I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Tales of Demons & Gods (妖神记) ตอนที่ 37 จักรพรรดิคงหมิง

| Tales of Demons & Gods (妖神记) | 5576 | 2533 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

ภายในจิตใจของ’เอียจืออวิ้น’นั้น เธอรู้สึกคับข้องใจเป็นอย่างมาก เธอมีสาถานะเป็นถึงองค์หญิงของคฤหาสน์จ้าวเมือง และยังมีร่างทรงอสูรระดับตำนานซึ่งเป็นปู่ของเธอเอง

เธอนั้นได้เห็นหนังสือลึกลับมากมาย ประสบการณ์ของเธอนั้นจัดได้ว่าเป็นผู้รอบรู้เลยทีเดียวเมื่อเทียบกับบุคคคลอื่น เธอมีความรู้สึกภาคภูมิอยู่ภายในหัวใจของเธอ อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบระหว่างเธอกับปีศาจอย่าง’เนี้ยหลี่’ เธอรู้สึกเหมือนกับว่าความรู้ของเธอนั้นไม่มีค่าอันใด

แม้’เอียจืออวิ้น’ยังมีความคิดเกี่ยวกับ’เนี้ยลี่’ถึงเพียงนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการประเมิน’เนี้ยหลี่’ด้วยสายตาจากคนทั่วไปนั้นไม่สามารถทำได้เลย

เมื่อมองไปตามรอยแตกต่างๆ ตามกำแพงผินและชั้นของแผ่นหินทั้งหลายตามทางเดินนั้น ‘เนี่ยหลี่’สามารถรู้ได้ถึงบริเวณที่เป็นกับดักได้อย่างง่ายดาย

“ระดับของกับดักพวกนี้ไม่สูงนัก มันไม่สามารถทำอะไรพวกเราได้”

‘เนี่ยหลี่’พูด พร้อมมุ่งตรงไปข้างหน้า เขาหยิบก้อนหินมาก้อนหนึ่งและโยนมันออกไปราวๆ 5 – 6 เมตร และ

*ผ่ะ*

มันตกไปกระทบที่แผ่นหินสีฟ้าแผ่นหนึ่ง

ซู่ว ซู่ว ซู่ว !

ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!

ลูกธนูมากมายพุ่งผ่านทางเดินด้านหน้าของพวกเขาราวกับดั่งพายุที่โหมกระหน่ำ ที่ปลายของลูกธนูนั้นปรากฏแสงสีเขียวแวววาว

ลูกธนูทั้งหมดนั้นถูกทาด้วยยาพิษ ‘เอียจืออวิ้น’สังเกตุเห็น หน้าของเธอซีดเผือก เธอสามารถจินตนการได้เลยว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้นถ้าหากพวกเดินผ่านบริเวณนั้น

ความเจ็บปวดอย่างสาหัสที่พวกเขาได้รับหากเผลอไปโดนกำดักเหล่านี้โดยบังเอิญ ตั้งแต่ส่วนบนไปถึงส่วนล่างของพวกเขาคงจะต้องถูกลูกธนูมากมายปักเต็มไปหมดอย่างไม่ต้องสงสัยเลย

‘เนี่ยหลี่’สามารถตรวจสอบได้อย่างไรว่ากับดักพวกนี้ตั้งอยู่ด้วยระยะทางที่ไกลจากจุดที่ตั้งของกับดักเช่นนี้ เธอถามภายในใจตัวเองเบาๆ

“เรียบร้อยแล้ว พวกเราสามารถเดินทางต่อไปข้างหน้าได้ !”

‘เนี่ยหลี่’พูด ยิ้มเล็กน้อยขณะมองไปที่’เอียจืออวิ้น’

แม้ว่ากับดักทั้งหลายจะซ่อนอยู่ในเงามืด ‘เอียจืออวิ้น’มีความรู้สึกประหลาดใจ ตราบเท่าที่เธอยังคงตามหลัง’เนี้ยหลี่’ เธอจะปลอดภัย ปัญหาทั้งหลายที่จะเกิดขึ้นนั้นจะไม่สามารถทำอะไรเธอได้

เมื่อได้มองดูผ่านด้านหลังของเนี่ยหลี่ แม้ว่า’เนี้ยหลี่’จะเป็นคนรูปร่างผอม แต่ก็ดูเหมือนว่าจะรู้สึกได้ถึงความปลอดภัยเมื่ออยู่ใกล้กับเขา

‘เอียจืออวิ้น’ก้มหัวของเธอลงต่ำและเริ่มคิดบางสิ่งบางอย่าง บางทีการที่ต้องมาติดอยู่กับ’เนี้ยหลี่’ก็ไม่ได้แย่ซะทีเดียว

อย่างไรก็ตาม หลังจากคิดแบบนั้นชั่วครู่แล้ว เธอรีบสั่นหัวอย่างเร็วเพื่อไล่ความคิดนี้ออกไป

ข้ากำลังคิดสิ่งใดอยู่กันนี่ ‘หนิงเอ๋อ’ดูเหมือจะมีความรู้สึกบางอย่างที่มอบให้กับ’เนี้ยลี่’

และหลังจากผ่านไปไม่กี่วัน’ฮูเหยียน’ ‘หลานเร่อ’แสดงออกว่าเธอต้องการจะต้องไล่จับหัวใจของ’เนี้ยหลี่’ มีผู้หญิงมากเพียงใดกันที่นักล่ากระโปรงแบบ’เนี้ยหลี่’ยุ่งเกี่ยวด้วย

เธอไม่เชื่อว่า’เนี้ยหลี่’นั้นจะชอบเธอเพียงผู้เดียว !

‘เอียจืออวิ้น’ยกหัวเธอขึ้นอย่างภาคภูมิใจ เธอนั้นไม่ได้คิดอะไรตื้นๆ ดังเช่นผู้หญิงคนอื่นพวกเขาทั้งสองยังคงมุ่งหน้าต่อไป เดินทางเข้าไปสู่เส้นทางที่ลึกเข้าไปเรื่อย ๆ

ในขณะที่’เนี้ยหลี่’และ’เอียจืออวิ้น’กำลังสำรวจเส้นทางเดินอยู่นี้

ข้างนอกนั้นภายในป่า

“พวกเจ้าช่างไร้ค่าเสียจริง! พวกเจ้าปล่อยให้เจ้าวานรยักษ์ฟ้าที่บาดเจ็บสาหัสตนนั้นหนีไปได้”

‘หยุนหัวดิคอน’ตำหนิคนของเขาด้วยความไม่พอใจ อสูรที่อยู่ระดับผสานวิญญาณจะมีวิญญาณอยู่ภายในตัวพวกมัน แม้จะเป็นเพียงระดับสัตว์อสรูเงิน

แต่นั้นก็สามารถที่จะขายได้เป็นเงินหลายแสนเหรียญจิตมารในท้ายที่สุด พวกเขาทั้งหกต่างได้รับบาดเจ็บและปล่อยให้เจ้าวานรยักษ์ฟ้าตนนั้นหนีไปได้

พวกเขารู้สึกโกรธมากกับเนี้ยหลี่ ถ้าไม่ใช่เพียงเพราะ’เนี้ยหลี่’ที่หลอกล่อเจ้าวานรยักษ์ฟ้าตนนั้นมาสู่พวกเขา พวกเขาคงไม่ต้องพบ

เจอกับความเจ็บปวดเช่นนี้

“ลืมมันไปซะ มันเป็นแค่ลิงยักษ์ฟ้าตัวหนึ่งเท่านั้น เจ้าพวกเด็กชั้นสูงพวกนั้นยังไงก็มีค่ามากกว่าลิงตัวหนึ่งแน่นอน! ค้นหารอบ ๆพื้นที่นี้! ถ้าพวกเจ้าไม่สามารถจับหนึ่งในพวกนั้นมาได้ อย่ากลับมาให้ข้าเห็นหน้าอีก !”

‘หยุนหัวดิคอน’ตะโกนสั่งด้วยความโกรธ

ทันใดนั้นกลุ่มเริ่มแยกตัวออกและแต่ละคนต่างมุ่งหน้าเข้าสู่ป่าแสงไฟลาง ๆ จากระยะทางไม่ไกลนักได้ดึงดูดความสนในของพวกเขาไฟนั้นสามารถใช้เพื่อขับไล่สัตว์อสูรในยามค่ำคืนได้ ทำให้พวกมันไม่กล้าเข้ามาใกล้อย่างไรก็ตามมันยังทำให้มองเห็นได้จากระยะทางที่ไกลมากด้วยในยามมืดเช่นนี้

“ทำไมพวกเจ้าถึงต้องมาจับตัวข้าด้วย? พวกเจ้าเป็นใครกัน”

ด้วยความเร่งรีบกลุ่มคนในชุดคลุมดำหลายคนได้จับใครบางคนได้และนำเขาไปให้ ‘หยุนหัวดิคอน’

‘หยุนหัวดิคอน’หัวเราะ คนที่อยู่เบื้องหน้าเขานั้นสวมชุดชั้นเลิศ สถานะของเขานั้นต้องไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน

“ หนุ่มน้อย เจ้าคงได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับกลุ่มเงาทมิฬของพวกเรามาบ้าง คนที่พวกเราจับนั้นเป็นพวกเด็ก ๆ ชั้นสูงอย่างเจ้า พวกเราจะนำเจ้าไปแลกเปลี่ยนกับค่าไถ่ดี..หรือข้าควรจะกำจัดเจ้าทิ้งซะ…”

คนที่ถูกจับตัวมานั้นคือ ‘เสิว่นเอีย’ เมื่อเขาได้ยินชื่อของกลุ่มเงาทมิฬ หน้าของ’เสวิ่นเอีย’ถอดสี เสียงของเขาสั่นเครือ

“อย่าฆ่าฉันเลย! ข้านั้นเป็นคนของตระกูลศักดิ์สิทธิ์ ครอบครัวของข้าสามารถให้เงินมากมายแก่ท่านได้”

“ตระกลูศักดิ์สิทธิ์งั้นรึ ? ”

‘หยุนหัวดิคอน’ชะงักไปเล็กน้อย แสงผิดหวังเล็กน้อยปรากฏขึ้นในดวงตาของเขาและเขาเริ่มคิดภายในใจ

ข้ากำลังคิดเรื่องการกำจัดคนผู้ แต่มันกลับกลายเป็นว่าเขาเป็นคนของรองหัวหน้ากลุ่มไปได้ซะได้ โชคไม่ดีเอาเสียเลย

(ตระกูลศักดิ์สิทธิ์ได้ร่วมจับมือกับกลุ่มเงาทมิฬอย่างลับ ๆ มานานแล้วแต่พวกผู้ใหญ่ในตระกูลไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเด็ก ๆ)

“หยุนหัวดิคอน”หันหน้าไปทางคนของเขาและสั่งอย่างดังว่า

“จงคนหาต่อไป”

‘เสวิ่นเอีย’คิดว่าพวกกลุ่มเงาทมิฬนี้จะจัดการกับเขาและทำให้เขาต้องเผชิญกับปัญหาใหญ่ แต่เมื่อได้เห็นท่าทีทีหัวหน้ากลุ่มแสดงออกเมื่อชั่วครู่ เขาไม่คาดคิดเลยว่าพวกนั้นจะไม่สนใจเขา

พวกนั้นทิ้งไว้เพียงคนเดียวเพื่อคอยเฝ้าดูเขา ‘เสวิ่นเอีย’รู้สึกโล่งใจ เหมือนกับว่ากลุ่มเงาทมิฬจะเกรงกลัวในตระกูลศักดิ์สิทธ์ของเขาเขาคิดในใจว่าชื่อของตระกูลศักดิ์สิทธ์นี้ทำให้คนของเหล่ากลุ่มเงาทมิฬเกรงกลัว เขากลับมามีท่าทีแบบองอาจอีกครั้ง ท่าทีของเขานั้นแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับคนที่เหมือนพร้อมจะฉี่รดกางเกงได้ทุกเมื่อก่อนหน้านี้

‘เนี้ยหลี่’พา’เอียจืออวิ้น’มุ่งตรงไปข้างหน้า ประมาณ 5 หรือ 6ชั่วโมงหลังจากนั้น เนี้ยหลี่และเอียจืออวิ้นต่างมองไปที่ห้องโถงอันงดงามที่เบื้องหน้าไกลออก

“ถ้าพวกนครกล้วยไม้ศักดิ์สิทธิ์ได้สร้างเมืองของพวกเขาบนสุสานใต้ดินเช่นนี้แล้ว พวกคนระดับสูงของนครกล้วยไม้ศักดิ์สิทธิ์จะต้องรู้ถึงการมีอยู่ของสุสานนี้อย่างแน่นอน ดังนั้นมีความเป็นไปได้อย่างสูงว่า พวกนั้นจะเก็บทรัพย์สมบัติที่มีค่าทั้งหมดของพวกเขาไว้ในที่แห่งนี้ด้วย”

‘เนี่ยหลี่’พูด เขาประเมินจากจุดที่พวกเขายืนอยู่ในปัจจุบันตอนนี้ พวกเขาน่าจะอยู่ใต้พื้นที่ฝึกของทหารจ้าวเมืองเป็นไปดังที่’เนี้ยหลี่’คาดการณ์ไว้แล้ว จ้าวเมืองและพวกคนตำแหน่งระดับสูงจะต้องซ่อนของมีค่าของพวกเขาไว้ใต้พื้นที่ฝึกของทหารอย่างแน่นอน

เดินมุ่งตรงไปยังห้องโถง ภาพเบื้องหน้าที่ปรากฏต่อพวกเขานั้นทำให้พวกเขาทั้งสองตกใจ ซากโครงกระดูกอยู่ในทุกที่รอบ ๆ ห้องโถงนี้ โครงกระดูกมีทั้งของพวกผู้ใหญ่และพวกเด็ก ๆ พวกเขากอดกันอยู่อย่างแนบแน่น มันเหมือนกับว่าพวกเขานั้นต้องทนทุกข์ทรมานแสนสาหัสก่อนที่พวกเขาจะตายลง

“เกิดอะไรขึ้น มันเป็นแบบนี้ได้เช่นไร ?”

‘เอียจืออวิ้น’ถาม ดวงตาเธอเริ่มเป็นสีแดงและน้ำตาไหลร่วงไปตามแก้มทั้งสองของเธอ เธอเห็นเด็กมากมายแออัดไปอยู่ที่มุม ๆ หนึ่ง เด็ก ๆเหล่านั้นคงจะเป็นที่รักอย่างมากของครอบครัวพวกเขาตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่พวกเขาทั้งหมดได้ตายลงแล้ว

‘เนี้ยหลี่’ถอนหายใจและพูดว่า

“ที่นี่คงจะเป็นที่หลบถัยชั่วคราวของนครกล้วยไม้ศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาอพยพคนชรา ผู้หญิงและเด็กมาที่นี้ พวกเขาน่าจะกลับมาหาคนพวกนี้เมื่อสงครามสิ้นสุดลง แต่อย่างไรก็ตามนครกล้วยไม้ศักดิ์สิทธิ์ได้ถูกทำลาย ดังนั้นคนเหล่านี้ไม่สามารถออกไปได้และทำได้เพียงติดอยู่ที่แห่งนี้จนกระทั่งพวกเขาหิวโหยและจบชีวิตลง”

‘เอียจืออวิ้น’อ้าปากกว้าง แสดงท่าทีเจ็บปวดในหัวใจอย่างมาก’เนี้ยหลี่’สูดหายใจลึก ในตอนนี้หัวใจของเขาเต้นแรงยากที่จะทำให้มันสงบลงได้ ไม่ใช่เมืองกลอรี่รึที่ต้องพบเจอเรื่องแบบนี้เช่นกันในชีวิตที่แล้วของเขา ก่อนที่สงครามจะเริ่มขึ้น

พวกเขาอพยพคนจำนวนมากไปที่สถานที่หลบภัย หลังจากนั้นเมืองกลอรีถูกทำลายพวกเขาถูกบังคับให้ต้องเปลี่ยนเส้นทาง ในตอนนั้นเขาไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเหล่าคนชรา ผู้หญิงและเด็ก ๆ ที่พวกเขาซ่อนเอาไว้เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขาจะจบชีวิตลงในที่หลบภัยไปพร้อมกับความหิวโหยนี้

ภาพอันน่าสังเวชของเมืองกลอรี่ที่ถูกทำลายลงนั้นยังคงแจ่มชัด ‘เนี้ยหลี่’กำหมัดของเขาไว้นาน ข้าจะไม่ยอมให้สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นได้อีก เขาคิด

“ข้าคิดว่าพวกเราควรไปจากที่แห่งนี้ได้แล้ว”

‘เอียจืออวิ้น’พูด เธอไม่สามารถทนที่จะอยู่ตรงนี้ได้อีกต่อไป

“ไม่ พวกเรายังไม่สามารถไปได้ พวกเราจำเป็นต้องนำสมบัติทั้งหมดเหล่านี้กลับไป!”

‘เนี่ยหลี่’พูดอย่างจริงจัง

“สมบัติเหล่านี้สามารถเสริมพลังของพวกเราได้ เมื่อความแข็งแกร่งของพวกเราเพิ่มขึ้น”

พวกเราจะสามารถปกป้องเมืองกลอรี่ไว้ได้ไม่เช่นนั้นเมืองกลอรี่จะเป็นเหมือนดังนครกล้วยไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งที่สอง!?

เมื่อได้ยินคำของ’เนี่ยหลี่’ ‘เอียจืออวิ้นหยุด’ชะงักไปชั่วครู่ ความคิดหนึ่งปรากฏฉับพลันในจิตใจของเธอ เมืองกลอรี่จะเป็นเหมือนดังนครกล้วยไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งที่สอง ถึงแม้ว่าเมืองกลอรี่นั้นจะค่อนข้างปลอดภัย แต่ก็ยังคงมีเหล่าสัตว์อสูรมาแฝงตัวอยู่ในบริเวณรอบและเคยแม้กระทั่วแหวกแนวกำแพงป้องกันเข้ามาบางครั้งได้

เมื่อคิดเช่นนั้นแล้ว’เอียจืออวิ้น’แน่ใจแล้วว่า พวกเขาจะต้องเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเองด้วยทุกวิถีทางเช่นเดียวกัน สิ่งนั้นจะทำให้พวกเขาสามารถปกป้องเมืองกลอรี่เอาไว้ได้ แม้จะเป็นเรื่องน่าอายที่จะหยิบฉวยของซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นของผู้อื่น แต่อะไรจะเทียบได้กับชีวิตนับไม่ถ้วนที่อาศัยอยู่ในเมืองกลอรี่

‘เนี่ยหลี่’และ’เอียจืออวิ้น’เริ่มต้นค้นหาภายในห้องโถงทั้งหมด

“มีเกราะระดับทองแดงอยู่ที่นี่ !”

“มีน้ำทิพย์เสริมพลังหลายขวดอยู่ที่นี่”

น่าเสียดายที่มันได้เสียไปแล้ว

“สวรรค์! นี่คือชิ้นส่วนของอัญมณีแห่งวิญญาณ”

‘เอียจืออวิ้น’อุทาน ทั้งสองมือเธอประกบเข้าหากันและสวดภาวนาชั่วครู หลังจากนั้น เธอได้ปลดอัญมณีแห่งวิญญาณจากคอของเด็กหญิงออก อัญมณีแห่งวิญญาณนี้ช่างงดงามและละเอียดอ่อนนักมันถูกคล้องอยู่ด้วยโซ่เงิน สถานะของเด็กสาวผู้นี้ในตอนเธอยังมีชิวิตอยู่นั้นต้องเป็นชนชั้นสูงอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม เธอนั้นได้ตายลงแล้ว ถ้านำอัญมณีแห่งวิญญาณนี้มอบให้กับผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ระดับทอง มันจะสามารถสนับสนุนให้การผสานพลังเขาเพิ่มสูงยิ่งขึ้นได้’เนี้ยหลี่’ทำเช่นกัน ไม่มากก็น้อยเขาได้อะไรติดไม้ติดมือมาบ้าง

ท่ามเกราะระดับทองแดงและอาวุธมากมายที่เขาเก็บมาได้นั้น มีมีดสั้นระดับเงินที่อยู่ในสภาพเก็บรักษามาเป็นอย่างดีโดยไม่เสียหายนอกจากสิ่งเหล่านั้นแล้วยังคงมีคริสตัลอสูรและสิ่งมีค่ามากอื่น ๆ อีกมาก อย่างไรก็ตามเนี้ยหลี่ยังคงไม่สามารถค้นพบซึ่งตะเกียงแห่งจิตอสูรเงาพราย สิ่งนี้นั้นเป็นสิ่งที่เขากำลังค้นหาอยู่

‘เนี้ยหลี่’ได้เพ่งมองไปที่จุดกึ่งกลางของห้องโถง ที่ตรงกลางของห้องโถงนั้นมีโลงศพหินขนาดใหญ่วางอยู่ โลงศพนั้นมีความยาวประมาณ3 เมตรและสูงราว ๆ 1 เมตร ที่พื้นผิวของโลงศพนั้นปรากฏรูปร่างตัวตนลึกลับที่แสดงถึงการเกิดใหม่ รูปร่างที่ปรากฏนั้นเหมือนเขาจะคุ้นเคยเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่สามารถจำมันได้

นี่มันรูปร่างอะไรกันนี่ เขาถามตัวเอง

เคลื่อนตัวเข้าไปใกล้โลงศพของจักรพรรดิ’คงหมิง’ ‘เนี่ยหลี่’รู้สึกได้ถึงพลังที่แผ่พุ่งมายังตัวเขา ในขณะที่เขายืนอยู่ด้านข้างของโลงศพนั้นเขารู้สึกเหมือนยืนอยู่ท่ามกลางคลื่นคำรามของมหาสมุทรที่สามารถพัดพาเขาออกไปได้ตลอดเวลา มันเป็นเรื่องที่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมคนเหล่านั้นที่ตายรอบ ๆ ที่แห่งนี้ไม่ได้เข้าใกล้โลงศพเลยแม่แต่น้อย

“เนี่ยหลี่ มีอะไรผิดปกติเกี่ยวกับโลงศพนั่นหรือ”

‘เอียจืออวิ้น’ถาม

เพียงแต่เมื่อ’เอียจืออวิ้น’เข้ามาใกล้ ประมาณสามเมตรห่างไปจากโลงศพ หน้าของเธอซีดขาวทันทีและก้าวถอยหลังกลับไป

“เป็นอะไรไหม”

‘เนี่ยหลี่’ถาม สงสัยในท่าทีของ’เอียจืออวิ้น’

“เมื่อข้าเข้าไปใกล้ ข้ารู้สึกปวดหัวจนแทบแตกเป็นเสี่ยง ๆ !”

‘เอียจืออวิ้น’ตอบกลับ !เมื่อได้ยินเอียจืออวิ้นพูดเช่นนั้น คิ้วของ’เนี้ยหลี่’เริ่มขมวดเข้าหากัน พลังงานแบบนี้เป็นที่คุ้ยเคยยิ่งนัก มันเกิดจากความคิดของผู้เชี่ยวชาญบางคนที่ได้ปล่อยพลังของเขาผนึกไว้ที่ศูนย์กลางของโลงศพหิน ดังนั้น เอียจืออวิ้นจึงไม่สามารถเข้าใกล้ได้

อย่างไรก็ตามทำไมเมื่อเขาเข้าใกล้โลงศพแห่งนี้ ไม่มีสิ่งใดได้เกิดขึ้นแบบนี้แก่ตัวเขาเลยเป็นไปได้ไหมว่าพลังงานผนึกนั้นจะแสดงผลเฉพาะผู้หญิงเท่านั้น?

หรือมีบางสิ่งบางอย่างที่พลังงานผนึกนั้นทำผิดพลาดต่อเขา ทำให้เขาถึงไม่ได้รู้สึกซึ่งสิ่งใดเลย’เนี่ยหลี่’พยายามคาดเดาถึงสิ่งที่เกิดขึ้นภายในใจของเขา แล้วเขาหันหัวไปและพูดกับ’เอียจืออวิ้น’ว่า

“เจ้าไปสำรวจซึ่งสถานที่แห่งอื่นเถอะ ปล่อยสิ่งนี้ให้ข้าจัดการเอง”

“อื้ม”

‘เอียจืออวิ้น’พยักหน้าและเดินไปยังบริเวณอื่น’เนี่ยหลี่’ตรวจสอบดูที่โลงศพหิน โลงศพหินถูกผนึกไว้เป็นอย่างดีด้วยรูปแบบอักขระลึกลับที่ด้านบน

ถึงแม้ว่าความรู้ของเนี้ยหลี่จะมีมากมหาศาล แต่เขาไม่เคยเจออักขระเหล่านี้มาก่อน โลงศพหินอันนี้ใช่ของโลงศพของจักรพรรดิ’คงหมิง’หรือไม่ ทำไมรูปร่างที่แสดงถึงการกำเนิดใหม่ที่ปรากฏเบื้องบนถึงได้ดูไม่เหมือนว่ามาจากดินแดงของอาณาจักรศักดิ์สิทธ์

จบตอน…

 

ที่มา:

 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments