ตอนที่แล้วตอนต่อไป“สนามแรงโน้มถ่วง “!
‘เนี้ยลี่’ใช้ความสามารถสนามแรงโน้มถ่วงของเขี้ยวอสูรแพนด้าก่อให้เกิดแรงโน้มถ่วงในบริเวณใกล้เคียงเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
บูม!
ร่างของเสิ่นหนิงตกลงสู่พื้นอย่างรุนแรง !!!~
(เรื่องเหล่านี้เป็นฉากจบของการประลองในรอบนี้ พวกเราย้อนกลับไปดูตอนต้นก่อนจะจบลงเช่นนี้ก่อนนะครับ)
เมื่อ’เสิ่นหนิง’เป็นใกล้จะปะทะกับ’เนี่ยหลี่’ ‘เนี่ยหลี่’กระโดดหลบไปด้านข้างเพื่อหลบผลกระทบของเพลิง ถึงกระนั้นเขาก็ได้รับบาดเจ็บจากแผลไฟไหม้เล็กน้อย ‘เนี่ยหลี่’เขาแทบเกือบจะกลายเป็นหมีแพนด้าปิ้งย่าง ถึงแม้เขาจะสามารถเอาชนะได้อย่างง่ายดายก็จริง แต่เขาต้องแสร้งทำเป็นว่าอ่อนแอกว่าของคู่ต่อสู้ของตน!!~.
เสียงดังกึกก้อง จนทำให้ทั้งสนามประลองสั่น ‘เสิ่นหนิง’ ทำลายพื้นเป็นสิบตารางเมตร เปลวไฟพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ฝุ่นควันฝุ้งไปทั่วผู้ชมต่างลุกขึ้นยืนด้วยความตื่นเต้นและกรีดร้อง
“ว้าว!!!เป็นพลังที่น่าสะพรึงกลัวอะไรเยี่ยงนี้ ?!”
“โอ้พระเจ้า!! นี่คือความแข็งแกร่งของ หมีแดงศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ นี้มันน่ากลัวเกินไป! “
“แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงระดับซิลเวอร์ 5 ดาว ที่มีความแข็งแกร่งเช่นนี้มันก็เปรียบได้กับระดับโกล! “
“เสิ่นหนิงจะชนะแล้ว!???”
“เสิ่นหนิง,เสิ่นหนิง !!!…… “
เสียงฟังผู้ชมกระหึ่มดังขึ้น
ไม่ต้องกล่าวถึงการเดิมพัน ‘เนี่ยหลี่’เริ่มวิ่งหนีก่อนจะเริ่มการต่อสู้เสียอีก ส่วน’ชินหนิง’ทำการในการไล่ล่า ดุจสุนัขตามงับไก่ ในใจพวกเขาเต็มไปด้วยความเหยียดหยามดูมิ่น หาก หากเนี่ยหลี่โดนจัดการซะก็ไม่มีข้อกังขา
[T / N: ผู้แปลจีนบอกว่าคงไม่ต้องอธิบายภาพไก่วิ่งหนีหมา มันมีความชัดเจนอยู่แล้ว ]
‘เสิ่นหมิง’ปรากฎรอยยิ้มพึงพอใจบนใบหน้าของเขา เขาพยักหน้าและกล่าวว่า
“เสิ่นหนิงทำได้ไม่เลว ดูจากฝีมือของเขา เขาน่าจะได้ก้าวเข้าสู่ระดับโกลได้ใยไม่ช้านี้ หากเขาจัดการกับไอ้เด็กเปรตที่มาจากตระกูลบรรทึกสวรรค์ได้ ฉันจะต้องให้รางวัลแก่เขาอย่างงาม! “
เมื่อได้ยินคำพูดของ’เสิ่นหมิง’ ‘เสิ่นเสี่ยว’ยืนอยู่ข้างเขาไม่สามารถอดแสดงความอิจฉา แม้เขาที่ได้รับการฝึกอบรมร่วมกันกับ’เสิ่นหนิง’ เขาก็ไม่ได้คิดว่ามีความแข็งแกร่งของ’เสิ่นหนิง’น่าจะถึงระดับโกล
‘หยางซิน’ซึ่งอยู่เหนืออัจจรรย์ของครอบครัวบรรทึกสวรรค์ขมวดคิ้วและพูดพึมพำ
“เสิ่นหนิงเป็นเพียงร่างทรงอสูรระดับซิลเวอร์ 5 แต่ พลังเช่นนี้ เปรียบได้กับร่างทรงอสูรระดับโกล3 เลยทีเดียว!!!!. “
‘เอียจืออวิ้น’ที่ได้เห็นเหตุการณ์นั้น ก็แปลกใจเช่นกัน
ขณะที่เศษธุลีฝุ่นในสนามประลองค่อย ๆ จางลง หลุมคล้ายปล่องภูเขาไฟขนาดย่อมๆก็ปรากฏแก่สายตาของทุกคน
ทันใดนั้นผู้ชมต่างตะลึง เงียบงันดุจไร้ซึ่งผู้คน ทุกคนตะลึงขณะที่พวกเขาจ้องมองลงไปในกลางหลุมนั้น!!!!
‘เสิ่นหนิง’นอนอยู่กลางหลุมอย่างหมดสภาพ ร่างของเขาก็เต็มไปด้วยบาดแผลและรอยไฟไหม้
“หาา……”
“นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นนี่!!? ใครสามารถบอกได้ว่านี่เกิดอะไร ?! “
‘เสิ่นหมิง’คำราม
“เสิ่นหนิงใช้ฝนไฟดาวตกไล่ล่าเนี่ยหลี่ และตกลงมาหมดสติเองรึ ?”
ไม่มีใครสามารอธิบายได้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น เมื่อเกิดเหตุการกลับเป็นเช่นนี้ แม้แต่ ‘เสิ่นหมิง’,’หยางซิน’,’เนี่ยไห่’ ,’เนี่ยอิ้ง’ และผู้คนที่เหลือก็พากันตกตะลึง
พวกตระกูลศักดิ์สิทธิ์จะปัญญานิ่มมากกันไปหน่อยมั้ย? คนแรกยังไม่ทันได้เรียกจิตวิญญาณอสูรของเขา ก็โดนเนี่ยหลี่ไล่จัดการจนพ่ายแพ้ คนที่สองเรียกจิตวิญญาณอสูรที่มีความแข็งแกร่งไม่ต่ำกว่าระดับโกล แต่จบลงด้วยการหล่นลงมาหมดสติ ?
พวกเขาไม่สามารถจะเชื่อในภาพที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าได้
‘หยางซิน’ดูเหมือนจะมีความเข้าใจบางสิ่งบางอย่างและพึมพำว่า
“เสิ่นหนิง นั้นมีความแข็งแกร่งทัดเทียมร่างทรงอสูรระดับโกล3 หรือว่า น้องหลี่จะทำสิ่งใดลงไปกัน???!!! ? “
ผู้ชมทุกคนต่างเงียบสนิท ทุกสายตาต่างจับจ้องไปทางเดียวกัน หลังจากเวลาผ่านไปเนิ่นนาน เสิ่นหนิงก็ยังนอนแน่นิ่งไม่ขยับกาย
“ไอ้ขยะจากตระกลูศักดิ์สิทธิ์ เมิงลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้! “
“ไอ้ระยำ! ตัวแทนขยะของตระกลูศักดิ์สิทธิ์ ไอ้ตัวไร้ค่า ไร้ประโยชน์! “บรรดาผู้ที่มีเดิมพันข้างตระกูลศักดิ์สิทธิ์เริ่มโวยวาย
“ไอ้ตะกูลศักดิ์สิทธิ์ มันคงไม่ได้รวมหัวกับสมาคมปรุงยาโกงเราใช่ไม๊ ?”
“เป็นไปไม่ได้ ใครๆก็รู้ว่าสมาคมปรุงยา มั่งคั่งขนาดไหน ไม่มีใครประมาณได้ว่ารายได้พวกเขามหาศาลเท่าใด สาเหตุมาจากตัวแทนของตะกูลศักดิ์สิทธิ์ไร้ความสามารถเกินไป! “
พวกที่วางเดิมพันข้าง’เนี่ยหลี่’ทั้งหมดยิ้ม ‘เนี่ยลี่ช่าง’เป็นเด็กที่โชคดีเสียจริง รอบแรก ‘เสวิ่นเฟย’งี่เง่าที่ต่อสู้โดยไม่ใช้อสูรวิญญาณของเขาจึงชนะฟรี รอบที่สอง ‘เสิ่นหนิง’ได้เรียนรู้จากบทเรียนที่ผ่านมาและรวมกับจิตวิญญาณปีศาจของเขา แต่กลับตงลงมากระแทกพื้นหมดสติอีก ชนะฟรี
สิ่งที่พวกเขาไม่ทราบก็คือ ‘เสิ่นหนิง’ไม่ได้ทำให้ตัวเองจะตกลงมากระแทกพื้นและหมดสติ จริงๆแล้วฝนเพลิงดาวตกของ’เสิ่นหนิง’นั้นอันตรายและรุนแรงมาก โดยการกระโดดลอยตัวขึ้นสูง และการใช้น้ำหนักเพิ่มความเร็วของการโจมตีให้สูงถึงขีดสุด
แต่จู่ ๆ’เนี่ยหลี่’ ก็เพิ่มขึ้นแรงโน้มถ่วง ทำให้’เสิ่นหนิง’ตกลงมาด้วยความเร็วเป็นเท่าทวี ‘เสิ่นหนิง’ตกอยู่ในสภาวะแรงโน้มถ่วงสูง เขาจึงไม่สามารถควบคุมความเร็วได้ จึงตกมากระแทกพื้น โชคดีที่’เนี่ยหลี่’ไม่ได้เพิ่มแรงโน้มถ่วงมากเกินไปไม่งั้นได้มีกระดูกกระเดี้ยวแตกกันไปข้าง
เมื่อมองไปที่’เสิ่นหนิง’ ก็เกิดรอยยิ้มเล็กๆบนมุมริมฝีปากของ’เนี่ยหลี่’ ‘เสิ่นหนิง’ได้หมดสติ เขาอาจจะสลบไปอีกสองหรือสามวันเลยทีเดียว สนามแรงโน้มถ่วงเป็นความสามารถในการต่อสู้ที่มองไม่เห็น คนนอกการต่อสู้จะไม่สามารถที่จะสังเกตเห็นหรือรู้สึกได้เลย
‘เนี่ยหลี่’ชนะ !!!
การต่อสู้นี่มันไม่ได้ยากเลย!
ถึงแม้เนี่ยหลี่จะเป็นแค่ระดับซิลเวอร์ ความสามารถของ’เนี่ยหลี่’ในขนะนี้นั้น อาจจัดการได้แม้กระทั้งร่างทรงอสูรระดับโกล2หรือ3ได้เลยทีเดียว ดังนั้นเสิ่นหนิงจึงไม่เป็นปัญหาสำหรับเขา
หลังจากการต่อสู้จบลง ‘เอียจืออวิ้น’ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ชมมิได้แสดงความตื่นตกใจเหมือนทุกคน เธอมีท่าทีแสดงออกราวกับว่าเธอได้คาดคิดว่าเรื่องทั้งหลายมันจะลงเอยเช่นนี้ ตระกูลศักดิ์สิทธิ์ได้ตกอยู่ในกำมือของ’เนี้ยหลี่’อีกครั้ง เมื่อมอง’เนี้ยหลี่’ช่วยไม่ได้ที่เธอจะทำหน้ามุ้ย
‘เนี้ยหลี่’ราวกับเชื่อมั่นว่าทุก ๆ สิ่งล้วนอยู่ในความควบคุมของเขา แม้กระทั่งเรื่องราวของความรักใคร่ เขามั่นใจเด็ดขาดว่าสามารถทำให้’เอียจืออวิ้น’ตกหลุมรักในตัวเขา มันช่างเป็นเรื่องน่าเกียจที่เขาคิดเช่นนั้น!
ตัวเธอจะตกหลุมรัก’เนี่ยหลี่’ในวันหนึ่งจริงๆรึ? ดวงตาของเธอมีประกายแห่งความไร้เดียงสา เมื่อหวนนึกภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่เมื่องออร์คิดโบราณ ทำให้หัวใจเขาเต้นโครมคราม…..
จากผลการต่อสู้ ‘เนี่ยหลี่’ได้รับเงินถึงหนึ่งร้อยล้านเหรียญมารจาก’เสิ่นหมิง’
จากการเดิมพันในครั้งนี้แม้ตระกูลศักดิ์สิทธิ์ศูนย์เสียเงินถึงเงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านเหรียญจิตมาร แต่มันก็ไม่ทำให้ ตระกูลศักดิ์สิทธิ์ที่จะเป็นขัดสนได้เลย
ในฐานะที่เป็นตระกูลหลักของเมืองและยังมี รายได้ถึง 300-500,000,000 เหรียญจิตรมาร และมูลค่าของธุรกิจของพวกเขาอีกนับพันล้าน แค่นี้จึงไม่มีผลกระทบอะไรมากกับตระกูลศักดิ์ศิทธิ์
ถึงแม้ว่า’เนี่ยหลี่’จะได้เงินจำนวนถึงหนึ่งร้อยห้าสิบล้านเหรียญจิตมารแต่เขายังคงรู้สึกไม่พอใจ
“ท่านอาวุโสผู้ดูแลกิจการ พวกท่านยอมให้ข้าชนะ พวกท่านยอมให้ข้าชนะ ท่านอาวุโสทั้งหลายของตระกูลศักดิ์สิทธ์ช่างมั่งคั่งเสียจริง ยอมปล่อยให้ข้าชนะทุกรอบ ถึงแม้เวลาชนะทำให้รู้สึกข้าเขินนิดหน่อยก็เถอะ มันเหมือนว่าตัวข้าเข้าใจตระกูลศักดิ์สิทธิ์ผิดมาตลอด พวกท่านไม่ได้ตระหนี่เลยแม้แต่น้อยกลับออกจะใจกว้างเกินไปด้วยซ้ำ! “
‘เนี้ยลี่’หัวเราะและกล่าวเยาะเย้ยผู้ควบคุมกิจการ’เสิ่นหมิง’
ใบหน้าของ’เสิ่นหมิง’ซีดเผือกริมฝีปากของเขาสั่นเนื่องด้วยความโกรธ นอกจากนี้การฟังคำเหน็บแนมของ ‘เนี่ยหลี่’ถ้ามันเป็นไปได้ เขาอยากจะตบหัว’เนี่ยหลี่’ให้จมลงไปในโคลนเสียจริง ๆ!
จากการเดิมพัน ร้อยห้าสิบล้านเหรียญจิตรมารนี้ ‘เสิ่นหมิง’สงสัยเหลือเกิน ว่าตัวเขาจะอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งกับผู้นำตระกูลศักดิ์สิทธิ์อย่างไรดี
จบตอน…
แปลโดย Mono Asuji NaJa
ช่วยเสริมโดย Kimaera (ฝากนักแปลท่านอื่นช่วยดูแลนักแปลท่านนี้ด้วยครับ ถึงแม้จะยังแปลได้ไม่สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็แปลได้ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ )ที่มา: