ผู้ต่อต้านได้ แม้กระทั่งชูเฟิงก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น

 

หลังจากกลิ่นอายปรากฏข้น ท่าทางของทุกคนก็ต้องเปลี่ยนโดยฉับพลัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนจากกองทัพสวรรค์ ความโกรธหายไปเหลือเพียงความกลัวเท่านั้น พวกเขารู้ว่าคนที่มานั้นคือผู้อาวุโสหุบเขาไม้คราม

 

ในตอนนั้น จากที่ที่กลิ่นอายมา ก็มีร่างเล็กๆ ค่อยๆปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางสายตาผู้คน

 

เป็นหญิงชรา สวมชุดสีทองที่มีสัญลักษณ์ ผู้อาวุโสหลักของ หุบเขาไม้คราม นางนั้นมีผมสีเงินอ่อนที่เกือบจะขาว ด้วยชุดสีทองนั้นทำให้นางดูผสมผสานระหว่างสีทองและสีเงิน

 

ลักษณะของนางเห็นได้ชัดว่าชรามากแล้ว ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยริ้วรอย และนางนั้นมีอายุเกือบจะ 200 ปี แล้วนางน่าจะเป็นคนรุ่นเดียวกับ ฉีคง ไจ้ฉิง

 

ไม่ต้องสงสัย กลิ่นอายของนางนั้นคล้ายกับ ฉีคง ไจ้ฉิง ชูเฟิงบอกได้ว่านางนั้นอยู่ในระดับ กึ่งจักรพรรดิสงคราม “ขอคารวะผู้อาวุโส เซี่ย”

 

เมื่อเห็นหญิงชราปรากฏตัวขึ้น คนจากพรรคสวรรค์จึงรีบทักทายด้วยความเคารพทันที “ผู้อาวุโส เซี่ย นางคือผู้อาวุโสเซี่ยอย่างนั้นหรือ?!”

 

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ชูเฟิงก็แสดงท่าทางออกมา

 

ก่อนที่จะมาที่นี่ ประมุขนิกายสวรรค์ได้บอกชูเฟิงเรื่องผู้อาวุโสหลายคนในนี้ เขาบอกว่าถ้าชูเฟิงต้องการอะไรให้ไปหาพวกเขาได้เลย พวกเขาจะเป็นที่พึ่งให้ชูเฟิงได้

 

ก่อนหน้านี้ที่การแข่งชิงธงชูเฟิงได้พบผู้อาวุโสจากนิกายสวรรค์บ้างแล้ว อย่างไรก็ตามแม้ว่าผู้อาวุโสทุกคนในหุบเขาไม้ครามจะไม่ได้อยู่ข้างเดียวกับนิกายสวรรค์แต่ก็มีหลายคนที่ไม่อยู่ในตอนนั้นที่เข้าร่วมกับพวกเขายกตัวอย่างเช่นผู้อาวุโสเซี่ย

 

ชูเฟิงนั้นได้ยินชื่อนางมาก่อน แต่เขาไม่คิดว่าจะได้พบนาง “เจ้ากำลังทำอะไรกัน จะก่อเรื่องหรือไง ?!”

 

เมื่อเห็นเช่นนั้นผู้อาวุโสเซี่ย ก็พูดขึ้น นางจ้องไปที่ หลง เฉินฟู่

 

นางพูดว่า”

 

หลง เฉินฟู่ เจ้าทำเช่นนี้เจ้าไม่คิดจะสนใจชื่อเสียงพี่ชายเจ้าและนิกายสวรรค์เลยหรอ ถึงมารังแกศิษย์ใหม่เช่นนี้ เจ้าไม่ละอายหรืออย่างไร””ผู้อาวุโสเซี่ยมันไม่ใช่ … โปรดฟังข้าอธิบายก่อน”

 

เมื่อเห็นผู้อาวุโสเซี่ยโกรธ หลง เฉินฟู่ ก็ยื่นขึ้นแล้วพยายามอธิบาย “พอแล้ว ข้าไม่ต้องการฟัง เจ้าคิดว่าข้าตาบอดหรือ ข้าเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นหมดแล้ว.””ในฐานะผู้อาวุโสหลักของหุบเขาไม้คราม ข้าขาเตือนเจ้า หุบเขาไม้ครามอนุญาต ให้เหล่าศิษย์สร้างพรรคย่อยขึ้นมาเพื่อช่วยกันพัฒนาความสามารถและทำงานเป็นกลุ่ม มันจะดีกว่าถ้าเจ้าไม่รังแกผู้อ่อนแอ.””และสำหรับศิษย์ที่มาจากนิกายสวรรค์ทุกคน ข้าขอพูดอะไรอย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นใครก็ห้ามลืมรากเหง้าของตน พวกเจ้าห้ามลืมว่าพวกเจ้ามาถึงจุดๆนี้เพราะใครได้ช่วยบ้าง.””เจ้าอย่าคิดว่าเจ้าแข็งแกร่ง แต่ที่เจ้าเข้ามาที่นี่ได้ ไม่ใช่เพราะการสนับสนุนจากผู้อาวุโส โจวอย่างนั้นหรือ พวกเจ้าทั้งหมดก็พึ่งเขามาเยอะมากอย่างไรก็ตามเจ้าต้องไม่เคยลืมว่าเขาไม่เพียงเป็นผู้อาวุโส แต่เป็นประมุขของพวกเจ้า.””เจ้าคิดว่าความสามารถที่กองทัพสวรรค์ของเจ้ามีในที่แห่งนี้ หากปราศจากผู้อาวุโสอย่างพวกเราคอยช่วยเหลือ ใครจะช่วยเจ้าได้””ตอนนี้ หุบเขาไม้ครามใต้ กับนิกายสวรรค์ได้สาบานเป็นพันธมิตร ร่วมเป็นร่วมตายกัน นิกายสวรรค์ก็นับหนึ่งเดียวกับป่าไม้ครามใต้ หากเจ้าดูแคลนพวกเขา ก็เท่ากับดูแคลนตัวเองด้วย.””นอกจากนี้ เจ้าคิดว่านี่มันนานแค่ไหนแล้ว กองทัพสวรรค์จะรับแค่ศิษย์จากนิกายสวรรค์อย่างนั้นหรือ แม้ว่าหุบเขาไม้ครามจะก่อตั้งมาหลายพันปี แต่ด้วยพลังของมนุษย์และสัตว์มหึมามากความสามารถ พวกเขาทั้งหมดก็ได้เข้ามาในหุบเขาไม้ครามและคอยฟูมฟักหุบเขาไม้คราม””และตอนนี้ หลายพันปีต่อมา เจ้าเด็กบัดซบเช่นเจ้า ก็ยังโง่ยิ่งนัก พวกเจ้าไม่มีสมองหรืออย่างไร”

 

ผู้อาวุโส เซี่ย ชี้นิ้ว ไปที่พวก หลง เฉินฟู่ แล้วพูดขึ้นคำพูดของนางนั้นทำให้พวกเขาไม่กล้าแม้แต่ก้มหน้าลง มันเป็นเพราะนางนั้นเต็มไปด้วยเหตุผล และ ยากที่จะปฏิเสธได้ “ลืมมันไปให้หมด ทุกคนต้องสร้างทางเดินของตนเอง เจ้าไม่ใช่เด็กๆกันแล้ว เหตุผล สามัญสำนึก และอื่นๆ ข้าเชื่อว่าเจ้าต้องเข้าใจ ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะเข้าใจมัน”

 

ผู้อาวุโส เซี่ยพูดจบก็สะบัดแขน นางแสดงท่าทางผิดหวังสำหรับกองทัพสวรรค์ที่นางเคยจากมาเช่นนี้ “ผู้อาวุโส เซี่ย ข้าน้อยเข้าใจแล้ว ในตอนแรกนั้นข้าน้อยหลง ระเริงเกินไปจนเกือบลืมรากเหง้าของตน ข้าน้อยนั้นไม่เคยลืมรากเหง้าตนเอง แม้ข้าจะเป็นศิษย์หลักหุบเขาไม้คราม แต่ข้าก็ยังเป็นศิษย์จากนิกายสวรรค์.””แต่ส่วนเรื่องคำขอของศิษย์น้องชูเฟิง ที่จะนำคนของเขาเข้าร่วมกับเรานั้นมันขัดต่อกฎข้าไม่สามารถตัดสินใจได้”

 

หลง เฉินฟู่ พูดขึ้น “ถ้าเจ้าไม่สามารถตัดสินใจแล้วพี่ชายเจ้าล่ะ หลง เฉินอี้ กับ เมิ่ง เจิ้นสัว ไปไหน”

 

ผู้อาวุโสเซี่ยถาม “นี่…”

 

หลง เฉินฟู่นั้นเต็มไปด้วยความลังเล เขาไม่รู้จะตอบนางอย่างไรดี

 

ในตอนนั้นชูเฟิงก็พูดขึ้น”

 

ผู้อาวูโส เซี่ยขอบคุณสำหรับความเมตตา อย่างไรก็ตามข้าน้อยไม่มีความต้องการจะเข้าร่วมกองทัพสวรรค์.”

 

ชูเฟิงไม่ใช่คนโง่ เขาพูดได้ว่าผู้อาวุโสเซี่ยมาที่นี่เพราะเขา อย่างไรก็ตามเขาพูดได้ว่า หลง เฉินฟู่นั้นไม่กล้าพูดอะไรเพราะเขากลัวนางมาก แต่ความจริงแล้ว หลง เฉินฟู่ ก็ยังคงดูถูกคนจากหุบเขาไม้ครามใต้และชูเฟิงอยู่ดี เขานั้นไม่ต้องการให้พวกเขาเข้าร่วมกับกองทัพสวรรค์

 

แล้วทำไมชูเฟิงต้องเข้าร่วมด้วยล่ะ เขาอาจจะได้ผลประโยชน์จากมัน แต่ผลที่ปรากฏอาจจะตรงกันข้ามก็ได้ ดังนั้นเขาจึงไม่มีเหตุผลที่เข้าร่วมกับกับกองสวรรค์ “ชูเฟิง พวกเขาเป็นฝ่ายผิด อย่างไรก็ตามพวกเขานั้นมีเหตุผลของพวกเขา กองทัพสวรรค์นั้นมีกฎที่จะไม่รับคนอื่นนอกจากศิษย์นิกายสวรรค์ดังนั้น เจ้าต้องอย่าได้ใช้การกระทำของพวกเขามาตัดสินทุกอย่าง “ผู้อาวุโสเซี่ย พูดกับชูเฟิงนางนั้น พูดกับชูเฟิงด้วยน้ำเสียงที่ดีมาก

 

การแสดงออกของนางต่อหน้าชูเฟิงนั้น ทำให้หลง เฉินฟู่ และคนอื่นๆ ตกใจมากที่พวกเขาจำได้นางนั้นไม่ได้เป็นคนที่มีอัธยาศัยดีแต่ทำไมนางถึงสุภาพต่อชูเฟิงขนาดนี้

 

ReaDMGA ////////////////////////////////////////

 

A : ก็พี่เฟิงครอบครองทักษะต้องห้าม พสุธา ของบรรพบุรุษ พวกมืงไง ไอควาย!!!

 

B : ด่าได้แจ๋ว!!!

 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments