I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Tales of Demons & Gods (妖神记) ตอนที่ 95 เจ้าเมืองที่ไร้อำนาจ

| Tales of Demons & Gods (妖神记) | 6844 | 2427 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

‘เอียจื้ออวิ้น’นิ่งเงียบแล้วเดินไปส่ง ‘เนี่ยลี่’ที่ประตูทางที่เชื่อมต่อไปยังลานกว้างหลังจากนั้น’เอียจื้ออวิ้น’ ได้ก้มหน้าแล้วพูดขึ้นมาว่า

“เนี่ยลี่  จากนี้ไป อย่าได้สนใจข้าอีกเลย”

“ทำไมหล่ะ”

‘เนี่ยลี่’ขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะที่ถาม’เอียจื้ออวิ้น’

‘เอียจื้ออวิ้น’เงยหน้าขึ้นมามอง’เนี่ยลี่’ด้วยดวงตาอันสดใสที่ถูกแต่งแต้มด้วยความโศกเศร้า และได้ถามขึ้นมาว่า

“หรือเจ้าไม่ได้กลัวตาย ? เจ้าไม่ได้กลัวว่าพ่อของข้าจะฆ่าเจ้าเหรอไง?”

“ฆ่าข้างั้นเหรอ? ถ้าพ่อของเจ้าต้องการจะฆ่าข้า  เค้าคงทำไปแล้วหล่ะ”

ดวงตาของ’เนี่ยลี่’มองลึกเข้าไปในตาของเธอ

“หรือเพียงแค่ไล่ข้าออกไปจากคฤหาสน์ของท่านเจ้าเมืองถ้าหากไล่ข้าออกไป ข้าเองก็ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
พวกสมาคมมืดจะไม่มีทางให้ข้ารอดออกไปแต่ว่า พ่อของเจ้าก็ไม่ได้ทำเช่นนั้น”

“แล้วทำไมพ่อข้าไม่ทำเช่นนั้น”

ภายในดวงตาของ ‘เอียจื้ออวิ้น’ เหมือนมีประกายแห่งความสงสัย ‘เนี่ยลี่’มองไปตามทางที่’เอียเซิ่ง’เดินจากไปข้างหลังของเค้าเหมือนกับหอคอยเหล็กแต่ก็เต็มไปด้วยความเหงา และอ้างว้าง ราวกับตะวันที่กำลังจะลับขอบฟ้า

ตอนนั้นเอง เนี่ยลี่ก็ได้เข้าใจว่า สิ่งที่ ‘เอียเซิ่ง’พูดไว้ หมายความว่าอย่างไร

“มันเป็นเรื่องของลูกผู้ชายสินะ แต่ช่างเถอะ  ตอนนี้เจ้าต้องฟังข้าก่อน”

ตอนนี้’เนี่ยลี่’เข้าใจทุกสิ่งแล้วไม่ใช่ว่า’เอียเซิ่ง’จะไม่ได้ห่วง’เอียจื้ออวิ้น’แต่สิ่งที่’เอียเซิ่ง’แบกรับไว้บนไหล่มันหนักหนามากเกินกว่าที่จะจินตนาการได้

“ทำไมข้าต้องฟังเจ้า?”

‘เอียจื้ออวิ้น’บุ้ยปากด้วยความไม่พอใจเธอคิดว่าวันนี้มันมีเรื่องที่ไม่ถูกต้องมากเกินไปแล้ว แม้ว่าความสัมพันธ์ของเธอกับพ่ออาจจะไม่ได้ใกล้ชิดกันมากนักถึงจะไม่ค่อยได้พูดคุยสนิทสนมกันแบบเหมือนพ่อลูกทั่ว ๆ ไปแต่นี่เป็นครั้งที่ที่เธอถูกพ่อตำหนิ’เอียจื้ออวิ้น’จึงรู้สึกเจ็บปวดในใจ แต่ในเวลานี้เธอกลับดูงดงามเป็นพิเศษ

“แค่ก แค่ก!”

‘เนี่ยลี่’ ไอออกมาเป็นเลือดเค้ายิ้มออกมาเล็กน้อย แล้วพูดว่า

“เจ้าส่งข้าแค่นี้ก็พอแล้ว”

“อาการเจ้าแย่ลงใช่ไหม”

เธอมอง’เนี่ยลี่’เพื่อสังเกตุอาการ ‘เอียจื้ออวิ้’นรีบสอบถามด้วยความเป็นห่วง และรีบประคอง’เนี่ยเลี่ย’ไว้

“ข้าได้รับบาดเจ็บมากกว่าที่คิด ข้าคงต้องใช้เวลาพักรักษาตัวสักสองวัน”

‘เนี่ยลี่’ พูด แล้วแกล้งเอามือไปจับที่หน้าอกของ’เอียจื้ออวิ้น’

เธอมองหน้าที่ของ’เนี่ยลี่’เธอจ้องตาแขม็งแล้วคิดว่าจะมีใครหยาบช้าไร้ยางอาย ได้มากกว่า’เนี่ยลี่’อีก?ในหัวของเค้าคิดอะไรอยู่บ้างเนี่ย?

หลังจากที่เค้าได้รับบาดเจ็บจากพ่อของเธอ, ทำไมเค้ายังต้องการที่จะพักอยู่ที่นี่อีกสองวัน?

หรือว่าในหัวของ’เนี่ยลี่’จะมีแต่ขี้เลื่อย ?(ในต้นฉบับจะบอกว่าในหัวของเนี่ยลี่มีแต่แป้งเปียก ขอเปลี่ยนเป็นขี้เลื่อยแบบบ้านเราแทน แปลง่าย ๆ ว่าไม่มีสมองเหมือนกัน) ทำไมเค้าไม่กลัวว่าพ่อเธอจะโกรธแล้วมาฆ่าเค้าเลย?

ในตอนนี้ ณ มุมหนึ่งของคฤหาสก์ของเจ้าเมืองมีชายสองคนยืนยิ้มอย่างภาคภูมิใจ หนึ่งในนั้นคือ’เอียเซิ่ง’ ที่เดินออกมาจากสวนของ’เอียจื้ออวิ้น’ส่วนอีกคนก็คือประธาน’กู้เหยียน’ของสมาคมปรุงยา

“ท่านเจ้าเมือง  ดูเหมือนท่านจะทำให้เขาบาดเจ็บหนักเกินไปแล้ว หากอาจารย์ของเค้าเกิดความไม่พอใจขึ้นมา อาจจะเป็นปัญหาต่อเมืองกลอรี่ของเราขึ้นมาก็เป็นได้”

‘กู้เหยียน’ยิ้มอย่างขมขื่นขณะที่กำลังพูดคุยกับ’เอียเซิ่ง’

“ข้าทำเกินไปอย่างนั้นเหรอ?”

ความรู้สึกที่อยากฆ่า ยังคงออกมาจากสายตาของ’เอียเซิ่ง’

“มันดีแค่ไหนแล้วที่ข้ายังไว้ชีวิตมัน ไอ้เด็กเหลือขอนี่ บังอาจมาหาลูกสาวข้าในคฤหาสก์ของข้า แม้กระทั่งทำลายความบริสุทธิ์ของลูกสาวข้าไป”

‘กู้เหยียน’ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน เพราะ’เนี่ยลี่’ก็ทำเกินไปจริง ๆ สำหรับเรื่องนี้มีอะไรกับลูกสาวของท่านเจ้าเมืองในคฤหาสก์ของเค้า เรื่องแบบนี้ คงมีงเนี่ยลี่งคนเดียวที่กล้าทำ ท่านเจ้าเมืองไม่ฆ่าเค้าก็นับว่าโชคดีแล้ว

“แล้วทำไมท่านเจ้าเมืองถึงไม่โยนเค้าออกไปข้างนอกคฤหาสก์หล่ะ?”

“จะให้ข้าใช้อะไรโยนมันออกไปหล่ะเจ้าเด็กเหลือขอนี่ มีความรอบรู้ดั่งพระเจ้าและยังมีวิญญาณอสูร แล้วยังมีความสามารถให้การต่อสู้กลายเป็นโมฆะได้”

“มีเพียงร่างทรงอสูรระดับแบล็คโกลด์เพียงไม่กี่คนที่จะสามารถตรวจสอบได้ว่าใครอยู่ที่ไหน, เจ้าเด็กเหลือขอนั่น สามารถไปมาที่ไหนก็ได้ในคฤหาสก์หลังนี้ ! ปัญหาก็คือ ข้าไม่รู้ว่าเค้าไปที่ห้องลูกสาวข้าได้อย่างไร, เจ้าเด็กเหลือขอ นั่นทำได้ง่ายเหมือนกับเป็นเรื่องเด็ก ๆ! นั่นมันทำให้ข้าแทบบ้าหรือข้าจะต้องเอาลูกสาวข้าไปขังในในห้องลับสักห้อง?”

‘เอียเซิ่ง’ ถอนหายใจอย่างแรง

“เด็กคนนี้สามารถเป็นร่างทรงอสูรระดับโกลด์ได้ตั้งแต่อายุยังน้อยนอกจากนี้ เค้ายังมีสูตรยาวิเศษ ที่คอยสนับสนุนเมืองกลอรี่เมืองนี้ ยังต้องการพึ่งเค้าอีกในการปกป้องอีกในอนาคต เพื่อความรุ่งเรืองของเมืองกลอรี่ข้าถึงต้องอดทนอดกลั้นขนาดนี้!”

หลังจากที่ได้ยินคำพูดของ’เอียเซิ่ง’ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ‘กู้เหยียน’รู้สึกเหมือนฟังเรื่องตลกที่ท่านเจ้าเมืองผู้น่าเกรงขาม ทำอะไรไม่ถูกกับเด็กอายุ 13 ปี

“อายุแค่สิบสามปี แล้วยังกล้าที่จะท้าทายทำตัวเจ้าชู้ในคฤหาสก์ของเจ้าเมืองอะไรที่ทำให้เจ้าเด็กนี่บ้าบิ่นขนาดนี้?”

“ในมุมมองของข้าหากจื้ออวิ้น จะเจริญรอยตามท่าน นางคงจะต้องเผชิญความยากลำบาก”

“จากที่ข้าได้รู้มาจนถึงตอนนี้เจ้าเด็กเหลือขอไม่ได้มีแค่ลูกสาวข้าคนเดียว ยังมีลูกสาวของตระกูล ปีกมังกร (เซียวหนิงเอ๋อ) และ ลูกสาวตระกูลฮูเหยียน (ฮูเหยียน หลานเร่อ) เจ้าเหลือขอนี่จะต้องไม่มีเมีย เพียงคนเดียวแน่นอนในอนาคต!”

‘เอียเซิ่ง’รู้สึกไม่พอใจอย่างที่สุด

“แล้วท่านเจ้าเมืองจะทำเช่นใด”

‘กู้เหยียน’มองไปที่เอียเซิ่งถามพร้อมกับหัวเราะไปพร้อมกัน

“ข้าจะทำอะไรได้ ข้าทำได้เพียงอดทนเท่านั้น!”

‘เอียเซิ่ง’ กัดฟันจนแน่นตั้งแต่ที่เขาขึ้นเป็นเจ้าเมืองไม่มีครั้งไหนที่จะทำให้เค้าเสียหน้าเท่านี้มาก่อน

“ก่อนหน้านี้ ถ้าเจ้าเด็กบ้านี่ แสดงความใจเสาะหลบอยู่หลัง จื้ออวิ้นแม้ว่าข้าจะต้องละเมิดต่ออาจารย์ที่ยิ่งใหญ่ของเขาข้าคงจะฆ่าเขาไปแล้ว! แต่ถึงอย่างนั้นเค้าก็ยังมีความกล้าอยู่ แม้จะเพียงเล็กน้อยก็ตาม แม้ว่าเขาอาจจะมีผู้หญิงหลายคนในอนาคต แต่ข้าคิดว่า เค้าจะไม่ทำให้จื้ออวิ้นต้องตกต่ำลงแน่นอน”

ได้ฟังคำพูดของ’เอียเซิ่ง’ ‘กู้เหยียน’ ก็รู้สึกโล่งใจยังเป็นเรื่องดี ที่เรื่องนี้ยังไปไม่ถึงจุดที่แก้ไขไม่ได้

“กู้เหยียน เจ้ารู้ไหมว่า [เคล็ดคืนกลับวิญญาณ] คืออะไร?”

‘เอียเซิ่ง’ นึกขึ้นได้จึงสอบถาม’กู้เหยียน’

“ข้ายังไม่ทราบ ยังไม่มีความชัดเจน ในเรื่องนี้”

‘กู้เหยียน’ส่ายหัว แล้วตอบกลับไป

“ตามคำพูดของไอ้เด็กเหลือขอนี่ ถ้าเค้าใช้ [เคล็ดคืนกลับวิญญาณ] เขาก็จะสามารถเอาชนะข้าได้ ถึงจะอย่างนั้น แต่ดูเหมือนว่า ผลสะท้อนกลับของ[เคล็ดคืนกลับวิญญาณ] จะรุนแรงมากแน่นอนว่าหลังจากที่ใช้แล้วเขาอาจจะต้องแลกชีวิต คงเป็นทางเลือกสุดท้าย ที่อาจารย์ของเขาได้สอนไว้ ถ้าเป็นไปได้ท่านประธานกู้เหยียนท่านลองพยายาม สอบถาม [เคล็ดคืนกลับวิญญาณ] จากเจ้าเด็กคนนี้ให้ได้!”

‘เอียเซิ่ง’เงียบไปสักครู่ หลังจากที่พูดจบ
‘กู้เหยียน’ ยึนตะลึงอยู่ชั่วครู่ แล้วพูดว่า

“หรือท่านเจ้าเมืองคิดจะใช้ [เคล็ดคืนกลับวิญญาณ] ? เป็นไปไม่ได้! เพราะท่านเจ้าเมืองบอกว่า [เคล็ดคืนกลับวิญญาณ]มีผลกระทบอย่างรุนแรง?”

แล้วทั้งสองคนยืนนิ่งเงียบ จากนั้นก็ถอนหายใจอย่างแผ่วเบา

“เทคนิคต้องห้ามแบบนี้ ไม่มีทางที่จะใช้ จนกว่าจะ สิ้นหนทางจริง ๆ ยังไงซะ ถ้าหากไม่มีการเตรียมการที่จะรับมืออันตราย เมื่อเร็ว ๆ นี้  สมาคมมืด เริ่มเคลื่อนไหว จนไม่อาจควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว!”

“หรือว่า มีข่าวจากท่าน เอียโม่?”

‘กู้เหยียน’มองไปที่ ‘เอียเซิ่ง’และถามด้วยความสงสัย

“ถูกต้อง สมาคมมืด ต้องการ ใช้สัตว์อสูร ทำลายความรุ่งเรืองของเมืองกลอรี่”

“ใช้สัตว์อสูรทำลายเมืองกลอรี่ งั้นเหรอ?ทำไปแล้วพวกเขาจะได้รับผลประโยชน์อันใด”

‘กู้หยียน’รู้สึกแปลกใจ

เจ้าพวกบ้าสมาคมดำ? ถ้าเมืองกลอรี่ถูกทำลายลงไป พวกเค้ายังจะมีชีวิตรอดได้อีกเหรอ?

“พวกมันอาจมีวิธีหลบเลี่ยงการโจมตีจากสัตว์ร้ายหวกนั้น!”

‘เอียเซิ่ง’พูด

‘กู้เหยียน’ยืนคิดแล้วพูดขึ้นมาว่า

“ ทำไมท่านไม่ลองปรึกษาเนี่ยลี่ ดูสักหน่อยหล่ะ? บางทีเค้าอาจจะมีวิธีแก้ปัญหานี้ได้!”

“ปรึกษาเจ้าเด็กเหลือขอนั่นนะเหรอ?”

‘เอียเซิ่ง’ พูดด้วยหน้าบูดบึ้ง

“แค่ข้าไว้ชีวิตเจ้าเด็กนั่น มันก็ดีแค่ไหนแล้ว แล้วจะให้ข้าไปขอให้เค้าช่วย ข้าไม่มีมีวันทำเช่นนั้นเด็ดขาด”

หลังจากได้ยินคำพูดของ’เอียเซิ่ง’ ‘กู้เหยียน’ยิ้มอย่างขมขื่นเขาเริ่มไม่แน่ใจว่าจะสามารถที่จะไกล่เกลี่ยความขัดแย้งของทั้งคู่ได้ภายในห้องของ’จืออวิ้น’ ‘เนี่ยลี่’กำลังนั่งสมาธิอยู่บนเตียง

แม้ว่า’เนี่ยลี่’จะได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงจาก’เอียเซิ่ง’ ทำให้ ขอบเขตวิญญาณของ’เนี่ยลี่’มีรอยแยกแต่เพราะเหตุนี้เองทำให้เขาพัฒนาขึ้นไปได้อีกขั้น เขาได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง คลื่นพลังวิญญาณได้หมุนวนไปรอบ ๆ ตัวของ’เนี่ยลี่’
หลังจากที่ได้บ่มเพาะพลังวิญญาณ ‘เนี่ยลี่’ได้พัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัดอีกไม่นานพลังวิญญาณของเนี่ยลี่ จะเลื่อนระดับขึ้นไป

‘เอียจืออวิ้น’ ไม่ได้อยู่ในห้องเดียวกับ’เนี่ยลี่’ตอนนี้ เธออยากจะไปขอร้องพ่อเธอ แต่พอคิดถึงความเข้มงวดของพ่อเธอแล้ว เธอได้แต่ถอนหายใจ

ด้วยการแม่ของเธอเสียชีวิตไปเร็วเกินไปนักความสัมพันธ์ของเธอกับพ่อก็ไม่เคยได้ใกล้ชิดกัน นับแต่แต่เธอยังเด็ก ก็ได้รับการกวดขันอย่างเข้มงวด

เขาให้เธอฝึกซ้อมแทบไม่ได้หยุดเพราะการบ่มเพาะของเธอนั้นสูงกว่าเพื่อน ๆ ในวัยเดียวกัน แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม ความเข้มงวดของพ่อเธอในวันนี้ เธอไม่เคยได้เจอะเจอมาก่อน

“เนี่ยลี่ ข้าจะทำยังไงกับเจ้าดี?”

พอนึกย้อนไป ทั้ง ๆ ที่เนี่ยลี่ก็รู้ดีว่า ไม่อาจจะเป็นคู่ต่อสู้ของพ่อเธอได้แต่’เนี่ยลี่’ยังคนยืนหยัดอยู่ข้างหน้าเธอนั่นก็ทำให้เธอเริ่มรู้สึกหวั่นไหวขึ้นมาในใจ

แม้ว่า’เนี่ยลี่’ มักจะทำเรื่องบ้า ๆ บอ ๆ แต่ในช่วงเวลาที่สำคัญ เขาก็แสดงความกล้าหาญออกมา  นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้เธอรู้สึกผูกพัน และมีความสุขมากพอแล้ว

ในเวลาเดียวกัน,สิ่งที่พ่อของเธอทำ ทำให้ ‘เอียจืออวิ้น’ รู้สึกสับสนมาก เธอคิดว่าพ่อของเธอมีอะไรในใจมากกว่าความโกรธ

แต่ถึงอย่างไร เธอคิดว่า สิ่งที่พ่อของเธอต้องการนั้น ไม่ได้มีเพียงแค่ให้เธอเลื่อนระดับไปเป็นร่างทรงอสูรระดับโกลด์ภายในหนึ่งปี’เอียจืออวิ้น’อยากรู้ว่าพ่อของเธอคิดอะไรอยู่ แต่ถึงกระนั้น เธอก็จะฝึกอย่างหนัก และจะไม่ทำให้พ่อของเธอผิดหวัง

 

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments