I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Tales of Demons & Gods (妖神记) ตอนที่ 33 ทักษะการยิงธนู

| Tales of Demons & Gods (妖神记) | 5247 | 2533 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

ก่อนที่คณะสำรวจของ’หลินเจียง’และ’เนี่ยลี่’จะมานั้น ทุกตระกูลได้ส่งบางคนในตระกูลเพื่อมาสำรวจสถานที่ศักดิ์สิทธ์แห่งนี้แล้วทั้งสิ้น

แต่น่าเสียดายที่การมาสำรวจนั้นไม่ได้พบอะไรมากมาย และ มีคนที่กลับจากการสำรวจไม่มากที่จะกลับมาเพื่อเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น ‘เชินหลินเจี่ยน’ได้พิจารณาแผนที่ของนครกล้วยไม้ศักดิ์สิทธิ์ ทำไมเขาต้องตัดสินใจเกี่ยวกับสถานที่ซึ่งจะไปสำรวจนี้ด้วยล่ะ

“ในที่สุด พวกเราก็ได้มาถึงนครกล้วยไม้ศักดิ์สิทธิ์ ! บัดนี้ พวกเรามีสองทางเลือกเมื่อพิจารณาจากสถานที่พวกเราอยู่ในขณะนี้”

‘เชินหลิน’เจี่ยนพูด พร้อมกับกางแผนที่ออกและชี้จุดเส้นทางเดินบนแผนที่ทุก ๆ คน เริ่มรวมตัวกันรอบแผนที่และเริ่มพิจารณาเส้นทางที่จะมุ่งหน้าไป ลูกน้องคนหนึ่งของเชินหลินเจี่ยนได้พูดขึ้นว่า

“เส้นทางแรกนำไปสู่ประตูใหญ่ทางด้านตะวันตก โดยสามารถเดินไปได้ตามแนวกำแพง ทางนั้นพวกเราจะสามารถไปถึงกลางเมืองได้อย่างรวดเร็วพวกเราสามารถหาสิ่งของได้ตามเส้นทางนี้ แน่นอนว่าพวกเราต้องการเข้าไปในบ้านร้างที่กลางเมือง ซึ่งในบ้านเหล่านั้นพวกเราต้องได้อะไรติดมือกลับมาบ้าง”

“ข้าเห็นด้วยกับความคิดของเขา”

“ใช่ พวกเราควรสำรวจรอบ ๆ พื้นที่บริเวณบ้านเหล่านี้”

ทุก ๆ คนต่างเห็นด้วย

‘เชินหลินเจี่ยน’ได้นิ่งเงียบอยู่เขายังรอความคิดเห็นของใครบางคนอยู่ เขาเงยหน้าขึ้นและมองตรงไปที่เนี้ยหลี่และถามว่า ท่านคิดอย่างไรบ้าง

ทุก ๆ คนต่างแปลกใจ พวกเขาไม่คิดว่า ‘เชินหลินเจี่ยน’จะถามความคิดเห็นของ’เนี้ยหลี่’ในตอนที่ต้องตัดสินใจเรื่องสำคัญเช่นนี้
‘จืออวิ้น’มองด้วยตาเป็นประกายไปที่’เนี้ยหลี่’ และ’ฮูเหยียนหลานเร่อ’ก็ไม่สามารถละสายตาไปจากเนี้ยลี่ได้เช่นกันในขณะนี้ทุก ๆ คน ต่างเป็นกังวลกับความเห็นของ’เนี้ยลี่’

‘เนี้ยหลี่’ผายมือทั้งสองข้างไปยังกลุ่มรอบ ๆ ตัวเขาและพูดว่า

“ ถ้าพวกท่านมาที่นี่เพียงเพื่อที่จะเข้าสำรวจบ้านสามัญชน นั่นจะเป็นการคิดที่ผิดอย่างมาก พวกคนก่อนหน้านั้นได้เข้ามาสำรวจบ้านของสามัญชนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถ้าพวกเรายังไปสำรวจที่เดิมอีกครั้ง พวกเราจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย และโดยหลักทั่วไป ท่านคิดว่าผู้ใดมั่งคั่งและรวยที่สุดในสถานที่แห่งนี้ ? ใช่พวกชาวบ้านหรือไม่ ? ไม่ใช่อย่างแน่นอน 90 % ของความมั่งคั่งของเมืองนี้อยู่ในมือของตระกูลใหญ่”

“พื้นที่นี้มีรัศมีเป็นร้อยไมล์ มีบ้านของสามัญชนอยู่มากและสถานที่ส่วนใหญ่ที่นี่ถูกทำลายไปเรียบร้อยแล้ว พวกเราจะรู้ได้อย่างไรว่าที่ไหนเป็นสถานที่ซึ่งบ้านของตระกูลใหญ่ ตั้งอยู่”

‘เสิ่นเอวีย’พูดสวน ในขณะที่’เนี้ยหลี่’กำลังพูดอยู่

“พูดต่อไป”

‘เชินหลิน’เจี่ยนพูด เขากำลังมองตรงไปที่เนี้ยหลี่ด้วยท่าทีสนใจ ในขณะนั้นเขา

เริ่มเห็นคล้อยตามกับความคิดของ’เนี่ยหลี่’

“มันเป็นเรื่องง่ายที่จะหาสถานที่ตั้งของตระกูลหลัก สถานที่ไหนในแผนที่นี้ที่มีพื้นที่กว้างมากที่สุด? นั่นแหละจะเป็นสถานที่ตั้งนั้น ! เพราะโดยทั่วไปแล้ว ตระกูลใหญ่ ๆ มักจะมีสวนเป็นของตนเอง”

‘เนี้ยหลี่’ยังคงพูดต่อไปตอนนี้ทุก ๆ สายตามองไปที่แผนที่เมื่อได้ยินคำพูดของ’เนี้ยหลี่’

“ที่นี่”

‘ฮูเหยียน’หลานเร่อพูดด้วยความตื่นเต้นอย่างมีความสุขที่ได้สนับสนุนเนี้ยหลี่

“ถูกต้อง”

ที่นี่ควรจะเป็นสถานที่ตระกูลหลักตั้งอยู่ สิ่งปลูกสร้างส่วนมากของที่นี่มีขนาดใหญ่มาก ‘เชิงหลีนเจี่ยน’มองไปและพูดขึ้นว่า

“สถานที่แห่งนี้ได้ถูกค้นหาเรียบร้อยแล้ว แม้ว่าจะพบสมบัติบ้าง แต่นั่นก็ไม่มากเท่าไหร่ บางพวกได้ขุดลึกลงไป 3 ฟุตใต้สถานที่แห่งนี้แต่ไม่สามารถหาห้องใต้ดินในบริเวณนี้ได้เลย”

“ข้าพูดแล้ว เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่ เป็นไปไม่ได้เหรอที่คนอื่นจะมีความคิดแบบนั้น? เจ้าคิดว่าทุกคนตระกลูหลักในเมืองกลอรี่เป็นพวกกินผักหมดแล้วรึ ? “

‘เสิ่นเอวีย’ดูถูก

‘เนี่ยหลี่’เหลือบตาไปและมองตรงไปที่’เสิ่นเอวีย’และพูดว่า

“ เมื่อข้ากำลังพูด เจ้าควรจะหุบปาก ? ถ้าเกิดว่าเจ้าเก่งจริง ทำไมเจ้าไม่ลองเสนอเส้นทางขึ้นมาเองล่ะ ?”

และในขณะที่’เสิ่นเอวีย’กำลังจะพูดสวน ‘เชินหลินเจี่ยน’จ้องไปที่’เสิ่นเอวีย’และพูดว่า

“หุบปากซะ!”

‘เสิ่นเอวีย’ที่กำลังจะพูดนั้น ปากปิดสนิททันที เขารู้สึกหดหู่มาก เขานั้นเป็นถึงผู้สืบเชื้อสายมากจากตระกูลศักดิ์สิทธิ์แต่สถานะของเขานั้นยังไม่สามาถเทียบได้กับ’เชินหลินเจี่ยน’ แม้เขารู้สึกว่าต้องทนอดกลั้นมากกว่าปกติเป็นสิบเท่า แต่เขาก็ไม่กล้าจะขัดคำสั่งของ’เชินหลินเจี่ยน’

“มันเป็นเรื่องปกติที่สถานที่แห่งนี้ได้ถูกค้นหาเรียบร้อยแล้ว เรามาเริ่มดูแผนที่นี้กันต่อ นี่คือบ้านของตระกูลใหญ่ที่ตั้งอยู่ที่ศูนย์กลางสำคัญของเมือง เพราะว่าสถานที่นี้มีบริเวณที่ป้องกันแน่นหนาเพื่อความปลอดภัย”

‘เนี่ยหลี่’เริ่มชี้ไปที่บริเวณซึ่งอยู่ข้างหลังบ้านหลังนึงและพูดว่า

“นี่ควรจะเป็นสถานที่ตั้งของคฤหาสน์จ้าวเมือง”

‘เชินหลินเจียน’ผงกศรีษะตาม จนกระทั่งบัดนี้ ตรรกะความคิดของ’เนี้ยหลี่’ยังคงถูกต้อง อย่างไรก็ตาม สถานที่คฤหาสน์จ้าวเมืองนี้นั้นก็ได้ถูกสำรวจไปก่อนแล้วโดยคนที่มากลุ่มแรก รวมถึงพื้นใต้ดิน แต่ไม่มีผู้ใดพบเจออะไรมากมายนัก

“ดูแผนที่ต่อกันเลย ไม่กี่ร้อยไมล์จากคฤหาสน์ มีสถานที่ 3 แห่ง ท่านรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับสถานที่ 3 แห่งนี้”

‘เนี่ยหลี่’ถาม’เชินหลินเจี่ยน’

“ภายในบริเวณที่ 3 แห่งเหล่านี้ หนึ่งในนั้นเป็นที่พื้นที่ทางการทหาร ซึ่งใช้เป็นที่ให้ทหารของจ้าวเมืองมาฝึกซ้อมอีกแห่งหนึ่งเป็นที่ตั้งของป้อมหิน ภายในนั้นว่างเปล่าและทำมาจากหินมาเบิลดำ แม้ที่สกัดหินก็ไม่สามารถทำอะไรได้ และที่เหลือแห่งสุดท้าย ข้าไม่รู้ว่าไว้สำหรับใช้เพื่อการใด มันตั้งอยู่ทางขวามือของป้อมหินและมันมีป่าที่มีต้นไม้และวัชพืชขึ้นอยู่มาก”

‘เชินหลินเจี่ยน’ตอบ ก่อนที่จะมาที่แห่งนี้ เขานั้นได้จำบริเวณนครกล้วยไม้ศักดิ์สิทธิ์มาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อได้ยินที่’เชินหลินเจี่ยน’พูด ‘เนี่ยหลี่’ยิ้มและกล่าวว่า

“ไม่ไกลจากการเดาของข้ามากนัก”

ดวงตาของ’เชินหลินเจียน’เบิกกว้างขึ้นและกล่าวว่า

“อะไรทำให้ท่านคิดว่าในสถานที่ 3 นี้นั้นมีบางที่น่าสงสัยอยู่หรือ? หรือมันจะเป็นบริเวณป้อมหิน แต่ … ที่แห่งนั้นได้ถูกค้นหาไปเรียบร้อยแล้วนะ !”

“ที่ป้อมหินนั้นน่าจะเป็นที่หลบภัย เมื่อหายนะเกิดขึ้น พวกเขาอาจจะซ่อนอยู่ภายในป้อมหินเหล่านี้ ที่นั่นควรจะมีบางอย่างที่เป็นห้องลับสำหรับซ่อนสมบัติ และส่วนของพื้นที่ที่ใกล้กับป้อมหินนี้ชัดเจนว่าเป็นบริเวณของกับดัก ซึ่งใช้สำหรับขับไล่พวกเหล่าสัตว์ปีศาจ ถ้าพวกมันเข้าใกล้เพื่อจะมาสำรวจ พวกนั้นจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าพวกมันได้ตายไปตอนไหน ยิ่งไปกว่านั้นข้าพบว่าสถานที่ที่น่าสงสัยที่สุดคือบริเวณพื้นที่ ทหาร”

‘เนี้ยหลี่’พูดด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย

“ทำไมพื้นที่ฝึกทหารทหารจะเป็นสถานที่น่าสงสัยมากที่สุดไปได้เล่า?”

“พื้นที่ทางทหารเป็นเพียงพื้นดินโคลน ซึ่งใช้ฝึกซ้อมรบทางพื้นดิน ทำไมมันถึงได้น่าสงสัยกัน”

“เพราะบริเวณผู้อื่นคิดว่าไม่น่าสงสัยที่สุดนั้นจะเป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุด! ยิ่งไปกว่านั้น จ้าวเมืองได้จัดให้พื้นที่นี้ตั้งอยู่ที่ศูนย์กลางของเมือง ด้วยสิ่งนี้เพียงอย่างเดียวบอกได้เลยว่านั่นไม่ใช่เรื่องปกติ มีบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญซ่อนอยู่ใต้พื้นดินแห่งนี้ !”

‘เนี้ยหลี่’ชี้ไปที่แผนที่และบอกว่า

“พวกเราจะสำรวจรอบพื้นที่แห่งนี้”

“ตกลง ! เส้นทางได้ถูกเลือกแล้ว”

‘เชินหลินเจี่ยน’ม้วนเก็บแผนที่และหัวเราะดีใจ หึหึ เมื่อเส้นทางที่น่าจะเป็นไปได้ถูกเลือกขึ้นมาเป็นอย่างดีแล้วพวกเขาสามารถประหยัดเวลาจากการเดินทางที่สูญเปล่าได้เป็นอย่างมากทีเดียว

‘ฮูเหยียนหลานเร่อ’เงยหน้าขึ้นเมื่อ ‘เชินหลินเจี่ยน’เก็บแผนที่ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความชื่นชม เนี้ยหลี่นำเสนออย่างเป็นเหตุเป็นผลทำให้เธอรู้สึกชื่นชมเขาด้วยความเคารพ เธอรู้สึกว่า’เนี้ยหลี่’นั้นไม่ธรรมดา อย่างไรก็ตามเป็นไปได้อย่างไรที่ระดับพลังจิต 1 ทองแดงสามารถหยุดเทคนิคยั่วยวนของเธอได้

“ผู้ชายที่ฉันเลือกนั้นเป็นคนไม่ธรรมดาจริง ๆ !”

‘ฮูเหยียนหลานเร่อ’คิดด้วยความภาคภูมิใจ แม้ว่าเนี้ยหลี่ทำท่าไม่สนใจเธออย่างเด็ดขาด แต่เธอก็จะคอยตามดูเขาไม่ให้คลาดสายตาถ้าเนี้ยหลี่รู้ว่าฮูเหยียนหลานเร่อคิดอย่างไรอยู่ ณ ตอนนี้ เขาคงจะรู้สึกอยากร้องไห้ ทำไมเขาถึงได้เข้าไปอยู่ในหัวใจเธออย่างไม่มีเหตุผล หลังจากที่เธอติดแจอยู่กับเขาเหมือนกับลูกอมเหนียว ๆ เขารู้สึกกลัวว่าเขาจะไม่สามารถกำจัดเธอออกไปให้ห่างจากตัวเขาได้

‘เอียจืออวิ้น’กำลังเม้มปากหัวเราะอยู่ ความมีเสน่ห์ของเธอนั้นทำให้’เนี้ยหลี่’ต้องหยุดมอง มันเป็นความรู้สึกที่’เนี้ยหลี่’คุ้นเคยเป็นอย่างดีเมื่อได้อยู่กับ’เอียจืออวิ้น’เมื่อชีวิตที่แล้วของเขาเมื่อมองดูที่ใบหน้าที่เคลิบเคลิ้มของ’เนี่ยหลี่’ ‘ฮูเหยียนหลานเร่อ’รู้สึกโมโหมาก ทั้งที่มีผู้หญิงที่ทั้งสวยและมีเสน่ห์อย่างเธอมายืนอยู่ต่อหน้า’เนี่ยหลี่’แล้ว ‘เนี้ยหลี่’ยังมองไม่เห็น เขาเพียงแต่มองที่ ‘เอียจืออวิ้น’

‘นี่เป็นเรื่องที่อุกอาจเกินไปแล้วกล้ามองข้ามเธอ’ ‘ฮูเหยียน’หลานเร่อคิด ‘เนี่ยหลี่ฉันเกลียดนาย’

‘เนี่ยหลี่’ไม่สามารถรู้สึกรำคาญเกี่ยวกับเรื่องที่’ฮูเหยียนหลานเร่อ’คิดได้ เขาได้นำลูกธนูออกจากกระเป๋าและนำหญ้าทะเลหมอกม่วงมาถูที่ลูกธนูของเขา

”เนี้ยหลี่ นายกำลังทำอะไรอยู่”

‘ฮูเหยียนหลานเร่อ’พูด ทั้งเธอแล’ะเอียจืออวิ้น’ต่างมองที่’เนี่ยหลี่’ด้วยความสงสัย’เนี่ยหลี่’สั่นหัวและพูดว่ามันไม่มีอะไรหรอก

“ ตกลง พวกเราไปกันได้”

‘เชินหลินเจียง’ตะโกนสั่ง คณะเดินทางได้มุ่งหน้าไปอย่างช้าสู่

เมืองกล้วยไม้ศักดิ์สิทธิ์เดินไปตามขอบของกำแพงโดยเลือกเส้นทางที่เร็วพอสมควรและปลอดภัย ถ้าพวกเขาเคลื่อนที่ไปตามทางซึ่งเป็นปกตินั้น พวกเขากลัวว่ามันจะเป็นการยาก ตั้งแต่มีสัตว์อสูรกายอยู่เป็นจำนวนมากมาหลบซ่อนอยู่ในบริเวณที่มีภูมิประเทศซับซ้อนนี้

เสียงคำรามของเหล่าอสูรกายได้ยินมาจากด้านในลึกเข้าไปในนครกล้วยไม้ศักดิ์สิทธิ์นอกจากเหล่าอสูรกายพวกนี้แล้ว ในบางครั้งยังมี กลุ่มผู้คนบางกลุ่ม พวกเขาก็มาจากเมืองกลอรี่ด้วยเช่นกันมาเพื่อที่จะสำรวจซากของสถานที่แห่งนี้เมื่อ’เชินหลินเจียง’ ‘เนี้ยหลี่’ และคณะ ได้เข้าลึกเข้าไปยังนครกล้วยศักดิ์สิทธิ์

กลุ่มลึกลับได้ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าทางเข้าสู่นครศักดิ์สิทธิ์นี้ คนพวกนี้สวมชุดคลุมดำยาว มีจำนวนทั้งหมด 15 คน

“เจ้าแน่ใจหรือว่าเด็กพวกนั้นมาจากตระกูลชั้นสูง?”

ผู้นำกลุ่มมองไปยังกลุ่มคนข้างตัวเขาและถามขึ้น เขาเป็นคนรูปร่างสูง เขานั้นตัวสูงกว่าคนเหล่านี้ทั้งหมด

“ใช่ครับท่านหยุนหัว ดีคอน”

หนึ่งในผู้ชายในชุดคลุมดำตอบกลับ

“ดีมาก”

หน้าของ’หยุนหัว ดีคอน’ประกฏรอยยิ้มชั่วร้ายขึ้นและกล่าวว่า

“ไปจับตัวเด็กสามคนที่มีตำแหน่งสูงที่สุดในกลุ่มมา”

ใช้พวกมันเพื่อแลกเปลี่ยนกับค่าไถ่กับพวกตระกูลใหญ่และฆ่าที่เหลือทิ้งให้หมดกลุ่มเงาทมิฬเป็นเรื่องน่ากลัวที่ยังคงอยู่ในเมืองกลอรี่ พวกมันมักจะลักพาตัว

เด็กของตระกูลชั้นสูงเพื่อแลกเปลี่ยนกับค่าไถ่ พวกมันคล้ายกับพวกกลุ่มปลิงที่คอยดูดเลือด อาศัยอยู่ในเงามืดของเมืองกลอรี่ พวกมันจะใช้ทุกวิถีทางเพื่อหาเงิน และนำไปจัดหาทรัพยากรสำหรับการฝึกสมาชิกในกลุ่ม แม้ว่าหลายตระกูลในเมืองกลอรี่ไปรวมตัวกันหลายครั้งเพื่อที่จะกำจัดกลุ่มเงาทมิฬ

แต่กลุ่มเงาทมิฬก็ยังไม่สูญสิ้นไปมีข้อมูลมาว่าสำนักงานใหญ่กลุ่มเงาทมิฬนั้นตั้งอยู่อย่างเป็นความลับมากที่ ภูเขาเอนเซสทรัล พวกมันมีกองกำลังที่มีพลังมากอย่างไม่น่าเชื่อ แม้กระทั่ง ลอร์ด ยีโม (YeMo อยู่ระดับสูงสุดเป็นพ่อของจ้าวเมือง Ye zong ) ยังไม่สามารถกำจัดกลุ่มนี้ได้

*ชู่ว ซู่ว ซู่ว *

กลุ่มคนชุดดำมุ่งหน้าตรงไปยังนครกล้วยไม้ศักดิ์สิทธ์ภายในนครกล้วยไม้ศักดิ์สิทธิ์คณะเดินทางกำลังมีปัญหาในการเดินทางมุ่งไปข้างหน้า ในบางครั้งบางคราว จะมีพวกฝูงวานรยักษ์ฟ้าปรากฏขึ้น พวกอสูรกายเหล่านี้มีความสูงสองเมตร แขนหนา ๆ ของพวกมันคล้ายเสาสีดำ

แต่พวกมันยังคงปราดเปรียวและอยู่ที่ระดับเงินเป็นส่วนมากลิงยักษ์ฟ้าหกตนกำลังห้อยโหนข้ามผ่านซากของกำแพงเมืองตามติดเนี้ยหลี่และคณะ พวกฝูงลิงยักษ์ฟ้านี้ค่อนข้างฉลาด พวกมันรู้ได้ว่าพวกเรามีคนมากเกินกว่า 30 คน พวกมันยังไม่เข้ามาปะทะพวกมัน เพียงแค่ตามพวกเขารอคอยโอกาส

“พวกฝูงลิงยักษ์ฟ้านี้ช่างน่ารำคาญเสียจริง”

‘เชินหลินเจี่ยน’กล่าวขึ้น แม้ว่าพวกลิงยักษ์ฟ้านี้ยังไม่ได้ เข้าปะทะกับพวกเขา พวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรกับพวกมันเหล่านี้ได้ และยิ่งเวลาผ่านไปพวกฝูงลิงยักษ์ฟ้านี้ก็ได้เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ พวกมันจะรวมกลุ่มกันเมื่อพร้อมมันจะมาโจมตีพวกเรา

ทันใดนั้น

* ฟิ้ว*

เสียงนี้ได้ยินขึ้น ลำแสงเย็นเฉียบได้พุ่งผ่านเงามืดที่ตรงหัวมุมนั้น

‘เชินหลินเจี่ยน’และคณะเพื่องได้มองเห็นชัดเจน ว่ามันคือลูกธนู ลูกธนูพุ่งตัดผ่านช่องว่างของแมกไม้และเลี้ยวโค้งด้วยมุมที่ไม่น่าเชื่อพุ่งเข้าสู่ลิงยักษ์ฟ้าตัวนึงในกลุ่ม

พิ้ว… !

ลูกธนูนั้นหยุดการเคลื่อนไหวของลิงยักษ์ฟ้าตัวนั้น ลิงยักษ์ฟ้าตัวนั้นเจ็บปวดและร่วงลงมาจากกำแพงสูง กระแทกสู่พื้นอย่างหนักทำให้ฝุ่นคละคลุ้งบริเวณรอบพื้นที่นั้น เจ้าลิงยักษ์ฟ้านั้นดิ้นรนอยู่บนพื้น แต่ยังไม่สามารถขยับถอยหนีได้

เมื่อเห็นดังนั้น,

‘เชินหลินเจียง’รีบพุ่งเข้าใส่ทันที เงื้อดาบของเขาและฟันลงไป

* ฟล่อบ *

เลือดของลิงยักษ์ฟ้านั้นได้กระจายออก พร้อมกับร่างของอสูรที่นอนตายอยู่บนพื้น

 

จบตอน…

 

ที่มา : 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments