I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Tales of Demons & Gods (妖神记) ตอนที่ 43 นักปรุงยาผู้รอบรู้

| Tales of Demons & Gods (妖神记) | 5624 | 2532 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับคำขอของ’เนี้ยหลี่’ ‘เซี่ยว หลาน’ไม่สามารถปฏิเสธได้เพราะว่ามีข้อกำหนดตายตัวระบุไว้ในสมาคมนักปรุงยา ว่าสำหรับระดับของผู้ฝึกหัดเริ่มต้น และผู้รอบรู้เบื้องต้นการสอบทั้งสองนั้นเปิดกว้างไว้เรียบร้อยแล้ว ผู้ใดก็ตามที่มาเพื่อทดสอบ ก็สามารถมาสอบได้โดยไม่จำกัดอายุ พวกเขาเพียงแค่ต้องจ่ายเงินจำนวน 200 จิตรมารสำหรับการทดสอบนี้

ผู้ฝึกหัดระดับสูงบางคนมายังที่แห่งนี้และเข้ารับการทดสอบทุกเดือน ถ้าพวกเขาผ่านการทดสอบได้ทั้งหมดจะได้รับตำแหน่งผู้รอบรู้ขั้นต้น ตำแหน่งและสถานะของเขานั้นจะก้าวไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่สั่นโลกใบนี้ได้

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะผ่านการสอบการปรุงยาในระดับผู้รอบรู้นี้ โดยทั่วไปแล้วรอบแรกของการสอบของผู้คนจำนวนนับร้อย จะมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เหลืออยู่ ยิ่งไปกว่านั้นสำหรับรอบที่2 และรอบที่ 3 นั้นก็เป็นเรื่องที่ยากยิ่งกว่า

“การเข้าร่วมการทดสอบสำหรับนักปรุงยาระดับผู้รอบรู้นี้ เจ้าจำเป็นต้องจ่ายเงินล่วงหน้าจำนวนสองร้อยเหรียญจิตมาร และต้องจ่ายก่อนที่จะเข้ารับการทดสอบ”

แม่นาง’เซี่ยว หลาน’พูดพร้อมกับมองไปยัง’เนี้ยหลี่’

“เพียงแค่สองร้อยเหรียญจิตมากเท่านั้นหรือ? ได้เลย นำทางข้าไป!”

‘เนี้ยหลี่’พูดกับ’เซี่ยว หลาน’ เขาหันหน้าไปทาง’เซี่ยวหนิงเอ๋อ’และพรรคพวก

“พวกท่านจงรออยู่ที่นี้ เมื่อครั้งเสร็จซึ่งการทดสอบแล้ว ข้าจะมาหาพวกเจ้า”

‘เนี้ยหลี่’พูดอย่างสบาย ๆ

“ตกลง พวกเราจะไปรับประทานอาหารเย็นด้วยกันหลังจากเจ้าสอบเสร็จแล้ว”

‘ลู่เพรียว’หัวเราะ เขาดูเหมือนจะมีความมั่นใจในตัวของ’เนี้ยหลี่’เป็นอย่างมาก

“เนี้ยหลี่โชคดีนะ”

‘เซี่ยวหนิงเอ๋อ’พูดอย่างสุภาพ นำมือทั้งสองข้างของเธอไปวางด้านหน้าของหน้าอกเธอ(พนมมือ)

เมื่อได้ยินการสนทนาของ’เนี้ยหลี่’และ’ลู่เพรียว’ ‘เซี่ยวหลาน’กรอกตาเธอไปมา นี่คือการสอบของนักปรุงยาระดับผู้รอบรู้นะ ไม่ใช้การสอบของระดับผู้ฝึกหัด ‘เนี้ยหลี่’และพวกของเขาช่างน่าขันเสียจริง พวกเขาคิดว่าการสอบเป็นนักปรุงยาระดับผู้รอบรู้นี้เป็นเรื่องง่าย ๆ เช่นนั้นหรือ? เงินจำนวนสองร้อยเหรียญจิตมารที่’เนี้ยหลี่’จ่ายไปจะสูญเปล่า อย่างไรก็ตามมันคือเงินของ’เนี้ยหลี่’ไม่ใช่ของเธอ ดังนั้นก็ไม่ได้เป็นปัญหาของเธอแต่อย่างใด เธอแค่ต้องการทำหน้าที่ของเธอให้ถูกต้องเท่านั้น

“ตามข้ามา”

‘เซี่ยวหลาน’อารมณ์บูดบึ้ง ไม่พูดซึ่งอะไรทั้งสิ้นอีก

การสอบของนักปรุงยาระดับผู้รอบรู้นั้นได้ตั้งอยู่ตามทางยาว ๆ ทางหนึ่งที่ยืดยาว แต่ละด้านของทางเดินล้วนมีห้องเล็ก ๆ หลายห้องเรียงอยู่ ผู้เข้ารับการทดสอบทุกคนต้องเข้าไปในห้องหนึ่งของห้องเหล่านี้เพื่อทำให้เสร็จสิ้นซึ่งการสอบเกี่ยวกับความรู้การปรุงยาอันแสนซับซ้อน หลังจากสอบเสร็จคำตอบของเขาจะถูกตรวจสอบด้วยนักปรุงยาระดับผู้รอบรู้ขั้นต้นพวกหนึ่งก่อนที่จะผ่านไปสู่รอบต่อไปของการทดสอบ

การทดสอบในรอบนี้มีจำนวนผู้เข้าร่วมทั้งสิ้น 6 คน ภายในคนทั้ง 6 นี้ 3 คนนั้นมีอายุเกินกว่า 30 ปีและอีก 2 คนก็มีผมขาว ๆ เต็มไปทั่วศรีษะของพวกเขา

เมื่อพวกเขาได้เห็น’เซี่ยว หลาน’นำ’เนี้ยหลี่’เข้ามาภายใน พวกเขาทั้งหมดต่างเต็มไปด้วยความงุนงงเล็กน้อย

คนหนึ่งในกลุ่มผู้ชายที่มีอายุเกินกว่า 30 ปีได้จับตามองมาที่’เนี้ยหลี่’ คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันเล็กน้อยและพูดว่า

“เจ้ามาทำอะไรในที่แห่งนี้”

‘เนี้ยหลี่’เงยศรีษะของเขาขึ้นและมองไปยังชายผู้นั้นและพูดเบา ๆ ว่า

“ข้าก็เหมือนกับท่าน ข้ามาทีแห่งนี้เพื่อเข้ารับการทดสอบ”

ผู้ชายคนนั้นมองที่เสื้อผ้าของ’เนี้ยหลี่’ เมื่อมองดูจากการแต่งตัวแล้ว เขาสามารถเห็นได้ว่า’เนี้ยหลี่’ไม่ใช่คนของตระกูลหลักทั้งสามแต่อย่างใด เขาหัวเราะอย่างดูถูก

“ห้า ห้า! เด็กคนหนึ่งมาที่นี่เพื่อเข้ารับการทดสอบนักปรุงยาระดับผู้รอบรู้อย่างงั้นรึ เด็กน้อย เจ้ามาอยู่ผิดที่เสียแล้ว เจ้าควรไปยังการสอบของนักปรุงยาระดับฝึกหัดซะมากกว่า”

เด็กคนหนึ่งที่มีอายุเพียง 13 -14 ปีมาที่นี่ได้เข้ามาเพื่อเข้ารับการสอบนักปรุงยาระดับผู้รอบรู้จริง ๆ เหรอ? มันเป็นธรรมดาที่จะสร้างความกวนใจให้แก่พวกเขา

“ท่านเป็นใครกัน?”

‘เนี้ยหลี่’ชำเลืองมองเล็กน้อยไปทางชายผู้นั้น

“ข้ามาจากตระกูลนักปรุงยา ข้าเป็นสมาชิกคนหนึ่งของตระกูลชู่ นามของข้านั้นคือ ชู่ หนิง”

‘ชู่หนิง’พูดอย่างภาคภูมิใจ

“ตระกูลนักปรุงยาเช่นนั้นเหรอ? ตระกูลชู่สามารถเรียกตัวเองได้ว่าตระกูลนักปรุงยาได้ด้วยหรือ?”

‘เนี้ยหลี่’ดูหมิ่นอย่างเย้ยหยัน เขาจำขึ้นได้ในทันทีว่า’ชู่ หยวน’ผู้ที่เป็นร่างทรงอสูรระดับทองแดง 3 ที่เขามีเรื่องขัดแย้งกันที่นครกล้วยไม้ศักดิ์สิทธิ์ เขานั้นก็มาจากตระกลูชู่เช่นกัน

“ตระกูลชู่ของข้านั้นมี นักปรุงยาระดับผู้รอบรู้ขั้นสูงจำนวน 3 คน ระดับผู้รอบรู้ขั้นกลางมีจำนวนอยู่ 6 คน และอีกมากกว่า 20 คนที่อยู่ระดับผู้รอบรู้ขั้นต้น เช่นนี้แล้วทำไมถึงไม่สามารถจัดว่าเป็นตระกูลแห่งนักปรุงยาได้กันเล่า”

‘ชู่หนิง’ประกาศอย่างภาคภูมิใจ

“เรื่องของเจ้าที่ได้เล่ามานี้ เมืองกลอรี่ที่ผ่านมานั้นนั้นเป็นไปตามลมปากของเจ้าเช่นนั้นเหรอ?*ในตอนนี้น่ะเหรอ? ตระกูลชู่มีเพียงนักปรุงยาระดับผู้รอบรู้ขั้นต้นเพียง 1 คนเท่านั้น”

‘เนี้ยหลี่’ดูถูกพลางหัวเราะไปด้วย

‘ชู่หนิง’ไม่คิดเลยว่าเจ้าเด็กคนนี้เช่น’เนี้ยหลี่’จะรู้อย่างถ่องแท้ในเรื่องตระกูลของเขา

“ฮืม แล้วทำไมกันล่ะ? ข้า ชู่หนิง จักต้องกลายเป็นนักปรุงยาระดับผู้รอบรู้ผู้หนึ่งได้อย่างแน่นอน เจ้าเด็กปากไม่สิ้นกลิ้นน้ำนมอย่างเจ้า ไปไปซะ ที่นี่คือสนามสอบของนักปรุงยาระดับผู้รอบรู้ไม่ใช่สถานที่ให้เจ้านั้นเข้ามาวิ่งเล่นได้!”

‘ชู่หนิง’ดูถูกกลับ

แม้ว่าเขาจะเข้ารับการทดสอบมาแล้วสองครั้งก่อนหน้านี้ เขานั้นก็ยังมีความมั่นใจอย่างยิ่งในรอบที่สามของเขานี้

เมื่อได้ยินคำของ’ชู่หนิง’ กลุ่มคนจำนวนหนึ่งข้าง ๆ เขาหัวเราะออกมาเบา พวกคนอย่างเขาได้อยู่บนเส้นทางของนักปรุงยามาเป็นเวลาหลายสิบปี แต่ก็เพิ่งได้มาเข้ารับการทดสอบนักปรุงยาระดับผู้รอบรู้ ถ้าเจ้าหนูอย่าง’เนี้ยหลี่’สามารถผ่านการทดสอบนี้ไปได้ มันจะไม่ใช่เป็นเรื่องน่าอับอายอย่างมากแก่พวกเขาหรือ?

‘เนี้ยหลี่’ยักไหล่ของเขาและพูดอย่างสบาย ๆ ว่า

“เดี่ยวพวกเราก็จะได้เห็นกัน”

เขาผลักประตูออกและได้เดินเข้าไปข้างใน

‘ชูหนิง’ยิ้มเยาะ เขาไม่เชื่อว่าเจ้าเด็กน้อยนี้สามารถฝึกฝนการเป็นนักปรุงยามาแล้วอย่างหนักก่อนเข้ามาสู่ห้องนี้

หลังจากที่’เนี้ยหลี่’เข้ามาภายในห้อง มีนักปรุงยาระดับผู้รอบรู้อยู่สองคนที่เบื้องหน้า พวกเขาทั้งคู่อายุประมาณ 50-60 ปี ข้างตัว ๆ คือโต๊ะและเก้าอีอย่างละตัว บนโต๊ะตัวนั้นวางไว้ซึ่งกองหนังสือและปากกาเขาแกะอยู่ 1 ด้าม

เมื่อมอง’เนี้ยหลี่’ที่ได้เข้ามา ทำให้หนึ่งในนักปรุงยาผู้รอบรู้ขั้นต้นชะงักไปชั่วขณะ เต็มไปด้วยความสงสัย เขาได้ถามว่า

“นักเรียนผู้นี้นั้น เจ้ากำลังอยู่ในสถานที่ที่ผิดหรือเปล่า?ที่นี่คือการสอบของนักปรุงยาระดับผู้รอบรู้นะ”

“ผู้รอบรู้อันทรงเกียรติทั้งสอง ข้านั้นไม่ได้อยู่ผิดที่แต่อย่างใด ข้ามาที่นี่เพื่อเข้ารับการทดสอบนักปรุงยาระดับผู้รอบรู้”

‘เนี้ยหลี่’พูดด้วยความสุภาพ สำหรับผู้คุมสอบ มันเป็นเรื่องดีที่สุดที่จะต้องสุภาพให้มากต่อพวกเขา

นักปรุงยาผู้รอบรู้ทั้งสองต่างมองซึ่งกันและกัน พวกเขาไม่เข้าใจเลยว่าเด็กคนนื้คือใคร เด็กคนนี้ตั้งใจมาทดสอบของนักปรุงยาระดับผู้รอบนี้แน่หรือ

ในไม่ช้านี้ เขาจะได้รู้ว่าการสอบเป็นนักปรุงยาระดับผู้รอบรู้นั้นมันยากเพียงใด ถ้าเขาไม่เคยผ่านเส้นทางของนักปรุงยามาอย่างน้อยสักหลายสิบปีแล้วล่ะก็ เขาไม่สามารถที่จะมาเป็นนักปรุงยาระดับผู้รอบได้เลย

“ตกลง ถ้าเช่นนั้น มีจำนวนหน้ามากกว่า 360 หน้าภายในหนังสือเล่มนี้ เจ้าจงเลือกซึ่งบางหน้าของหนังสือเล่มนี้ โดยในแต่ละหน้านั้นจะมีคำถามทุกชนิดเกี่ยวกับการปรุงยา เจ้าจงเขียนคำตอบลงบนกระดาษ และเจ้าต้องเลือกมาทั้งหมดยี่สิบหน้าและตอบคำถามเหล่านั้นให้เสร็จภายในสองชั่วโมง ถ้าคำตอบของเจ้าถูกเกิน 90 % เจ้าจะสามารถผ่านไปสู่รอบถัดไปได้”

หนึ่งในนักปรุงยาระดับผู้รอบรู้อธิบาย

“ผู้รอบรู้อันส่งเกียรติ ช่วยข้าเลือกซึ่งของจำนวนนี้ที”

‘เนี้ยหลี่’พูด พร้อมกับมองไปที่นักปรุงยาระดับผู้รอบรู้ ถ้ากระดาษถูกหยิบโดยนักปรุงยาผู้รอบรู้นี้จะสามารถขจัดข้อสงสัยที่เป็นไปได้ว่าเขาได้โกงการสอบ

นักปรุงยาผู้รอบรู้ผู้นั้นมองไปยังตาที่ใสซื่อของ’เนี้ยหลี่’ ผงกศรีษะและพูดว่า

“ตกลง!”

เขาสุ่มเลือก 20 หน้ากระดาษออกมาและวางมันลงที่หน้าของ’เนี้ยหลี่’

“ท่านสามารถเริ่มทำมันเหล่านี้ได้”

‘เนี้ยหลี่’หยิบปากกาเขาสัตว์ขึ้นมา สายตาของเขากวาดผ่านไปทั่วคำถามบนกระดาษเหล่านี้ ที่มุมปากของเขายกขึ้นเล็กน้อย คำถามเหล่านี้นั้นช่างแสนง่ายนักสำหรับเขา มันเหมือนกับนักปรุงยาระดับผู้รอบรู้ผู้หนึ่งกำลังทำคำถามของนักปรุงยาระดับฝึกหัดอยู่

ความเข้าใจเกี่ยวกับการปรุงยาของ’เนี้ยหลี่’ได้ก้าวผ่านระดับของนักปรุงยาระดับผู้รอบรู้ไปไกลแล้ว เขากังวลว่าเหล่านักปรุงยาผู้รอบรู้เหล่านี้จะไม่สามารถเข้าใจได้ถ้าคำตอบของเขานั้นซับซ้อนเกินไป เขาตอบคำถามอย่างเรียบงายเป็นธรรมชาติ บางคำตอบของเขาต่อคำถามบางข้อมีผิดไปบ้าง(เมื่อเรียนรู้ลึกซึ้ง แต่ในเบื้องต้นหลายคนในที่นี้เข้าใจว่าเป็นเรื่องที่ถูกแล้ว ) อย่างไรก็ตาม’เนี้ยหลี่’สามารถตอบได้แต่แนวทางเช่นนี้เพราะว่าเหล่านักปรุงยาระดับผู้รอบรู้นี้ยังไม่ก้าวผ่านไปถึงระดับนั้น

ปากกาของ’เนี้ยหลี่’กำลังเคลื่อนตัวรวดเร็วอย่างกับมันสามารถบินได้ โดยการเขียนอย่างหวัด ๆ ไปมาและเขาได้ตอบถามหลายข้อเสร็จไปเรียบร้อยแล้ว

นักปรุงยาระดับผู้รอบรู้ทั้งสองนั้นเริ่มแรกได้คิดว่า’เนี้ยหลี่’นั้นไม่มีทางที่สามารถจะตอบคำถามเหล่านั้นได้ อย่างไรก็ตามเขาไม่คิดว่า’เนี้ยหลี่’จะสามารถเขียนตอบคำถามได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้! หลังจากเขาตอบเสร็จไปหลายคำถาม พวกเขาคิดว่า’เนี้ยหลี่’เพียงแค่ทำการเขียนหวัด ๆ ไปอย่างมั่ว ๆเท่านั้น (ด้วยความประหลาดใจ)พวกเขาได้ยืดศรีษะของพวกเขาขึ้นเพื่อมองไปที่’เนี้ยหลี่’

“คำถามแรกเกี่ยวกับวิธีใช้ 16 อย่างของ Spirit Core Grass(หญ้าแห่งแกนจิตอสูร)โอ้ คำตอบนี้ตอบได้ดีเลยทีเดียว ไม่ผิดเลยสักจุดเดียว!”

“คำถามข้อที่ 2 เกี่ยวกับการกระบวนการปรุงยาให้บริสุทธ์ของยาทิพย์เพิ่มพลังจิตอสูร กระบวนการทั้ง 26 ขั้นตอนเขียนได้อย่างถูกต้องและสมบูรณ์เป็นอย่างมาก “

นักปรุงยาผู้รอบรู้ทั้งสองต่างมองหน้ากันไปมา การสนองตอบสิ่งแรกที่พวกเขาคิดคือ’เนี้ยหลี่’คนนั้นกำลังโกงการสอบ! เป็นไปได้อย่างไรที่เด็กวัยเยาว์อายุ 14 ถึง 15 ปีจะสามารถทำความเข้าใจกระบวนการเหล่านี้อย่างทะลุปรุโปร่งเช่นนี้? เป็นความจริงที่แค่เพียงหนึ่งหน้ากระดาษที่ทำได้เป็นเรื่องที่แสนง่ายยิ่งนัก อย่างไรก็ตามคำถามของหน้ากระดาษแผ่นนี้ได้ถูกเลือกออกมาจากสมุนไพรกว่าหนึ่งหมื่นชนิดและอีกกว่าหลายพันของยาทิพย์ ผู้ที่สามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้อย่างง่าย ๆ ได้จะมีความรู้ลึกซึ้งเพียงใดกัน?

แต่กระดาษเหล่านี้ถูกหยิบออกมาโดยหนึ่งในนักปรุงยาระดับผู้รอบรู้ ซึ่งขจัดข้อสงสัยที่ตามมาทั้งหมดว่าเนี้ยหลี่โกงการสอบ

เด็กน้อยอายุ 13 – 14 ปี แม้กระทั่งเขาเริ่มต้นอ่านตั้งแต่เขายังอยู่ในท้องแม่ ก็มิสามารถที่จะอ่านหนังสือมากมายเหล่านี้ได้จบ

นักปรุงยาผู้รอบรู้ทั้งสองต่างมองหน้ากันไปมาและยิ้มออกมาเล็กน้อย สามารถเป็นซึ่งสิ่งนั้นได้หรือไม่ ภายในโลกนี้ยังมีอัจฉริยะที่มีความรู้ลึกซึ้ง ซึ่งได้ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด?

ภายในสถานการณ์ทั่วไป บุคคลทั่วไปต้องใช้เวลาอย่างน้อย 15 นาทีเพื่อตอบคำถามเสร็จหนึ่งแผ่น การที่จะตอบคำถามเสร็จได้ 10 แผ่นภายในเวลาที่กำหนดนั้นยังคงเป็นเรื่องที่ยาก ผู้คนส่วนมากจะติดอยู่กับคำถามที่ยากบางข้อ(ตัวเลขตอนต้นระบุ 20 ตอนนี้ระบุ 10 ได้ถูกระบุไว้และแปลตามตัวเลขนี้ ถึงแม้จะต่างกันแต่ก็ไม่ใช่สาระสำคัญที่ควรใส่ใจ)

อย่างไรก็ตามระหว่างการตอบคำถามเหล่านั้นเนี้ยหลี่สามารถทำได้โดยไม่ต้องหยุดคิดเลย เขาได้ตอบคำถามไปแล้วสามหน้าโดยใช้เวลาเพียง 15 นาทีเท่านั้น

ก่อนที่ชั่วโมงแรกจะผ่านไป กระดาษทั้ง 10 แผ่นล้วนเต็มไปด้วยคำตอบมากมายเรียบร้อยแล้ว

หลังจากที่ทุก ๆ หน้ากระดาษได้ตอบเสร็จไปแล้วนั้น พวกนักปรุงยาผู้รอบรู้ทั้งสองได้ตรวจสอบพวกมัน มันช่างน่ากลัวยิ่ง กระดาษทั้งสิบแผ่นนี้ไม่มีคำตอบใดที่ผิดเลยและบางคำถามได้ถูกตอบอย่างสร้างสรรค์อีกด้วย คำตอบเหล่านี้ได้ก้าวผ่านซึ่งการบันทึกไว้ของหนังสือไป สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้พวกเขารู้สึกอัศจรรย์ใจเป็นอย่างมาก

อัจฉริยะ !

อัจริยะคนหนึ่ง อัจฉริยะ!

นักปรุงยาผู้รอบรู้ทั้งสองรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก อารมณ์ของพวกเขากำลังตื่นเต้น เกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเขาต้องรายงานไปที่กลุ่มผู้อวุโสอย่างแน่นอน อายุของ’เนี้ยหลี่’ยังน้อยนักแต่เขาก็มีพร้อมซึ่งความรู้ที่น่ากลัวเช่นนี้แล้ว อะไรจะเกิดขึ้นกับเขาในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้กัน?

‘เนี้ยหลี่’อาจะเป็นผู้ที่ทำให้สมาคมปรุงยาพัฒนาก้าวไปข้างหน้า! เมื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ทำให้พวกเขารู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาแล้ว ในเวลานั้นใครบางคนซึ่งได้ระบุไว้ที่กระดาษของ’เนี้ยหลี่'(ว่าเป็นผู้มีอัจฉริยะ)ก็จะเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงไปด้วย

“ข้าขอถามได้ไหมว่านายน้อยนั้นมาจากที่แห่งใดกัน”

หนึ่งในชายชรากล่าวขึ้นพร้อมกับรอยยิ้ม

“ข้านั้นมีนามว่าฮูเหยียน หมิง ส่วนเขานั้นคือมู่ หยาง พวกเราเป็นนักปรุงยาระดับผู้รอบรู้ขั้นต้น”

“อาจารย์ผู้ทรงเกียรติ พวกท่านสามารถเรียกเพียงแต่ชื่อของข้าก็ได้ ข้าคือเนี้ยหลี่ มาจากตระกูลบันทึกสวรรค์”

‘เนี้ยหลี่’พูดอย่างถ่อมตัว ยังคงมีบุคคลอื่นอีกด้วยที่ชื่อขึ้นต้นว่า ‘ฮูเหยียน’ ‘เนี้ยหลี่’สงสัยว่าเขานั้นมาจากตระกูล ฮูเหยียน หรือไม่

เมื่อได้ยินคำพูดของ’เนี้ยหลี่’ ‘ฮูเหยียน หมิง’ และ’มู่หยาง’เลื่อนตาขึ้นด้วยความยินดี ด้วยการกล่าวของ’เนี้ยหลี่’ว่าอาจารย์ผู้ทรงเกียรติทำให้เขาทั้งสองมีความสุข ไม่เลว ไม่เลวเลยสำหรับหนุ่มน้อยเยาว์วัยคนนี้ เขามีความรู้ที่มหาศาลแต่ยังคงถ่อมตน

ถ้า’เนี้ยหลี่’ได้ฉายแสงภายในสมาคมนักปรุงยานี้แล้วล่ะก็ การกล่าวว่าพวกเขาเป็นอาจารย์ผู้ทรงเกียรตินี้จะทำให้สถานะของพวกเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก

จบตอน…

 

ที่มา : 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments