I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 1146 – ชูเฟิงชนะ

| Martial God Asura | 6664 | 2517 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

บทที่ 1146 – ชูเฟิงชนะ

 

“ปั้งง~~~”

 

สายตาของพวกเขาทั้งสองปะทะจนเกิดแรงสะท้อนระหว่างการเผชิญหน้า นี้คือการปะทะกันของแรงดันวิญญาณ การเผชิญหน้าของจิตสังหาร เป็นไปไม่ได้ที่จะตรวจสอบมันได้ ทั้งสองคนต่างใช้บางสิ่งที่มีปะทะกันโดยไม่ใครรับรู้ “นี่จิตสังหารของข้า ถูกต้านไว้ได้หรอ !”

 

เห็น หลง เฉินยี่ ก้าวมาข้างหน้า ชูเฟิง ไม่ได้กลัวเลยแม้แต่น้อย เขาไม่เพียงแต่จะไม่หลบสายตา เขายังเพิ่มจิตสังหารลงไป

 

สายตาของเขาดูกราดเกรี้ยว ขณะที่กวาดตามองทุกคน ด้วยความโกรธภายในจิตใจ แววตาของเขาส่อให้เห็นถึงความคับแค้นภายในใจ เช่นเดียวกับ จิตสังหารที่มีต่อ หลง เฉินยี่ “เจ้า . . . .”

 

หลังจากถูกจ้องโดย ชูเฟิง แบบนั่น ท่าทางของ หลง เฉินยี่ ก็เปลี่ยนไปอย่างมาก เขาไม่เพียงแต่จะรีบหลบสายตาออกจาก ชูเฟิง เขายังก้าวถอยหลังกลับเหมือน หลง เฉินฟู่

 

ในตอนนั่นแรงกดดัน พัดเข้าใส่ หลง เฉินยี่ จนเขาเกือบจะล้มลงกับพื้น นอกจากนี้ผิวของเขายังดูซีดขึ้นมาก มันเป็นได้ยากที่เขาต้านทานมัน นั่นจึงทำให้เขาช็อคมาก จนใบหน้าเขาอาบไปด้วยเหงื่อ “ท่านผู้นำ!!!”

 

เห็นเช่นนั่น คนจากกองทัพสวรรค์ก็พากันตื่นตระหนก โดยเฉพาะ หลง เฉินฟู่ ที่รีบเข้าไปสนับสนุนพี่ชายของเขา

 

สิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นไปได้ยังไง ?! หลง เฉินยี่ ที่เป็นสาวกหลักอัจฉริยะ กับแพ้การเผชิญหน้ากับคนที่พึ่งเข้ามา นี่มันช่างน่าอับอายยิ่งนัก

 

ในตอนนั่น สมาชิกของกองทัพสวรรค์รีบเข้าโอบล้อม ชูเฟิง และ หลง เฉินยี่ ไว้หลายชั้น เพื่อกันคนจากภายนอกเห็น ไม่เช่นนั่น มันจะทำให้กองทัพสวรรค์ เสียหน้าอย่างมาก

 

ในช่วงเวลานั่น หลง เฉินยี่ รีบจัดอารมณ์ให้กลับคืนสู่ความสงบ จากนั่นก็มองไปที่ ชูเฟิง อีกครั้ง ในตอนนั่นเขามีท่าทางต่างไปจากเดิม ขณะที่กล่าว”

 

สิ่งที่ ศิษย์น้อง ชูเฟิง พูดมานั่นถูกต้อง แต่เราก็ต่างถือเป็นครอบครัวเดียวกัน เพราะศิษย์น้อง รู่วเฉิน ก็มาจากนิกายหลัก เช่นเดียวกับพวกเรา ดังนั่นนางก็เหมือนคนของ ขุมพลังย่อย””เอาเป็นแบบนี้ เราจะไม่พูดเรื่องนี้กันอีก หากมีใครทำให้พวกเจ้านั่นลำบาก เจ้ามาหาข้าได้ตลอดเวลา กองทัพสวรรค์กับกองทัพอสูรฟ้าก็ต่างก็ลงเรือลำเดียวกัน” “ผู้นำ!!! ท่าน . . . .”

 

เมื่อ หลง เฉินยี่กล่าวคำเหล่านั่น สมาชิกทั้งหมดถึงกับพากันตะลึง สายตาพวกเขาเต็มไปด้วยความสับสน เห็นได้ชัดว่าพวกเขาประหลาดใจ กับการตัดสินใจของหลง เฉินยี่

 

ก่อนหน้านี้เห็นได้ชัดว่า ชูเฟิง มีเจตนาที่จะสังหาร หลง เฉินฟู่ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่โอหังอย่างมาก และท้ายสุด หลง เฉินยี่ก็ออกหน้า เผชิญกับ ชูเฟิง ซึ่งมันน่าจะทำให้ทั้งคู่เป็นศัตรู ดังนั่น หลง เฉินยี่ ควรจะสั่งสอนบทเรียนให้แก่ ชููเฟิง

 

อย่างไรก็ตาม คำพูดและการกระทำของหลง เฉินยี่ ผิดกับที่พวกเขาคาดไว้มาก นี้ไม่ได้หมายความว่า หลง เฉินยี่ ยอมรับความพ่ายแพ้ทางอ้อมงั้นหรอ

 

หลง เฉินยี่ นั่นยอมรับความพ่ายแพ้ นำซ้ำคนที่เขายอมแพ้ยังเป็น ชูเฟิง ?! นี้เป็นเรื่องที่ใครต่างคาดไม่ถึง มันจึงทำให้สมาชิกของกองทัพสวรรค์สับสน เพราะไม่เข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

 

ในความเป็นจริง แม้แต่ ไป๋ รู่วเฉิน ที่เอาแต่นิ่งเงียบ ก็ยังแสดงความประหลาดใจออกมาบนใบหน้าสวยๆของนาง ถึงนางจะไม่รู้จัก หลง เฉินยี่ ดีไปซะทุกอย่าง แต่นางก็รู้จักเขาในระดับนึง แน่นอนว่าเขาไม่ใช่คนอ่อนแอ และไม่ใช่คนประเภทที่จะยอมให้ใคร แล้วการกระทำของเขาในต้องนี้ มันหมายถึงอะไร “ถูกอย่างที่ ศิษย์พี่ หลงกล่าวมา ยังไงก็ตาม ศิษย์พี่ หลง ท่านจะต้องดูแลน้องชายของท่านให้มาก ไม่เช่นนั่นไม่ช้าก็เร็ว เขาอาจจะนำภัยพิบัติมาสู่ท่าน เนื่องจากคนที่นี้ไม่ใช่ว่าทุกคนใจดีเสมอไป”

 

ชูเฟิง ชำเลืองมอง หลง เฉินฟู่ แล้วหันหน้าไปทาง ไป๋ รู่วเฉิน พร้อมกับพูดว่า “น้อง รู่วเฉิน เราไปกันเถอะ”

 

หลังจากที่เขาพูดคำนั่น จบ ชูเฟิง ก็พา ไป๋ รู่วเฉิน ออกไปจากฝูงชนกองทัพสวรรค์ ก่อนที่พวกเขาจะหายไปจากสายตาของคนกองทัพสวรรค์ ตรงไปยังทิศทางของ จุดรับภารกิจ “ทำไมเราถึงปล่อยให้เขาไปแบบนั่น ท่านพี่ เกิดอะไรขึ้นกับท่านกันแน่ ?!”

 

หลง เฉินฟู่ ถามด้วยสีหน้า ที่ไม่สบอารมณ์ ขณะเดียวกันสมาชิกคนอื่นๆของกองทัพสวรรค์ ก็ต่างจดจ่อรอคำอธิบายของ หลง เฉินยี่ “เอิ่ม จริงๆ . . . .”

 

เมื่อต้องเผชิญกับคำถามของหลง เฉินฟู่และสายตาของผู้คน หลง เฉินยี่ ก็สูดหายใจเข้าลึก พร้อมกับหลับตาลง

 

ก่อนหน้านี้ ในระหว่างที่เขาเผชิญหน้ากับ ชูเฟิง เฉิน หลงยี่ เคยคิดจะใช้ ออร่าของเขาเอา ชนะ ชูเฟิง และต้องการทำให้ชูเฟิงแพ้โดยไม่ได้ทำอะไร เพื่อแสดงความแข็งแกร่งที่ห่างชั้นของเขา ต่อหน้า ไป๋ รู่วเฉิน

 

แต่นึกไม่ถึง ว่าเขาจะพบบางสิ่งบางอย่าง จากสายตาของ ชูเฟิง ที่ยากจะอธิบาย หากเขาจะอธิบาย คงจะบอกได้ว่า มันคือความ มืดมิด

 

เขารู้สึกว่า ชูเฟิง นั่นมีพลังบางอย่างที่ไม่ธรรมดา หากเขาเลือกที่จะเป็นศัตรูของ ชูเฟิง เป็นไปได้ว่า ชูเฟิง อาจจะสังหารครอบครัวของเขาทั้งหมด

 

นั่นเพราะว่าเขา สามารถรับรู้ได้จากสายตาที่ ชูเฟิง จ้องมองมา เห็นได้ชัดว่า ชูเฟิง เป็นคนที่มืออาบไปด้วยเลือด จำนวนคนที่เขาสังหารนั่นมีมากมายมหาศาล เสมือน นักฆ่าเลือดเย็น

 

สิ่งที่สำคัญคือ จิตสังหารที่ชูเฟิงปล่อยออกมา มันน่ากลัวอย่างมาก ราวกับจิตสังหารนี้ไม่ใช่ของมนุษย์ แต่เป็นของอสูรร้ายที่ไล่สังหารผู้คนนับไม่ถ้วน อาจกล่าวได้ว่าเขา เป็นปีศาจที่ขึ้นมาจากขุมนรก

 

นำซ้ำ ชูเฟิง ยังสามารถควบคุมจิตสังหารได้ดั่งใจ นี้สิที่น่ากลัวกว่า ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องการเพาะปลูก เพียงแค่จิตสังหารที่น่ากลัวแบบนี้ หลง ยี่เฉิน ก็ไม่เคยพบเคยเจอมาก่อน

 

นั่นคือเหตุผลที่หลง เฉินยี่ ตัดสินใจ กล่าวคำพูดก่อนหน้านั่นออกไป และยอมรับความพ่ายแพ้ในขณะที่การเพาะปลูกของเขา อาจจะเหนือกว่า ชูเฟิง แต่สัญชาตญาณของเขาบอกว่า ชูเฟิง ไม่ใช่คนที่ควรเข้าไปตอแย . . .

 

หลังจากที่ สูดหายใจเขาลึกๆ นานพอจนเขาสงบใจได้ เขาก็ลืมตาขึ้น และมองไปยังทิศทางที่ ชูเฟิง และ ไป๋ รู่วเฉิน จากไป เขาก็ค่อยๆเปิดปากพูด”

 

เจ้าเด็กที่ ท่านประมุขนิกาย ให้ความสำคัญ มันจะดีที่สุดหากเราไม่เข้าไปตอแยเขา” “นี่ . . . .”

 

คำพูดเหล่านั่นมันทำให้ทุกคนประหลาดใจอย่างมาก และความประหลาดใจนั่นก็ทำให้พวกเขาฉุดคิดอะไรขึ้นได้ เมื่อพวกเขาย้อนนึกถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้น รวมถึงการกระทำของ หลง ยี่เฉิน ก่อนหน้านี้ มันก็ทำให้พวกเขาเกิดความชื่นชม ต่อ ชูเฟิง

 

ถึงแม้ว่าพวกเขาไม่อยากจะเชื่อ แต่ไม่มากก็น้อย ที่พวกเขาบอกได้ว่า ศิษย์ของหุบเขาไม้ครามใต้ คนนี้ แตกต่างไปจากคนอื่นๆ

 

ชูเฟิง ไม่ได้สนใจความคิดของคนกองทัพสวรรค์ เขาเพียงแต่มุ่งความสนใจ ไปที่ สถานศูนย์รวมภารกิจ และถามไป๋ รู่วเฉิน”

 

น้อง รู่วเฉิน มีตำหนักรับภารกิจตั้งอยู่มากมาย ในสถานศูนย์รวมภารกิจ แล้วเราจะเลือกที่ไหนก่อนดี” “ก่อนหน้านี้เจ้าทำอะไร ?! ทำไม หลง เฉินยี่ ถึงกลัวเจ้าแบบนั่น ?!”

 

ไป๋ รู่วเฉิน ไม่เพียงไม่ตอบสนองต่อคำถามของ ชูเฟิง แต่นางยังตั้งคำถามขึ้นมาแทน “ข้าจะทำอะไรได้ ?! การเพาะปลูกข้าด้อยกว่าเขา คนที่จะต้องกลัวควรเป็นข้า สำหรับท่าทางที่เปลี่ยนไปอย่างฉับพลันอาจเป็นเพราะ ประมุขนิกายสวรรค์ เคยบอกอะไรเขาก็ได้ ?!”

 

ชูเฟิงรู้เหตุผลที่หลง เฉินยี่มีท่าทางเช่นนั่น แต่เขาก็ไม่ได้บอก ไป๋ รู่วเฉิน

 

หากเขาบอกมันให้ ไป๋ รู่วเฉิน รู้ว่าที่ หลง เฉินยี่ กลัวนั่นเป็นเพราะเขาสายตาจ้องเพียวๆ ไม่ต้องพูดเพราะนางคงไม่เชื่อแน่ แล้วถ้าจะให้นางเชื่อเขาจะต้องทำให้นางเห็นโดยการที่นางต้องขอให้เขาใช้สายตาแบบนั่นจ้องนาง “หากเจ้าไม่อยากบอกข้าว่าทำไม ก็ลืมมันไปซะเถอะ แต่ข้ารู้ว่าเจ้าต้องทำอะไรสักอย่าง”

 

ไป๋ รู่วเฉิน ไม่เชื่อสิ่งที่ ชูเฟิง อธิบาย นางมั่นใจว่า ชูเฟิง เป็นคนทำให้ หลง เฉินยี่ แสดงความขี้ขลาด

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นว่าชูเฟิงไม่อยากจะบอกนาง นางก็ไม่อยากเซ้าซี้ ให้มากเรื่อง นางชำเลืองมองตำหนักต่างๆที่อยู่ในศูนย์รวมภารกิจและหันหน้าไปมอง ชูเฟิง และ ถาม”

 

เจ้าคงไม่รู้เรื่องอะไร เกี่ยวกับศูนย์รวมภารกิจนี้ใช่ไม๊ ?!”

 

ReaDMGA ////////////////////////////////////////

 

A : พรุ่งนี้ พี่เฟิงจะรับภารกิจระดับ SSS หรือเปล่า

 

B : S เดียว ประเดิมด้วย ราชสีห์ ตบท้าย ด้วยมังกร!!!

 

C : SSS นี้คงจะเป็นภารกิจถล่ม ขุมอำนาจใหญ่ อย่าง 9 ขุมอำนาจ หรือเปล่า ?!

 

B : ป่าว!!! ถล่ม 3 คฤหาสน์

 

C : กูว่านั่นคงจะเป็นภารกิจ SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSS แล้วล่ะ!!! ต่อให้เป็นประมุขของหุบเขาไม้คราม ก็จนปัญญา

 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments