I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 1137 – เลือดเดือดพร่าน

| Martial God Asura | 3585 | 2518 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

บทที่ 1137 – เลือดเดือดพร่าน

 

หลังจากที่ทั้ง 5 คนวิ่งหนีหางจุกตูดหายไปจาก ลานว่าง บริเวณแห่งนี้ต่างตกอยู่ในความเงียบสงัด ทุกสายตา มองไปที่ ชูเฟิง ด้วยท่าทางตะลึง

 

สิ่งที่เกิดขึ้นกับสถานการณ์นี้คืออะไร ? แล้วเขามาจากไหนกัน ?! ทั้งห้าคนโดนเขาทุบตี โดยเฉพาะพวกเขาที่เป็นคนของกองทัพหู่หลง ทีมีพลังวิญญาณในระดับ 2 ราชันย์

 

แต่เจ้าหนุ่มคนนี่ ที่เพิ่งเข้ามาในหุบเขาไม้คราม กับสามารถเอาชนะพวกเขาทั้ง 5 ที่มีพลังวิญญาณในระดับ 2 ราชันย์ นำซ้ำยังทำให้พวกเขาหนีไปด้วยความหวาดกลัว ทั้งๆทีเขามีพลังวิญญาณแค่ระดับ 1 ราชันย์ ความแข็งแกร่งเขามันคืออะไร ?!

 

โดยเฉพาะตอนที่เขาปลดปล่อยออร่าอันน่ากลัวออกมา ก่อนที่ ชูเฟิง จะเข้าโจมตีทั้ง 5 ฝูงต่างเริ่มหวาดกลัวต่อ ชูเฟิง ยิ่งขึ้น ในขณะที่พวกเขากำลังหวาดหวั่น พวกเขาก็ตระหนักได้ว่า เจ้าหนุ่มคนนี้ มาจากหุบเขาไม้ครามใต้ แต่เขากับดูแตกต่างจากสาวกคนอื่นๆ เขาไม่ใช่คนที่ใครควรเข้าไปตอแย “พวกเจ้าดูความสนุกที่หุบเขาไม้ครามใต้ของเรามอบให้พอแล้วหรือยัง !”

 

จู่ๆ ชูเฟิง ก็หันหน้าพร้อมกับใช้แววตาที่น่ากลัวและเย็นชา ขณะที่คิ้วโค้งดั่งคมดาบจ้องมองไปที่ ฝูงชน “นี่ . . . . .”

 

ถูกจ้องโดย ชูเฟิง เช่นนั่น พวกคนที่แห่กันมาดูก็รีบก้มหน้าลง พวกเขาไม่กล้าที่จะสบตากับ ชูเฟิง เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในก่อนหน้านี้ มันได้สร้างความกลัวที่ฝังลึกลงไปในจิตใจพวกเขา

 

จู่ๆ ชูเฟิง ก็ทำหน้าโหดและตะโกนด้วยเสียงที่เย็นยะเยือก”

 

ข้าจะนับถึงสาม พวกเจ้ารีบออกไปซะ หากใครยังอยู่ที่นี่หลังจากที่ข้านับจบ ข้านี่แหละจะเป็นคนส่งมันกลับ ” “พรึบบ พรึบบ พรึบบ พรึบบบ”

 

เมื่อ ชูเฟิง กล่าวคำๆนั่น ผู้คนก็ไม่กล้าที่จะรอช้า รีบเผ่นออกจากที่นี่ เพราะพวกเขากลัวว่า ชูเฟิง จะทำร้ายพวกเขา ทุกคนที่พากันมาดูต่างโดดขึ้นท้องฟ้าและรีบบินหนีตายไปอย่างไว ชั่วพริบตา ก็เหลือแต่เพียง ผู้คนจาก หุบเขาไม้ครามใต้ ที่ยังคงอยู่ในลานว่าง

 

ขณะนั้น ศิษย์เก่าทั้ง 6 ก็เต็มไปด้วยสีหน้าที่แสนกังวล และดวงตาพวกเขาก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว พวกเขาไม่โง่ เพราะช่วงเวลานั่น เขาได้รู้ว่า ศิษย์น้อง ที่มาจากหุบเขาไม้ครามใต้ คนนี้ ไม่เหมือนกับพวกเขา เขาไม่ใช่คนธรรมดา แต่เป็น ปีศาจตัวเป็นๆ

 

บุคคลที่ถูกขนานนามว่า ปีศาจ ตราบใดที่เขาพัฒนาได้อย่างราบรื่น แน่นอนเลยว่า สักวัน เขาจะต้องมีบทบาทสำคัญต่อหุบเขาไม้ครามในอนาคต คนคนนี้ไม่ใช่คนที่พวกเขาควรจะเข้าไปตอแย

 

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าพวกเขาจะมีเจตนาหรือไม่ พวกเขาก็สร้างความไม่พอใจให้กับ ชูเฟิง ไปแล้ว ดังนั่น พวกเขารู้สึกว่า ตัวเองกำลังติดอยู่ซอกหิน ในสภาวะวิกฤต ไม่รู้ว่าจะต้องหมุดออกไปทางไหน

 

เมื่อพวกเขา เห็น ชูเฟิง เดินตรงเข้ามา พวกเขาก็มีท่าทางเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน พวกเขาตัวสั่นสะท้านตลอดหัว จรดเท้า ขณะที่ ชูเฟิง ยังคงก้าวเข้ามา จู่ๆพวกเขาก็เริ่มนั่งคุกเข่าลงกับพื้น จากนั่นก็เอาหัวโขก เพื่อยอมรับความผิดพลาดของพวกเขา “ศิษย์น้อง ชูเฟิง มันเป็นความผิดของพวกเรา มันเป็นความของเรา เรามันไม่ดี เราไม่ควรที่จะข่มขู่เจ้าให้เข้าร่วมกับขุมอำนาจย่อยสวะของพวกเรา ได้โปรด ศิษย์น้อง ชูเฟิง ได้โปรดใจกว้างให้อภัยพวกเราสักครั้ง ได้โปรดไว้ชีวิตพวกเราด้วย”

 

เมื่อเห็นฉากนั่น หวาง เว่ย และคนอื่นก็ไม่แสดงท่าทางประหลาดใจแต่อย่างใด นั่นเป็นเพราะพวกเขา เคยเจอสถานการณ์นี้ด้วยตัวเองมาแล้ว หากพวกเขาตกอยู่ในสถาการณ์นั่น พวกเขาก็เลือกทำแบบนี้เช่นเดียวกัน

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อ ชูเฟิง มอง ศิษย์เก่าหุบเขาไม้ครามใต้ทั้ง 6 เขาก็เริ่มทำหน้าเศร้า ราวกับอยากจะพูดบางอย่างในใจออกมา

 

ในตอนท้าย เขาก็แค่ชำเลืองมองและกล่าว”

 

ผู้คนจากขุมพลังย่อยทั่วทุกสารทิศ ต่างเข้ามาอยู่รวมกันในหุบเขาไม้คราม แต่มีแค่คนจากหุบเขาไม้ครามใต้ของพวกเรา ที่โดนผู้อื่นเหยียดหยาม ทำไมถึงเป็นแบบนั้น ?! “ชูเฟิงถาม “. . . . . . .”

 

จิ้งจอกเฒ่าทั้ง 6 ต่างหยุดเอาหัวโขก และก้มหน้าโดยไม่ได้ตอบใดๆ เพราะพวกเขาไม่รู้จะตอบกลับไปยังไง “มันเป็นเพราะ หุบเขาไม้ครามใต้ของเรานั่นอ่อนแอ ยิ่งพลัดเปลี่ยนรุ่นเราก็ยิ่งตกต่ำ หลังจากเวลาผ่านพ้นไปหลายปี สาวกของหุบเขาไม้ครามใต้ ที่เข้ามาในหุบเขาไม้ครามก็ยิ่งมากขึ้น ในตอนนี้รวมแล้วก็หลายพันคน แต่ไม่ใครสักคนเลยที่สามารถสร้างฐานอำนาจ หากพวกเราไม่เป็นหนึ่งเดียวกัน พวกเขาจะไม่มีวันขึ้นไปถึงจุดสูงในหุบเขาไม้คราม นั่นมันจึงทำให้ผู้คนพากันดูถูก””มันเป็นแบบนี้จริงๆ โดยเฉพาะหากเทียบกับหุบเขาไม้ครามอีกสามสาขา หุบเขาไม้ครามใต้เราก็ยิ่งดูไร้ค่า แม้เราจะอ่อนแอ แต่สถานะของเรา ก็เป็นถึง หนึ่งในสาขาย่อยของหุบเขาไม้คราม” “ถ้าจะโทษใครก็ต้องโทษตัวพวกเรา เพราะสถานะของหุบเขาไม้ครามใต้นั่นไม่ได้ด้อยตรงไหนเลย ดังนั่นอย่าได้โทษที่ที่เราอาศัย แต่เป็นพวกเจ้าที่ทำให้ผู้คนพากันดูถูกเหยียดหยาม”

 

ชูเฟิง ยิ่งพูด น้ำเสียงของเขาก็ยิ่งหนักแน่น แสดงความไม่พอใจต่อความตกต่ำของหุบเขาไม้ครามใต้

 

หลังจากได้ยินสิ่งที่ ชูเฟิง กล่าว ไม่ใช่แค่ ศิษย์เก่าทั้ง 6 แม้แต่ หวาง เว่ย และ คนอื่นๆ ก็ได้แต่ก้มหัว กำหมัดแน่น พวกเขารู้สึกปวดร้าวและหดหู่

 

พวกเขารู้ดีว่า ชูเฟิง พูดมามันคือความจริง หุบเขาไม้ครามใต้นั่นเป็นถึงพรรคลำดับ 2 ในบรรดาขุมพลังย่อย หากพวกเขาส่งสาวกให้กับหุบเขาไม้ครามได้ในระดับที่น่ายอมรับ พวกเขาก็คงไม่ต้องมาเป็นทุกข์เช่นนี้

 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่หุบเขาไม้ครามใต้ ดำเนินการ ขณะที่ได้ชื่อว่าสาขาย่อยของหุบเขาไม้คราม มันนับว่าอัปยศ สำหรับผู้ที่ถูกเรียกว่าสาขาย่อย นี้จึงทำให้ผู้คน ดูถูก เหยียดหยาม

 

ชูเฟิง จ้องมอง ศิษย์เก่าทั้ง 6 และกล่าว”

 

พวกเรานั่นแบกชื่อเสียงของหุบเขาไม้ครามใต้ไว้บนบ่า ดังนั่น ชื่อหุบเขาไม้ครามใต้ของเราจะอยู่กับพวกเราเหมือนเงาตามตัว แค่นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้เราโดนเหยียดหยามจากผู้อื่น แล้วทำไมพวกเราต้องสร้างความแตกแยกภายใน หรือพวกเจ้าทุกคนลืมรากเหง้าไปหมดสิ้นเมื่อเข้ามานี่ ?!” “เรา . . . . .”

 

ศิษย์เก่าทั้ง 6 ได้แต่อ้ำๆอึ้งๆ โดยไม่รู้จะตอบเขายังไง “ชื่อของหุบเขาไม้ครามใต้นั่นอยู่ในมือเรา มันเป็นความจริงที่ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ว่าเราคือศิษย์ของหุบเขาไม้ครามใต้ และมันก็จะเป็นเช่นนั่นไปตลอดกาล””ส่วนเรื่องที่หุบเขาไม้ครามใต้โดนผู้อื่นดูถูก มันก็คือความจริงที่เราต้องเผชิญ อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าเราจะต้องทนฟัง แม้มันจะเป็นอย่างที่เขาดูถูก แต่พวกเราก็สามารถเปลี่ยนแปลงมันได้” “อย่างไรก็ตาม การที่จะเริ่มเปลี่ยนแปลงนี้ ส่วนใหญ่ต้องอาศัยพวกเจ้า แค่อย่าหันหมัดใส่พวกพ้อง หรือสร้างปัญหาภายใน ส่วนพวกเจ้าจะยอมก้มหัวให้พวกเขาดูถูกอยู่แบบนี หรือไม่ ก็อยู่ที่ตัวพวกเจ้า”หลังจากที่พูดขบ ประโยคนั่น ชูเฟิง ก็พุ่งทะยานขึ้นท้องฟ้า เตรียมตัวที่จะจากไป

 

ขณะนั่น หวาง เว่ย , จ้าว เกิ๋นชัว และคนอื่นๆ ก็ต่างพากันทะยานสู่ท้องฟ้า และไล่ตาม ชูเฟิง

 

ในขณะที่ ชูเฟิง และคนอื่นๆ กำลังเดินทาง ศิษย์เก่าทั้ง 6 ก็ยกหัวขึ้นและตะโกนถาม”

 

ศิษย์น้อง ชูเฟิง เจ้าช่วยบอกวิธีเปลี่ยนแปลงความจริงนี้ที” “มันก็เป็นวิธีง่ายๆ แค่กำหมัดของเจ้าให้แน่น แล้วอัดคนที่ดูถูกเรา จนกว่าพวกมันจะยอมหุบปาก!!!”

 

ชูเฟิง ทิ้งท้ายด้วยคำเหล่านั่น ด้วยท่าทางที่รุนแรง

 

เมื่อได้ยิน ชูเฟิง ตอบ ศิษย์เก่าทั้ง 6 ก็ถึงกับสะดุ้ง พร้อมกับเกิดความรู้สึกที่ซับซ้อนถาโถมเข้ามาในจิตใจ กระจายไปทุกส่วนของร่างกาย

 

มันเป็นความรู้สึกบางอย่างที่พวกเขาไม่ได้รู้สึกมานานมาก มันคือความรู้สึกที่พวกเขาเคยสัมผัสเมื่อนานมาแล้ว ครั้งที่พวกเขาถูกเรียกว่า อัจฉริยะของหุบเขาไม้ครามใต้ อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาเข้ามายังหุบเขาไม้คราม พวกเขารู้สึกถึงความกดดัน และ ถูกทำลายจากบุคคลที่ถูกเรียกว่า ปีศาจ ถ้าหากจะหาคำอธิบายความรู้สึกของพวกเขา ก็แค่คำง่ายๆ นั่นคือ ‘ เลือดเดือดพร่าน ‘

 

ถูกต้อง เลือดในร่างกายของพวกเขาเริ่มเร้าร้อน มันคือความรู้สึก ด้านจิตวิญญาณในการต่อสู้ หรือ การไม่ยอมแพ้ หลังจากที่ยอมก้มหัวมานานหลายปี ความรู้นี้ก็หวนคืนมาอีกครั้ง ความรู้สึกนี้เกิดขึ้น เพราะ ศิษย์น้องของเขาที่มาจากหุบเขาไม้ครามใต้ที่อายุน้อยกว่า 20 ปี นอกจากนี้จิตวิญญาณที่หลับไหลของพวกเขายังกลับคืนมา ด้วยคำพูดเพียงสั้นๆ

 

น่ายกย่อง เขาเป็นคนที่น่ายกย่อง

 

แล้วพวกเขาบัดนี้พวกเขาก็ได้พบความหวัง ความหวังที่ชั่วชีวิตพวกเขานึกว่าจะไม่เกิดขึ้น

 

น่ายกย่องและความหวัง พวกเขาเกิดสองความรู้สึกได้ในตัวคนๆเดียว และนั่นก็คือ ชูเฟิง

 

ReaDMGA ////////////////////////////////////////

 

A : เอาล่ะ งานนี้ อาจจะได้เห็น กองทัพพฤกษาใต้!!! เป็นขุมพลังย่อยอันดับ 1

 

B : พี่เฟิงจะต้องพรรค หรือ รู่วเฉิน จะตั้ง ดีไม่ดี อาจไม่สร้างพรรค ลุยกันแค่ 2 คน

 

A : ต้องสร้างฐานอำนาจให้หุบเขาไม้ครามใต้ในรุ่นต่อๆไปสิ พี่เฟิงจะต้องสร้าง!!!

 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments