I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Tales of Demons & Gods (妖神记) ตอนที่ 101 กลืนกินจิตวิญญาณอสูร

| Tales of Demons & Gods (妖神记) | 7428 | 2427 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

‘เนี่ยหลี่’ พร้อมกับ ‘เสี่ยวหนิงเอ๋อ’ ทั้งสองลุกขึ้นยืนขึ้นภายใต้การดูแล ของบรรพชนผู้ก่อตั้ง ‘เอี้ยหยาน’ ‘เนี่ยหลี่’ และ ‘เสี่ยวหนิงเอ๋อ’ ตรงเข้าไปยังส่วนลึกของเขตแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์

ในขณะที่ทั้งสองเดินไปยังส่วนลึกของ เขตแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์อยู่นั้น จู่ๆในหัวของพวกเขาก็ปรากฏเป็นภาพลวงตามากมายหลายประเภท ทำให้เห็นเป็นภาพลวงตาราวกับว่ามีสัตว์อสูรปีศาจนานับพันตัวเข้ามาโจมตีเข้ามาจากทุกทิศทาง

อย่างไรก็ตาม ภาพลวงตาระดับต่ำพวกนี้ ไม่สามารถทำให้’เนี่ยหลี่’ได้รับผลกระทบใดๆเลย เพราะจิตใจของ’เนี่ยหลี่’แข็งแกร่งมากกว่า

ใบหน้าของ’เสี่ยวหนิงเอ๋อ’ซีดลงเล็กน้อยหลังจากต่อสู้กับภาพลวงตาพวกนั้น เสื้อผ้าของนางเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อที่ซึมออกมา เหล้าอัจฉริยะที่เข้ามายังเขตแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ก่อนหน้านี้ไม่กล้าที่จะเข้ามายังส่วนลึกของเขตแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้แม้แต่น้อย สาเหตุเพราะว่ายิ่งลึกเข้าไปในเขตแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์มากเท่าไหร่ยิ่งทวีความอันตรายมากขึ้นนั่นเอง

‘เนี่ยหลี่’สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่รุนแรงแผ่ออกมาจากที่ ที่อยู่ไกลออกไป

มันเป็นกลิ่นอายของ ดาบเทพอัสนีดาวตก !

ช่างเป็นกลิ่นอายที่รุนแรงจริงเพียงแค่สิ่งที่มันปล่อยออกมา ก็สร้างความกดดันแก่ผู้ที่พบเจอมัน!

เมื่อเห็นว่ากลิ่นอายสังหารกำลังเหนือกว่า’เสี่ยวหนิงเอ๋อ’และเกือบจะกลืนกินนาง สีหน้าของ’เนี่ยหลี่’ดูจริงจังขึ้น ‘เนี่ยหลี่’รีบจัดการกับจิตวิญญาณของ’เสี่ยวหนิงเอ๋อ’ รวดเร็วราวกับฟ้าผ่า ร่างกายของนางสั่นสะท้านไปทั้งตัว จิตใจของนางเองก็ถูกชำระล้างไปด้วย

“หนิงเอ๋อ เจ้าไม่เป็นไรนะ?”

‘เนี่ยหลี่’ มองไปยัง ‘เสี่ยวหนิงเอ๋อ’ ‘เสี่ยวหนิงเอ๋อ’ยิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า

“อืมม..ขอบใจเจ้ามากนะ เนี่ยหลี่”

‘เสี่ยวหนิงเอ๋อ’ ขอบคุณ’เนี่ยหลี่’ด้วยใจจริง นางมองกลับไปยัง’เนี่ยหลี่’ ถ้า’เนี่ยหลี่’ไม่ช่วยนางแล้ว นางจักต้องถูกกลิ่นอายสังหารกลืนกินจิตใจนางไปแล้วอย่างแน่นอน

เนื่องจากเหงื่อที่ชุ่มไปทั้งตัวของนาง เสื้อผ้าที่แสนบางที่’เสี่ยวหนิงเอ๋อ’ได้สวมใส่อยู่ได้แนบชิดกับตัวนางเผยให้เห็นเรือนร่างที่งดงามชวนหลงใหลมากยิ่งขึ้น ยอดอกที่ชันขึ้นของนางช่างดูสง่างามยิ่งนัก

‘เสี่ยวหนิงเอ๋อ’นางกำลังจะกลายเป็นสาวงามและเสน่ห์ที่เพิ่มขึ้นของนางเมื่อนางได้โตเป็นสาวนั้นยังชวนให้หลงใหลอย่างมากมันช่วยไม่ได้เลยที่’เนี่ยหลี่’จะแสดงสีหน้าตกตะลึงเมื่อได้เห็นเรือนร่างของ’เสี่ยวหนิงเอ๋อ’ สร้างความว้าวุ่นในใจให้’เนี่ยหลี่’ไม่น้อย ใบหน้าของ’เนี่ยหลี่’เริ่มแดงระเรื่อขึ้นด้วยความเขินอาย เขาทำได้เพียงเกาจมูกพร้อมเบือนหน้าหนีไปทางอื่นแก้ความเขินอายเท่านั้น (รู้นะ ว่าในใจเอ็งไปถึงไหน เด็ก 13-14 แก่แดดด !!!)

“ท่านบรรพชนผู้ก่อตั้ง เอี้ยหยาน หากข้าต้องการจัดการ ดาบเทพอัสนีดาวตก แล้วให้ท่านมาติดตามข้า ท่านจะว่าเยี่ยงไร?”

‘เนี่ยหลี่’เปลี่ยนเรื่องหันหน้าไปคุยกับ ‘เอี้ยหยาน’ทันที

“ได้สิ!”

‘เอี้ยหยาน’ กล่าว

”ข้ารับปาก! หากเจ้าสามารถที่จะปราบ ดาบเทพอัสนีดาวตกได้จริงอย่างที่เจ้าว่าแล้วละก็นะ ข้าก็ไม่ประสงค์ที่จะอยู่ในเขตแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้อีกต่อไป จิตวิญญาณของข้าติดอยู่กับ ดาบเทพอัสนีดาวตกมันจึงเป็นสาเหตุที่ข้ายังไม่กระจายออกไปไหน แต่อย่างไรก็ตามนะ เจ้าเด็กเหลือขอ ข้าขอแนะนำเจ้าไว้อย่างนึง การที่จะนำดาบเทพอัสนีดาวตกออกมาใช้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่นึกอยากจะทำก็ทำได้!”

“ถ้ามันเป็นเรื่องง่าย มันก็คงจะไม่มีค่าพอให้สนใจ!”

กล่าวตอบพร้อมยิ้ม อย่างไม่ได้กังวลเกี่ยวกับมันสักเท่าไร

‘เอี้ยหยาน’อึ้งปนเปกับความงง งวย ทำไม’เนี่ยหลี่’ถึงได้มั่นใจนัก ?

หาก’เนี่ยหลี่’ดึง ดาบเทพอัสนีดาวตกออกมาได้ มันก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่เลวร้ายอะไรนี่ แถมข้ายังจะได้ออกไปจากเขตแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ และได้มองดูโลกภายนอกด้วย !

เมื่อเวลาผ่านไป พวกเขาก็ได้เข้าใกล้กับ แกนกลางของเขตแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ แท่นบูชาโบราณที่อยู่ไกลออกไปปรากฏท่ามกลางสายตาของ ‘เนี่ยหลี่’ ดาบนี้ถูกปกคลุมด้วยสายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วน รวมถึงเสียงลมเสียงฟ้าผ่าที่ส่งมาจากมันด้วย ไม่แม้แต่กลิ่นอายสังหารที่มันแผ่ออกมาตลอดเวลา

ดาบศักดิ์สิทธิ์นี้มีจิตวิญญาณสิงอยู่ แม้ว่าพวก’เนี่ยหลี่’จะอยู่ไกลออกไป กว่าร้อยเมตรพวกเขายังรู้สึกได้ถึงความเย็นที่ทะลุทะลวงเข้ามาถึงกระดูกเลยทีเดียว

“นั่นนะหรือ ดาบเทพอัสนีดาวตก ?”

‘เสี่ยวหนิงเอ๋อ’ อุทานออกมา แม้ว่าจะอยู่ไกลจากมันมากนางก็ยังรู้สึกถึงแรกกดดันวิญญาณที่แข็งแกร่ง แม้แต่การก้าวเท้าไปข้างหน้ายังเป็นเรื่องที่ยากจะทำได้ยิ่ง

ในขณะที่นางรับแรงกดดันวิญญาณที่แผ่ออกมานั้น ภายในจิตวิญญาณของ’เสี่ยวหนิงเอ๋อ’ ก็เพิ่มความแข็งแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว เคล็ดวิชา[มังกรเหินวายุอัสนี] เทคนิคการบ่มเพาะพลังของนางถูกหมุนเวียนอย่างรวดเร็วภายในร่างของนาง จิตวิญญาณภายในของนางราวกับมีมังกรทะยานอยู่ภายใน

หลังจากนั้นไม่นานนัก จิตวิญญาณของ’เสี่ยวหนิงเอ๋อ’ระเบิดออก แรงจิตวิญญาณของนางวิ่งแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย

ตูม!!!!

ประสบความสำเร็จ!!! ระดับ 5 ดาว เงิน !!
เคล็ดวิชา[มังกรเหินวายุอัสนี]

เป็นเทคนิคการบ่มเพาะพลังอย่างรุนแรง ความเร็วและความคืบหน้ามีประสิทธิภาพมากกว่า [พลังเทพวิถีฟ้า] ของ’เนี่ยหลี่’อยู่มาก ภายใต้แรงกดดันของ ดาบเทพอัสนีดาวตก ความสามารถในการบ่มเพาะพลังของ’เสี่ยวหนิงเอ๋อ’ก็ยิ่งน่ากลัวมากขึ้น อีกเพียงก้าวเดียวเท่านั้นก็จะถึง ระดับทอง!

แม้ว่า’เสี่ยวหนิงเอ๋อ’ จะยังไปไม่ถึงระดับ ทอง เทคนิคของนางก็แข็งแกร่งมาก ผู้เชี่ยวชาญระดับ 1-2 ดาวทอง ย่อมมิใช่คู่มือนาง
เมื่อได้เห็นระดับการบ่มเพาะพลังของ’เสี่ยวหนิงเอ๋อ’ พุ่งทะยานและดึขึ้นมาก ช่วยไม่ได้ที่’เนี่ยหลี่’จะยิ้มออกมาด้วยความชื่นชม ความแข็งแกร่งของ’เสี่ยวหนิงเอ๋อ’ในปัจจุบันเพียงพอแล้วที่จะเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของนางในอดีตของนาง

“การผสานรวมกับจิตวิญญาณปีศาจ”

‘เนี่ยหลี่’มองผ่าน’เสี่ยวหนิงเอ๋อ’ ไปพร้อมหยิบผลึกบางอย่าง

“นั่นมันคืออะไรกัน?”

‘เสี่ยวหนิงเอ๋อ’มองไปยังผลึกวิญญาณปีศาจที่เนี่ยหลี่หยิบมาด้วยความสงสัย

“คุณสมบัติ พายุสายฟ้า นกกระจอกสายฟ้าแห่งสวรรค์ จิตอสูรปีศาจที่มีอัตราการเติบโตระดับพระเจ้า!”

‘เนี่ยหลี่’กล่าว แล้วนำมันเหน็บนมือของ’เสี่ยวหนิงเอ๋อ’

“เนี่ยหลี่ ข้า….”

‘เสี่ยวหนิงเอ๋อ’เงยหน้านางขึ้น น้ำในตาของนางปริ่มล้นออกมา ‘เนี่ยหลี่’ช่างปฏิบัติดีต่อนางยิ่งนัก นางไม่รู้เลยว่าจะตอบแทนเยี่ยงไรจึงจะสามารถตอบแทน’เนี่ยหลี่’ได้

‘เนี่ยหลี่’ตบไหล่’เสี่ยวหนิงเอ๋อ’เบาๆแล้วยิ้มพร้อมกล่าว

”เจ้ารีบรวมร่างกับจิตอสูรตนนี้โดยเร็วเถอะ ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้าหากเจ้ามี นกกระจอกสายฟ้าแห่งสวรรค์เป็นจิตอสูรแล้วละก็ แม้จะเป็นข้าก็มิอาจเป็นคู่มือเจ้า!”

เพื่อที่จะได้ไล่ตาม’เนี่ยหลี่’ และได้ยืนเคียงข้าง’เนี่ยหลี่’ในซักวันหนึ่ง! ‘เสี่ยวหนิงเอ๋อ’ รีบรวมร่างกับนกกระจอกสายฟ้าแห่งสวรรค์

“เจ้าเด็กน้อย มันเป็นเรื่องจริงที่ว่าจิตอสูรนั้นคือ นกกระจอกสายฟ้าแห่งสวรรค์ แต่ที่เจ้าบอกว่าการเติบโตระดับพระเจ้านี่มันหมายความว่าเยี่ยงไรกัน ?”

บรรพชนผู้ก่อตั้งขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัย

“ทำไม่ข้าต้องบอกให้ท่านรู้ด้วยรึ?”

‘เนี่ยหลี่’กล่าวพร้อมกับปัดมือไปมา (ส่งเนี่ยหลี่อบรมมารยาทแม่ม)

“นี่เจ้า…..เฮอะ ลืมมันไปซะเถอะ ถ้าเจ้าไม่ต้องการจะบอกข้า!”

บรรพบุรุษผู้ก่อตั้ง ‘เอี้ยหยาน’ ถึงกับส่ายหน้าอย่างเอือมระอา

‘เนี่ยหลี่’เหลือบมองมายัง’เสี่ยวหนิงเอ๋อ’ที่กำลังรวมร่างกับจิตอสูรอยู่เพียงครู่เดียวเท่านั้น จากนั้นก็เงยหน้าและก้าวเดินต่อไปยัง ดาบเทพอัสนีดาวตก

เมื่อเห็น’เนี่ยหลี่’เดินเข้าไปใกล้ ดาบเทพอัสนีดาวตก ‘เนี่ยหยาน’เงียบลง และกลับเข้ามาอยู่ภายในร่างของ’เนี่ยหลี่’ ‘เนี่ยหลี่’จะสามารถดึงดาบ เทพอัสนีดาวตกได้จริงหรือนี่ ?

ในตอนนี้ความแข็งแกร่งของ’เนี่ยหลี่’เป็นเพียงร่างทรงอสูรระดับเงินเท่านั้นยังไม่ถึงระดับทองเสียด้วยซ้ำ ทำอย่างไร’เนี่ยหลี่’จึงจะดึง ดาบเทพอัสนีดาวตกขึ้นมาได้กัน? อย่างน้อยต้องมีความแข็งแกร่งเทียบเท่าร่างทรงอสูรระดับตำนานเสียก่อนเพื่อจะ ควบคุม ดาบเทพอัสนีดาวตกได้! เพราะเหตุนั้น แม้แต่’เอี้ยหยาน’ก็ไม่มั่นใจเลยว่า’เนี่ยหลี่’จะสามารถทำมันได้สำเร็จ

ความสามารถของ’เนี่ยหลี่’นั้นเก่งกาจเกินไป ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคการบ่มเพาะพลังที่มี ทักษะต่างๆหรือความรอบรู้ที่มากมายเกินจะหยั่งถึงเกินกว่าที่ผู้อื่นจะจินตนาการได้ แม้แต่’เอี้ยหยาย’เองก็ยังอดคิดไม่ได้ว่า ‘เนี่ยหลี่’อาจจะเป็นปีศาจที่อยู่มาแล้วหลายร้อยปี

เมื่อระยะห่างจากตัว ดาบเทพอัสนีดาวตก ร่นมาถึงระยะ ห้าสิบเมตร แรงกดดันยิ่งทวีความรุนแรงมากกว่าที่ผ่านมา
ดาบเทพอัสนีดาวตกได้สังหารเหล่าอสูรปีศาจนับไม่ถ้วน หลังจากดาบได้ดื่มเลือดของเหล้าปีศาจอานุภาพของมันก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น

หากใช่แต่เลือดเท่านั้นที่มันดื่มกินมันยังกลืนกินเหล่าวิญญาณที่มันสังหารไปด้วย เป็นเหตุให้ดาบเล่มนี้มีกลิ่นอายสังหารแผ่ออกมาอย่างรุนแรงนั่นเอง กลิ่นอายสังหารนั้นเป็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง ราวกับเป็นคลื่นแห่งการสังหารที่จะกวาดล้างทุกอย่างด้วยความตั้งใจอย่างแรงกล้า เป็นดาบโบราณที่มีค่ามากอย่างไม่ต้องสงสัยเลย หากแม้ว่าร่างทรงอสูรธรรมดา ต่อให้พวกเขามียศถึงทองคำดำ ก็ยังน่าสะพรึงอยู่ดีหากต้องเผชิญหน้ากับกลิ่นอายสังหารของดาบเล่มนี้

ในขณะที่กลิ่นอายสังหารส่งผลมายัง ‘เนี่ยหลี่’

‘เนี่ยหลี่’ไม่รอช้ารีบรวมร่างผสานกับอสูรเงาปีศาจทันที แล้วรีบใช้ความสามารถลบกลิ่นอายทำให้เข้าสู่สถานะล่องหนอย่างรวดเร็ว
ร่างกายของ’เนี่ยหลี่’ค่อยๆเลือนรางและจางหายไป

จึงทำให้กลิ่นอายสังหารนั้นทะลุผ่าน’เนี่ยหลี่’ไปกลิ่นอายสังหารนั้นไม่ได้ก่ออันตรายใดๆให้’เนี่ยหลี่’เลยแม้แต่น้อย (ขี้โกงเอ้ย)

เมื่อได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเบื้องหน้า สายตาของ’เอี้ยหยานหรี่’ลงเล็กน้อย ‘เอี้ยหยาน’สามารถรับรู้ได้ว่าภายในร่างของ’เนี่ยหลี่’นั้นมีจิตอสูรอยู่ถึงสองตนด้วยกัน แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมานั้น’เอี้ยหยาน’ไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เลยแม้แต่นิดเดียวจนกระทั่งได้เห็น’เนี่ยหลี่’ใช้ความสามารถให้เห็นเมื่อครู่นี้ ‘เอี้ยหยาน’ถึงกับต้องสูดอากาศเข้าปอดไปเต็มๆ (อึ้งจนพูดอะไรไม่ออก ซี้ดดดดด เพลงมา…)

“เจ้าหนูนี่มีจิตอสูรปีศาจอยู่ถึงสองตน!”

เมื่อคิดถึงชื่อของจิตอสูรเงาปีศาจ ‘เอี้ยหยาน’ถึงกับมีความรู้สึกเสียวสันหลังไม่น้อย (ผีมันมีความรู้สึกนั้นด้วย)

ในอดีตกาลที่ผ่านมานั้น จิตอสูรเงาปีศาจนับว่าเป็นจิตอสูรที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก ผู้ใดก็ตามที่ผสานรวมร่างกับจิตอสูรเงาปีศาจจักเป็นมือสังหารที่แข็งแกร่งมาก แม้นว่าร่างทรงอสูรระดับตำนานจะมีความแข็งแกร่งในการป้องกันมาก จิตอสูรเงาปีศาจก็สามารถจบชีวิตของเขาได้เช่นกัน..

หลังจากนั้นอสูรเงาปีศาจก็เริ่มสูญพันธ์ไป ร่างทรงอสูรที่รวมร่างกับมันก็มีจำนวนลดน้อยลงไปเรื่อยๆ ‘เอี้ยหยาน’ ไม่คาดคิดเลยว่า จะได้เห็นใครรวมร่างกับจิตอสูรเงาปีศาจในวันนี้

‘ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าเด็กเหลือขอนี่มั่นใจนักหนาว่าจะสามารถดึง ดาบเทพอัสนีดาวตกออกมาใช้ได้’ ‘เอี้ยหยาน’แอบถอนหายใจ

หลังจากที่เดินเข้าไปในสถานะล่องหน ‘เนี่ยหลี่’ได้เข้าใกล้กับดาบเทพอัสนีดาวตกอย่างช้าๆ ค่อยๆก้าวไปทีละก้าวขึ้นไปยังแท่นบูชา เมื่อระยะห่างจากดาบถึงตัว’เนี่ยหลี่เ’หลือเพียงสองเมตร ‘เนี่ยหลี่’ได้โผล่ออกมาด้านบนของแท่นบูชากลิ่นอายสังหารไม่อาจทันรู้สึกได้

‘เนี่ยหลี่’ไม่ได้เข้าไปใกล้ดาบเทพอัสนีดาวตกในทันที เขาหยุดแล้วนั่งขัดสมาธิ ‘เนี่ยหลี่’ปล่อยแรงวิญญาณออกมาจากร่างเข้าสู่ดาบเทพอัสนีดาวตก

ปริซึมๆ ๆ ๆ (เอฟเฟคแล้วแต่จินตนาการ)

เสียงระเบิดที่ดาบเทพอัสนีดาวตกปล่อยออกมาดังสนั่นลั่นไปทั่วทุกพื้นที่ ช่างเป็นเสียงที่น่าหวั่นกลัวเสียยิ่งนัก

วิญญาณอสูรปีศาจนับสิบล้านตัวแปรสภาพกลายเป็นสายฟ้า กระหน่ำมาใส่’เนี่ยหลี่’แบบไม่ยั้งมือ

“มา! “

พลังวิญญาณของ’เนี่ยหลี่’ค่อยๆเพิ่มขึ้น เป็นจิตอสูรแพนด้าเขี้ยวปีศาจนั้นเองที่ทำการปกป้องเนี่ยหลี่จากการกระหน่ำยิงจากอสูรเหล่านั้น

หนึ่งในอสูรปีศาจเหล่านั้นได้พุ่งเข้าไปในจิตวิญญาณของ’เนี่ยหลี่’ จิตวิญญาณของ’เนี่ยหลี่’ก็กลายเป็นดังวาฬที่อ้าปากรอรับเหยื่อที่เข้ามายังภายในจิตวิญญาณ เหมือนจุดหมายของเหล่าปีศาจจู่โจมจะเป็นของปลอมที่’เนี่ยหลี่’ทำการหลอกล่อเข้ามา วิญญาณอสูรที่เข้ามายังภายใน’เนี่ยหลี่’บดแตกละเอียดกลายเป็นเศษเล็กเศษน้อย จิตวิญญาณที่แตกละเอียดนั้นถูก’เนี่ยหลี่’ดูดซับเข้าไปเป็น พลังจิตวิญญาณของตัวเนี่ยหลี่เองโดยปริยาย

หลังจากนั้นไม่นานนัก วิญญาณอสูรตัวอื่นก็พุ่งตามตัวแรกไปตามๆกัน (โหดูดเวลใหญ่เลย) แพนด้าเขี้ยวปีศาจเปรียบได้ดั่งยามที่คอยเฝ้าประตูนรกภายใน จิตวิญญาณของ’เนี่ยหลี่’ ที่จะลิขิตชะตาวิญญาณอสูรปีศาจตนอื่นเข้าไปได้หรือไม่

‘เนี่ยหลี่’นั้นกลืนกินเหล่าจิตอสูรปีศาจอย่างไม่หยุดพัก ทำให้การบ่มเพาะพลังของ’เนี่ยหลี่’เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 4ดาวเงิน – 5ดาวเงิน ขยับเข้ามาใกล้ระดับยศทองขึ้นเรื่อยๆแล้ว

กองกำลังปีศาจจำนวนนับไม่ถ้วนถูกบดขยี้ให้กลายเป็นเศษเล็กเศษน้อยเรียงตัวกันเป็นเชือกโดย’เนี่ยหลี่’เดินเข้าไปหาดาบเทพอัสนีดาวตก

ตูม ตูมมมม ตูมมมมมม (ตุมตุมตุมตะดุ่มตุมตุม)

แรงวิญญาณของ’เนี่ยหลี่’โจมตีต่อต้านดาบเทพอัสนีดาวตกทำให้เกิดเสียงระเบิดของฟ้าที่ผ่าลงมาตามมามากมาย
ทันทีที่ได้เห็นการต่อสู้ที่เกิดขึ้นตรงหน้า ‘เอี้ยหยาน’ก็เข้าใจได้ในทันทีว่าเนี่ยหลี่สามารถที่จะใช้ดาบเทพอัสนีดาวตกได้จริงๆ !
จบตอน…………. (จากใจผู้แปลมันจะยาวไปไหนไอ้ตอน101 เนี่ย โอยยย ยยยย ย ยย ย ย ย ย ย )

ที่มา : 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments