I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Tales of Demons & Gods (妖神记) ตอนที่ 110 การวางอาณาเขตหมื่นอสูร

| Tales of Demons & Gods (妖神记) | 6262 | 2427 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

เมื่อได้ยิน’เอียจืออวิ้น’บ่นพึมพำกับตัวเองเนี้ยหลี่อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขำเล็กน้อย

‘เนี้ยหลี่’โบกมือของเขาไปทางเอียจืออวิ้นยิ้มๆแล้วกล่าวว่า

“เอียจืออวิ้นเราได้พบกันอีกแล้ว”

‘เอียจืออวิ้น’เงยหัวขึ้นแววตาที่ดูสับสนของเธอสบเข้ากับ’เนี้ยหลี่’ หลังจากที่ตกตะลึง ชั่วขณะนั้นเธอผุดลุกขึ้นราวกับตั๊กแตนกระโดด

“ทำไมเจ้าอยู่ที่นี่?”

ดวงตาของ’เอียจืออวิ้น’ส่องประกายถึงความตื่นตกใจ

“ทำไมข้าถึงอยู่ที่นี่ไม่ได้ล่ะ?”

‘เนี้ยหลี่’หัวเราะและพูดว่า

“ข้ากับเสี่ยวหยูตัดสินใจจะอยู่ที่นี้!”

‘เนี้ยหลี่’มองไปรอบๆตัวของเขา สายตาของเขาก็ไปบรรจบเข้ากับตึกเล็กๆที่อยู่ใกล้ๆกับตึกของเอียจืออวิ้นและพูดว่า

“จากนี้ไปพวกเราจะอาศัยอยู่ที่นั่น”

‘เอียจืออวิ้น’ดึงแขนของ’เนี้ยหลี่’ทันที เธอพยายามที่จะให้เขาออกไปและพูดอย่างรีบร้อนว่า

“เนี้ยหลี่เจ้าไม่ต้องการที่จะมีชีวิตแล้วหรือ?! ท่านพ่อข้าจะต้องสังหารเจ้า! เจ้ารีบออกไปซะจะดีกว่า หากท่านพ่อข้าจับเจ้าได้เจ้าได้ตายแน่ๆ!”

จากที่’เอียจืออวิ้น’พูดเธอยังคงเป็นห่วงเขาทำเอาหัวใจเนี้ยหลี่รู้สึกพองโต เขาจึงเผยรอยยิ้มซุกซน พูดกับ’เอียจืออวิ้น’ที่มองมาอย่างประหลาดใจว่า

“บิดาเจ้ายังไม่ได้บอกหรือ?”

‘เอียจืออวิ้น’งุนงงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถามว่า

“บอกอะไร?”

‘เนี้ยหลี่’ตบหน้าผากของตัวเอง ทำท่าเหมือนกับว่าคิดบางอย่างออกและกล่าวว่า

“ถ้างั้นเจ้าก็ยังไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนั้นสินะ!”

“รู้เรื่องอะไร?”

ปฏิกริยาของ’เอียจืออวิ้น’ชะงักไปชั่วครู่

“พ่อของเจ้าตกลงเรียบร้อยแล้ว”

“ตกลงอะไร?”

‘เอียจืออวิ้น’รู้สึกสงสัยมากยิ่งขึ้น

“เขาบอกว่าจะให้เจ้าแต่งงานกับข้าได้ และการแต่งงานจะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้”

แม้ว่า’เนี้ยหลี่’จะหัวเราะแต่ภายในหัวใจของเขากลับเต้นอย่างรุนแรง

“อ่า?!”

ดวงตาของ’เอียจืออวิ้น’เบิ่งกว้างด้วยความตกใจ ภายในแววตาของนางเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

“นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร?”

“ทำไมถึงจะเป็นไปไม่ได้ล่ะ? เมื่อวันนั้นที่ข้าถูกจับได้โดยพ่อของเจ้า หลังจากที่เขากลับมา ข้าที่ถูกจับได้โดยพ่อของเจ้าได้ถูกสอบปากคำ ข้าได้บอกท่านไปว่าข้าวสารได้กลายเป็นข้าวสุกเสียแล้ว ถึงแม้ว่าพ่อของเจ้าโกรธเกรี้ยวแต่เรื่องอื้อฉาวในครอบครัวไม่อาจแพร่งพรายออกไป ดังนั้นเขาจึงได้จัดการแต่งงานให้ข้ากับเจ้าในวันพรุ่งนี้!”

‘เนี้ยหลี่’พูดอย่างไร้เรื่องไร้ราว

“ในเมื่อพ่อของเจ้าใช้อำนาจกับข้า ยังมีอะไรที่ข้าจะทำได้ในเรื่องนี้อีกล่ะ”

“เจ้า……ทำไมเจ้าถึงทำเช่นนี้!”

ใบหน้าของเอียจื่ออวิ้นกลายเป็นสีแดงด้วยความกระวนกระวาย และเธอก็กระทืบเท้าของเธอไปมา

“เห็นได้ชัดเลยว่าเราไม่ได้……”

ในขณะที่’เอียจืออวิ้น’มีท่าทีเขินอายนั้นทำเอาหัวใจของ’เนี้ยหลี่’สั่นไหว เขาเริ่มที่จะจดจำเรื่องทุกอย่างที่ผ่านมาทำให้ความคิดของเขาวุ่นวาย ในชีวิตนี้ของเขาแน่นอนว่าเขาจะไม่มีทางให้นางจากเขาไปอีก

‘เนี้ยหลี่’พยายามอย่างยิ่งที่จะสะกดข่มอารมณ์ของเขาลง เขาผายมือออกไปด้านข้างและพูดว่า

“ในเรื่องนี้ตอนแรกข้าเองก็ไม่เห็นด้วยหรอกนะ แต่เนื่องจากท่านพ่อตายืนยันในเรื่องนี้ แม้ว่าข้าจะฝืนใจ แต่ข้าก็ไม่สามารถทำอะไรกับมันได้”

“ฝืนใจ? ฝืนใจอย่างนั่นหรือ?”

‘เอียจืออวิ้น’ถลึงตาใส่’เนี้ยหลี่’

“เนี้ยหลี่ เจ้าหมายความว่าข้าไม่คู่ควรกับเจ้าอย่างนั้นรึ?”

ความโกรธ’เอียจืออวิ้น’ปะทุขึ้นและเธอก็เหยียบลงไปที่เท้าของ’เนี้ยหลี่’

‘เนี้ยหลี่’รีบชักเท้าหลบทันทีขณะเดียวกันเขาก็พูดเสียงดังเกินจริงว่า

“แน่นอนว่าเจ้าคู่ควรกับข้า เหตุได้เจ้าถึงว่าไม่คู่ควรล่ะ?”

“เจ้า……”

ดวงแก้มของ’เอียจืออวิ้น’แดงขึ้น เธอรู้ในทันทีว่าได้กระโดดลงไปในหลุมพรางของ’เนี้ยหลี่’อีกครั้งหนึ่งแล้ว

เมื่อเห็น’เนี้ยหลี่’กับ’เอียจืออวิ้น’อยู่ด้วยกัน ‘เอียซิ่ว’อดไม่ได้ที่จะยิ้ม เขาเฝ้าดูการเติบโตของ’เอียจืออวิ้น’มาตลอด เนื่องจากตัวตนอันสูงส่งของเธอ เธอจึงไม่ค่อยมีเพื่อน นอกจากนั้นเธอยังจมอยู่กับการฝึกฝนด้วยตัวของเธอเอง เธอจึงไม่ค่อยได้พูดคุยกับเพื่อนๆมากนัก เขาเองก็ไม่ได้เห็นรอยยิ้มสดใสบนใบหน้าของเอียจืออวิ้นมาเป็นเวลานานแล้ว

‘เอียซิ่ว’คิดว่า’เนี้ยหลี่’กับ’เอียจืออวิ้น’มีสายสัมพันธ์ุกัน เพียงแต่’เอียเซิ่ง’ไม่อนุญาติให้พวกเขาอยู่ด้วยกันซึ่งนำไปสู่ความขัดแย้งกันในภายหลัง ถ้าเป็นในกรณีนี้เขาควรจะต้องโน้มน้าวเอียเซิ่งเรื่องการแต่งงานของ’เอียจืออวิ้น’กับ’เนี้ยหลี่’ หลังจากทั้งหมดอย่างไรบุตรสาวก็ต้องแต่งงานแม้ว่าพ่อของตนจะไม่เต็มใจก็ตาม

แต่สิ่งที่’เอียซิ่ว’ไม่ทราบก็คือ’เนี้ยหลี่’สำหรับที่’เอียจืออวิ้น’แล้วที่มีก็คือความรู้สึกของเพื่อนเท่านั้นตั้งแต่เริ่มจนจบ มันเป็น’เนี้ยหลี่’มักจะมาอยู่ข้างๆตัวเธออยู่เสมอ และเป็นเพราะ’เอียจืออวิ้น’ยังอ่อนด้อยเธอจึงไม่รู้จักวิธีรับมือเขา

“เอาล่ะ ข้าคงจะไม่สามารถคุยต่อได้ล่ะ ตอนนี้ข้าคงจะต้องไปดูห้องของข้าก่อน ในช่วงเวลานั้นข้าจะอาศัยอยู่ที่นี้ ถ้าห้องของข้าแย่ล่ะก็สงสัยว่าข้าคงไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ล่ะนะ”

‘เนี้ยหลี่’มองไปรอบ สายตาเขาก็ไปบรรจบกับตึกหลังที่’เอียจืออวิ้น’อาศัยอยู่ ดวงตาเขาก็สว่างวาบขึ้นและเดินตรงไปยังตึกของ’เอียจืออวิ้น’

เมือ’เอียจืออวิ้น’เห็นฉากนั้นเธอก็ตื่นตกใจทันที คราวที่แล้วตอนที่เนี้ยหลี่บุกมายังห้องของเธอ เกี่ยวกับเรื่องนั้นเธอยังไม่สามารถลืมมันได้เลย และเธอก็ได้ตัดสินใจที่จะไม่สนใจเนี้ยหลี่อีกต่อไป อย่างไรก็ตามเธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าเนี้ยหลี่จะกลับมาที่ห้องของเธออีกครั้ง

“อยู่ด้วยกันกับเนี้ยหลี่ในห้องอย่างนั้นหรือ?”

‘เอียจืออวิ้น’กลายเป็นซึมเศร้าเมื่อคิดถึงมัน โดยปกติแล้วเอียจืออวิ้นจะเป็นคนที่สงบเงียบและอ่อนโยน เวลาเธอจะพูดกับคนอื่นก็จะพูดอย่างอ่อนโยนและนุ่มนวล เธอยังคงสุภาพเมื่อปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น แต่เวลานี้เธอไม่สามารถที่จะสงบลงได้

ใบหน้าของเธอยังคงกลายเป็นสีแดงประดุจโลหิต เธอได้เรียกดาบตรงของเธอออกมาและพาดลงบนคอสีขาวนวลของเธอ เธอจ้องมองไปที่เนี้ยหลี่และกล่าวว่า

“เนี้ยหลี่ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าอาศัยอยู่ภายในห้องของข้า ถ้าหากเจ้าต้องการที่จะเข้าไปล่ะก็ ข้าจะ……”

“ทำไมเจ้าทำท่าน่ากลัวเช่นนั้น ข้าไม่ได้บอกเสียหน่อยว่าจะอาศัยอยู่ในห้องของเจ้า ถ้าเจ้าไม่อนุญาติให้ข้าเข้าไปดูข้างในล่ะก็ ช่างใจแคบเสียงจริง ข้ากลับไปที่ห้องของข้าก็ได้”

‘เนี้ยหลี่’กล่าวขณะหัวเราะ จากนั้นเขาก็ถือสัมภาระของเขาเดินตรงเข้าไปในตึกที่อยู่ด้านข้างเอียจืออวิ้น

ขณะที่เธอเฝ้าดูทางด้านหลังของ’เนี้ยหลี่’ ‘เอียจืออวิ้น’กลับกลายเป็นตกตะลึงใบหน้าของเธอเห่อร้อนขึ้น เธอรู้ตัวแล้วว่าตัวเธอนั้นถูกเนี้ยหลี่หลอกลวงอีกครั้งหนึ่งแล้ว

‘เนี้ยหลี่’ก่อกวนเธอได้อย่างง่ายดาย

แต่การที่จะได้พบ’เนี้ยหลี่’อีกในภายหลังนั้นเป็นเรื่องที่ดีจริงๆ ดวงตาของ’เอียจืออวิ้น’ปกคลุมไปด้วยหมอก หัวใจของเธออ้างว้างเกินไป ดังนั้นการที่มีเนี้ยหลี่มาคอยตามก่อกวนเธอน่าจะเป็นสิ่งที่ดี ถึงแม้ว่า’เนี้ยหลี่’จะทำให้เธออารมณ์เสียอยู่เสมอ แต่เธอก็จะคิดถึง’เนี้ยหลี่’เมื่อเขาไม่ได้วนเวียนอยู่รอบๆความรู้สึกนี่มันอะไรกัน? แม้แต่’เอียจืออวิ้น’ก็ยังไม่เข้าใจ

เมื่อไม่นานมานี้ ความรู้สึกไม่พอใจ ความรู้สึกหวานหอม หัวเราะ และเสียใจ เธอได้รับรู้ความรู้สึกได้ด้วยตัวของเธอเอง

‘เนี้ยหลี่’เดินผิวปากตรงไปยังข้างตึกของ’เอียจืออวิ้น’ แล้วก็ชี้นิ้วไปที่ตึกฝั่งตรงข้ามกล่าวว่า

“เสี่ยวหยูเจ้าพักอยู่ที่นั่น”

‘เนี้ยหยู’มองไปยังตึกที่เห็นได้ชัดว่าอยู่ห่างไกลจากตึกของพี่ใหญ่’เนี้ยหลี่’แล้วก็บุ๋ยปาก ทำไมเขาถึงต้องการให้เธออาศัยอยู่ในตึกฝั่งตรงข้ามด้วยนะ?

เมื่อได้ยินคำพูดของ’เนี้ยหลี่’ ‘เอียซิ่ง’ขัดจังหวะในทันทีและกล่าวว่า

“เนี้ยหยูยังเล็กนักควรให้อยู่กับเจ้าไปก่อนจะดีกว่า เจ้าจะได้ดูแลนางได้ตามปกติ!”

‘เนี้ยหลี่’กระพริบตาของเขาจ้องมองไปยัง’เอียซิ่ว’ การจ้องมองของเขานั้นดูราวกับจะมองทะลุถึงทุกสิ่งทุกอย่าง ‘เอียซิ่ว’รู้สึกอึดอัดเล็กๆน้อยๆ และรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ เขาจึงหันไปมองทางอื่น

หวังว่า’เนี้ยหลี่’คงไม่ได้ตระหนึกถึงแผนการของพวกเขาหรอกนะ? ‘เอียเซิ่ง’ไม่ได้สบายใจเลยกับการที่ปล่อยให้’เอียจืออวิ้น’อยู่กับ’เนี้ยหลี่’

ดังนั้น’เอียเซิ่ง’จึงมีเตรียมการรับมือด้วยตัวเอง เนื่องจากเขาตกลงง่ายเกินไป คืนนี้’เอียเซิ่ง’อาจจะเข้าไปอยู่ในตึกฝั่งตรงข้ามเพื่อสังเกตุการณ์เนี้ยหลี่เองก็เป็นได้

‘เนี้ยหลี่’ก็ได้คาดการณ์ไว้อยู่แล้วว่า’เอียเซิ่ง’จะต้องทำเช่นนี้ ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ว่าเขาจะต้องถูกสังเกตุการณ์ เขาก็ย้งต้องการที่จะอาศัยอยู่ในเขตบ้านของ’เอียจืออวิ้น’ เพราะ’เนี้ยหลี่’นั้นรู้ว่า’เอียจืออวิ้น’นั้นโดดเดี่ยวจริงๆ มารดาของเธอเสียไปเมื่อนานมาแล้ว และเธอก็เหลือเพียงแค่พ่อของเธอ

อย่างไรก็ตามพ่อของนั้นก็เอาแต่ยุ่งวุ่นวายอยู่กับภารกิจในแต่ละวัน และก็มาพบเธอเดือนนึงไม่กี่ครั้ง เธอจึงโดดเดี่ยวมาก ซึ่งเป็นสาเหตุให้คนอื่นๆสงสารเธอ

‘เนี้ยหลี่’ไม่ได้อยากจะหาผลประโยชน์จากเอียจืออวิ้น ภายในหัวใจของเขาเธออยู่ในตำแหน่งที่ไม่มีใครจะมาแทนที่ได้ เขาเพียงแต่ปรารถนาให้’เอียจืออวิ้น’อยู่อย่างมีความสุขเท่านั้น

สำหรับอาณาเขตหมื่นอสูร เขาจะช่วยวางพวกมันให้ หลังจากทั้งหมดมันไม่จำเป็นต้องพยายามซักเท่าไหร่นัก

‘เอียซิ่ว’ที่เดินตามเนี้ยหลี่มาก็พูดขึ้นว่า

“เกี่ยวกับการเริ่มวางอาณาเขตหมื่นอสูรนี่”

“เหตุใดจึงรีบนัก? ข้าพึ่งจะมาถึงที่นี่ และข้าก็ยังไม่ได้พักผ่อนเลย”

“ในฐานะเป็นร่างทรงอสูรระดับซิลเวอร์ เจ้าจะไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย แม้เจ้าจะไม่นอนทั้งคืนหรือแม้กระทั้งอดนอนเจ็ดวันเจ็ดคืน…..”

‘เอียซิ่ว’กล่าว

“การวางอาณาเขตหมื่นอสูรนั้นสมควรเป็นเรื่องใหญ่”

“มันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับท่าน แต่สำหรับข้ามันช่างจิ๊บจ๊อยนัก เราจะมาพูดคุยกันอีกครั้งหลังจากข้าพัก ขั้นแรกไปรวบรวมวัตถุดิบมา สิ่งที่จำเป็นจะต้องหามาก็คือสัตว์อสูรระดับแบล๊คโกลด์”

“สัตว์อสูรระดับแบล๊คโกลด์ได้มีการเตรียมพร้อมไว้แล้ว”

“อาวุธทรงพลังสิบอย่างล่ะ…….”

“พร้อมแล้วเช่นเดียวกัน……”

‘เอียซิ่ง’มองไปยังเนี้ยหลี่อย่างกระหาย

ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบอะไรที่ต้องการใช้สำหรับ อาณาเขตหมื่นปีศาจ ‘เอียซิ่ว’ก็จะตอบว่ามีพวกมันทั้งหมดอยู่แล้ว นั้นส่งผลให้’เนี้ยหลี่’มองไปยังเอียซิ่งอย่างไม่พอใจ ดั่งเช่นมันเป็นการยากที่วัตถุดิบถูกรวบรวมไว้พร้อมแล้ว คฤหาสต์เจ้าเมืองร่ำรวยจริงๆ โดยพื้นฐานแล้วพวกเขามีแทบจะทุกอย่าง

‘เนี้ยหลี่’หาได้ตระหนักถึงว่าเมื่อย้อนกลับไปตอนที่สัตว์อสูรจำนวนมากได้กวาดล้างทวีปครั้งใหญ่ ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากถูกไล่ล่าอย่างต่อเนื่องและหลบหนีมายังเมืองกลอรี่ พวกเขาได้นำสมบัติที่ไม่สามารถจินตนาการได้มามากมาย และสมบัติเหล่านี้ส่วนใหญ่จะถูกรวบรวมไว้ในคฤหาสต์ของเจ้าเมือง

“ก็ได้ ในกรณีนี้ข้าจะเริ่มวางอาณาเขตเลยก็ได้”

‘เนี้ยหลี่’พูดออกมาอย่างเซ็งๆ เขาเอาแผนที่ออกมาแล้วพูดว่า

“นี่ก็คือโครงสร้างคร่าวๆของคฤหาสต์เจ้าเมือง”

‘เอียซิ่ว’มองไปยังเนี้ยหลี่อย่างประหลาดใจ นี่เป็นเพียงโครงร่างคร่าวๆอย่างนั้นหรือ? มันมีรายละเอียดมากเกินไป! เนื่องด้วยคฤหาสต์ของเจ้าเมืองมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนา แผนที่นี้มันไม่ควรจะเล็ดลอดออกไปได้ เนี้ยหลี่ทำอย่างไรจึงได้แผนที่ฉบับสมบูรณ์นี้มา?

เนี้ยหลี่พอจะคาดเดาความคิดของเอียซิ่วได้จึงกล่าวว่า

“ข้าให้ท่านบรรพบุรุษเอียเหยียนบินไปสำรวจคฤหาสต์เจ้าเมืองจากบนฟ้าและก็เขียนแผนที่นี้ขึ้นมาน่ะ”

ถ้าเป็นกรณีนั้นเอียซิ่วยังพอเข้าใจได้ คฤหาสต์เจ้าเมืองมีการป้องกันที่แน่นหนา นั้นหมายความว่าเป็นการยากที่คนธรรมดาจะเข้ามาได้ แต่พวกทหารยามของคฤหาสต์เจ้าเมืองคงไม่สามารถป้องกันนกที่บินได้สินะ?

“เอ่อ ใช่แล้ว ท่านบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งเอียเหยียนล่ะ?”

‘เอียซิ่ว’พึ่งรู้ตัวว่าเนี้ยหลี่ไม่ได้นำบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งมาพร้อมกัน

“ข้าได้ใช้ให้เขาบินออกไปสำรวจนอกเมืองกลอรี่เพื่อค้นหาสมาคมทมิฬน่ะ”

‘เนี้ยหลี่’พูดอีกว่า สมาคมทมิฬเป็นความลับมาก มันซ่อนตัวอยู่คู่กับเมืองกลอรี่มานับร้อยๆปี และมันก็เจริญเติบโตแข็งแกร่งขึ้นแข็งแกร่งขึ้น ในขณะที่พวกมันหลบซ่อนอยู่ใต้ดินนอกเมืองกลอรี่

หลายครั้งที่ตระกูลต่างๆของเมืองกลอรี่ต่างก็อยากจะทำลายล้างสมาคมทมิฬ แต่ก็ไม่สามารถค้นหาที่ซ่อนของสมาคมทมิฬได้ แม้กระทั่งท่านเอียมัวร่างทรงอสูรระดับตำนานเองก็ยังไม่สามารถทำอะไรแก่สมาคมทมิฬได้เลย

“โอ้”

‘เอียซิ่ว’ผงกหัว เขาแอบพูด ‘เนี้ยหลี่’ใช้วิธีการอะไรที่สามารถทำให้บรรพบุรุษผู้ก่อตั้งเอียเหยียนฟังคำพูดของเขาได้กัน?

ย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่พวกเขาเข้าไปยังชายแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาล้วนถูกสั่งสอนอย่างทุกทรมานโดยบรรพบุรุษผู้ก่อตั้ง’เอียเหยียน’ พวกเขาแทบจะโงหัวไม่ขึ้นจากคำดุด่าของเขาด้วยซ้ำ แต่ทว่าตอนนี้บรรพบุรุษผู้ก่อตั้งกลับเชื่อฟัง’เนี้ยหลี่’ เขาช่วยเหลือแม้กระทั่งออกไปทำออกไปทำภารกิจให้ นี่มันไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ!

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments