I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 1140 – ไป๋ รู่วเฉิน เข้าร่วม

| Martial God Asura | 3735 | 2518 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

บทที่ 1140 – ไป๋ รู่วเฉิน เข้าร่วม

 

“อะไร !?”

 

เมื่อได้รับคำตอบของ ชูเฟิง เช่นนั้น ไป๋ รู่วเฉิน ก็ถลึงตาใส่เขาในทันที เห็นได้ชัดว่านางไม่พอใจที่ ชูเฟิง ไม่ยอมบอกเหตุผลแก่นาง “น้องสาว รู่วเฉิน ที่เจ้ามาที่นี่ดึกดื่นเช่นนี้คงไม่เพียงมาแอบฟังใช่ไหม !? หากเจ้าอยากมีส่วนร่วมก็เข้ามาสิ !! ทำไมเจ้าไม่เข้าร่วมกองทัพอสูรฟ้าของข้าล่ะ !?”

 

ชูเฟิง กล่าวออกมาพลางยิ้มบาง

 

เมื่อ ชูเฟิง กล่าวออกมาเช่นนั้น หวาง เว่ย และคนอื่นๆ ต่างสูดหายใจอย่างยากลำบากขณะที่มองไปที่ ไป๋ รู่วเฉิน เพราะพวกเขารู้ดีว่านางคืออัจฉริยะอันดับหนึ่งของนิกายสวรรค์ และหากนางเข้าร่วมกับกองทัพอสูรฟ้านั้น ด้วยความสามารถของ ชูเฟิง และ ไป๋ รู่วเฉิน มันย่อมทำให้กองทัพอสูรฟ้ามีอนาคตที่ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน แม้ว่าพวกเขานะไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้นก็ตาม “เข้าร่วมกองกำลังสร้างใหม่ของเจ้า ที่มีแต่คนที่ไร้ประโยชน์เช่นนี้หรือ !?”

 

ไป๋ รู่วเฉิน กวาดสายตามองไปที่ทุกคนด้วยแววตารังเกียจ และกล่าวออกมาอย่างเย็นชา

 

แต่คำกล่าวของนางนั้น ไม่ได้ทำให้ ชูเฟิง โกรธแม้แต่น้อย เขากลับยิ้มบางๆและกล่าวออกมาว่า”

 

ข้าจะให้เจ้าได้รับประโยช์บางอย่าง !!””สิ่งใดหรือ !?”

 

ไป๋ รู่วเฉิน กล่าวถาม “ข้าจะมอบตำแหน่งหัวหน้าคนที่สองให้กับเจ้า เจ้าคิดเช่นไร !?”ชูเฟิง กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ใครเขาต้องการ !!”

 

ไป๋ รู่เฉิน กล่าวออกมาด้วยใบหน้าที่เย็นชา ก่อนจะมองมาที่ ชูเฟิง และกล่าวต่อว่า”

 

หากเจ้าต้องการให้ข้าเข้าร่วม เจ้าต้องยอมรับสิ่งหนึ่งจากข้า !!””มันคืออะไร !?”

 

ชูเฟิง กล่าว “เจ้าสามารถตอบได้เพียง ยอมรับ หรือ ปฏิเสธ เท่านั้น !!”

 

ไป๋ รู่วเฉิน กล่าว “ตอบได้เพียง ยอมรับ หรือ ปฏิเสธ เช่นนั้นหรือ !!แล้วหากเจ้าต้องการให้ข้าตาย ข้าจะทำเช่นไร !!”

 

ชูเฟิง กล่าวออกมาด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย “หากเจ้ากลัวว่าข้าจะหลอกเจ้า ก็ถือซะว่าข้าไม่เคยพูดอะไรก็แล้วกัน !!”

 

ไป๋ รู่วเฉิน กล่าวออกมาอย่างจริงจัง

 

ชูเฟิง กัดฟันแน่นก่อนจะกล่าวออกมาว่า”

 

ได้ ข้ายอมรับ มันคืออะไร รีบบอกมาสิ !!”

 

เขารู้ดีว่า ไป๋ รู่วเฉิน เป็นคนที่แข็งนอกอ่อนใน หากได้นางมาเข้าร่วมกองกำลังของเขานั้น กองทัพอสูรฟ้าย่อมแข็งแกร่งอย่างรวดเร็วอย่างแน่นอน “ตอนนี้ข้ายังคิดไม่ออก ในวันข้าหน้าหากข้าคิดออกข้าจะบอกเจ้า !!”

 

ไป๋ รู่วเฉิน กล่าวตอบพลางยิ้มออกมาเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่านางมีความสุขอย่างมากที่สามารถได้รับคำยอมรับจาก ชูเฟิง ได้เช่นนี้ [ C : มาเป็นผัวกูซะ!!! ] “ถ้าเช่นนั้น เจ้าก็เข้าร่วมกองทัพอสูรฟ้าแล้วใช่ไหม !?”

 

ชูเฟิง กล่าวถาม “ก็คงเป็นเช่นนั้น แต่เจ้าไม่ต้องให้ตำแหน่งใดๆ แก่ข้า ข้าไม่ต้องการ ข้าเพียงต้องการเป็นสมาชิกทั่วๆ ไปเท่านั้น และข้าขอบอกไว้ก่อนว่า หากไม่มีสิ่งใดสำคัญ อย่าได้มาพบข้า ข้าไม่ชอบให้ผู้ใดมารบกวนข้า !!”

 

ไป๋ รู่วเฉิน กล่าวออกมาอย่างเย็นชา “ฮ่าๆ ดีจริงๆ หากผู้อาวุโสน้อย ไป๋ รู่วเฉิน เข้าร่วมกับพวกเราเช่นนี้ ในอนาคตมันย่อมไม่ใช่เรื่องยากที่พวกเราจะแข็งแกร่งขึ้น !!”

 

เมื่อเห็นว่า ไป๋ รู่วเฉิน เข้าร่วมกับกองทัพอสูรฟ้านั้น คนที่ดีใจที่ใจที่สุดไม่ใช่ ชูเฟิง แต่เป็น หวาง เว่ย และคนอื่นๆ พวกเขารู้สึกตื่นเต้นอย่างมากที่นางเข้าร่วมกับพวกเขา “ทำไมพวกเจ้าถึงได้หยาบคายเช่นนี้ !! ศิษย์น้อง ไป๋ รู่วเฉิน มีอายุน้อยกว่าพวกเจ้า แต่พวกเจ้ากลับเรียกนางว่าผู้อาวุโสน้อย หากพวกเจ้าคิดว่าตัวเองด้อยกว่านาง พวกเจ้าก็ควรเรียกนางว่า ศิษย์น้อง ไป๋ !!”ในขณะนั้น เมื่อเห็น หวาง เว่ย และคนอื่นๆ เรียก ไป๋ รู่วเฉิน ว่าผู้อาวุโสน้อย เหล่าผู้อาวุโสขยะทั้งหกคนก็กล่าวออกมาด้วยความไม่พอใจ

 

ในขณะนั้น หวาง เว่ย และคนอื่นๆ ต่างไม่รู้จะอธิบายสิ่งนี้ให้กับ ผู้อาวุโสขยะทั้งหกคนฟังเช่นไร

 

จู่ๆ ไป๋ รู่วเฉิน ก็กล่าวออกมาว่า”

 

ลืมมันไปเถอะ ไม่ว่าสถานะของข้าจะเป็นเช่นไรในอดีต แต่ตอนนี้ข้าก็เป็นศิษย์ของหุบเขาไม้ครามเช่นเดียวกับพวกเจ้า และด้วยอายุของข้า พวกเจ้าก็เรียกข้าว่า ศิษย์น้อง ก็พอ !!””ดูสิ ข้ามีศิษย์น้องด้วย ฮ่าๆ ๆ ๆ ….”

 

เมื่อได้ยิน ไป๋ รู่วเฉิน กล่าวออกมาเช่นนั้น ผู้อาวุโสขยะทั้งห้าคนก็หัวเราะออกมาทในทันที เพราะด้วยอายุของพวกเขานั้น ถือได้ว่าพวกเขาเปรียบได้กับลุงของทุกคนอย่างชัดเจน “ตามที่น้องสาว รู่วเฉิน บอก มันย่อมจะดีกว่าที่ทุกคนจะเรียกข้าว่าศิษย์น้องเช่นกัน มันคงจะฟังดูแปลก หากทุกคนเรียกข้าว่าผูนำ !!””ถึงอย่างไรกองทัพอสูรฟ้าก็ถือว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน ตราบใดที่ยังอยู่ภายใต้กฎทั้งหมดนั้น ก็ถือว่าพวกเราทุกคนเท่าเทียมกัน ไม่จำเป็นต้องใส่ใจต่อพิธีการมากนัก !!”

 

แม้ว่า ชูเฟิง จะไม่ชอบการถูกดูถูก แต่เขาก็ไม่ต้องที่จะให้คนอื่นเชิดชูเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนสนิทของเขา มันจะให้เขารู้สึกว่ามันมีระยะห่างกันจนเกินไป “น้อมรับคำสั่ง !!”

 

หลังจากที่ ชูเฟิง กล่าวออกมาเช่นนั้น นอกจาก ไป๋ รู่วเฉิน แล้วนั้น คนอื่นๆ ต่างลุกขึ้นยืน พร้อมกับประสานมือขึ้นคาราวะ และตะโกนออกมา “เฮ้อ…..ลืมมันไปเถอะ ถือซะว่าข้าไม่ได้พูดอะไรแล้วกัน !!”เมื่อต้องเผชิญหน้ากับปฏิกิริยาของทุกคนนั้น ชูเฟิง ก็ทำได้เพียงส่ายศรีษะไปมา เห็นได้ชัดว่าเขาไม่สามารถทำให้ทึกคนปฏิบัติกับเขาอย่างเท่าเทียมเช่นเดียวกับ ไป๋ รู่วเฉิน ได้

 

การสร้างกองกำลังขึ้นมานั้นย่อมมีเรื่องให้จัดการอยู่ไม่น้อย หลังจากตั้งกองทัพอสูรฟ้าขึ้นมานั้น ชูเฟิง ก็ได้จัดการเรื่องการสร้างปลอกแขนที่เป็นสัญลักษณ์ของกองทัพอสูรฟ้า โดยที่เขามอบหมายให้เป็นหน้าที่ของ หวาง เว่ย และสมาชิกหญิงคนอื่นๆ เป็นคนจัดการ

 

ในขณะนั้น ชูเฟิง ก็เริ่มสร้างรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณขนาดใหญ่ด้านหน้าทางเข้าสู่พื้นที่ของเขาอย่างรวดเร็ว

 

การจัดตั้งกองทัพอสูรฟ้าเป็นไปด้วยความคึกคักของเหล่าผู้คนที่ผ่านไปมาอย่างมาก “ข้าล่ะสงสัยจริงๆว่าผู้ใดเป็นต้นเหตุของเสียงอึกทึกเช่นนี้ พวกเขาไม่รู้หรือว่านี่มันอันตรายอย่างมาก !!”

 

ในขณะนั้น เมื่อหลายๆ คนเห็น ชูเฟิง และสมาชิกคนอื่นๆ ช่วยกันสร้างกองทัพอสูรฟ้านั้น พวกเขาก็มองเข้ามาด้วยเย้ยหยันในทันที

 

นั่นเป็นเพราะภายในหุบเขาไม้ครามนั้น กองกำลังต่างๆ จะถูกท้าทายโดยกองกำลังอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กองกำลังที่ถูกจัดตั้งขึ้นโดยศิษย์ที่เข้ามาใหม่เช่นนี้ พวกเขามักจะถูกท้าทายอยู่บ่อยครั้งโดยกองกำลังอื่นๆ หากพวกเขาพ่ายแพ้ พวกเขาจะต้องเข้าร่วมกับกองกำลังนั้นๆ ในทันที

 

ดังนั้น ทุกๆ คนจึงมองว่ากองกำลังที่ถูกสร้างขึ้นจากศิษย์ใหม่นั้น เป็นเพียงขั้นบันไดที่เอาไว้ให้กองกำลังอื่นๆ ก้าวข้าม และทำให้พวกเขาขายหน้าเท่านั้น “ผู้หญิงคนนั้น………”

 

แต่เมื่อพวกเขาเห็น ไป๋ รู่วเฉิน นั้น พวกเขาต่างสูดหายใจเข้าด้วยความยากลำบากในทันที

 

ไม่เพียงแต่ ไป๋ รู่วเฉิน จะงดงามเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ด้วยการบ่มเพาะพลังขั้นราชันย์สงครามระดับสามของนางนั้น นับได้ว่านางเป็นอัจฉริยะอย่างมาก แม้ว่าพลังระดับนี้จะไม่สามารถทำให้แตกตื่นได้ภายในหุบเขาไม้คราม แต่หากว่าพวกเขาไม่ตาบอด พวกเขาย่อมรู้ได้ทันทีว่านางคือปีศาจอย่างแท้จริง

 

และเมื่อพวกเขาเห็นว่า ไป๋ รู่วเฉิน สวมปลอกแขนของกองทัพอสูรฟ้านั้น คนที่เคยมองกองทัพอสูรฟ้าด้วยความเย้ยหยันต่างต้องปรับทัศนคติใหม่ในทันที และพวกเขาก็ไม่กล้าที่อยู่สังเกตการณ์นานจนเกินไป เพียงอึดใจเดียวเท่านั้น ก็แทบไม่เหลือผู้ใดที่อยู่ในบริเวณนั้น

 

หวาง เว่ย และคนอื่นๆ สังเกตเห็นเหตุการณ์เหล่านี้ทั้งหมด และพวกเขาก็รู้สึกมีความสุขอย่างมาก เพราะเหมือนกับว่าพวกเขาได้เห็นอนาคตของกองทัพอสูรฟ้าก็ว่าได้

 

เหล่าผู้อาวุโสขยะทั้งหกคนนั้นยิ่งมีความสุขอย่างมาก เพราะกองทัพซ่อนเร้นของพวกเขาที่จัดตั้งขึ้นมากว่ายี่สิบปีนั้น ทำได้เพียงอยู่กับความอัปยศเท่านั้น แต่กองทัพอสูรฟ้าที่เพิ่งจัดต้งขึ้นมานี้ กลับสร้างความหวาดกลัวให้กับทุกคนได้อย่างง่ายดาย มันจึงทำให้พวกเขาเห็นถึงความแตกต่างได้อย่างชัดเจน และมันยังทำให้พวกเขามีความเชื่อมั่นอย่างมาก

 

ReaDMGA ////////////////////////////////////////

 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments