I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Tales of Demons & Gods (妖神记) ตอนที่ 34 สัตว์อสูรระดับผสานวิญญาณ

| Tales of Demons & Gods (妖神记) | 5129 | 2533 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

มีหลากหลายวิธีที่จะนำหญ้าทะเลหมอกม่วงมาใช้ หนึ่งในนั้นคือนำมาทำเป็นยาพิษที่ร้ายแรงสำหรับอสูรร้ายประเภทวานร เป็นเรื่องธรรมดาเลยที่วานรอสูรร้ายระดับเงินจะไม่สามารถต้านทานพิษนี้ได้ ในโลกนี้สิ่งหนึ่งนั้นจะอยู่ใต้บางสิ่งเสมอ

“เนี่ยหลี่ใช้เพียงธนูดอกเดียวเพื่อฆ่าเจ้าวานรยักษ์ฟ้านี่รึ?”

ต่างคนต่างมองหน้ากันไปมา ด้วยความรู้สึกแปลกใจอย่างมาก

มีเพียง’ฮูเหยียน’ ‘หลานเร่อ’ และ’เอียจืออวิ้น’ที่รู้ว่า’เนี้ยหลี่’ได้ทายาบางชนิดไปที่ลูกธนูนั้น แต่อย่างไรก็ตามการที่สามารถยิงธนูไปที่วานรยักษ์ฟ้าอย่างง่ายดายเป็นเรื่องที่เหนือชั้นมาก

เมื่อได้มองดู’เนี้ยหลี่’ฆ่าวานรยักษ์ฟ้าด้วยธนูนั้น ‘เชินหลินเจี่ยน’ตะโกนบอกคณะของเขาว่า

“ทุก ๆ คนหยิบหน้าไม้ของตัวเองออกมา”

คนของ   ‘เชินหลินเจี่ยน’     ต่างหยิบหน้าไม้ของตัวเองออกมา ต่างคิดว่าด้วยสิ่งนี้พวกเขาสามารถใช้ต่อกรกับวานรยักษ์ฟ้าได้

‘เสวิ่นเอีย’     ก็หยิบหน้าไม้ออกมาด้วยมองดูที่หน้าไม้ของเขาด้วยแรงกระตุ้น เขารู้สึกอึดอัดใจอย่างมาก’เนี่ยหลี่’เหนือกว่าเขาในทุก ๆ ด้านจริงๆ

ตั้งแต่การปรากฏตัวของ’เนี้ยหลี่’ เขารู้สึกว่า’เอียจืออวิ้น’นั้นมีแต่จะยิ่งห่างและห่างไกลออกไปเกินกว่าที่เขาจะเอื้อมถึงและตอนนี้’เอียจืออวิ้น’ก็ไม่สนในเขาแม้แต่น้อย เธอเปลี่ยนไป เธอหันไปมอง’เนี้ยหลี่’ นั่นทำให้เขารู้สึกคลุ้มคลั้งเป็นอย่างมาก

เพียงแค่ยิงและฆ่าวานรยักษ์ฟ้าได้นั้นมันจะยากเพียงไหนกัน?

‘เสวิ่นเอีย’    ขึ้นลูกธนูที่หน้าไม้ของเขาและพุ่งไปที่ขอบของกำแพง เขาเล็งหน้าไม้ของเขาไปที่วานรยักษ์ฟ้าตนหนึ่งซึ่งอยู่ในระยะห่างกำลังพอดีด้วยท่าทีมุ่งมั่นและจริงจังอย่างมาก เขามุ่งหมายกำจัดลิงยักษ์ที่อยู่ข้างหน้า

ในขณะนี้ทุกๆ คนที่กำลังมองเขาอยู่ต่างหยุดหายใจ ต่างลุ้นไปกับ’เสวิ่นเอีย’ผู้ที่ยืนอยู่ที่ขอบของกำแพง

“ด้วยเป้าหมายที่มีขนาดใหญ่เช่นนั้น มันจะยากแค่ไหนกันเชียวที่จะยิงให้โดน?”

‘เสวิ่นเอีย’ตะโกน แล้วเขาก็เหนี่ยวไก ในขณะที่เขาเหนี่ยวไกนั้น มือของเขานั้นสั่นเล็กน้อยอย่างไม่รู้ตัว

*ซู่ว*

ลำแสงเย็นเฉียบพุ่งตัดผ่านไป

*แบงง*

ลูกธนู่พุ่งปักที่ต้นไม้ต้นหนึ่งห่างประมาณ 5 – 6 เมตรจากวานรยักษ์ฟ้า ในตอนนี้ ใบหน้า’เสวิ่นเอีย’เริ่มเปลี่ยนไปและกลายเป็นหน้าซีดขาวจากเหตุการณ์เมื่อครู่นี้

เมื่อมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลายคนทำท่าแปลก ๆ พวกเขาพยายามอย่างยิ่งที่จะกลั้นหัวเราะของพวกเขาเอาไว้ ถ้าพวกเขาปล่อยหัวเราะออกมา ‘เสิว่นเอีย’จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ทุกๆ คนต่างรู้ดีว่า’เสวิ่นเอีย’ต้องการที่จะแข่งกับ’เนี้ยหลี่’

แต่….การแข่งขันเป็นเรื่องปกติ…แต่ทำไมมันกลับกลายเป็นเรื่องตลกขบขันไปได้

‘เสวิ่นเอีย’   แทบจะคลุ้มคลั่ง เขาแน่ใจว่าเขาสามารถทีจะยิงเป้าหมายเข้าเป้า แต่ทำไมลูกธนูเกิดส่ายขึ้นมาได้เมื่อเขาปล่อยคันไก เมื่อเขามองผู้คนรอบตัวเขาพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่หัวเราะออกมา ‘เสวิ่นเอีย’รู้สักอับอายเป็นอย่างมาก

เขายังคงสังเกตเห็นท่าทีหัวเราะในแววตาของ ‘เอียจื้ออวิ้น’ สิ่งนี้นั้นทำให้เขารู้สึกกดดันมาก

บ้า เอ้ย! ข้าไม่เชื่อว่าข้าไม่สามารถยิงมันได้! เขาคิด

ทันใดนั้น ‘เสวิ่นเอีย’นำลูกธนูอีกดอกขึ้นมาและขึ้นมันกับหน้าไม้อย่างรีบเร่ง เขาเล็งหน้าไม้ไปที่วานรยักษ์ตนหนึ่งทันที

*ซู่ว*

ลูกธนูพุ่งผ่านไป อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นลูกธนูเหมือนจะสูญเสียความเร็วลงและตกลงสู่พื้นดิน ‘เสิ่วนเอีย’ไม่ได้ขึ้นหน้าไม้อย่างถูกต้อง นี่เป็นสาเหตุให้ลูกธนูล่วงลงหลังจากพุ่งไปได้ไม่ไกล

ด้วยเหตุการณ์นี้ ทุกๆ คนต่างอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาดังๆ ‘เสิ่วนเอีย’ดูเหมือนไม่มีทักษะเอาเสียเลย

เขาต้องการเลียนแบบ’เนี้ยหลี่’ด้วยการฆ่าวานรยักษ์ฟ้าด้วยลูกธนู อย่างไรก็ตาม ผลที่ออกมาตรงกันข้ามกับ’เนี้ยหลี่’โดยสิ้นเชิงหรือเขาเพียงต้องการออกมาสร้างเรื่องน่าขำนี้เท่านั้นเหรอ

‘เชินหลินเจี่ยน’ เก็บอาการไม่หัวเราะออกมาและเดินเข้าไปข้างๆ ‘เสวิ่นเอีย’ เขาแต่ที่บ่าของ’เสวิ่นเอีย’และพูด

“น้องเสวิ่นเอีย”

ลืมมันเสียเถอะ เจ้าไม่สามารถเล่นกับสิ่งนี้ได้

หน้าของ’เสวิ่นเอีย’เริ่มออกเป็นสีม่วง มีแต่เสียงหัวเราะของฝูงชนเท่านั้นที่เขาได้ยิน ความเกลียดของเขาที่มีต่อ’เนี้ยหลี่’เพิ่มมากขึ้น มันเป็นความผิดของ’เนี้ยหลี่’ที่ทำให้เขาต้องมาอับอายขายหน้าต่อฝูงชนเช่นนี้

ถ้า’เนี้ยหลี่’รู้ความคิดของ’เสวิ่นเอีย’ในขณะนี้ เขาคงจะรู้สึกว่ามันไร้สาระเพราะเขาไม่ทำอะไรต่อ’เสวิ่นเอีย’แม้แต่น้อย

‘เสวิ่นเอีย’ยังคงถือหน้าไม้ของเขา ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี  ช่วยไม่ได้เลยที่เขารู้สึกว่าตัวเขาอยากจะขุดฝังตัวเองด้วยความอับอายนี้

ในชีวิตที่แล้ว’เสวิ่นเอีย’ภาคภูมิใจอย่างมากและมักทับถมเนี้ยหลี่ด้วยเรื่องที่เขาเก่งกาจ เมื่อคิดถึงเรื่องนั้น ที่มุมปากของ’เนี้ยหลี่’เริ่มปรากฏเป็นรอยยิ้มเยาะ เขาพูดเบา ๆ ว่า

“เพียงเพราะมีบางสิ่งบางอย่างที่ข้าสามารถทำได้ นั่นไม่ได้หมายความว่าเจ้าจะสามารถทำมันด้วยได้”

จำเอาไว้ !

ความโกรธของ’เสวิ่นเอีย’พุ่งพล่านจนระเบิดออกเมื่อได้ยินคำของ’เนี่ยหลี่’ เขาเข้าเผชิญหน้ากับ’เนี้ยหลี่’และผู้แย้งว่า

“ทุก ๆ อย่างเป็นความผิดของเจ้า ฉันจะฆ่าแก!”

เส้นเลือดมากมายปรากฏบนใบหน้าของ’เสวิ่นเอีย’ เขายกหน้าไม้ในมือของเขาและเล็งไปที่’เนี้ยหลี่’ เขากำลังใกล้บ้าเต็มตัวด้วยความที่เขาสีบเชื้อสายมาจากตระกูลศักดิ์สิทธ์ เขามีความภาคภูมิใจเป็นอย่างมากอยู่ภายใน ด้วยเหตุดังนั้น เขาจึงสูญสิ้นซึ่งการควบคุมตัวเองอย่างสิ้นเชิงมื่อได้ยินเนี้ยหลี่มาดูถูกเขาเช่นนี้

*ปาป*

‘เชินหลินเจียน’แย่งหน้าไม้มาจากมือของ’เสวิ่นเอีย’และพูดเสียงดังว่า

“ พอได้แล้ว !”

‘เสวิ่นเอีย’เงยหน้าขึ้นและมองเห็นหน้าอันเย็นชาของ’เชินหลินเจี่ยน’ เมื่อได้เห็น จิตใจเขาเริ่มรู้สึกแย่ลงเขากวาดตาดูรอบๆตัวและเห็นสีหน้าเช่นเดียวกันนี้บนใบหน้าของคนอื่นๆ ตอนนี้ทุกๆคนนั้นยืนอยู่ข้าง’เนี่ยหลี่’ เขาหันหลังกลับและจำใจต้องเดินออกจากกลุ่มด้วยความไม่พอใจ

การวิพากษ์วิจารณ์เริ่มเกิดขึ้น หลังจากมองดู’เสวิ่นเอีย’เดินจากไป

“ไม่เคยคิดเลยว่าเสวิ่นเอีย จะเป็นคนเช่นนี้”

“นั้นไม่ใช่พฤติกรรมที่คนชั้นสูงจะทำแบบนี้”

ดวงตาของ’เนี่ยหลี่’เริ่มกลายเป็นดวงตาที่เย็นชาเมื่อเขาระลึกถึงความรู้สึกที่มีต่อตระกูลศักดิ์สิทธิ์และทุกๆ สิ่งที่คนของ’เสวิ่นเอีย’ได้ทำมัน แม้ว่าคนอย่างมันและตระกูลของมันจะวินาศ ‘เนี้ยหลี่’จะไม่รู้สึกสงสารพวกมันแม้แต่น้อย

เมื่อได้มองเห็น’เสวิ่นเอีย’เดินจากไปคนเดียว ‘เอียจืออวิ้น’เดินไปข้างๆ ‘เนี้ยหลี่’และพูดกับเนี้ยหลี่ว่า

“ เนี้ยหลี่เสวิ่นเอียน่าสงสารมากนะ”

เมื่อได้ยินคำพูดของ’เอียจืออวิ้น’ คิ้ว’เนี่ยหลี่’เริ่มขมวดเข้าหากันด้วยความไม่พอใจ เขาไม่คิดว่า’เอียจืออวิ้น’จะมีความเห็นใจให้กับ’เสวิ่นเอีย’ ‘เอียจืออวิ้น’นั้นมีจิตใจอ่อนโยนเกินไป

ในชีวิตที่แล้วของเขา ‘เอียจืออวิ้น’ตกลงจะแต่งงานกับ’เสวิ่นเอีย’หลังจากที่เขาอ้อนวอนเธออย่างมาก แต่ในที่สุด ก่อนที่พวกเขาจะได้แต่งงานงานกัน ‘เสวิ่นเอีย’ได้เผ่นหนีและละทิ้งเมืองกลอรี่ไปกับคนในตระกูลของเขา เขาเป็นคนแบบนั้นไม่จำเป็นต้องไปสงสารคนแบบนี้หรอก

ด้วยความรู้สึกชิงชังในหัวใจของเขา ‘เนี่ยหลี่’มองที่’เอียจืออวิ้น’และพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า

“จะต้องไปสงสารมันด้วยเรื่องอะไรกันนับแต่จากนี้ไป อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับมันอีก! ไม่อย่างนั้นเจ้าก็ไม่ต้องมาให้ข้าเห็นหน้าอีกคนเลวอย่างมันแม้จะต้องตาย มันก็สมควรแล้วล่ะ”

เมื่อได้ฟัง’เนี่ยหลี่’พูดตำหนิด้วยท่าทีจริงจังแบบนั้น ‘เสวิ่นเอีย’ทำหน้าบุ้ยปากไม่พอใจ

เธอกำลังคิดในใจว่า

เขาไม่ใช่แฟนของฉัน ด้วยเรื่องอะไรกันที่เขาจะมาห้ามเธอไม่ให้ติดต่อกับคนอื่น

อย่างไรก็ตามเธอได้ตัดสินใจด้วยตัวของเธอเองที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับ’เสวิ่นเอีย’ ไม่อย่างนั้นมีความเป็นไปได้ที่เธอจะไม่สามารถเป็นเพื่อนกับ’เนี้ยหลี่’ได้อีก ความรู้สึกกังวลของเธอเกี่ยวกับความคิดของ’เนี่ยหลี่’เริ่มก่อตัวขึ้นช้า ๆ

ทำไมเนี่ยหลี่ถึงเกลียดเสวิ่นเอียมากถึงเพียงนั้น มีบางสิ่งบางอย่างเกี่ยวกับความแค้นระหว่างสองคนนี้อย่างนั้นหรือ ?

‘เนี่ยหลี่’ถอนหายใจ อารมณ์ของเขาพุ่งสุงขึ้นไปหน่อยเมื่อชั่วครู่นี้ ด้วยน้ำเสียงที่ดูจริงจังมากไป อย่างไรก็ตามมันเป็นเรื่องดีที่จะต้องเตือน’เอียจืออวิ้น’บ้างเล็กน้อย

คนของ’เชินหลินเจี่ยน’เริ่มที่จะจัดการกับกองกำลังวานรยักษ์ฟ้าด้วยหน้าไม้ อย่างไรก็ตามพวกเขาตระหนักว่าลูกธนูของเขานั้นไม่สามารถทำอะไรต่อพวกมันได้เลย

มันเป็นเรื่องจริงที่พวกวานรยักษ์ฟ้านั้นมีร่างกายอันใหญ่โต แต่กระนั้นการเคลื่อนไหวของพวกมันก็รวดเร็วมากเช่นกัน เมื่อพวกเขายิงธนูออกไป เจ้าลิงนั่นสามารถที่จะหลบมันได้ในทันที ทำให้ธนูของพวกเขาพลาดเป้า

จนกระทั่งบัดนี้ พวกเขาเพิ่งตระหนักว่าทักษะการยิงธนูของเนี่ยหลี่เป็นเช่นไร

หลังจากค้นพบความสามารถอีกอย่างของ’เนี้ยหลี่’ ความหลงใหลที่มีต่อ’เนี้ยหลี่’ปรากฏอยู่ในดวงตาของ’ฮูเหยียน’ ‘หลานเร่อ’ เมื่อใดก็ตามที่เธอมองไปที่’เนี้ยหลี่’ เธอจะแสดงอาการยั่วยวนแก่’เนี้ยหลี่’ โดยเธอพยายามอวดส่วนเว้าส่วนโค้งของร่างกายและทรวงอกที่ใหญ่โตซึ่งมีร่องอกที่ลึกให้’เนี้ยหลี่’มอง (**เป็นคุณจะทำอย่างไร)

‘เนี้ยหลี่’ไม่มีคำพูดใดๆ บรรยายเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้ได้เลย เธอพร้อมที่จะเร่าร้อนได้ทุกเมื่อ เมื่อเธอมองหน้าผู้อื่นเธอมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป แต่เมื่อเธอมองหน้า’เนี้ยลี่’ เธอรู้สึกเหมือนว่าจะเร่าร้อนมากเป็นพิเศษ

“น้องเนี้ยหลี่ พวกเราคงต้องมอบภาระนี้ให้แก่เจ้า”

‘เชินหลินเจี่ยน’ ถอนหายใจ ท่ามกลางกลุ่มคณะเดินทางนี้ เนี้ยหลี่เป็นเพียงคนเดียวที่สามารถจัดการฝูงวานรยักษ์ฟ้าเหล่านี้ได้

“ฮืม”

‘เนี้ยหลี่’ตอบพร้อมพยักหน้าเล็กน้อย

‘เนี้ยหลี่’เริ่มจัดการวานรยักษ์ฟ้าตามเส้นทางที่พวกเขาผ่าน เขาเล็งได้แม่นมากและไม่เคยพลาดเป้าแม้สักครั้งเดียว ทักษะการยิงธนูของเขานั้นอยู่ในระดับที่สูงมากเมื่อชีวิตที่แล้วของเขา แม้ว่าวรยุทธของเขาอยู่เพียงแค่ระดับ 1ทองแดงก็เพียงพอสำหรับการจัดการการอสูรปีศาจธรรมดาที่อยู่ระดับเงิน

ทุกๆ คนต่างแปลกใจในทักษะการยิงธนูของ’เนี้ยหลี่’ แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญระดับเงินจะพูดว่าการหลบลูกธนูของเนี้ยหลี่ไม่ใช่เรื่องยากอะไรนัก แต่อย่างไรก็ตามไม่ว่าพวกอสูรวานรยักษ์ฟ้าจะพยายามหลบเพียงใด ลูกธนูนั้นก็จะเหมือนเงาที่ไล่ตามหลังพวกมันและเข้าเป้าเสมอ

โดยที่ไม่รู้ตัว ‘เนี้ยหลี่’ได้เข้าไปอยู่ในหัวใจของทุกคนในสถานะ สมาชิกหลักของทีม

เพียงแต่ว่าระหว่างที่’เนี้ยหลี่’และคณะได้เคลื่อนที่ไปอย่างช้าๆ สู่จุดหมายของพวกเขา จำนวนของอสูรวานรยักษ์ได้เพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว พวกมันมีประมาณ 20 ตัว ต่างจับตามองมาที่เนี้ยหลี่และคณะ

“โรรวว!”

เสียงคำรามอันกึกก้องดังขึ้น พื้นดินทั้งหมดเริ่มสั่นอย่างรุนแรง เสียงมันพุ่งพ่านไปในแก้วหูแทบฉีกขาด ทุก ๆ คนต่างมองหน้ากัน

“มันเป็นอสูรปีศาจประเภทผสานวิญญาณ!”

‘เนี้ยหลี่’พูดด้วยความพรั่นพรึง

สัตว์ปีศาจทั่วไปนั้นก็เหมือนกับมนุษย์ พวกมันแยกได้เป็นระดับทองแดง, เงิน , ทองคำ, ทองคำดำ (แบล็คโกลด์),และระดับตำนาน อย่างไรก็ตามท่ามกลางระดับเหล่านี้ ยังมีระดับธรรมดา ,ระดับผสานวิญญาณและระดับผู้ทรงภูมิปัญญาในอสูรปีศาจนี้ด้วย

ยกตัวอย่างเช่นเจ้าพวกวานรยักษ์ฟ้านี้ พวกที่เป็นระดับธรรมดาไม่สามารถควบคุมความนึกคิดในจิตใจของมันได้โดยทำไปตามสัญชาติญาณ

แต่เจ้าพวกอสูรปีศาจประเภทผสานวิญญาณสามารถควบคุมจิตวิญญาณของมันได้ มันเหมือนกับมีความคิดประมาณเด็กทั่วไปที่อายุได้ 10 ขวบ พละกำลังของมันนั้นมากกว่าระดับธรรมดา และสำหรับระดับทรงภูมิปัญญา

จิตวิญญาณภายในความคิดของมันนั้นเปรียบเสมือนดั่งของเหลวที่มีความสามารถถึงขั้นแปรเปลี่ยนสภาพร่างกายภายนอกให้อยู่ในรูปร่างมนุษย์ได้ พละกำลังของมันมีปริมาณมากมหาศาลอย่างน่าตกใจ

“มันมีพละกำลังเท่าไหร่”

หน้าของ’เชินหลินเจี่ยน’เปลี่ยนไป และเริ่มถามด้วยน้ำเสียงหวาดหวั่น

“ ระดับ 5 ดาวเงิน”

เมื่อได้ยินคำนี้ ‘เชินหลินเจียน’ขมวดคิ้ว เขาไม่คิดว่าพวกเขาจะต้องมาเผชิญหน้ากับอสูรระดับผสานวิญญาณได้เช่นนี้ ยิ่งไปกว่านั้นมันมีอยู่ในระดับ 5 ดาวเงิน เขากลัวว่ามันจะเป็นเรื่องยากที่จะเผชิญหน้ากับมัน และมันยังมีวานรยักษ์ฟ้าอีกหลายตนอยู่รอบ ๆ บริเวณนี้ ถ้าเกิดการต่อสู้ได้ปะทุขึ้นมา มันเป็นไปได้ว่าที่พวกเขาทั้งหมดจะถูกกำจัด

“โรรรว!”

เจ้าวานรยักษ์ฟ้าผสานวิญญาณไต่ขึ้นไปบนยอดสุดของกำแพง สายตาของมันมุ่งร้ายและจ้องมาที่’เนี้ยหลี่’และคณะ

“มานี่ ตามฉันมา!”

‘เนี่ยหลี่’ตะโกนและกระโดดมุ่งหน้าเข้าป่าด้านข้างตัวเขา

ทุก ๆ คน ต่างมองกันชั่วขณะและตาม’เนี้ยหลี่’ไปอย่างรวดเร็ว หลบซ่อนตัวอยู่ในป่า เมื่อได้เห็นดังนั้น เจ้าวานรยักษ์ฟ้าผสานวิญญาณได้รัวทุบหน้าอกอย่างรุนแรงและกระทืบเท้าเสียงดัง เสียงคำรามอันกึกก้องได้ยินอีกครั้ง

กลุ่มของวานรยักษ์ฟ้าเมื่อได้ยินคำสั่งของหัวหน้าพวกมัน ต่างมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่’เนี้ยหลี่’และคณะวิ่งหนีไป

การเข้าไปในป่าหนาทึบนั้นไม่ง่ายสำหรับพวกอสูรวานรยักษ์ฟ้าซึ่งมีร่างกายขนาดใหญ่โต

“ตั้งแนวรบ”

‘เชินหลินเจี่ยน’พูดด้วยนำเสียงดุดัน กลุ่มผู้เชี่ยวชาญระดับเงินเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วและไปแฝงตัวภายในต้นไม้รอบ ๆ ตามแนวรบแบบวงกลมและได้นำอาวุธของพวกเขาออกมาเตรียมพร้อมรบ

โซว โซว โซว !

วานรยักษ์ตนหนึ่งฟ้าพุ่งแหวกแนวแมกไม้ออกมาเข้าปะทะกับกลุ่ม ‘เนี้ยหลี่’หยิบหน้าไม้ของเขาออกมาและธนูดอกนึงได้พุ่งออกไป

ติดตามตอนต่อไป

 

ที่มา : 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments