I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 1131 – หลง เฉินฟู่

| Martial God Asura | 3561 | 2519 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

บทที่ 1131 – หลง เฉินฟู่

 

ในขณะนั้น ชูเฟิง อยากจะไล่ตาม ไป๋ รู่วเฉิน ไป เพื่อกล่าวขอโทษ และกล่าวชื่นชมในความซื่อตรงของนาง

 

แม้ว่าในก่อนหน้านี้ ทัศนคติของ ชูเฟิง ที่มีต่อ ไป๋ รู่วเฉิน จะไม่ดีมากนัก แต่ในเวลานี้ นางกลับปฏิเสธที่จะเข้าสู่กองทัพสวรรค์ ที่เหล่าผู้อาวุของนิกายสวรรค์ของนางสร้างขึ้นมาเช่นนี้ มันทำให้ ชูเฟิง รู้สึกหวั่นไหวกับการกระทำของนางอย่างมาก

 

อย่างไรก็ตาม ชูเฟิง ไม่คิดเลยว่านางจะมีทักษะเพิ่มความเร็วเช่นนี้ เพราะเพียงแค่พริบตาเดียวเท่านั้น นางก็หายลับไปก่อนที่สายตาของเขาจะจับเงาร่างของนางได้ทัน ด้วยความรวดเร็วของนางเช่นนี้ แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขั้นราชันย์สงครามระดับหกก็ยากจะติดตามนางได้ทัน

 

แต่ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ ที่ ชูเฟิง ตกเป็นเป้าสายตาของคนจากกองทัพสวรรค์ และเขาก็ไม่ต้องการเปิดเผยความแข็งแกร่งของตัวเอง ชูเฟิง จึงไม่ได้ไล่ตามนางไป แต่ตัดใจว่าจะไปพบนางที่ที่พักของนางในภายหลัง “ไอ้หนู !! เจ้า !! ชูเฟิง !!”

 

หลังจากที่ ไป๋ รู่วเฉิน จากไปนั้น เสียงตะโกนของคนจากกองทัพสวรรค์ก็ดีงขึ้น

 

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ชูเฟิง ก็หยุด และยืนอยู่ในอากาศ พร้อมกับหันกลับมา และกล่าวว่า”

 

ข้า ชูเฟิง มีอะไรรึ !?”

 

***** ฝุ่บ ฝุ่บ ฝุ่บ ******

 

ในเวลานั้น หลายสิบคนจากกองทัพสวรรค์ก็เข้ามาล่อมรอบ ชูเฟิง เอาไว้ พร้อมกับจ้องมาที่เขา ราวกับว่า ชูเฟิง ได้เป็นชู้กับภรรยาของพวกเขา หรือไปเกี้ยวน้องสาวของพวกเขา สายตาของพวกเขานั้นรุนแรงอย่างมาก เหมือนกับพวกเขาจะกินเลือดกินเนื้อของ ชูเฟิง ก็ไม่ปาน

 

ท่ามกลางวงล้อมเช่นนี้ ชูเฟิง ได้ตรวจสอบพวกเขาทุกคนในทันที พวกเขาหลายสิบคนนึ้น มีทั้งชายและหญิง ที่มรอายุราวยี่สิบถึงสามสิบปี พวกเขาทั้งหมดเป็นคนในรุ่นเดียวกัน

 

แม้ว่าพวกเขาส่วนใหญ่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นราชันย์สงคราม แต่คนที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มพวกเขานั้น มีพลังเพียงขั้นราชันย์สงครามระดับสองเท่านั้น และคนที่อ่อนแอที่สุดมีพลังเพียงขั้นจ้าวสงครามระดับเก้า เมื่อเห็นเช่นนี้ ชูเฟิง ก็สามารถบอกได้ทันทีว่า พวกเขาเป็นเพียงสมาชิกทั่วไปของกองทัพสวรรค์เท่านั้น

 

จากที่เห็นนั้น ชูเฟิง เข้าใจในทันทีว่า กองทัพสวรรค์ก็ไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก เพราะคนเหล่านี้มีพลังเทียบเท่ากับคนทั่วๆ ไปของดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น “พวกเจ้าต้องการอะไร !?”

 

หลังจากตรวจสอบพวกเขาแล้วนั้น ชูเฟิง ก็กล่าวออกมาด้วยเสียงเรียบ แม้ต้องเผชิญหน้ากับพวกเขาหลายสิบคนเช่นนี้ ชูเฟิง ก็ไม่หวาดกลัวแม้แต่น้อย เพราะด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขานั้น ชูเฟิง สามารถเอาชนะได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องใช้ความพยายามแม้แต่นิดเดียว

 

อย่างไรก็ตาม คนของกองทัพสวรรค์นั้นไม่รู้ถึงความแข็งแกร่งของ ชูเฟิง ประกอบกับความไม่พอใจต่อ ชูเฟิง ในเรื่องที่ ไป๋ รู่วเฉิน ปฏิเสธพวกเขา และด้วยท่าทีของ ชูเฟิง เช่นนี้ มันจึงทำให้พวกเขารู้สึกโกรธอย่างมาก

 

ในเวลาน้น ผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกเขาก็ก้าวเข้าไปต่อหน้าของ ชูเฟิง พร้อมกับคว้าไปที่คอเสื้อของเขา ก่อนจะกล่าวออกมาอย่างรุนแรงว่า”

 

เจ้ากล้าพูดกับพวกเราเช่นนี้รึ !?”

 

ปกตินั้น ชูเฟิง เป็นคนที่สุขุมอย่างมาก แต่เมื่อต้องเผชิญหับคนที่หยาบคายเช่นนี้ แววตาของ ชูเฟิง ก็พลันเปลี่ยนเป็นดุร้าย น้ำเสียงของเขาค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเย็นชาอย่างชัดเจน ขณะที่เขากล่าวออกมาว่า”

 

เจ้าอยากตายหรอ!!””เจ้า…….”

 

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ชายที่ค้าคอเสื้อของ ชูเฟิง ก็ผงะปล่อยมือออกมาในทันที พร้อมกับที่เข้าก้าวถอยหลังออกมาด้วยใบหน้าที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ ฝ่าที่มือที่เขาใช้คว้าคอเสื้อของ ชูเฟิง สั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว

 

ปฏิกิริยาของชายผู้นี้ทำให้คนของกองทัพสวรรค์สับสนอย่างมาก เพราะในก่อนหน้านี้เห็นได้ชัดว่าเขาพุ่งเข้าไปหา ชูเฟิง ด้วยความโกรธ ราวกับว่าเขากำลังจะสั่งสอน ชูเฟิง ก็ว่าได้ “หยุด !!”

 

ในขณะนั้น เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น มันดังราวกับเสียงของสายฟ้าฟาด เมื่อเสียงนี้ดังยึ้น กลุ่มคนที่ล้อมรอบ ชูเฟิง อยู่ก็กระจายตัวออกไป พร้อมกับหันกลับมามองทางต้นเสียงในทันที เมื่อหันกลับมานั้น พวกเขาก็พบกับชายแปดคน และหญิงหนึ่งคนกำลังเดินบนอากาศมาทางพวกเขา

 

พวกเขาทั้งเก้าคนนั้นเป็นคนของกองทัพสวรรค์ แต่หากเทียบกับกลุ่มคนที่ล้อมรอบ ชูเฟิง อยู่นั้น พวกเขาโดดเด่นกว่ามาก เพราะด้วยอายุเพียงประมาณสามสิบปีเศษเช่นนี้

 

การบ่มเพาะพลังของคนกลุ่มนี้นั้น คนที่อ่อนแอที่สุดมีพลังขั้นราชันย์สงครามระดับสาม และคนที่แข็งแกร่งที่สุดอยู่ในขั้นราชันย์สงครามระดับห้า แต่การบ่มเพาะพลังของพวกเขาไม่ใช่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของ ชูเฟิง แต่เป็นออร่าพลังของพวกเขาที่ดึงดูด ชูเฟิง

 

พวกเขาทั้งเก้าคนนั้น ครอบครองความแข็งแกร่งเหนือกว่าคนทั่วไปอยู่มาก แม้ว่าจะด้อยกว่าของ ชูเฟิง และ ไป๋ รู่วเฉิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีพลังขั้นราชันย์สงครามระดับ ความสมารถของเขานั้นไม่ได้ด้อยไปกว่า หยวน ฉิง และอาจได้รับการยอมรับว่าเป็นอัจฉริยะ

 

แต่ส่วนสำคัญนั้น ที่ด้านหลังของคนทั้งเก้านี้ มีกลุ่มคนหลายพันคนยืนอยู่ห่างออกไป พวกเขาสวมเสื้อผ้าแบบเดียวกันทั้งหมด การปรากฏตัวของพวกเขานั้น นับว่าดูยิ่งใหญ่อย่างมาก

 

อาจกกล่าวได้ว่า หลังจากที่พวกเขาทั้งหมดปรากฏตัวออกมาเช่นนี้ มันทำให้ ชูเฟิง ต้องประเมินกองทัพสวรรค์ใหม่ก็ว่าได้ “พวกเจ้าจะทำอะไร !! รีบกลับมานี่ สหายน้อย ชูเฟิง เป็นแขกของพวกเรา พวกเจ้ากลับต้อนรับเขาเช่นนี้รึ !!”

 

หลังจากที่ชายผู้มีพลังขั้นราชันย์สงครามระดับห้า กล่าวออกมาเช่นนี้ กลุ่มคนที่ล้อมรอบ ชูเฟิง อยู่ก็รีบกลับไปที่ด้านหลังของคนทั้งเก้าในทันที “ศิษย์น้อง ชูเฟิง ข้ามีความสุขจริงๆ ที่ได้พบกับเจ้า ข้าคือ หลง เฉินฟู่ เป็นหนึ่งในสามของผู้นำกองทัพสวรรค์ ข้ามาเพื่อต้อนรับเจ้าเข้าสู่กองทัพสวรรค์ !!”

 

หลง เฉินฟู่ กล่าวพลางยิ้มบาง ขณะที่เดินเข้าไปหา ชูเฟิง

 

ในทันทีนั้น ชูเฟิง ก็รู้ว่าคนตรงหน้าของเขาคือ หลง เฉินฟู่ และเขาเองก็เคยได้ยินชื่อของคนผู้นี้มาจากปาก ไป๋ รุ่วเฉิน ในก่อนหน้านี้แล้ว คนผู้นี้เป็นน้องชายของประมุขกองทัพสวรรค์ หลง เฉินยี่

 

หากเทียบกับ เฉินยี่ แล้วนั้น เฉินฟู่ ไม่ใช่คนที่ดีนัก แม้ว่าใบหน้าของเขาจะประดับไว้ด้วยรอยยิ้มที่จริงใน แต่ในก่อนหน้านี้ ไป๋ รู่วเฉิน เคยเตือน ชูเฟิง เอาไว้ว่าให้ระวัง หลง เฉินฟู่ เอาไว้ เพราะในกองทัพสวรรค์นั้น หลง เฉินฟู่ คือ เสือร้ายซ่อนเล็บเขี้ยว [ประมาณว่า ไม่ใช่คนดีโดยสันดารอยู่แล้ว แต่แค่ไม่แสดงออกมาเท่านั้น ]

 

แม้ผิวเผินจะดูเหมือนเขาเป็นอัธยาสัยดี แต่ความจริงนั้น เขาเป็นคนที่เจ้าคิดเจ้าแค้นอย่างมาก และในกองทัพสวรรค์ก็ไม่มีใครที่กล้าขัดใจเขา “ข้าก็มีความสุขเช่นกันที่ได้พบท่าน ศิษย์พี่ หลง ที่ท่านกล่าวออกมาเช่นนี้ หมายความว่าท่านยอมรับให้สหายจากหุบเขาไม้ครามใต้ทั้งหมดของข้าเข้าสู่กองทัพสวรรค์เช่นนั้นหรือ !?”

 

ชูเฟิง กล่าวถามพลางยิ้มบาง “ศิษย์น้อง ชูเฟิง นี่ช่างมีอารมณ์ขันนัก การที่ศิษย์น้อง ชูเฟิง ได้เข้าสู่กองทัพสวรรค์เป็นเพราะคำขอของท่านประมุขนิกายสวรรค์ แม้ว่าในตอนนี้พวกเราจะเป็นศิษย์ของหุบเขาไม้คราม แต่พวกเราก็ยังให้เกียรติแก่ท่านประมุขนิกายอยู่เสมอ !!””แต่สำหรับสหายจากหุบเขาไม้ครามใต้คนอื่นๆ ของเจ้าที่ต้องการจะเข้าสู่กองทัพสวรรค์นั้น เป็นสิ่งไม่อาจทำได้ ข้าต้องบอกเจ้าก่อนว่า ท่านประมุขไม่ได้กล่าวถึงพวกเขา และแม้ว่าท่านประมุขจะขอร้องมา พวกเราก็ไม่อาจยอมรับได้ ด้วยความอ่อนแอของพวกเขานั้น สมาชิกของกองทัพสวรรค์ย่อมไม่อาจยอมรับพวกเขา อีกทั้งพวกเรายังอาจจะถูกเหยียดหยามจากคนภายนอกอีกด้วย !!”

 

หลง เฉินฟู่ กล่าว “ถ้าเช่นนั้นก็ไม่มีเรื่องใดต้องคุยกันอีก !!”

 

ชูเฟิง กล่าวออกมาอย่างเย็นชา พร้อมกับหันหลังกลับเพื่อที่จะจากไป แม้ว่า หลง เฉินฟู่ จะยิ้มออกมาอย่างจริงใจ แต่เห็นได้ชัดว่าเขาดูถูกหุบเขาไม้ครามใต้อย่างมาก และเมื่อคนเช่นนี้เป็นหนึ่งในสามของผู้นำกองทพสวรรค์ ชูเฟิง ย่อมไม่นึกเสียใจที่ไม่ได้เข้าร่วม “หยุด !!”

 

แต่ก่อนที่ ชูเฟิง จะได้จากไปนั้น หลง เฉินฟู่ ก็ตะโกนออกมาเสียงดัง พร้อมกับที่ ชูเฟิง สัมผัสถึงจิตสังหารที่รุนแรงได้จากด้านหลังของเขา

 

ReaDMGA ////////////////////////////////////////

 

B : วอนโดนส้นตีนพี่เฟิงแล้วไง เด๋วได้เจอตีนประมุข พรรคมารทลายราตรี แล้วมืงจะหนาวไปถึงกระดูก สิบอกไห้!!!

 

A : ไม่ใช่ ประมุข พรรคจี่หอย รู่วเฉินหรอ ?!

 

C : ถ้าพรรคใช้ชื่อนั่นจริงๆ คนอ่านคงด่ากันชิบหาย!!!

 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments