I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 1142 – ล้มเหลวกลับมา

| Martial God Asura | 3635 | 2517 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

บทที่ 1142 – ล้มเหลวกลับมา

 

“เป็นเจ้าอย่างนั้นหรือ”

 

หลังจากได้ยินที่ ชูเฟิงพูด ชายทั้ง 2 ก็ตกใจมาก พวกเขาลืมตากว้างด้วยความตกใจ ราวกับพบเรื่องเหลือเชื่อ

 

ทั้ง 2 มองชูเฟิง ตั้งแต่หัวจรดเท้า พวกเขาตรวจสอบชูเฟิงซ้ำแล้วซ้ำเล่าและใช้แม้กระทั่งพลังวิญญาณ ช่วยตรวจสอบด้วย

 

อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็พบว่าชูเฟิงอยู่ในระดับ 1 ราชันย์สงคราม ไม่เปลี่ยนแปลง คนเช่นนี้น่ะหรือที่สร้าง พรรคอสูรฟ้า ไป่ รั่วเฉิน ต้องเข้าร่วมกับคนแบบนี้น่ะหรือ คนอ่อนแอเช่นนี้นั้นจำนำนางได้งั้นหรือ “ศิษย์น้อง รั่วเฉิน นี่เรื่องจริงหรือ”

 

ทั้ง 2 นั้นสับสนมากจึงมองไปที่ ไป่ รั่วเฉิน พวกเขาหวังให้ ไป่ รั่วเฉินบอกว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องจริง “จริงแท้ แน่นอน.”

 

ในตอนนั้น ไป่ รั่วเฉิน ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง “ศิษย์น้อง รั่วเฉิน เจ้าบ้าไปแล้วหรือ ทำไมถึงไปเข้าร่วมกับพรรคกระจอกๆเช่นนั้น มันไม่เพียงจะไร้ประโยชน์สำหรับเจ้าแต่มันยัง ทำลายอนาคตเจ้าด้วย.””ถูกต้อง ศิษย์น้อง รั่วเฉิน เจ้าไปเข้าร่วมทำไม พรรคนั้นเป็นพรรคที่ก่อตั้งจากศิษย์จากป่าไม้ครามใต้ พวกเขาจะช่วยส่งเสริมเจ้าได้จริงหรือ พรรคเช่นนั้นไม่สามารถช่วยอะไรเจ้าได้แม้แต่น้อย มันทำได้เพียงแต่พึ่งเจ้าและฉุดเจ้าให้ตกต่ำ”

 

เมื่อได้ยินคำพูดของ ไป่ รั่วเฉิน ทั้งคู่ก็รีบพูดขึ้น “ใครกันที่บ้า เจ้าบอกว่าใครบ้านะ”

 

ในตอนนั้น ไป่ รั่วเฉินโกรธจัด เขาชี้หน้าทั้ง 2 แล้วพูดว่า”

 

ข้าไป่ รั่วเฉิน สามารถเลือกได้ว่าจะต้องทำอะไร ข้ามีหนทางของข้า ข้าไม่ต้องการให้พวกเจ้ามาชี้นำ.””ข้าจะบอกอะไรให้ ข้าไป่ รั่วเฉิน จะไม่เข้าร่วมกองทัพสวรรค์ และไม่ต้องรับพวกเจ้าเข้ามาในดินแดนข้า พวกเจ้าไสหัวออกไปซะ มิฉะนั้นอย่าหาว่าข้าไม่เตือน.””ศิษย์น้อง รั่วเฉิน พวกเราไม่ได้เจตนา พวกเราแค่ไม่เข้าใจ ได้โปรธอย่าโกรธเลย”

 

เมื่อเห็น ไป่ รั่วเฉิน พวกเขาก็ตื่นตระหนกทันที เห็นได้ชัดว่าพวกเขากลัวนางมาก

 

อย่างไรก็ตาม ไป่ รั่วเฉิน ไม่ได้สนใจนางชี้ไปที่ทางเข้าและตะโกนลั่นว่า”

 

ไสหัวไป!!!”

 

ในตอนนั้น ทั้งคู่ไม่กล้าทำอะไร ได้เพียงชำเลืองมองชูเฟิงด้วยสายตาดุร้าย ทั้งคู่นั้นต้องการฆ่าชูเฟิงอย่างมาก

 

อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้น ชูเฟิงก็ยิ้มแล้วพูดว่า”

 

พวกเจ้ามองอะไร ถ้าอยากจะพูดอะไร ก็พูดมาเลย.””ฮึ่ม~~~”

 

จนสุดท้าย ทั้ง 2 ก็ไม่ได้พูดอะไร และเดินออกไป “ไม่คิดเลยว่า น้องสาว รั่วเฉินจะโกรธเช่นนี้”

 

หลังจากทั้ง 2 จากไป ชูเฟิงก็มองไป่ รั่วเฉิน ด้วยรอยยิ้ม “ข้าไม่ได้มีความสุขเมื่อถูกชี้แนะโดยคนอื่น ข้าเลือกทางของข้าเองได้ นอกจากนี้ ข้าไม่ได้สนุกที่จะให้คนอื่นมาตัดสินความคิดของข้า”

 

ไป่ รั่วเฉิน พูด “อืม ไม่เลว ข้าชอบคนเช่นนี้ บางที ข้าเองก็เป็นคนเช่นนั้น”

 

ชูเฟิงตบมือหนึ่งครั้งแล้วพูดขึ้น “แล้วเจ้าจะอยู่ที่นี่เพื่ออะไร หรืออยากให้ข้าไล่แบบพวกเขา”

 

ไป่ รั่วเฉิน มองชูเฟิงด้วยสายตาดุร้าย ใบหน้าของนางนั้นเห็นได้ชัดว่าเริ่มโกรธแล้ว. “เจ้าจะทำอะไร ข้าเป็นหัวหน้าเจ้านะ ถ้าเจ้าไล่ข้าแบบพวกเขา นั่นเท่ากับเจ้าไม่เคารพข้า มันเท่ากับเจ้าเป็นผู้ไม่เคารพกฏ”

 

ชูเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม เขารู้ว่านางนั้นเป็นคนใจเย็น และรู้ว่านางนั้นรู้จักผิดถูก และอีกอย่างคือนางไม่ได้โกรธเขาจริงๆ “ไม่ต้องเล่นลิ้นกับข้า เจ้าก็รู้อยู่แล้ว เจ้านั้นไม่ใช่ประมุขของข้า ข้าเข้าร่วมกับเจ้า ดังนั้นเจ้าต้องสัญญากับข้าหนึ่งข้อ”

 

ไป่ รั่วเฉิน พูด “เจ้าต้องการให้ข้าทำอะไรหรือ เจ้าบอกข้าตอนนี้ได้หรือไม่”

 

ชูเฟิงถาม “เรื่องนั้นข้ายังไม่คิด”

 

ไป่ รั่วเฉิน พูดขึ้น “ถ้าอย่างนั้น ข้าก็ได้ถามเจ้าไปแล้วแต่เจ้าก็บอกข้าไม่ได้ ดังนั้นข้าไม่ได้เป็นหนี้เจ้า ถูกต้องหรือไม่”

 

ชูเฟิง พูดพร้อมยิ้มอย่างไร้ยางอาย “ไอ้ขี้โกง…””เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าจะออกจากพรรคเจ้าตอนนี้”

 

ไป่ รั่วเฉิน พูดพร้อมดึงปลอกแขนลง “เดี๋ยว เดี๋ยว เดี๋ยว ข้าล้อเล่น ข้ายอมแล้ว.”

 

ชูเฟิงรีบพูดยอมนางทันที เมื่อนางพูดเช่นนี้ เขารีบเดินออกจากที่พักนางทันที “อย่าลืม พรุ่งนี้ ให้ไปยังศูนย์รวมภารกิจตั้งแต่เช้า”

 

ไป่ รั่วเฉิน พูดขึ้น “ตกลง แล้วเจอกัน”

 

ในตอนนั้น ท้องฟ้ายังไม่มืดครึ้ม เสียงชูเฟิงก็ดังขึ้น

 

เมื่อได้ยิน เสียงเขา ไป่ รั่วเฉิน ก็ยิ้มอย่างงดงาม แต่น่าเศร้าที่ไม่มีใครเป็นพยานเห็นรอยยิ้มของนางในครั้งนี้

 

ตอนที่นาง ยิ้มนางมองไปที่ ปลอกแขนของนางพร้อมดึงมันขึ้นมา หลังจากนั้นนางก็เดินเข้าไปยังที่พักนางทันที

 

ในเวลาเดียวกัน ก็เกิดเรื่องบางอย่างในกองทัพสวรรค์

 

ในห้องประชุมหลักมีคนกว่าหลายร้อยคนมารวมตัวกัน ระดับพลังของพวกเขานั้นไม่ได้อ่อนแอ อาจพูดได้ว่าพวกเขานั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญกันทุกคน

 

อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้น พวกเขายืนแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ใบหน้าของพวกเขานั้นจริงจังอย่างมาก พวกเขามองไปที่ที่นั่งหลักบน โถง

 

คนที่นั่งอยู่นั้น เริ่มเข้าสู้ไวกลางคนแล้ว อายุของเขาประมาณ 30 ต้นๆ ไม่เพียงเท่านั้นชายคนนั้น ยังมีกลิ่นอายที่ไม่ธรรมดา เขานั้นเป็นผู้นำของคนที่นี่ และ เป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในที่แห่งนี้

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับรูปลักษณ์และกลิ่นอายของเขา สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือระดับพลัง เขานั้นอยู่ในระดับ 6 ราชันย์สวรรค์ เขาคือประมุขกองทัพสวรรค์ หลง เฉินยี่

 

หลง เฉินหยี่ นั้นไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป ไม่เพียงจะมีพรสวรรค์ที่โดดเด่า แต่ยังเป็นอัจฉริยะที่หายากในนิกายสวรรค์อีกด้วย เขานั้นเปล่งประกายหลังจากเข้ามาในหุบเขาไม้ครามไม่นาน

 

ในหุบเขาไม้ครามที่มีศิษย์กว่าหลายล้านคน พวกเขารู้จักกันดีว่า หลง เฉินยี่ คือใคร

 

ชื่อเสียงของเขาโด่งดังมาก โดยเฉพาะเมื่อไม่กี่ปีก่อน เขาแล้วก็พวกของเขาได้ทำภารกิจ ที่ทำชื่อเสียงของพวกเขาโด่งดังไปทั่วหุบเขาไม้คราม ทำให้เขาถูกจดจำในฐานะอัจฉริยะชั้นยอด.

 

นั่นเป็นเพราะในภารกิจนั้น หลง เฉินยี่ ได้ปราบ โจรชื่อดัง ที่อยู่ในระดับ 8 ราชันย์สงคราม

 

อย่างไรก็ตาม หลง เฉินยี่ไม่เพียง ปราบโจรคนนั้นได้ เขายังจับเป็นโจรได้อีกมากมาย นั่นทำให้เขาถูกเรียกว่าอัจฉริยะผู้แข็งแกร่ง เขาสามารถเอาชนะผู้ที่มีพลังเหนือกว่าตนเองได้ถึง 2 ระดับ

 

อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้น ใบหน้าของ หลง เฉินยี่นั้นเต็มไปด้วยความโกรธ เขามองไปที่น้องชายของเขา หลง เฉินฟู่ ที่กำลังคุกเข่าบนพื้นดินไม่ไกลจากเขา เขาพูดด้วยความโกรธว่า”

 

เจ้ามันโง่ ช่างโง่ยิ่งนัก.””เจ้ารู้หรือไม่ว่า ศิษย์น้อง รั่วเฉินเป็นใคร เจ้าจำที่ข้าพูดไม่ได้หรืออย่างไร พรสวรรค์ของนางเหนือกว่าข้า เจ้ารู้หรือไม่พวกเรานั้นสูญเสียมากแค่ไหนในการสูญเสียนางไป ถ้านางเข้าร่วมกับพรรคอื่นล่ะก็ มันเป็นเรื่องที่จะแสดงให้เห็นว่าเราสูญเสียมากมายขนาดไหน!””และ เจ้ากลับปฎิเสธ คำขอของนางเพราะศิษย์จากป่าไม้ครามใต้ เจ้าโง่หรือเปล่า”

 

ในตอนนั้น หลง เฉินฟู่ ก็หน้าซีดราวกับขี้เถ้าอย่างไรก็ตาม เขาไม่กล้าพูดอะไร และทำได้แต่ทนฟังอย่างเงียบๆ นั่นเป็นเพราะเขารู้ดีว่าเขามีทุกวันนี้ได้ก็เพราะพี่ชายของเขา ถ้าเขาไม่มีพี่ชาย เขาไม่มีถึงขนาดนี้ได้แน่นอน “ท่านประมุข พอเถิด เรื่องมันเกิดไปแล้วต่อให้ตำหนิเฉินฟู่ มากเพียงใดมันก็ไม่เปลี่ยนไป นอกจากนี้ท่านไม่ได้ให้ ฮัว เซียง และ เซียะ เยว่ ไปคุยกับศิษย์น้องรั่วเฉินแล้วหรอกหรือ ไม่ว่าอย่างไร ทั้ง 2 คนนั้นคือคนที่นางรู้จักข้าเชื่อว่า พวกเขาจะโน้มน้าวนางได้”

 

ชายร่างกำยำพูดขึ้น

 

ชายร่างกำยำนั้นมีระดับ 5 ราชันย์สงครามเช่นเดียวกับ หลง เฉินฟู่ อย่างไรก็ตาม เขาต่างจาก หลง เฉินฟู่ เพราะพลังการต่อสู้เขาเหนือกว่า และเขายังเป็นรองประมุขของ กองทัพสวรรค์ เมิ่ง เจิ้นสัว “อืม พวกเราทำได้เพียงแค่หวังพึ่ง 2 คนนั้นละนะ”

 

หลง เฉินยี่พูดขึ้น พร้อมถอนหายใจ “วางใจเถิด อย่างไรก็ตาม นางนั้นเป็นศิษย์นิกายสวรรค์อีกทั้งยังเป็นลูกสาวท่านประมุขอีกด้วย มีหรือที่นางจะปฏิเสธ”

 

เมิ่ง เจิ้นสัว พูดขึ้น “ปัง.”

 

ในตอนนั้น ประตูห้องโถงที่ถูกปิดอยู่ก็เปิดขึ้น พร้อมร่างของคน 2 คนก้าวเข้ามา ทั้ง 2 นั้นคือคนที่ถูกส่งไปโน้มน้าว ไป่ รั่วเฉิน ฮัว เซียง และ เซียะ เย่ว่

 

ReaDMGA

 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments