I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 1136 – ข้าจะตีพวกเจ้าทุกครั้งที่เจอ

| Martial God Asura | 3597 | 2518 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

บทที่ 1136 – ข้าจะตีพวกเจ้าทุกครั้งที่เจอ

 

เมื่อ ชูเฟิง กล่าว พวกศิษย์เก่าทั้ง 6 ก็ถึงกับสะดุ้งเฮือก หลังจากนั่น หนึ่งคนในกลุ่มพวกเขาที่มีรูปร่างท้วมและมีพลังวิญญาณในระดับ 1 ราชันย์ ก็ก้าวออกมาด้านหน้า พร้อมกับพูดด้วยท่าทีเหยียดหยาม”

 

ข้าเอง ที่เป็นคนตีพวกมัน แล้วยังไงล่ะ” “เพลี๊ยะ~”

 

ทันใดนั่นก็เกิดเรื่องที่น่าตกใจขึ้น หลังจากที่ชายท้วมกล่าวคำนั่นออกมา ชูเฟิง ก็ขยายฝ่ามือตบเข้าไปที่ใบหน้าของเขาอย่างรวดเร็ว จนเขาไม่มีเวลาทันได้ตั้งตัว จึงทำให้แรงตบที่มหาศาลพัดพาร่างเขาหมุนกลิ้งไปหลายตลบ “บ้าเอ้ย . . . .”

 

ทุกคนตะลึงจนพูดอะไรไม่ออก ไม่เพียงแต่ศิษย์พี่รุ่นก่อนที่โดน ชูเฟิง ตบ แม้แต่ อีก 5 คนที่เหลือ ก็ยังตะลึงกับการกระทำของ ชูเฟิง

 

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นมันเป็นไปได้ยังไง ?! ศิษย์ที่พึ่งเข้ามาในหุบเขาไม้คราม กับกล้าลงไม้ลงมือทำร้ายศิษย์พี่ของเขา นำซ้ำ เขาทำร้ายเขาต่อหน้าผู้คนมากมาย การกระทำเช่นนี้หมายความว่ายังไง ?! “ฝ่ามือนี่ สำหรับ จาง ปิงหนาน”

 

จู่ๆ ชูเฟิงก็กล่าวออกมา หลังจากที่เขาพูดจบ แขนอีกข้างของเขาก็ยกขึ้นมา และจากนั่นเขาก็เหวี่ยงมันออกไปราวกับพญามังกรฟาดหาง ท้ายสุดฝ่ามือของเขาก็กระแทกลงบนหน้าของศิษย์พี่ร่างท้วม “เพลี๊ยะะะ”

 

เสียงตบนั่นดังสนั่นไปรอบๆบริเวณ ความแรงของมันทำให้ ศิษย์พี่คนนั่น หมุนกลิ้ง 1080 องศา และท้ายสุดร่างของเขาก็ล่วงลงกระแทกพื้นก้นจั้มเบ้า ตาค้าง มองไปที่ ชูเฟิง ขณะที่หน้าเสีย

 

คนอื่นๆก็นับว่าตกใจกับการกระทำของ ชูเฟิง มากอยู่แล้ว แต่สำหรับตัวคนที่โดนตบไปถึง สอง ครั้ง ถึงกับ หน้าเหวอ ขณะที่ความเจ็บปวดยังคงแผ่ซ่านอยู่บนใบหน้าของเขา “ฝ่ามือนี้ สำหรับ หลิว เฉา!!!”

 

ชูเฟิง พูดขึ้นอีกครั้ง ในน้ำเสียงของเขาฟังดูต่างไปจากเดิม จนผู้คนรอบๆรู้สึกหวาดเกรง

 

หลังจากที่ เขาตบหน้าของศิษย์พี่รุ่นก่อนไปถึง สอง ครั้ง เขายังสามารถพูดคำเหล่านั่นออกมา อย่างหน้าตาเฉย ราวกับว่าเขาไม่เห็นคนคนนั่นอยู่ในสายตา “ไอ้เวร มืงตาย!!!”

 

ท้ายสุด ศิษย์พี่ร่างท้วมที่โดน ชูเฟิง ตบปลิว ก็ได้เรียกสติกลับมา จากความตกใจ เขารีบยืนขึ้นและเตรียมตัวที่จะโจมตีใส่ ชูเฟิง ในเวลาเดียวกัน ศิษย์เก่าทั้ง 5 ที่เต็มไปด้วยความโกรธ โดยเฉพาะคนที่อยู่ในระดับ 2 ราชันย์ ที่เป็น ผู้นำของ กองทัพซ่อนเร้น ก็ปลดปล่อยออร่าระดับ 2 ราชันย์ออกมา เพื่อกดดัน ชูเฟิง

 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเขาต้องเผชิญกับความโกรธเกรี้ยวของ ศิษย์เก่าทั้ง 6 สีหน้าของ ชูเฟิง ก็ยังไม่ต่างอะไรไปจากเดิม เขาแค่ขมวดคิ้วเล็กน้อย และกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นว่า”

 

พวกเจ้าทุกคน คิดจะโจมตีข้า ทั้งๆที่พวกเราทั้งหมดต่างก็มาจากพรรคเดียวกันงั้นหรอ ?!””เจ้า . . . .ว่าไงนะ ?!”

 

แม้คำพูดของ ชูเฟิง จะเรียบง่าย แต่มันก็เหมือนกับระเบิดที่ดังสนั่น เมื่อพวกศิษย์เก่าทั้ง 6 ได้ยินแบบนั่น พวกเขาไม่เพียงแต่จะรู้สึกสับสน ในใจของพวกเขายังสั่นสะท้านเต้นไม่เป็นจังหวะ แค่คำพูดสั้นๆเหล่านี้ มันกับทำให้พวกเขาระงับความโกรธและสลาย ออร่า หยุดการเข้าโจมตีใส่ ชูเฟิง “สู้กันสิ !!! ทำไมถึงไม่สู้กันล่ะ น่าเบื่อชะมัด !!!””ใช่แล้ว เรายังไม่ได้ดูอะไรมันส์ๆเลย ทำไมพวกเจ้าถึงหยุดล่ะ ฝาง โถวไห่ รีบจัดการมันซะสิ หรือว่า คนที่อยู่รอดใน หุบเขาไม้ครามมานานถึง 20 ปี เกิดกลัวเด็กที่เพิ่งเข้ามาใหม่งั้นหรอ ไอ้สวะเอ้ย!!!””พวกสวะ ไร้ประโยชน์ ไม่น่าแปลกใจเลยที่กองทัพซ่อนเร้นจะเป็น ขุมอำนาจย่อยขยะที่สุด ในหุบเขาไม้คราม จากที่ข้าเห็น ข้าว่าจะดีกว่าหากเจ้ายุบมัน ไม่งั้น เจ้าจะทำให้หุบเขาไม้ครามของเรา แปดเปื้อน ”

 

จู่ๆ หลังจากที่ ศิษย์พี่ชราทั้ง 6 หยุดการเข้าโจมตีใส่ ชูเฟิง ฝูงก็เริ่มตะโกนโวกแวก

 

สายตาของเขาเขาเปลี่ยนเป้าไปยังทิศทางของเสียงนั่น ชูเฟิง ก็พบว่าพวกเขาเหล่านั่น น่าจะมาจาก พรรคย่อย คนพวกนั่นมี 5 คน อายุพอๆกับ ศิษย์เก่าทั้ง 6 อย่างไรก็ตาม การเพาะปลูกของพวกเขาแข็งแกร่งมาก อย่างน้อยๆพวกเขาทั้ง 5 ก็ต่างอยู่ในระดับ 2 ราชันย์

 

ได้ยินคำพูด ที่ดูถูก จากปากของทั้ง 5 คนที่อยู่ในระดับ 2 ราชันย์ ท่าทางของศิษย์เก่าทั้ง 6 ก็หง๋อทันที พวกเขาทั้ง 6 ไม่กล้าพูดใดๆโต้กลับออกไป เห็นได้ชัดว่า พวกเขา กลัว กลุ่มคนทั้ง 5 นี้ “ฟังนะ!!! อย่างที่ข้าพูดไป ว่าพวกคนจากหุบเขาไม้ครามใต้ มันก็คือพวกเศษสวะ หลังจากที่พวกมันเข้ามาหุบเขาไม้คราม พวกมันก็คอยหา ขุมอำนาจย่อยเพื่อจะเข้าร่วม แต่ก็ไม่มีใครต้องการพวกมัน ดังนั่น พวกมันจึง สร้างกองทัพซ่อนเร้นขึ้นมา แต่นี้มันก็ 20 ปีมาแล้ว พวกมันก็ยังมีแค่ 6 คน” “หากพวกสวะอย่างพวกเจ้า ได้กลายเป็นอาวุโสในภายภาคหน้า พวกเจ้าก็จะเป็นได้แค่อาวุโสฝ่ายนอก ที่เป็นแหล่งรวมตัวของพวกสวะ ไร้ความสามารถ” “หรือพวกเจ้าอาจจะได้เป็นแค่ศิษย์หลัก ไปตลอดชีวิต ไม่มีวันได้เป็นอาวุโส นั่นมันยังจะเป็นผลดีต่อหุบเขาไม้คราม หากข้าเป็นเจ้า ข้าจะไปจากที่นี่ เพราะว่าหากอยู่ที่นี่ต่อไป ก็รังแต่จะละอายตัวเอง”

 

เห็นว่า ศิษย์เก่าทั้ง 6 ไม่กล้าพูดใดๆ ทั้ง 5 คนจึงพูดจาดูถูกอย่างเมามันส์ การเหยียดหยามของทั้ง 5 คน มันทำให้ผู้คนรอบๆ เริ่มหัวเราะชอบใจ ในเวลานั่นเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของคนที่ดูถูก หุบเขาไม้ครามใต้ “ไอ้เด็กเวร!!! มองหาอะไร หรือเจ้ามีไรอยากจะพูด !”

 

ทุกคนต่างแปลกใจอย่างมาก เมื่อหนึ่งในห้าคน เห็นว่า ชูเฟิง กำลังจ้องพวกเขา คนที่เห็นก็ตะโกนใส่ ราวกับจะบอกว่า ชูเฟิง ไม่มีค่าพอที่จะมองพวกเขา

 

เผชิญกับคำพูดเหล่านั่น ชูเฟิง ก็หัวเราะออกมา และกล่าว”

 

ข้าไม่มีไรจะพูด ที่มองก็แค่อยากจำหน้าของพวกเจ้า ทั้ง 5 ไว้””จำหน้าพวกเราไว้ เจ้าหมายความว่ายังไง ?!”

 

เมื่อ ชูเฟิง กล่าวออกมา ทั้งห้าคนก็เกิดความสับสน เพราะพวกเขาไม่รู้ว่า ชูเฟิง หมายถึงอะไร “อ่อ ก็หมายความว่าข้านั่นตัดสินใจได้แล้วว่า ข้าจะตีพวกเจ้าทุกครั้งที่เจอ!!!”

 

ชูเฟิง พูดขณะที่หัวเราะ “ว่าไงนะ ?! ไอ้บัดซบ เจ้าพูดว่าอะไร ?! ไหนลองพูดใหม่สิ!!! “ในเวลานั่น เหล่าผู้คนก็ต่างเข้าใจ ความหมาย ของ ชูเฟิง และมันก็ทำให้พวกเขาทั้ง 5 ตัวสั่นด้วยความโกรธ “พรึบบบ พรึบบบ พรึบบบ”

 

อย่างไรก็ตาม ในขณะนั่น ร่างของ ชูเฟิง ก็พุ่งตรงเข้าไปหากลุ่มคนทั้ง 5 ราวกับลูกศรการเคลื่อนไหวมันดูคล้ายกับจะหยุด และเคลื่อนไหว หยุดและเคลื่อนไหว เหมือนภาพเบลอๆ ซึ่งดูประหลาดอย่างมาก

 

ความเร็วที่เขาใช้มันไม่ได้เร็วมากนัก แต่การเคลื่อนไหวไม่ใช่ส่วนสำคัญ จุดที่สำคัญคือออร่าของเขา ที่ปะทุออกมาราวกับภูเขาไฟปะทุขึ้นฟ้ากระจายออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ให้ความรู้สึกเหมือนการปรากฏตัวของ อสูรร้ายที่กระหายเลือด หรือ เทพแห่งความตาย

 

เมื่อออร่าของ ชูเฟิง ปรากฏออกมา ไม่เพียงแต่ทั้ง 5 จะหวาดกลัว แทบจะทุกคนที่อยู่รอบๆลานว่าง ก็ต่างยอมสยบต่อมัน ลักษณะของพวกเขาที่เหมือนกันคือ อ้าปากค้าง ตะลึง ขณะที่มอง ชูเฟิง เคลื่อนไหว จนท้ายที่สุดเขาก็หยุดตรงหน้า คนทั้ง 5

 

อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่สิ่งที่น่าตกใจที่สุด แต่สิ่งที่น่าตกใจที่สุด คือ ชูเฟิง นั่นโจมตีใส่คนทั้ง 5 โดยการโจมตีของเขารุนแรงอย่างมาก จนผู้เฝ้าดู ต่างพากันตะลึง “ปั๊ก~~~ ปั๊ก~~~ ปั๊ก~~~ ปั๊ก~~~ ปั๊ก~~~~~~~~”

 

ชูเฟิง ระดมหมัดออกไป จนเกิดเป็นภาพเงาหมัดนับไม่ถ้วน ความเร็วของหมัดนั่นรวดเร็วอย่างมาก จนไม่มีใครมองออกว่า เขาชกออกไปกี่หมัด ภายในช่วงเวลาสั้นๆ ทั้ง 5 คน ต่างก็มีเลือดระลักออกมาจากจมูกและปาก ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยรอยเขียวช้ำ นำซ้ำร่างของพวกเขายังกระเด็นออกหลายเมตรจากลานว่าง ท้ายสุดร่างพวกเขาก็ตกลงกับพื้น ขณะที่ลักษณะใบหน้าของพวกเขาบวมปูดราวกับหมู ไม่เหลือเคร้าโครงเดิมของมนุษย์ ซึ่งเป็นภาพที่น่าสังเวช

 

ชูเฟิง อัดพวกเขากองกับพื้นราวกับ สุนัข จึงทำให้คนทั้ง 5 เกิดความหวาดกลัว ทันทีที่พวกเขาตกลงพื้นพวกเขาก็รีบพาร่างคลานไปบนพื้นดิน เพื่อพยายามลุกขึ้นหนีไปจากลานว่างให้เร็วที่สุด แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้หายไปจาก ชูเฟิง พวกเขาก็ตะโกนว่า”

 

ไอ้สารเลว!!! กองทัพหู่หลงของเราจะไม่ปล่อยให้เจ้ารอดออกไปจากที่นี่แน่” “กองทัพหู่หลง ที่เป็นสถานที่รวมพวกขยะนะหรอ!!!”

 

ชูเฟิงแสยะยิ้ม ไม่ว่ากองทัพหู่หลงจะมีประสิทธิภาพหรือไม่ สำหรับ 5 คนที่วิ่งหนีหางจุกตูด ก็คือ ขยะสำหรับชูเฟิง

 

คนแบบไหนที่ว่าคือขยะ ?! สำหรับคนทั่วไป อาจมองว่าคนที่ไร้ความสามารถ และ ไม่สามารถฝึกฝน ใดๆได้สำเร็จ หรืออาจ พัฒนาได้ช้ากว่าคนทั่วไป คือคนจำพวกขยะ

 

อย่างไรก็ตาม สำหรับ ขยะในความหมายของ ชูเฟิง มันแตกต่างออกไป สำหรับมุมมองของ ชูเฟิง ขยะไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่อ่อนแอเสมอไป แต่พวกที่แข็งแกร่งที่ไล่เที่ยวรังแกผู้อ่อนแอ

 

สำหรับบางคน หากพบคนที่อ่อนแอกว่าพวกเขา พวกเขาก็จะเที่ยววางท่าราวกับตนเป็นโอรถสวรรค์ ไม่ว่าจะเป็น คนแก่ คนพิการ หรือ คนที่ไร้ทางสู้ พวกเขาจะเห็นคนเหล่านี้เป็นเครื่องระบายอารมณ์ คอยจ้องแต่จะรังแก แต่เมื่อพวกเขาพบคนที่แข็งแกร่งกว่า ต่อให้ถูกถุยน้ำลายใส่หน้า พวกเขาก็ไม่กล้าพูดใดๆ

 

คนเหล่านี้ เป็นคนที่น่ารังเกียจที่สุด ดังนั่น สำหรับ ชูเฟิงแล้ว คนประเภทนี้ สมควรถูกเรียกว่า ขยะ

 

สำหรับ ชายทั้ง 5 ที่เขาอัดไปเมื่อเร็วๆนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นคนประเภทนั่น

 

ReaDMGA ////////////////////////////////////////

 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments