I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 1143 – ศูนย์รวมภารกิจ

| Martial God Asura | 3689 | 2517 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

บทที่ 1143 – ศูนย์รวมภารกิจ

 

“ฮัว เซียง , เซี๊ยะ เยว่ ศิษย์น้องรู่วเฉิน ว่ายังไงบ้าง ?”

 

เมื่อ หลง เฉินยี่ เห็นชายทั้ง 2 คนเข้ามาเขารีบก้าวเท้าไปข้างหน้าเพื่อถามพวกเขาทั้ง 2 ในทันที คนในพระราชวังทั้งหมด ต่างจับจ้องไปที่ร่างของคนทั้ง 2

 

เเต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการมองมาที่เขาด้วยสายตาของฝูงชนที่เต็มไปด้วยความหวังพวกเขารู้สึกกังวลจนทำอะไรไม่ถูกทำได้เพียงเเค่นิ่งเงียบก่อนที่ท้ายที่สุดนั้นพวกเขาจึงส่ายหัวในทันที “เธอปฏิเสธเรา?”

 

เมื่อเห็นเช่นนั้น หลง เฉินยี่จึงคิด ได้เพียงสิ่งเดียวนั่นคือเธอปฏิเสธเขา เขาเพียงเเค่รู้สึกเเปลกใจเล็กน้อย “ถ้ามันเป็นเพียงเเค่การปฏิเสธการชวนละก็ มันก็คงจะดี เพียงเเต่ว่าศิษย์น้องรู่วเฉินนั้น ได้เข้าร่วมกับขุมพลังย่อยอื่นไปแล้ว”

 

ฮัว เซียง กล่าวในลักษณะที่ลำบากใจ “อะไรนะ? ศิษย์น้องรู่วเฉินเข้าร่วมกับขุมพลังย่อยอื่นไปแล้วอย่างงั้นหรอ ?! นี่มันอะไรกัน!!!”

 

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น ใบหน้าของ หลง เฉินยี่ เเสดงออกถึงความสลดใจในทันที ความรู้สึกของเขาในตอนนี้นั้นยากจะอธิบายมีเพียงเเค่ความรู้สึกโศกเศร้าเเละเสียดายเท่านั้นที่ปรากฏในดวงตาของเขา

 

เมื่อเห็นแบบนี้ หลง เฉินฟู พูดออกมาในลักษณะเย้ยหยันในทันที”

 

ฮึ ข้าคิดว่าพวกเราคาดหวังกับ ไป๋ รู่วเฉินมากไป การที่เธอปฏิเสธกองทัพสวรรค์ของเรา ข้าคิดว่าเธอเพียงอารมณ์เสีย เเต่นี่นางกับทรยศเรา!!!” “หุบปากซะ! ถ้ามันไม่ใช่เพราะเจ้า ศิษย์น้องรู่วเฉิน ก็คงจะไม่ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมกับกองทัพสวรรค์ของเราเเบบนี้”

 

หลง เฉินยี่ กล่าวตำหนิด้วยความโกรธ “พี่ใหญ่ถึงเเม้ว่ามันจะเป็นความผิดของข้าก็จริง ที่ ไป๋ รู่วเฉิน ไม่ยอมเข้าร่วมกับเรา เเต่ว่ากองทัพสวรรค์ของเราก็ได้บุคคลที่เเข็งเเกร่งเพิ่มมาเหมือนกับเธอ” “เธอไม่ได้มีสายเลือดจากนิกายสวรรค์ที่เเท้จริง เเน่นอนไม่เห็นเป็นไรเลย ที่เธอจะไม่เข้าร่วมกับกองทัพสวรรค์ของเรา คนนับไม่ถ้วนต้องการที่จะเข้าร่วมกับกองทัพสวรรค์ของเรา เราเพียงเเค่เปิดโอกาสรับบุคคลพวกนั้นซะ พวกเราจะได้เเข็งเเกร่งกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ พี่ใหญ่ท่านคิดว่าเป็นอย่างไร?”

 

หลง เฉินฟู กล่าวออกมาในทันที “หุบปาก! ศิษย์น้องรู่วเฉินนั้น เป็นลูกสาวของ ท่านประมุข การที่เธอไปเข้าร่วมกับกองกำลังอื่น นั้นไม่ใช่ว่า เธอนั้นสามารถทำประโยชน์ให้คนพวกนั้นได้มากโขหรอกหรือ!”

 

เมื่อเห็นเช่นนั้น หลง เฉินยี่ ก็เเสดงออกด้วยความโกรธ

 

.”

 

มันเป็นความจริง ที่ว่าเจ้านั่นปฏิเสธที่จะเชื่อมันต่างหาก ว่าเธอนั้นคือลูกสาวของเขา ? ถึงเเม้ว่าเธอจะไม่ใช่ลูกของเขาโดยสายเลือด เเต่เธอก็ยังเป็นลูกที่เขาเลี้ยงดูมาอยู่วันยังค่ำ ?!” “ข้าเเค่คิดว่าเธอนั้นมีความรู้สึกที่รุนแรง แต่บางคนนั่นสามารถตัดสินใจที่จะสังหารบุพการีเพราะความเเค้นก็มี กะอีเพียงเเค่ทรยศนิกายสวรรค์ของเธอนั้น ไม่นับว่าเเปลกเกินเลยด้วยซ้ำ”

 

หลง เฉินฟู กล่าวในทันที เพราะเขาคิดว่าการที่ไป๋ รู่วเฉิน ได้ตัดสินใจละทิ้งกองทัพสวรรค์ของเขาก็เพราะว่า เธอนั้นต้องการที่จะเข้าร่วมกับกองกำลังย่อยอื่นที่ดีกว่า “ท่านผู้นำ ความจริงเเล้วที่ท่านกล่าวโทษศิษย์น้องไป๋ รู่วเฉินเมื่อสักครู่นี้ เกรงว่าท่านจะเข้าใจ ไป๋ รู่วเฉิน ผิด เพราะว่า เธอนั้นไม่ได้เข้าร่วมกับขุมพลังย่อยที่มีอันดับต้นๆกว่ากองทัพสวรรค์ของเรา เเต่เธอนั้นได้เข้าร่วมกับกองกำลังย่อยที่จัดตั้งขึ้นโดยศิษย์ใหม่”

 

เมื่อเห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ฮัว เซียง รีบ อธิบายในทันที “อะไรนะ?!!! กองกำลังที่จัดตั้งขึ้นโดยศิษย์ใหม่ ?!!!”

 

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้นไม่เพียงเเต่ หลง เฉินยี่เท่านั้นที่เเปลกใจ เเม้เเต่ หลง เฉินฟู เเละทุกคนต่างเเปลกใจด้วยกันทั้งสิ้น พวกเขาทำใจเชื่อไม่ลงว่าสิ่งที่ได้ยินนั้นคือความจริง “ฮัว เซียง เมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรนะ ? กองกำลังที่ศิษย์น้อง รู่วเฉิน เข้าร่วมไม่ใช่กองกำลังย่อยที่มีอันดับ เเต่เป็นกองกำลังย่อยที่ก่อตั้งขึ้นใหม่อย่างงั้นหรือ?!!!”

 

หลังจากที่ทุกคนตะลึงกันอยู่ หลง เฉินยี่ ก็กล่าวถามออกมาในทันที “มันคือความจริง ศิษย์น้อง รู่วเฉิน ได้เข้าร่วมกับกองกำลังย่อยที่จัดตั้งขึ้นใหม่ โดยศิษย์ของหุบเขาไม้ครามใต้ เธอคงเป็นบ้าไปเเล้วล่ะมั้ง ?!!!”

 

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทุกคนต่างตกใจในทันที

 

หลง เฉินยี่ กล่าวในลักษณะที่ดูมืดมนในทันที”

 

มันจะต้องเป็นเขาเเน่นอน!!!” “ท่านผู้นำ การที่ศิษย์น้อง รู่วเฉิน ปฏิเสธเราก่อนหน้านี้ก็เหมือนจะเป็นเพราะคนที่ชื่อ ชูเฟิง เเสดงว่าเขาะจะต้องมีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดาอย่างเเท้จริง?”

 

เมื่อเห็นเช่นนั้น ผู้นำลำดับที่ 2 เมิ่ง เจิ๋นซัว กล่าวออกมาในทันที

 

ในทันทีนั้นฝูงชนต่างอาศัยการมองไปที่ หลง เฉินยี่ ในทันที ถึงเเม้ว่าเหล่าศิษย์จำกนวนมากจากกองทัพสวรรค์นั้นได้มีภูมิมาจากนิกายสวรรค์ เพราะว่าบุคคลที่พูดถึงนั้นเป็นคนจากหุบเขาไม้ครามใต้ เพราะประมุขนิกายสวรรค์นั้นได้ขอร้องต่อ หลง เฉินยี่ ให้รับ ชูเฟิงเข้าเป็นพวกด้วย

 

ดังนั้นเเล้วพวกเขาจึงไม่ได้รู้สิ่งใดเกี่ยวกับ ชูเฟิงเลย เพราะสิ่งที่พวกเขาไม่ทราบนี้พวกเขาไม่เคยได้ยินจากปากของ หลง เฉินยี่ “เฮ้อถึงข้าจะไม่รู้จักกับชูเฟิงก็จริง เเต่เขามีภูมิกำเนิดที่ไม่ธรรมดา เพราะว่าประมุขนิกายสวรรค์นั้นได้บอกข้ามาเเบบนั้น” “การที่เขาจะเข้าร่วมกับกองทัพสวรรค์ของเรานั้นก็นับว่าดีทีเดียวเเต่ถ้าเขาปฏิเสธไปเเล้วก็ไม่เป็นไรเราไม่ต้องการที่จะบังคับเขา ในระยะเวลาอันสั้นช่วงนี้ห้ามพวกเจ้าไประรานพวกเขาอีกอย่างเด็ดขาด!!!”

 

หลง เฉินยี่ กล่าว “ท่านผู้นำ มันจะดีหรอที่ท่านกล่าวเเบบนั้น”

 

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้นลมหายใจของพวกเขาพลันสั่นไหวในทันที เพราะว่าคำพูดที่กล่าวออกมานั้นไม่ใช่ว่า ผู้นำนั้นประเมินคำพูดของประมุขนิกายสวรรค์ที่กล่าวต่อชูเฟิงมากเกินไปหรอกหรอ “ใช่ ถึงเเม้ว่าข้าจะยังไม่รู้จักชูเฟิงดีก็จริง เเต่ข้าคิดว่าการที่ชูเฟิงนั้นสามารถทำให้ศิษย์น้องรู่วเฉิน ยอมเข้าร่วมได้ นั่นก็หมายความว่าเขามีความสามารถที่พิเศษบางอย่าง” “เพราะว่าดูจากอารมณ์ของศิษย์น้อง รู่วเฉินนั้น มันเป็นเรื่องยากมากที่คนทั่วๆไปจะเข้าใกล้เธอได้ เเละมีส่วนน้อยเท่านั้นที่จะพูดคุยกับเธอได้อย่างอิสระ”

 

หลง เฉินยี่ ถอนหายใจในทันที “ข้าก็คิดว่ามันอาจจะเป็นจริงก็ได้ จากการที่ข้าได้ยินสิ่งที่ท่านพูดนั้นข้ารู้สึกว่าเจ้า ชูเฟิงคนนี้ ไม่ใช่บุคคลที่จัดการได้ง่ายๆ”

 

เมิ่ง เจิ๋นชัว กล่าว “ทำไมถึงตีค่ามันสูงนักนะ ?! เขาไม่ได้เป็นอะไรไปมากกว่า นอกจาก ขยะ จากหุบเขาไม้ครามใต้ ถึงเเม้การบ่มเพาะพลังของเขาจะมีเพียงเเค่ระดับ 1 ราชันย์เเห่งสงคราม เเต่เราก็มีนิกายสวรรค์เเละศิษย์จำนวนนับไม่ถ้วนที่มีการบ่มเพาะพลังระดับนี้ ในความคิดของข้า ข้าคิดว่า ไป๋ รู่วเฉินนั้น ก็เเค่มีความรู้สึกบางอย่างกับ ชูเฟิง ก็เพียงเท่านั้น”หลง เฉินฟู กล่าวออกมาด้วยลักษณะไม่พอใจ “เจ้ายังไม่พอใจอีกรึไง? ถ้ามันไม่เป็นเพราะเจ้า ทั้งชูเฟิงเเละคนที่เหลือ จะต้องอยากเข้าร่วมกับกองทัพสวรรค์ของเราเเน่อยู่เเล้ว”

 

หลง เฉินยี่ กล่าวตำหนิด้วยความโกรธ

 

เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลง เฉินฟู ไม่กล้าที่จะกล่าวออกไปอีก สำหรับคนอื่นๆ ก็ทำได้เพียงเเค่เงียบเท่านั้น มันเป็นความจริงที่พวกเขาปฏิเสธตัวตนของชูเฟิงเพราะว่า เขามาจากหุบเขาไม้ครามใต้ เเต่สำหรับไป๋ รู่วเฉินนั้น พวกเขาทุกคนรู้ว่าเธอนั้นเป็นอัจฉริยะอย่างเเท้จริง การที่สูญเสียเธอไปนั้นนับว่าโชคร้ายอย่างมาก “ท่านผู้นำท่านจะทำสิ่งใดในตอนนี้?”

 

เมิ่ง เจิ๋นชัว กล่าวถาม “สิ่งเดียวที่ข้าคิดในตอนนี้ ก็คือลองไปเกลี้ยกล่อมพวกเขาดู ข้าจะลองไปหาพวกเขาในวันพรุ่งนี้”

 

หลง เฉินยี่ ถอนหายใจออกมายาวๆ

 

เช้าวันรุ่งขึ้น เสียงตะวันเริ่มสาดส่อง ชูเฟิงลุกบิดอย่างขี้เกียจจากเตียงของเขาอย่างช้าๆ หลักจากสอบถามเกี่ยวกับภูมิภาคของหุบเขาไม้ครามเสร็จ เขาก็อยากจะไปทำภารกิจที่จุดศูนย์รวมภารกิจในทันที

 

ในหุบเขาไม้ครามนั้น ศูนย์รวมภารกิจเป็นสถานที่เหล่าศิษย์มากมายจะไป รวมตัวเเละรับภารกิจ สำหรับตัวเองหรือพรรคพวก

 

เพราะว่าในหุบเขาไม้ครามเเห่งนี้ การที่จะได้รับบางสิ่งบางอย่างนั้น พวกเขาจะต้องใช้คะเเนนหรือเเต้มเเลกมา เเละการที่พวกเขา เพราะบางสิ่งนั้นมีมูลค่าสูงมาก การที่พวกเขาจะต้องเลือกจ่ายเงินจำนวนมากนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับคะเเนนหรือเเต้มของพวกเขานั่นเอง

 

สำหรับวิธีการที่พวกเขาจะได้รับเเต้มนั่นคือ การที่ทำภารกิจเเละไปส่งมอบกับผู้อาวุโสหรือผู้บริหารท่านหนึ่งท่านใด จะได้มากหรือได้น้อยนั้น ขึ้นอยู่กับความสามารถของพวกเขา

 

เพราะว่ามีศิษย์จำนวนนับไม่ถ้วนในหุบเขาไม้ครามเเห่งนี้ เเละภารกิจทีธรรมดานั้นก็มีมากโข ชูเฟิงที่ได้มาถึงที่นี่เเต่เช้านั้น เขาสังเกตุเห็นเพียงบุคคลไม่กี่คนเท่านั้นในที่เเห่งนี้ ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะเดินไปดูภารกิจทั้งหมดในหุบเขาภารกิจในทันที

 

เเทนที่จะเรียกมันว่าภารกิจ ควรจะเรียกมันว่า เป็นศูนย์รวมตำหนักของภารกิจดีกว่าเพราะว่าความซับซ้อนของมันมีค่อนข้างเยอะ เพียงเเค่ตัวอาคารนั้นถูกตั้งขึ้นทั้ง 4 ด้านเเละมีจุดตรงกลางเป็นรูปทรงกลม หากผู้คนมองมาจากด้านบนละก็จะพบว่าอาคารภารกิจเเห่งนี้จะค่อนข้างเหมือนเเผ่นดิสส์ขนาดใหญ่

 

สำหรับตัวตำหนัก มันออกแบบมาได้น่าสนใจมาก มันใช้วัสดุในการก่อสร้างมากมาย แตกต่างกันไป ถึง 5 รูปทรง โดยทอดแบบออกมาจากสัตว์ป่า

 

บ้างก็เป็นทรง หมาป่า , เสือดาว , พยัคฆ์ , ราชสีห์ , มังกร

 

สำหรับการที่ให้มันมีรูปร่างต่างกัน ก็เพราะบ่องบอกความยากง่าย หมาป่าจะเป็นภารกิจง่ายๆเอาไว้ จึงมีมากสุด

 

มังกรนั่นจะเป็นภารกิจที่ยาก และจะมีเพียงจุดเดียว อย่างไรก็ตาม การก่อสร้างตำหนักนั่นเรียกว่างดงามที่สุด และอลังการ ไม่เพียงแต่ มันจะดูเปล่งประกายมันยังดูกับว่ามีชีวิตอยู่จริงๆ มังกรหมอบในลานกว้างของศูนย์รวมภารกิจ มันเป็นจุดที่ดึงดูดความสนใจของทุกคน

 

ชูเฟิงพบว่ามีเพียงไม่กี่คนในสถานที่เเห่งนี้นั้นพวกเขาเลือกที่จะเข้าออก ตำหนัก รูปทรงหมาป่า เเละเสือดาวส่วนใหญ่ หรือเเม้เเต่ พยัคฆ์ นั้น ก็มีมาเยือนไม่บ่อยนัก เเต่สำหรับตำหนัก ราชสีห์ ขึ้นไปนั้น ไม่เห็นบุคคลใดเข้าออกเเม้เเต่น้อย

 

เเต่สำหรับตำหนักมังกรที่ทรงพลังนั้นเเน่นอนว่ามันปิดไว้ ราวกับเป็นเเค่ของประดับที่ตกเเต่งไว้ เพื่อข่มขวัญผู้อื่น หรือไม่ก็เพียงเเค่ตั้งโชว์ไว้ให้ผู้คนในสถานที่เเห่งนี้ชื่นชม “นี่ เจ้าชื่ออะไร ?”

 

ในทันทีชูเฟิงที่กำลังตรวจสอบภารกิจในสถานที่เเห่งนี้อยู่นั้น เขาก็ได้ยินเสียงเรียกจากด้านหลังของเขา มันเป็นเสียงของบุคคลที่อายุมากเเต่เเข็งเเกร่งเเละมีร่องรอยของความโกรธภายใน

 

P’Film ////////////////////////////////////////

 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments