I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Tales of Demons & Gods (妖神记) ตอนที่ 98 ให้ข้าเป็นอาจารย์ของเจ้าเอามั้ย

| Tales of Demons & Gods (妖神记) | 6684 | 2427 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

“หวังว่าคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเจ้าเนี่ยหลี่ หรอกมั้งนะ?”

เมื่อมองไปยัง’เนี่ยหลี่’ที่ค่อยๆหายไปกับความมืด ‘ตู่ซือ’ทำหน้ามุ่ยขมวดคิ้วเป็นกังวล กับสถานที่ที่ไม่รู้จักอย่างเขตแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์

เมื่อเห็น’ตู่ซือ’ทำแบบนั้น’หลู่เพียว’ก็กลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่

“ตู่ซือ ข้าว่าเจ้าคิดมากเกินไปและไม่เชื่อใจในตัวเนี่ยหลี่นะ เจ้าคิดว่าสิ่งนี้จะเป็นเรื่องยากสำหรับเจ้าสัตว์ประหลาดนั่นรึไง หากเจ้ามีเวลาว่างมากพอที่จะเป็นห่วงเจ้าเนี่ยหลี่นั่น ทำไมไม่รีบรวมร่างผสานกับจิตอสูรปีศาจที่เนี่ยหลี่มอบให้เล่า ? ข้าอดใจไม่ไหวแล้วนะที่จะได้เห็นเจ้ารวมร่างกับ พยัคฆ์อสูรสีชาด ใจจะขาดอยู่แล้ว!”

‘หลู่เพียว’เคาะแหวนมิติอย่างตื่นเต้น  ‘ตู่ซือ’และ’หลู่เพียว’เดินหาจุดที่เหมาะสำหรับการฝึกฝนของพวกเขา เพื่อรอคอย’เนี่ยหลี่’

เมื่อได้เห็นการกระทำของพวกเขา ช่วยไม่ได้ที่’เอี้ยเซิ่’ง จะรู้สึกพลอยยินดีไปด้วย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ ‘ตู่ซือ’และ’หลู่เพียว’ก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็วเพียงนี้ เพราะพวกเขาพยายามฝึกฝนอย่างหนักไม่แม้แต่จะปล่อยให้เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์โดยไม่ทำอันใดเลย สำหรับนักเรียนคนอื่นนี่คงจะเป็นสิ่งที่หนักหนาแสนสาหัสเกินจะรับไหว

‘เอี้ยเซิ่ง’และพวกคณาจารย์ เดินไปยังด้านข้างเพื่อพักผ่อน ขณะที่ ‘ตู่ซือ’และ’หลู่เพียว’ มุ่งมั่นกับการผสานรวมร่างกับจิตอสูรปีศาจ
ภายในเขตแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์

ภาพในด้านหน้าถูกบิดเบือนเป็นภาพต่างๆนับไม่ถ้วน ทั่วประกายตาของ’เนี่ยหลี่’ราวกับว่ากำลังเดินผ่านผ่านช่วงเวลาและพื้นที่ที่ไม่มีที่สิ้นสุด  ‘เนี่ยหลี่’เดินเข้ามาและจ้องมองไปรอบ ๆ พื้นที่ถูกล้อมรอบไปด้วยทุ่งหญ้าและดอกไม้ที่เกิดเป็นภาพที่สวยงามเกินจะบรรยาย

เมื่อ’เนี่ยหลี่’ได้ก้าวเท้ามายังเขตแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ ‘เนี่ยหลี่’มีความรู้สึกว่าจิตวิญญาณของเขาตื่นตัวอย่างแปลกประหลาด ราวกับจะระเบิดและขยายตัวออกอย่างไม่หยุดยั้ง

ด้วยที่จิตวิญญาณของเนี่ยหลี่เกิดการขยายตัวขึ้น ทำให้’เนี่ยหลี่’ต้องเจ็บปวดและทรมานสุดจะทานทนไว้ได้ เขตแดนสวรรค์เป็นสถานที่ ที่ทำให้จิตวิญญาณเกิดการขยายตัวสำหรับการฝึกเพิ่มพลังวิญญาณโดยแท้จริง!

การฝึกภายในเขตแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์เป็นสิ่งที่ทำให้พัฒนายิ่งกว่าฝึกภายนอกหลายเท่านัก!

จิตวิญญาณของ’เนี่ยหลี่’ขยายตัวออกถึง หนึ่งในสามของพื้นที่ทั้งหมดความเจ็บปวดบนใบหน้าของ’เนี่ยหลี่’ที่แสดงออกมาบ่งบอกถึงความทรมานอย่างแสนสาหัส

‘เนี่ยหลี่’ลืมตาขึ้นมองดู พบเจอกับบุคคลผู้หนึ่งกำลังบ่มเพาะพลังอยู่คาดว่าน่าจะเป็น ‘เสี่ยวหนิงเอ๋อ’สายตาของ’เนี่ยหลี่’นั่นพร่ามัวมากในขณะนี้ จนไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนว่าผู้ใดเป็นใคร ข้างในจิตวิญญาณของเขา อสูรทั้งสองตน คือ เงาอสูรจิตปีศาจ และ แพนด้าเขี้ยวปีศาจ ได้รับการเติบโตที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง

สถานที่นี้ เหมาะสมแล้วที่จะถูกเรียกว่าเขตแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธ์ ‘เนี่ยหลี่’รู้สึกได้ว่าจิตอสูรทั้งสองได้เติบโตอย่างรวดเร็วภายในจิตวิญญาณของ’เนี่ยหลี่’อย่างต่อเนื่อง ระดับความเร็วการบ่มเพาะพลังของเจ้าสองตัวนี้ เร็วจนน่ากลัวเลยทีเดียว (ก็เล่นเฟ้นหาแต่การเติบโตระดับพระเจ้า เป็นไงหละไอ้หลี่)

ทันใดนั้นก็เกิดเสียงที่แหบพร่าคล้ายกับเสียงคนแก่ขึ้นในจิตใต้สำนึกของ’เนี่ยหลี่’

“เจ้าเด็กเหลือขอ ทำไมเจ้าถึงผสานจิตอสูรถึงสองตนไว้ในจิตวิญญาณของเจ้าได้?”

“ผู้ใดกัน?”

‘เนี่ยหลี่’ถามกลับ ในขณะที่รวบรวมจิตวิญญาณอันแรงกล้า ทำให้สัมผัสได้ว่ากำลังถูก สอดแนมอยู่แต่จิตวิญญาณไม่ได้ส่งกลิ่นอายมุ่งร้ายเนี่ยหลี่จึงไม่ได้ใส่ใจนัก

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ตอบคำถามของข้าก่อนเจ้าเด็กเหลือขอ ข้าถึงจะตอบเจ้าว่าข้าเป็นใคร”

“เป็นเพราะข้าฝึกฝนเทคนิคการบ่มเพาะพลังพิเศษดังนั้นจึงสามารถทำมันได้….”

‘เนี่ยหลี่’ตอบอย่างใจเย็น

“โห..เทคนิคพิเศษอันใดกันรึ?”

“ข้าว่านี่เป็นคำถามที่สองแล้วนะใช่มั้ย?”

‘เนี่ยหลี่’กวาดสายตาเพื่อมองหาต้นเสียงที่ถามเขา

“เอาแต่ถามคำถามผู้อื่นแต่กลับไม่ยอมตอบคำถามดูเหมือนว่าท่านคงจะไม่ได้รับการสอนเรื่องมารยาทมาสักเท่าไหร่นัก!”

เจ้าของเสียงที่แหบแห้งหัวเราะและกล่าวว่า

“เจ้านี่ช่างจัดการยากเสียจริง ข้าก็คือผู้หลับไหลอยู่ภายในเขตแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธิมานานหลายศตวรรษแล้ว แม้ว่าข้าจะได้พบเจออัจฉริยะเพียงไม่กี่คนก่อนหน้านี้ พวกมันก็ไม่ถูกตาต้องใจข้า มีเพียงเจ้ากับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆเท่านั้นที่ค่อนข้างจะมีพรสวรรค์ อย่างไรก็ตามความสามารถของเจ้ายังดีกว่านิดหน่อย ในวันนี้ข้าได้หมายตาเจ้าไว้แล้ว ข้าจะยอมให้เจ้าเป็นศิษย์ของข้าก็ได้นะ!”

“เจ้าจะยอมรับข้าเป็นศิษย์อย่างนั้นหรือ เจ้าต้องการให้ข้ารับเจ้าเป็นอาจารย์ของข้างั้นรึ?”

‘เนี้ยหลี่’กล่าวขึ้นอย่างดูแคลน เป็นอาจารย์ข้ายังไง? เจ้าเป็นใคร? เจ้ายังมีอะไรที่จะสามารถสอนข้าได้ ถ้าหากบังเอิญมีคนประหลาดมาและอยากจะเป็นอาจารย์ของข้า ถ้าอย่างนั้นข้าไม่มีอาจารย์เต็มไปหมดอย่างนั้นหรือ?

“เจ้าเด็กบ้า เจ้าไม่รู้หรือว่าข้าเป็นใคร?”

เสียงแหบแห้งกล่าวขึ้นอย่างภาคภูมิใจ

“ท่านเป็นใครอย่างนั้นหรือ?”

‘เนี้ยหลี่’ถามด้วยน้ำเสียงค่อนข้างดูถูก

“หลังจากยุคแห่งความมืดจนมาถึงเรา ห้าร่างทรงอสูรระดับตำนาน ได้นำผู้รอดชีวิตนับหมื่นคนมาก่อตั้งเมืองกลอรี่ และต้านทานการโจมตีประดุจน้ำหลากของฝูงสัตว์อสูร! ข้าเป็นหนึ่งในห้าผู้ที่เป็นบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งเมืองกลอรี่ เอีย ยัน! ข้ายังเป็นต้นกำเนิดตระกูลลมหิมะ เจ้าเด็กสารเลว เจ้าตกใจที่ได้ยินชื่อของข้ารึยัง?”

เสียงแหบแห้งดูจะภาคภูมิใจไม่น้อย

“ข้าได้ปิดผนึกจิตวิญญาณของตัวเองเอาไว้ในชายแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธิเพื่อจะปกป้องเมืองกลอรี่ ถ้าไม่ได้ข้าเมื่องกลอรี่คงจะล่มสลายไปแล้ว!”

“โอ้ ท่านเป็นหนึ่งในห้าผู้ก่อตั้งอย่างนั้นหรือ!”

‘เนี้ยหลี่’เข้าใจวาบขึ้นเขาประสานมือของเขาแล้วพูดว่า

“ต้องของอภัยจริงๆ แต่ท่านผู้ก่อตั้งข้าไม่สนใจที่จะเป็นศิษย์ของท่านน่ะ”

“ไม่สนใจ? เจ้าไม่สนใจเป็นศิษย์ข้าจริงๆอย่างนั้นหรือ?”

‘เอียยัน’โมโหมาาก

“เจ้าเด็กบ้าเจ้ารู้บ้างรึเปล่า นี่เป็นโอกาศดีแค่ไหนที่เจ้าได้รับ? ด้วยคำแนะนำของข้า เจ้าจะสามารถก้าวสู่ร่างทรงอสูรระดับตำนานในชีวิตของเจ้า หรืออย่างน้อยที่สุดก็เป็นร่างทรงอสูรระดับแบล๊คโกลด์”

“ข้าไม่จำเป็นต้องมีท่านเป็นอาจารย์ของข้า ข้าก็สามารถกลายเป็นร่างทรงอสูรระดับตำนานได้”

‘เนี้ยหลี่’กล่าวเสียงดัง แม้ว่าข้าจะเคารพท่านในฐานะผู้ก่อตั้งเมืองกลอรี่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าข้าจะต้องมีท่านเป็นอาจารย์ของข้า!

“เจ้า…….จองหองเกินไปแล้ว เจ้าคิดว่าการเป็นร่างทรงอสูรระดับตำนานนั้นเป็นเรื่องง่ายอย่างนั้นหรือ? ร่างทรงอสูรระดับตำนานเป็นขั้นสุดยอดภายในทวีปนี้! กว่าผู้ที่มีความสามารถพิเศษคนอื่นๆ กับ คนธรรมดาหลายคนยังไม่อาจไปถึงได้!”

ถ้าเอีย ยันยังคงมีชีวิตอยู่ เขาคงจะระเบิดลงเพราะความโมโหเป็นแน่ ร่างทรงอสูรระดับตำนานอย่างเขาต้องการที่จะรับ’เนี้ยหลี่’เป็นศิษย์ แต่เขากลับถูกปฏิเสธนี่เป็นเรื่องที่สุดจะทานทน!

“เจ้าควรรู้ไว้นะว่ามีคนมากมายต้องการที่จะเป็นศิษย์ข้า?”

“เอาล่ะ เอาล่ะ!”

‘เนี้ยหลี่’กล่าวขึ้นอย่างยอมแพ้

“ท่านผู้ก่อตั้งเนื่องจากท่านต้องการเป็นอาจารย์ข้า ท่านมีอะไรจะมาสอนข้าล่ะ?”

“ในฐานะที่เป็นร่างทรงอสูรระดับตำนาน ก่อนอื่นเลยข้ารู้ทุกสิ่งที่อยู่ในทวีปนี้ อีกทั้งข้ายังมีความเชี่ยวชาญทางดาราศาสตร์ ภูมิศาสตร์ และ ลวดลายจารึก ข้ายังมีเคล็ดวิชาการฝึกฝนที่ทรงอำนาจอีกมากมาย ข้ายังสามารถให้คำแนะนำในการต่อสู้ด้วยจิตวิญญาณอสูรแก่เจ้าได้อีกด้วย!”

‘เอีย ยัน’กล่าวขึ้นด้วยความภาคภูมิใจแบบเต็มเหนี่ยว

“ข้ามีห้าเคล็ดวิชาอันทรงพลังที่ตกทอดมาอยู่ที่นี่ เจ้าสามารถเลือกหนึ่งในนั้นไปฝึกฝนได้!”

แสงทั้งห้าปรากฏขึ้นต่อหน้า’เนี้ยหลี่’ แต่ล่ะอันมีรูปร่างคล้ายหนังสือ

“ขอข้าดูเคล็ดการฝึกฝนอันทรงพลังที่ท่านมีก่อน!”

‘เนี้ยหลี่’จ้องมองไปยังหนังสือทั้งห้าเล่ม

“นี่มันอะไรกัน? ท่านจะต้องประสาทแน่ที่นำ เคล็ดวิชาจิตไม้หมุนวน ออกมา นี่ล้อเล่นใช่ไหม สิ่งนี้เป็นเคล็ดวิธีฝึกฝนสำหรับร่างทรงอสูรระดับแบล๊คโกลด์ใช่หรือไม่? เคล็ดการฝึกฝนนี้มีข้อบกพร่องบางอย่าง ตรงบทที่สามความจริงแล้วต้องส่งพลังวิญญาณไปยังจุดเทียนชู หากไม่เช่นนั้นสมควรเป็นการทำลายอนาคตตนเอง? เพราะว่าเทียนชูเป็นจุดที่ใช้ในการเชื่อมต่อฟ้ากับดิน!”

“เอ่อ…..ข้าคงเอาออกมาผิดอันนึง”

‘เอีย ยัน’เหลือบมองอย่างงุ่มง่ามเล็กน้อย หนังสือหนึ่งในนั้นก็หายไป

“ไหนขอดูอีกอันซิ นี่อะไร? เคล็ดการฝึกฝนจิตวิญญาณหยาง? เคล็ดการฝึกฝนนี้มันช้าเกินไป ท่านสามารถฝึกฝนเคล็ดวิชานี้ได้เฉพาะเวลากลางวันที่มีแสงแดดมากที่สุด และไม่สามารถฝึกฝนยามค่ำคืนได้ ถ้าเช่นนั้นกว่าข้าจะเป็นร่างทรงอสูรระดับตำนานข้าคงไม่อายุปาเข้าไป เจ็ดสิบแปดสิบแล้วงั้นรึ ถ้าหากข้าเปลี่ยนจากหยางที่ลุกโชติช่วยภายในร่างเป้น หยินหยางพาดผ่านความรวดเร็วในการฝึกสมควรเพิ่มขึ้นเป็นสามเท่า!”

“…….”

‘เอีย ยันเ’งียบงันไปชั่วขณะ เขารู้สึกว่าที่’เนี้ยหลี่’กล่าวออกมานั้นลึกซึ้งมาก จนเขาอับจนคำพูดของตัวเอง

“แล้วดูนี่ นี่มันไม่ใช่ เคล็ดซากสุนัขป่างั้นรึ? เคล็ดวิชานี้ต้องใช้ร่วมการจิตวิญาณอสูรหมาป่าไม่ใช่หรือไง? บางทีความเป็นไปได้ที่มันอาจะเข้าถึงเขตแดนของร่างทรงอสูรระดับตำนาน………….”

“แล้วเจ้าชอบเคล็ดการฝึกฝนนี้หรือไม่?”

‘เอีย ยัน’ถามด้วยท่าทางปราบปลื้มเล็กน้อย

“สำหรับเคล็ดฝึกฝนนี้งั้นหรือ? ถ้าข้าจะถามว่าทำไม เคล็ดวิชาซากสุนัขป่าถึงมีแค่เก้าบท? มันสมควรบรรลุได้แค่ร่างทรงอสูรระดับตำนาน สามดาว แต่ทว่าเคล็ดวิชาซากสุนัขป่าของข้านั้นถ้าท่านต้องการข้าสามารถให้บทที่สิบแก่ท่านได้นะ? ข้ารับประกันได้เลยว่าหากท่านฝึกมันจะสามารถก้าวไปสู่ร่างทรงอสูรระดับตำนานห้าดาวได้ทีเดียว”

‘เนี้ยหลี่’กล่าว

“……”

‘เอีย ยัน’ถึงกับหมดคำพูด ภายในของเขาแทบจะเป็นบ้าออกมา เขาอยากรู้ว่าเจ้าเด็กนี้เกิดมาจากอะไร? ตามจริงเขาต้องการจะสั่งสอนเคล็ดการฝึกฝนแก่มันแต่ทว่าเขากลับถูกสอนแทนงั้นรึ?

หลายปีที่ผ่านมามีอัจฉริยะมากมายที่’เอียยัน’เคยพบมาก่อนถึงแม้ว่าจะไม่ถึงหมื่น แต่ก็นับได้ว่าเป็นพันคน พวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นหัวกะทิของเมืองกลอรี่ แต่ไม่มีใครเลยที่เหมือนสัตว์ประหลาดเช่นเนี้ยหลี่ เคล็ดการฝึกฝนทั้งห้าของเขาที่เอาออกมาล้วนแล้วแต่ทรงพลังมากแต่ในมุมมองของเนี้ยหลี่พวกมันล้วนไร้ค่า

‘เอียยัน’ไม่เข้าใจจริงๆว่าเนี้ยหลี่มีความรู้มากมายเช่นนั้นได้อย่างไร? มันเป็นความจริงที่น่ากลัวสำหรับคนที่อยู่มานับพันปีเช่นเขา

 

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments