I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Tales of Demons & Gods (妖神记) ตอนที่ 36 ปริศนาของตัวเลข

| Tales of Demons & Gods (妖神记) | 5668 | 2533 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

ระหว่างการวิ่งไปพร้อมกับ’เอียจืออวิ้น’และคอยหลีกเลี่ยงเจ้าพวกวานรยักษ์ฟ้าระดับทั่วไปไปด้วยนั้น เวลากลางคืนเริ่มมืดลง ถ้าพวกเขายังคงยังคงมุ่งหน้าต่อไปเรื่อย พวกเขาจะต้องพบเจอกับอันตรายอยู่เบื้องหน้าแน่นอน

“มาตั้งแคมป์ที่นี่กัน !”

‘เนี่ยหลี่’มองตรงไปยัง ‘เอียจืออวิ้น’และกล่าวขึ้น

แม้ว่าคืนนี้นั้นจะเป็นคืนที่มืดสนิท ‘เอียจืออวิ้น’ยังคงแสดงท่าทีที่กล้าหาญมากกว่าผู้หญิงปกติทั่วไป ดวงตาที่เฉียบคมของเธอเพ่งมองไปยังป่ารกเบื้องหน้า และมองเห็นเงาอะไรบางอย่าง

“นั่นคืออะไร?”

‘เอียจืออวิ้น’ถาม ด้วยความสงสัย

“เหมือนจะเป็นอาคารบางอย่าง”

‘เนี่ยหลี่’พูดพร้อมกับครุ่นคิด มันน่าจะเป็นซากปรักหักพังของอาคาร

“พวกเราไปดูที่สิ่งนั้นกันเถอะ”

‘เอียจืออวิ้น’เชิญชวนพร้อมกับก้าวยาว ๆ ไปสู่ทิศทางของซึ่งตั้งของสิ่งนั้น สำหรับเธอการที่ต้องมาอยู่กับ’เนี้ยหลี่’ตามลำพังนั้น ทำให้เธอหวาดหวั่นเล็กน้อย และจริง ๆ แล้ว นี้เป็นครั้งแรกของเธอที่ต้องมาอยู่กับเด็กผู้ชายในตอนกลางคืนเช่นนี้

แม้ว่าเธอมั่นใจว่า’เนี้ยหลี่’นั้นจะไม่ทำเรื่องที่ไม่ดีกับเธอ แต่หัวใจของเธอยังคงเต้นอย่างรุนแรง ดังนั้นเธอจึงพยายามที่จะเปลี่ยนประเด็นไปสู่การมุ่งไปที่ซึ่งสิ่งนั้นตั้งอยู่ ‘เนี้ยหลี่’ตามหลัง’เอียจืออวิ้น’และมุ่งหน้าไปยังทิศทางนั้น

“สถานที่แห่งนี้น่าจะเป็นรูปปั้นของบางสิ่ง!”

‘เนี้ยหลี่’พูด เขาไม่สามารถคิดออกได้เกี่ยวกับรูปปั้นนี้ว่ามันคืออะไรเมื่อมันได้พังทลายคงเหลือไว้แต่ซากแบบนี้นี่คงจะเป็นเศษซากของอารยธรรมที่มีเคยอยู่ก่อนที่จะเข้าสู่ยุคมืด

“คำเหล่านี้มันคืออะไรกัน”

‘เอียจืออวิ้น’มองดูที่’เนี้ยหลี่’และถามขึ้น

มีแผ่นจารึกที่ทำจากหินอยู่ข้างใต้รูปปั้น ‘เนี้ยหลี่’ปัดฝุ่นออกจากแผ่นจารึกและด้วยแสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามา เขาสามารถที่จะอ่านและเข้าใจเนื้อความที่ปรากฎอยู่บนแผ่นหินนี้ได้อย่างชัดเจน

“นี่คือภาษาของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์”

เขาอธิบาย

“มันพูดว่า ใครก็ตามที่ติดตามข้านั้นจะเป็นผู้ที่ได้รับการยกย่อง ส่วนใครก็ตามที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับข้า จะต้องถูกกำจัด”

นี่มันเป็นคำพูดที่ยิ่งใหญ่อะไรเช่นนี้!

คำเหล่านี้เป็นไปได้ว่ามาจากกษัตริย์ที่มีรูปแบบการปกครองชาวเมืองแบบกดขี่ อำนาจและตำแหน่งของกษัตริย์ชั่วผู้นี้น่าจะสูงมาก แต่แล้วอะไรกันล่ะ เขาและอาณาจักรของเขาในท้ายที่สุดก็ถูกทำลายโดยกองกำลังของเหล่าสัตว์อสูร ครั้งหนึ่งบุคคคลที่เคยมีพลังอำนาจอย่างมากนั้นท้ายที่สุดก็จบชิวิตลงเหลือเพียงแต่เถ้าธุลี และทำได้เพียงทิ้งรูปปั้นหัก ๆ ไว้เบื้องหลังเท่านั้น

“เนี้ยหลี่ เจ้าเข้าใจภาษาของของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร?”

‘เอียจืออวิ้น’ถามโดยเต็มไปด้วยความสงสัยเกี่ยวกับเรื่องความสามารถของ’เนี้ยหลี่’ มีคนเพียงจำนวนน้อยมากที่ถึงจะรู้ก็รู้ซึ่งเพียงเล็กน้อยเกี่ยวภาษาของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์

“ข้าเข้าใจมันได้อย่างไรงั้นหรือ”

‘เนี้ยหลี่’ยิ้ม เขาไม่สามารถบอกได้ว่าเขานั้นเรียนรู้ทั้งหมดเลยนั่นจากดินแดนแห่งพระเจ้า ทั้งภาษาและเทคนิคการผสานพลังมาจากที่แห่งนั้น

“ถ้าเพียงแต่เจ้าไม่อยากบอก ก็ลืมมันไปซะ”

‘เอียจืออวิ้น’พูดด้วยสีหน้าบูดบึ้ง

‘เนี้ยหลี่’กระอักกระอ่วน มันไม่ใช่ว่าเขานั้นไม่เต็มใจที่จะบอกเธอ เพียงแต่ว่าถึงแม้เขาจะบอกเธอไป ‘เอียจืออวิ้น’ก็ไม่สามารถที่จะเข้าใจมันได้

‘เอียจืออวิ้น’เดินผ่านรูปปั้นนั้นไป ขณะที่เธอเพียงต้องการเดินมาตรวจสอบดูรอบ ๆ ซากทั้งหลายเหล่านี้ ทันใดนั้นเธอร้องอย่างสุดเสียง

เมื่อ’เนี่ยหลี่’ตระหนักได้ว่าสถานที่’เอียจืออวิ้น’ยืนอยู่นั่นเริ่มสั่นไหวอย่างรวดเร็วอยู่ภายใน ใบหน้าเขาถอดสีและเขาเร่งเข้าไปหา’เอียจืออวิ้น’โดยทันที อย่างไรก็ตามพื้นดินเหมือนยุบตัวลงมากขึ้น การยุบตัวนั้นมาพร้อมกับพลังดูดอันรุนแรงที่ดูดกลืนร่างของเขาทั้งสองลงไปข้างล่างด้วย

เมื่อร่วงหล่นไปข้างใต้นั่นดูเหมือนว่าพวกเขาจะร่วงลงลึกไปเรื่อย ๆ อย่างไม่สิ้นสุด’ทำไมนครกล้วยไม้ศักดิ์สิทธิ์ถึงได้มีสถานที่แบบนี้อยู่ได้เล่า?’ ‘เนี้ยหลี่’ถามตัวเองเบา ๆ ขณะที่เขากอด’เอียจืออวิ้น’แน่นนั้นเขาได้นำดาบของเขาออกมาและพยายามปักไปที่ขอบผาข้าง ๆ พวกเขา เมื่อเขาพยายามที่จะปักดาบเขาเข้าไปที่กำแพงหิน

*แพล๊งค์*

มันแตกหัก ไอ้กำแพงหินอันนี้มันแข็งมากเกินไป ‘สถานที่แห่งนี้มันคือที่อะไรกัน? เขาได้มองลงที่ด้านล่างเพื่อมองหาก้นของหุบเหวนี้และตระหนักได้ว่าที่ข้างใต้ของพวกเขาลึกลงไปนั้นยังคงมืดสนิท

ทันใดนั้น’เอียจืออวิ้น’ใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ในตอนนี้ ที่ความเร็วในการร่วงของพวกเขานั้นลดลงชั่วครู่จากการพยายามปักดาบเข้ากับกำแพงของ’เนี้ยหลี่’ เธอนำเชือกออกมาจากกระเป๋าต่างมิติอย่างรวดเร็ว แล้วโยนมันไปเกี่ยวกับบริเวณหนึ่งที่นูนออกมาจากหน้าผา

*ผ้าง*

ทั้งสองคนถูกดึงอยู่บนเชือกชนิดหนึ่งและสามารถหยุดการร่วงลงไปได้

‘ใยของอสูรแมงมุมหิมะเหมันต์ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสิ่งนี้นั้นเหนียวเพียงใด!’เนี้ยหลี่’คิด เขารู้สึกโล่งอกพวกเขายังคงรู้สึกถึงพลังดูดจากข้างใต้นั่น พวกเขาสามารถหยุดมันลงได้

“เนี่ยหลี่ นี่คือที่ไหนกัน?”

‘เอียจืออวิ้น’ถามอย่างหวาดหวั่น ทั้ง’เนี้ยหลี่’และเธอต่างแขวนค้างอยู่ในอากาศ อย่างไรก็ตามเนื่องจากหน้าผาที่เป็นกำแพงหินนั้นเรียบมาก มันเป็นเรื่องธรรมดาเลยที่จะไม่สามารถไต่ขึ้นไปและพวกเขาก็ไม่สามารถมองเห็นจุดสิ้นสุดเบื้องล่างได้ด้วย

“ข้าก็คิดมันไม่ออกเหมือนกัน”

‘เนี้ยหลี่’ตอบด้วยความเห็นใจ เขายิ้ม เขานั้นไม่รู้ว่ามีสถานที่แห่งนี้ด้วยภายในนครกล้วยไม้ศักดิ์สิทธิ์และก็ไม่เคยได้ยิน’เอียจืออวิ้น’พูดถึงสถานที่แห่งนี้เมื่อชาติที่แล้วของเขา พวกเขาได้เข้ามาอย่างบังเอิญสู่สถานที่ลับสุดยอดภายในนครกล้วยไม้ศักดิ์สิทธิ์นี้

เมื่อเขาทบทวนความทรงจำเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนที่พื้นดินจะเริ่มสั่นไหวนั้น ในที่สุดเขาก็เข้าใจ กลุ่มคำที่เขาได้อ่านไปนั้น จะต้องเป็นกุญแจสำหรับเข้ามาสู่สถานที่แห่งนี้

“พวกเราสามารถลงไปข้างล่างได้”

‘เนี้ยหลี่’พูด ในเมื่ออีกทางเลือกที่พวกเขาจะไต่ขึ้นไปตามกำแพงหินนั้นไม่สามารถเป็นไปได้เนื่องจากมันลื่นมาก

‘เนี่ยหลี่’เงยหน้าขึ้น ภายใต้แสงจันทร์นี้เขาสามารถมองเห็นความเฉลียวฉลาดผ่านดวงตาของ’เอียจืออวิ้น’ ขนตาที่กระดกไปมาเบา ๆ และผิวพรรณที่เปล่งปลั่งดังคริสตัลไร้ตำหนิของเธอ ความงดงามจากภาพที่ได้เห็นนี้นั้นไม่สามารถจะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ ปากสีชมพูของเธอนั้นเห็นเป็นชั้นคลื่นบาง ๆ ปรากฏอยู่

ณ ตอนนี้ พวกเขาทั้งสองนั้นอยู่ใกล้ชิดกันอย่างแนบแน่น ‘เนี้ยหลี่’รู้สึกได้ถึงคู่สัมผัสอันอ่อนนุ่มที่อยู่ด้านหน้าของทรวงอก’เอียจืออวิ้น’ และกลิ่นหอม ๆ ของเด็กสาวที่ออกมาจากตัวเธอ

‘เอียจืออวิ้น’นั้นก็เริ่มรู้สึกได้ถึงความรักใคร่ที่เริ่มก่อตัวขึ้นระหว่างพวกเขาเช่นกันและทันใดนั้นแก้มของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงในทันที

“อย่าขยับนะ ข้าจะไปก่อนเป็นคนแรก”

‘เอียจืออวิ้น’พูดอย่างเร่งรีบ

เมื่อได้เห็นท่าทีเข้มงวดของ’เอียจืออวิ้น’ที่เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือจากเมื่อชั่วครู่นี้ ช่วยไม่ได้ที่’เนี้ยหลี่’จะหวนรำลึกถึงเหตุการณ์ในชาติที่แล้วของเขา เมื่อพวกเขาทั้งสองได้อยู่ร่วมกันนั้นและคิดถึงว่าความรู้สึกรักใคร่อันแสนอ่อนโยนที่เขาได้รับจากเธอนั้นมันช่างทราบซึ้งและประทับอยู่ในใจของเขาเพียงไร

เขาคว้าไปที่ข้อมือของ’เอียจืออวิ้น’อย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจที่เธอพูด แล้วยิ้มพร้อมกับพูดว่า

“กอดฉันให้แน่น ๆ”

พวกเราจะลงไปข้างล่างพร้อม ๆ กัน

‘เนี้ยหลี่ชักจะทำมากเกินไปแล้ว’ ‘เอียจืออวิ้น’คิดในตอนนี้เธอรู้สึกได้ถึงแขนของ’เนี้ยหลี่’ในท่ากอดกำลังยกก้นของเธออยู่ เธอชักจะโมโหมากอย่างไรก็ตามถ้าเธอเกิดขัดขืนในตอนนี้ พวกเขาทั้งคู่นั้นจะต้องร่วงหล่นลงไปอย่างแน่นอน

‘เนี้ยหลี่ขี้โกงอย่างรายกาจ’ ความรู้สึกโดนแกล้งฝังในหัวใจเธอ และเธอรู้ว่าไม่มีอะไรช่วยเธอได้

เมื่อได้เห็นหน้าตาโมโหของ’เอียจืออวิ้น’ เขายิ้มน้อย ๆ ความรู้สึกอ่อนนุ่มที่แขนของเขาทำให้หัวใจของเขาเต้นแรง และเขาอดไม่ได้ที่จะหยิกมันเบา ๆ สะโพกของ’เอียจืออวิ้น’นั้นเริ่มโค้งมนได้รูป และในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้มันจะเข้ารูปอย่างสมบูรณ์

“เนี่ยหลี่ถ้าเจ้ากล้าแตะต้องข้าอย่างไม่อายอีก ข้าจะจัดการเจ้าด้วยทุกวิธีทาง ในที่สุดพวกเราก็จะหล่นลงไปด้วยกัน!”

เธอกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้วและจ้องมาที่’เนี้ยหลี่’ แม้กระทั่งผู้หญิงที่สง่างามเรียบร้อยแบบเธอก็ไม่สามารถทนสิ่งนี้ได้อีกต่อไป

“ตกลง ตกลง ข้าจะไม่แตะตัวเจ้า อีกครั้ง!”

‘เนี้ยหลี่’ยิ้ม และเริ่มระลึกไปถึงชาติที่แล้วของเขาไม่ว่า’เอียจืออวิ้น’โกรธเมื่อใด เธอนั้นจะมีอารมณ์เช่นนี้เสมอ เขาค่อย ๆ ปล่อยเชือกอย่างช้า ๆ และพวกเขาทั้งสองก็ได้เคลื่อนตัวลงไปด้านล่าง

หลังจากนั้นประมาณ 10 นาที ในที่สุดเท้าของ’เนี้ยหลี่’ก็สัมผัสถึงพื้นดิน เขารู้สึกเสียดาย เขาไม่มีทางเลือกต้องยอมปล่อย’เอียจืออวิ้น’ออกจากมือ

เธอกัดฟันเอาไว้โดยไม่พูดสิ่งใดออกมากและเริ่มสำรวจรอบสถานที่นี้ ตั้งแต่เธอยังเด็กจนถึงบัดนี้นั้น เธอไม่เคยถูกผู้ใดฉวยโอกาสจากเธอเช่นนี้มาก่อน และสิ่งที่น่าเกลียดที่สุดก็คือ ใบหน้าของ’เนี้ยหลี่’ตอนนี้ที่ทำไม่รู้ไม่ชี้เหมือนว่าไม่เคยมีสิ่งใดเกิดขึ้นและตั้งหน้าตั้งตามองไปรอบ ๆ ที่แห่งนี้ เธอโกรธและโกรธมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นจนเธอทนไม่ไหว เธอเร่งตรงเข้าไปเหยียบที่เท้าของ’เนี้ยลี่’

“โอ้ย”

‘เนี่ยหลี่’ร้อง เขายกเท้าขึ้นและกระโดดไปมา พร้อมสูดหายใจเอากลุ่มก้อนอากาศเย็นเหล่านี้เข้าไปเป็นเฮือก ๆ

เมื่อได้เห็นการตอบสนองที่เหมือนจะมากเกินไปของ’เนี้ยหลี่’นั้น ช่วยไม่ได้เลยที่เธอนั้นจะกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่

“ถ้าเจ้ากล้าเล่นไม่ซื่อกับข้าอีก ระวังตัวไว้ให้ดี ข้าจะไม่ให้อภัยแก่เจ้า”

ภาพขณะที่’เอียจืออวิ้น’กำลังหัวเราะอยู่นั้นช่างงดงามและมีเสน่ห์อย่างล้นเหลือ มันทำให้เนี้ยหลี่หยุดนิ่งและมองเธอด้วยความหลงใหล

เมื่อรู้สึกถึงแววตาที่เปลี่ยนไปของ’เนี้ยหลี่’ ‘เอียจืออวิ้น’หลบสายตาในทันทีทันใด แก้มของเธอรู้สึกร้อนผ่าว และไม่รู้ว่าทำไม หัวใจของเธอถึงได้เต้นอย่างรุนแรงอยู่ภายใน

“รีบหาทางออกกันได้แล้ว ไม่อย่างนั้นพวกเราจะไม่สามารถออกไปได้!”

‘เอียจืออวิ้น’รีบพูดอย่างรวดเร็ว

“ตกลง”

‘เนี้ยหลี่’ตอบ พร้อมกับหยิบคบไฟออกมาจากกระเป๋าต่างมิติและยกมันขึ้น สาดส่องคบเพลิงไปรอบ ๆ เพื่อสำรวจสิ่งต่าง ๆ รอบตัว มันปรากฏว่าพวกเขาได้หล่นลงมาที่พระราชวังใต้ดิน มันเหมือนกับเขาวงกตที่ลึกมาก มีเส้นทาง 5 หรือ6 เส้นทางที่พวกเขาสามารถเลือกไปได้ เพียงแต่พวกเขาไม่รู้เลยว่าแต่ละเส้นทางจะนำพาพวกเขาไปสู่ที่ใด

‘ข้าไม่รู้เลยว่าภายในของเขาวงกตนี้กว้างใหญ่เพียงใด’ ‘เนี้ยหลี่’คิด

เขาพบข้อความบรรทัดหนึ่งปรากฏที่กำแพงข้างตัวเขา

“พระราชวังค์ของจักพรรดิคงหมิง”

‘เนี่ยหลี่’พึมพำ และทันใดนั้นเขารู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก

“ที่แห่งนี้คือสุสานของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของจักรพรรดิคงหมิง”

“จักรพรรดิคงหมิงรึ?”

‘เอียจืมอวิ้น’ถามด้วยความสงสัย

“ใช่”

‘เนี้ยหลี่’พยักหน้าเบา ๆและเริ่มเล่าว่า

“เขาเป็นจักรพรรดิที่ลึกลับที่สุดในประวัติศาตร์ของอาณาจักรศักดิสิทธ์”

ในฐานะของจักรพรรดิของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ เขาใช้ชื่อของเขาแสดงถึงรูปแบบที่อยู่ของเขา (he actually used his title as his form of address.ไม่เข้าใจเหมือนกันครับ) นั่นเป็นเรื่องที่แปลกมาก โดยเฉพาะที่จักรพรรดิองค์นี้ได้สละตำแหน่งและออกจากอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ระหว่างที่เขากำลังปกครองอยู่โดยได้ส่งมอบอาณาจักรให้บุตรชายดูแลแทน มีเรื่องเล่าว่าทักษะผสานพลังของเขาได้ก้าวขึ้นไปอยู่ที่ระดับที่สูงยิ่งจนน่าตกใจและกลายเป็นผู้มีอมตะ แม้กระทั่งลูกหลานของเขาก็ไม่สามารถหาสุสานของเขาพบ ข้าไม่คิดเลยว่าเขานั้นจะถูกนำมาฝังไว้ ณ ที่แห่งนี้

“สามารถมีคนที่ฝึกฝนวรยุทธจนก้าวผ่านไปสู่ความเป็นอมตะได้จริง ๆ หรือ ?”

‘เอียจืออวิ้น’ถามมองตรงไปยัง’เนี้ยหลี่’

“ไม่นั่นเป็นเพียงเรื่องเล่า แม้ผู้หนึ่งนั้นจะมีวรยุทธข้ามผ่านระดับตำนานไปแล้ว พวกเขาสามารถอยู่ได้เพียง 2 ถึง 3 ร้อยปีเท่านั้น พวกเขานั้นไม่สามารถหลบหนีซึ่งวัฎจักรของชิวิตได้หรอก!”

‘เนี้ยหลี่’หัวเราะ

ผู้ที่ก้าวข้ามผ่านระดับตำนานอย่างงั้นรึ? มันเป็นแบบไหนกัน ? เอียจืออวิ้นถามในใจเธอเต็มไปด้วยความสงสัย ในความเข้าใจของเธอ ระดับในตำนานนั้นเป็นระดับที่สูงที่สุดแล้วที่ยังคงมีอยู่

“เจ้าจะได้รู้เรื่องราวพวกนี้ภายหลัง”

‘เนี้ยหลี่’ยิ้มโดยสั่นหัวของเขาและไม่เริ่มพูดต่อ

‘เอียจืออวิ้น’รู้สึกสับสน เนี้ยหลี่นั้นเคยพบผู้ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าระดับตำนานได้อย่างไร ? ทั้งที่เนี้ยหลี่ก็เหมือนกับเธอ เขานั้นไม่เคยออกจากเมื่อกลอรี่มาก่อน หรือเขาจะอ่านเจอมันในหนังสือ แม้เธอจะยังคงสงสัยอยู่แต่เธอก็ไม่ได้คิดไปไกลอีก

“ที่นี่เป็นเขาวงกต ดังนั้นมันอาจจะมีหลุมพรางของกับดัก พวกเราต้องระวังตัวให้มาก เจ้าสามารถก้าวไปบนพื้นที่ซึ่งข้านั้นก้าวผ่านไปแล้วเท่านั้น!”

‘เนี้ยหลี่’มองไปที่’เอียจืออวิ้น’และพูด

แม้ว่าเธอรู้สึกหดหู่เมื่อได้ยิน’เนี้ยหลี่’พูดด้วยน้ำเสียงเชิงสั่งเธอตลอดเวลา เขาทำเสียงโดยเหมือนกับเขาคิดว่าตัวเองนั้นแก่กว่าเธอ แต่เธอก็ผงกหัวอย่างเชื่อฟังและตอบว่า

“อืม!”

แม้’เนี้ยหลี่’ไม่ตระหนักถึงความจริงที่ว่า’เอียจืออวิ้น’นั้นยังคงเด็กนัก แต่เขามีความคิดในรูปแบบที่อยากจะปกป้องเธอ อย่างไรก็ตามน้ำเสียงที่เขาใช้ก็แตกต่างอย่างเลี่ยงไม่ได้กับชีวิตที่แล้วของเขาตอนเป็นคนรักกัน

“มีเส้นทางให้เลือก 5 เส้นทางจากที่นี่ พวกเราจะเลือกไปทางไหนกัน ?”

‘เอียจืออวิ้น’ถาม ขณะกำลังมองตรงไปยังรอบ ๆ ทางเดินลึกเบื้องหน้า

“เป็นเรื่องง่ายมาก”

“พวกเราควรมุ่งไปยังทิศเหนือ เพราะด้วยโชคชะตาของจักรพรรดิ์คงหมิง สุสานของเขาจะตั้งอยู่ที่ซึ่งหันหน้าไปทางทีศใต้ “

“ทำไมกัน”

‘เอียจืออวิ้น’ถามด้วยความงุนงง

“ทำไมสุสานของจักรพรรดิคงหมิงถึงจะต้องอยู่ตำแหน่งที่หันไปทางทิศใต้ด้วย”

“เพราะว่ามันเขียนอยู่ไว้ในหนังสือตัวเลขวิทยาของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ ทุก ๆ อย่างที่เกี่ยวกับโชคชะตาของคน ๆ นั้นจะมีบางสิ่งที่
ให้คุณและให้โทษอยู่เสมอ นี่รวมถึงตำแหน่งในการจัดวางสุสานด้วยและผู้คนที่มาจากอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ก็ล้วนแต่เชื่อในเรื่องเหล่านี้ทั้งสิ้น!”

‘เนี้ยหลี่’พูดพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย

‘หนังสือตัวเลขวิทยาของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์’ ช่วยไม่ได้ที่’เอียจืออวิ้น’จะพูดพึมพำไปมาถึงข้อความนี้ ‘มีหนังสือกี่เล่มกันนะที่เนี้ยหลี่อ่านมาแล้ว’

“ถ้าเป็นเช่นนั้น แล้วทิศเหนืออยู่ทางไหนเล่า! พวกเรากำลังอยู่ใต้พื้นดิน พวกจะรู้ถึงทิศทางได้อย่างไร?”

‘เอียจืออวิ้น’ถาม’เนี้ยหลี่’ยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า

“การระบุทิศทางนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย”

เทือกเขา แอนเซสทรัลนั้นตั้งอยู่ในแนวทิศเหนือ – ใต้ จากการมองที่การเลื้อยของเถาวัลย์ไปตามก้อนหิน พวกเราก็จะสามารถระบุทิศทางได้

อ้า ต้องไปทางนี้ !

” หลังจากนั้นเนี้ยหลี่ก็ได้เดินทอดน่องตรงไปยังเส้นทางหนึ่งที่เขาเลือก”

 

จบตอน….

ที่มา :

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments