I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Tales of Demons & Gods (妖神记) ตอนที่ 54 กำหนดลมปราณอัศจรรย์

| Tales of Demons & Gods (妖神记) | 6097 | 2531 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

“เสี่ยวหลี่เจ้ากลับมาแล้ว ”

‘เนี้ยหมิง’พูดพร้อมรอยยิ้ม

“อืม ท่านพ่อข้ากลับมาแล้ว!”

เมื่อได้เห็นท่าทางที่ซูบเซียวของท่านพ่อตาของ’เนี้ยหลี่’ช่วยไม่ได้เลยที่จะรู้สึกแดงก่ำ ความทรงจำทั้งหมดในชีวิตที่แล้วของเขากำลังซัดเข้ามาเป็นระลอก ๆ

“เซี่ยวหลี่ดูเหมือนว่าจะเติบโตสูงขึ้นนะ หล่อเหลามากขึ้นด้วย! หลังจากได้ใช้ชีวิตเล่าเรียนในสถาบันกล้วยไม้ศักดิ์สิทธิ์มาหนึ่งปี พลังงานที่แผ่ออกมารอบตัวเขานั้นไม่เหมือนแต่ก่อนเลย !”

‘เนี้ยไค่’ที่อยู่ใกล้ ๆ กล่าวขึ้นและหัวเราะไปด้วย เขาเป็นน้องชายโดยสายเลือดของ’เนี้ยหมิง’ เขานั้นอายุอ่อนกว่า’เนี่ยหมิง’ 3 ปีและก็เป็นเหมือน’เนี้ยหมิง’ ที่ไม่ได้มีพรสวรรค์ด้านการบ่มเพาะพลังดังนั้นเขาจึงเป็นเพียงแค่ชาวนาธรรมดา

ด้วยอายุของ’เนี้ยหมิง’และ’เนี้ยไค่’ส่วนวิญญาณของพวกเขาได้คงรูปเสียแล้วและพวกเขาไม่สามารถบ่มเพาะพวกมันได้อีกต่อไป
การเป็นแค่คนธรรมดาก็ยังคงเป็นสิ่งที่ดีแล้วสำหรับพวกเขา

ในชีวิตที่แล้วของเขา ข้าไม่สามารถป้องป้องพวกท่านทั้งหมดได้ ในชีวิตนี้นั้น พวกท่านจะถูกปกป้องโดยข้าเอง!’

‘เนี้ยหลี่’ได้กลับมาถึงบ้านและหลังจากได้เห็นแม่ของเขาและคุณอา มีความสนุกสนาน ครอบครัวของเขานี้ได้รวมตัวกันอีกครั้ง หัวใจของ’เนี้ยหลี่’เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความตื้นตันใจ

“เนี้ยหลี่เจ้ามีพละกำลังเท่าไหร่แล้วตอนนี้?”

‘เนี้ยหมิง’ในที่สุดก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปและได้กล่าวถามขึ้น ทุก ๆ สายตาจับจ้องไปที่’เนี้ยหลี่’ ดวงตากลมโตของเนี้ยยู่เปล่งประกายไปด้วยขณะที่เธอมองมายัง’เนี้ยหลี่’

“พวกควรจะรับประทานอาหารก่อน!”

แม่ของเนี้ยหลี่’เซี่ยวหยุน’รีบกล่าวขึ้น

ภายในชีวิตที่แล้วของเขา ไม่ว่าเรื่องใดถ้าเป็น’เนี้ยหมิง’และ’เซี่ยวหยุน’ แม้ว่าการบ่มเพาะพลังขอ’งเนี้ยหลี่’จะไม่สามารถเพิ่มระดับได้และทำให้พวกท่านรู้สึกเศร้าใจซ้ำแล้วซ้ำอีก พวกท่านยังคอยสนับสนุน’เนี้ยหลี่’ไม่ยอมหยุด พวกท่านไม่ถามเรื่องราวต่าง ๆ ของ’เนี้ยหลี่’มากนัก อย่างไรก็ตาม เขายังคงรู้สึกได้ถึงความคาดหวังอย่างสูงของพวกท่าน ทุก ๆ ครั้งที่เขาต้องรับความรู้สึกเหล่านี้ มัแหลมคมราวกับใบมีดที่ได้ตัดลงบนใจเขา และเขาจะโทษตัวเองเสมอมาที่เป็นคนไร้ค่าเช่นนี้

อย่างไรก็ตามภายในชีวิตนี้ เขาจะไม่ปล่อยให้พวกท่านต้องรู้สึกแย่อีกต่อไป

“การทดสอบในปีนี้ พลังวิญญาณของข้าได้ทะลุไปสู่ค่า 100 แล้ว และข้านั้นได้เป็นร่างทรงอสูรระดับทองแดง 1 ดาว”

‘เนี้ยหลี่’พูดระหว่างกินอาหารอย่างสงบเขาไม่กล้าที่จะบอกพวกท่านถึงพลังที่แท้จริงของตัวเขา ถ้าพวกท่านรู้พวกท่านคงจะต้องตกใจจนเกือบหัวใจวายตายเป็นแน่

‘เนี้ยหมิง’และครอบครัวไม่คาดคิดว่า’เนี้ยหลี่’นั้นจะสามารถกลายเป็นร่างทรงอสูรได้ พวกเขาต่างคิดเหมือนกันว่าถ้า’เนี้ยหลี่’นั้นได้เป็นนักต่อสู้ระดับทองแดงมันก็เป็นเรื่องมากเพียงพอแล้ว เมื่อพวกเขาได้ยินว่า’เนี้ยหลี่’กลายเป็นร่างทรงอสูรระดับทองแดง 1 ดาว พวกเขาต่างหยุดชะงัก ตะเกียบในมือของพวกเขาก็หยุดนิ่งไปด้วย

ร่างทรงอสูร ระดับทองแดง 1 ดาว? ‘เนี้ยหมิง’และครอบครัวต่างคิดว่าพวกเขาหูฟาดไป

“ร่างทรงอสูรระดับทองแดง 1 ดาว? ”

‘เนี้ยไค่’ที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ นั้นอดอ้าปากค้างไม่ได้และถาม’เนี้ยหลี่’อีกครั้ง

“ครับผม!”

‘เนี้ยหลี่’ผงกศรีษะของเขา เขามองดูครอบครัวที่อบอุ่นของเขาได้นั่งอยู่ใกล้ ๆ กัน เขารู้สึกหดหู่และเศร้าใจ ครั้งหนึ่งเมื่อชีวิตที่แล้วที่มีแต่ความเศร้าโศก ในชีวิตนี้นั้น เขาจะสามารถชดเชยให้แก่พวกเขาเหล่านั้นทั้งหมดได้

“ร่างทรงอสูรระดับทองแดง 1 ดาว!”

‘เนี้ยหมิง’และครอบครัวต่างพึมพำกัน

“บ้านของพวกเรานั้นในที่สุดก็ได้มีร่างทรงอสูรเกิดขึ้นแล้ว?”

หลังจากเวลาแห่งการหยุดชะงักอย่างเงียบงันได้ผ่านไปสีหน้าของพวกเขาต่างเต็มไปด้วยความเปรมปรีเปี่ยมล้นร่างทรงอสูรร่างหนึ่ง!

ร่างทรงอสูรใดก็ตามภายในตระกูลบันทึกสวรรค์จะมีสถานะที่ไม่ธรรมดา นอกจากได้รับการยกเว้นการส่งส่วยทุก ๆ เดือน พวกเขายังสามารถเรียกร้องบางสิ่งจากตระกูลได้

“นอกจากได้เป็นร่างทรงอสูรระดับ 1 ทองแดงแล้วมากไปกว่านั้น ข้ายังได้รับเลือกให้เข้าสู่ห้องเรียนอัจฉริยะโดยสถาบันกล้วยไม้ศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย”

‘เนี้ยหลี่’ได้คิดชั่วครู่และเริ่มพูดต่อเช่นนั้น

“ห้องเรียนอัจฉริยะนั่นงั้นหรือ? เจ้าไม่จำเป็นต้องมีพรสวรรค์พิเศษเพื่อเข้าไปในชั้นนั้นรึ?”

ลูกของ’เนี้ยฉ่อง’ ‘เนี้ยล่อง’นั้นเขาก็เป็นร่างทรงอสูรระดับทองแดง 1 ดาวด้วยเช่นกัน แต่เขาไม่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าสู่ชั้นเรียนอัจฉริยะ!”

‘เนี้ยไค่’พูดด้วยความงงงวย ความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับสถาบันกล้วยไม้ศักดิ์สิทธิ์ยังคงแจ่มชัด

‘เนี้ยยู่’กระพิบตาดวงตาโตเยิ้มมองไปที่’เนี้ยหลี่’ด้วยความชื่มชมและพูดว่า

“พี่ใหญ่เนี้ยหลี่สุดยอดที่สุดเลย!”

ตลอดเวลาที่ผ่านมา’เนี้ยหลี่’เป็นดังบุคคลที่เธอเทิดทูน

“ห้ะ ห้า”

‘เนี้ยหลี่’หัวเราะ ลูบไปที่หัวของ’เนี้ยยู่’ ในชีวิตที่แล้วของเขานั้น เขาทำได้เพียงแต่มองดูไปที่’เนี้ยยู่’และคอยให้เธอคุ้มครองในชีวิตนี้ให้ข้าได้เป็นผู้หนึ่งที่จะปกป้องเจ้าเถอะ’ ‘เนี้ยหลี่’คิดอยู่ภายในใจเขา

“มันน่าจะเป็นเพราะว่าพรสวรรค์ของเซี่ยวหลี่ที่มีแง่มุมอื่นบางอย่าง ดังนั้นเขาจึงได้ถูกเลือกให้เข้าชั้นเรียนอัจฉริยะได้ ต้องไม่ลืมว่าเซี่ยวหลี่ไม่น่าจะเป็นร่างทรงอสูรระดับทองแดง 1 ดาวได้ในระเวลาอันสั้นแค่นี้! บ้านของพวกเราในที่สุดก็มีร่างทรงอสูรเกิดขึ้นแล้ว”

‘เนี้ยหมิง’ที่เต็มไปด้วยความรู้สึก ๆ ต่างมากมายกล่าวขึ้น

ในตอนนี้ไม่ว่าเรื่องอะไรถ้าเป็น ‘เนี้ยหมิง’ ‘เนี้ยไค่’ น้า’เมี่ยวหลิง’หรือ’เนี้ยยู่’ พวกเขาล้วนมีความสุข ‘เซี่ยวหยุน’ก็เริ่มมีน้ำตาไหลออกมากด้วยความสุขเช่นกัน

“อนาคตของเซี่ยวหลี่จะต้องสดใสอย่างแน่นอน”

‘เนี้ยไค่’แตะไปบนบ่าของ’เนี้ยหลี่’

“เซี่ยวหลี่ ไปกันเถอะ! พวกเราไปหาหัวหน้าตระกูลกัน!”

‘เนี้ยหมิง’พลันลุกขึ้นยืนทันใด หัวใจเขานั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจ ในเวลานี้นั้น ในที่สุดเขาก็สามารถเชิดหน้าต่อหน้าคนในตระกูลของเขาได้

เกี่ยวกับเมื่อก่อนนั้น ‘เนี้ยหมิง’ถูกมองด้วยสายตาดูถูกจากคนในตระกูลอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง’เนี้ยฉ่อง’ ผู้ซึ่งชอบคุยอวดกับเขา ในที่สุด’เนี้ยหลี่’ก็สามารถสู้เพื่อกู้หน้าเขากลับมาได้

“ลูกของเราเพิ่งกลับมาถึงบ้าน ปล่อยให้เขากินก่อนเป็นอันดับแรก เจ้าจะรีบร้อนไปทำไมกัน?”

แม่ของเขา’เซี่ยวหยุน’ทำตาขึงโยนใส่’เนี้ยหมิง’

“ถูกต้อง ถูกต้อง!”

‘เนี้ยหมิง’หัวเราะอย่างอาย ๆ เขาเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างมากเป็นเหตุให้เขาตื่นเต้นมากเกินไป เมื่อได้เห็นครอบครัวมีความภาคภูมิใจในตัวเขา ‘เนี้ย’ก็รู้สึกมีความสุขมากภายในใจของเขาด้วย

“สถานการณ์ภายในตระกูลเป็นอย่างไรกันครับ?”

‘เนี้ยหลี่’ถามระหว่างกำลังกินอยู่

“แปลกมาก ๆ ”

เมื่อหัวข้อสนทนาได้เปลี่ยนไปสู่สถานการณ์ของตระกูล ‘เนี้ยหมิง’ทำหน้าบูดบึ้ง

“แปลก?”

‘เนี้ยหลี่’รู้สึกสงสัยเล็กน้อย

“ใช่แล้ว”

‘เนี้ยหมิง’ผงกศรีษะ

“ความมั่งมีของตระกูลบันทึกสวรรค์ใกล้จะพบจุดจบอย่างไรก็ตาม เมื่อก่อนที่ผ่านมานี้ ตระกูลศักดิ์สิทธิ์เริ่มจะกดดันพวกเรา เป็นเหตุให้เกิดผลร้ายแรงต่อการค้าของพวกเรา คนที่เกี่ยวข้องกับการค้าของพวกเราบางคนเริ่มหยุดการค้าขายกับพวกเรา ทำให้เหล่าอาวุโสและหัวหน้าตระกูลกังวลใจ หัวหน้าตระกูลเคยแม้กระทั่งส่งจดหมายส่วนตัวไปยังตระกูลศักดิ์สิทธิ์เพื่อถามถึงสาเหตุ แต่เขาก็ถูกเพิกเฉยพวกเขานั้นคงจะต้องการรอสักครู่ให้ตระกูลบันทึกสวรรค์ของพวกเรามีปัญหาที่เพิ่มมากขึ้นกว่านี้ ก่อนที่เริ่มจะคุยข้อตกลงกับพวกเรา แต่ทันทีทันใด ทางเลือกที่ดีกว่าก็ปรากฏขึ้น ”

ทางที่ดีกว่าหรือครับ? เนี้ยหลี่ถาม

“ใช่แล้วแล้ว ทันใดนั้น กว่า 10 ตระกูลได้เริ่มต้นเสนอการค้าขายกับพวกเราข้อเสนอนั้นยังดีมาก ๆ อีกด้วย แต่ตอนแรกนั้น หัวหน้าตระกูลคิดว่ามันเป็นกลลวงอย่างไรก็ตามภายหลังที่เขาตระหนักได้ว่าพวกเขานั้นไม่ได้มีสิ่งใดแอบแฝงการมาติดต่อค้าขายนั้นมันเริ่มต้นมาจากความคิดของสมาคมปรุงยาทั้งหมด พวกเขาให้แม้กระทั่งโอกาสทางธุรกิจแก่พวกเรามากมาย โดยให้พวกเราทำการปลูกสมุนไพรหลายชนิด ยิ่งไปกว่านั้น การจ่ายเงินก็ยังดีมาก ๆ อีกด้วย ภายใต้ร่มเงาของสมาคมปรุงยาแบบนี้แล้ว ตระกูลศักสิทธิ์ก็ไม่สามารถทำสิ่งใดที่ปฏิปักษ์แก่เราได้”

‘เนี้ยหมิง’กล่าว

เมื่อได้ยินคำพูดของ’เนี้ยหมิง’ ‘เนี้ยหลี่’เข้าใจดีว่าเกิดสิ่งใดขึ้น ความคิดของเขานั้นผุดผู้หญิงสาวสวยผู้หนึ่งขึ้นมา ทั้งหมดนี้น่าจะถูกจัดโดย’หยางซิ่น’

ตั้งแต่ที่’เนี้ยลี่’ได้เป็นหุ้นส่วนคนสำคัญของสมาคมปรุงยา การจัดการของ’หยางซิ่น’เหล่านี้เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย ความแข็งแกร่งของสมาคมปรุงยาไม่ได้ด้อยไปกว่าตระกูลศักดิ์สิทธิ์เลย ทั้งทางด้านเครือข่ายการค้าก็มีความแข็งแรงมากกว่าตระกูลศักดิ์สิทธิ์แล้ว และต้องไม่ลืมว่า ทุก ๆ ตระกูลยังคงจำเป็นต้องซื้อยาทิพย์มาจากสมาคมปรุงยาอีกด้วย

ดังนั้นด้วยการอุ้มชูของสมาคมปรุงยา ตระกูลศักดิ์สิทธิ์ก็จะไม่กล้าที่จะแตะต้องซึ่งตระกูลบันทึกสวรรค์ได้อีกต่อไป

ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยสูตรแห่งยาทิพย์ที่ได้ให้แก่พวกเขาโดย’เนี้ยหลี่’ แม้กระทั่งคฤหาสน์จ้าวเมืองและทั้งสามตระกูลหลัก จำเป็นต้องมาขอแก่สมาคมปรุงยา ดังที่สมาคมปรุงยาได้ขยายกำลังถึงเพียงนี้แล้ว ถ้าตระกูลศักดิ์สิทธิ์ต้องการจะเป็นปฏิปักษ์กับสมาคมปรุงยาแล้วล่ะก็ เมื่อนั้นมันเป็นเหมือนการรนหาที่ตายชัด ๆ

หลังจากการกลับมาก นอกจากการได้พบญาติ ๆ ของเขาแล้ว เขายังจำเป็นต้องจัดเตรียมให้ตระกูลบันทึกสวรรค์ได้ติดต่อกับสมาคมปรุงยา เขาไม่คิดว่า’หยางซิ่น’ได้จัดการพวกมันเรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็คือเนี้ยสามารถเริ่มคิดวิธีจัดการกับตระกูลศักดิ์สิทธิ์ แน่นอนเลย
สมาคมปรุงยานั้นมีความสำคัญอย่างมากกับเรื่องนี้

“ทำไมเจ้าถึงได้บอกสิ่งเหล่านี้แก่เด็กน้อยกันหึ?”

‘เซี่ยวหยุน’มองอย่างบึ้งตึงไปที่’เนี้ยหมิง’ ในสายตาของเธอเนี้ยนั้นเป็นแค่เพียงเด็กตัวกะเปี๊ยก การรู้สิ่งเหล่านี้ไปก็ไร้ค่า

“ความคิดของพวกผู้หญิง ตอนนี้เนี้ยหลี่นั้นเป็นร่างทรงอสูรระดับทองแดง 1 ดาวแล้ว ในภายภาคหน้า เขาจะกลายเป็นหัวใจสำคัญของตระกูลบันทึกสวรรค์ เมื่อถึงเวลานั้น สิ่งทั้งหลายที่เขาจะได้เรียนรู้จะมีมากยิ่งกว่านี้เสียอีก!”

‘เนี้ยหมิง’แย้งกลับด้วยการแสดงออกอย่างภาคภูมิใจและมีความสุข

“ดีแล้ว ไม่เป็นไรที่เจ้ากล่าวมาถูกต้องแล้ว”

‘เซี่ยวหยุน’กล่าวด้วยความฉุนเฉียว

ท่านพ่อและท่านแม่เป็นเช่นนี้เสมอเมื่อชีวิตที่แล้ว พวกเขามักจะทะเลาะกันบ่อย ๆ อย่างไรก็ตามความสัมพันธ์ระหว่างพวกท่านก็ยังดีอยู่มาก เมื่อได้เห็นภาพเหล่านี้แล้ว ‘เนี้ยหลี่’ก็ได้หัวเราะออกมา

“ท่านพ่อสำหรับช่วงเวลานี้ ข้ายังคงไม่ต้องการไปพบหัวหน้าตระกูล ข้านั้นต้องการเริ่มการฝึกฝนต่อ ”

‘เนี้ยหลี่’เงยหน้าของเขาและมองไปที่เนี้ยหมิงและกล่าวขึ้นเช่นนั้น

“แน่นอนเลยไปพบเขาทีหลังก็ได้!”

‘เนี้ยหมิง’หัวเราะ

ลุง’เนี้ยไค่’ที่อยู่ใกล้ได้ลูบหัว’เนี้ยยู่’และพูดว่า

“เซี่ยวยู่ต้องฝึกฝนให้หนัก และเป็นอย่างเนี้ยหลี่นะ”

“อืม เซี่ยวยู่จะฝึกฝนให้หนัก”

‘เนี้ยยู่’ผงกศรีษะรับและพูดออกไปด้วยความจริงจัง

เวลากลางคืนเริ่มคลืบคลานเข้ามา มันเป็นคืนหนึ่งที่ลมได้พัดไปทั่วทั้งป่า เต็มไปด้วยเสียงของเหล่าใบไม้ที่ขัดสีกันไปตามสายลม

‘เนี้ยหลี่’ได้ออกมาจากบ้านของเขา และมุ่งหน้าไปยังป่าแห่งเนินเขาทมิฬ แล้วนั่งลงบนก้อนหินขนาดใหญ่ก้อนหนึ่ง เขามองออกไปที่ระยะทางแสนไกลและเห็นเพียงแสงไฟจากบ้านเรือนต่าง ๆ มากมาย

ตระกูลบันทึกสวรรค์เป็นตระกูลที่มีประวัติศาตร์มายาวนาน ประวัติศาตร์ของตระกูลนั้นสามารถย้อนไปยังยุคของอาณาหิมะเหมันต์ บรรพบุรุษของตระกูลบันทึกสวรรค์นั้นเป็นถึงลอร์ดผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งในเวลานั้น อย่างไรก็ตาม หลักจากได้เผชิญกับการเปลี่ยนของยุคสมัย และเผชิญกับยุคมืดมาเป็นเวลานาน ตระกูลบันทึกสวรรค์ก็ได้เสื่อมถอยลงเป็นตระกูลขนาดเล็กที่ตอนนี้อยู่ภายในเมืองกลอรี่

‘เนี้ยหลี่’ได้นั่งขาไขว้กันอยู่บนก้อนหินใหญ่นั้นเพื่อจะฝึกฝนอย่างเงียบ ๆ อีกเพียงแค่ก้าวเล็ก ๆ เท่านั้นสำหรับเขาที่จะเข้าสู่ระดับเงินเมื่อเขาได้ทะลุระดับเงินแล้ว เขาสามารถจะรวมกับจิตอสูรเงาพรายที่อยู่ในตะเกียงแห่งจิตอสูรได้

ในขณะที่ใช้ยาทิพย์อย่างต่อเนื่อง เขาจะเคลื่อนเทคนิคการบ่มเพาะพลังพระเจ้าแห่งสวรรค์ไปพร้อมกัน เนี้ยหลี่สามารถดูดซับยาทิพย์เข้าสู่กระแสเลือดและค่อยปล่อยให้ผลของยาทิพย์แสดงต่อส่วนวิญญาณของเขา สิ่งนี้ทำให้ส่วนวิญญาณของเขาขยายกว้างออกอย่างไม่สิ้นสุด

ส่วนของวิญญาณของเขาเต้นแบบบ้าคลั่งอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่มันเต็มไปด้วยพลังวิญญาณ

อย่างไรก็ตาม ถ้าเขาต้องการทะลุไปสู่ระดับเงิน มันจะค่อนข้างยากสักเล็กน้อย เนี้ยหลี่ประมาณการณ์ว่าเขาต้องใช้เวลาประมาณสัก 10 วันที่จะทำสิ่งนี้

“ข้าเกือบลืมไปแล้วว่า ยังมีวิธีอื่นอีกที่ข้านั้นยังไม่เคยใช้!”

‘เนี้ยหลี่’ดูเหมือนว่าระลึกบางอย่างได้และปรากฏรอยยิ้มแห่งความสุข เมื่อจะทำการลุไปสู่ระดับเงิน ยังมีวิธีหนึ่งเรียกกว่า กำหนดลมปราณอัศจรรย์

วิธีนี้จะอุดเลือดที่ไหลไปเลี้ยงแขนและส่วนต่าง ๆ อีกหลายส่วนในร่างกายเขา เขาสามารถอุดจุดเชื่อมลมปารณทั้ง 36 จุดได้และบังคับให้พลังวิญญาณของเขาถูกกักอยู่แต่ในส่วนของวิญญาณ วิธีนี้เขาจะสามารถบังคับตัวเองให้ทะลุสู่ระดับเงินได้

 

จบตอน…

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments