I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Tales of Demons & Gods (妖神记) ตอนที่ 117 อสูรโลกันต์

| Tales of Demons & Gods (妖神记) | 6136 | 2427 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

นอกเหนือจากอณาเขตหมื่นอสูร ‘เนี่ยลี่’ยังผสาน เทพอสุนีบาตสังหาร ลงไปด้วย
เพียงแค่สองอณาเขตลอบสังหารก็ครอบคลุมพื้นที่ถึงหนึ่งในห้าของคฤหาสน์ท่านเจ้าเมืองแล้ว

‘เนี่ยลี่’นั้นความรู้สึกประทับใจในการควบคุมพลังวิญญาณของ’เอียจืออวิ้น’ กับ ‘เอียซิ่ว’
ดังนั้นนอกจาก’เนี่ยลี่’ ‘เอียจืออวิ้น’กับ’เอียซิ่ว’ จึงสามารถใช้อณาเขตสังหารอันร้ายกาจทั้งสองอันนี้ได้

“เนี่ยลี่ เจ้าจะมอบการควบคุม ของทั้งสองอณาเขตสังหารอันร้ายกาจนี้กับท่านเจ้าเมืองได้ไหม”

‘เอียซิ่ว’ พูดกับ’เนี่ยลี่’ พร้อมกับยิ้มแหย ๆเพราะถึงอย่างไร ‘เอียเซิ่ง’ก็เป็น เจ้าของคฤหาสน์ท่านเจ้าเมืองตัวจริง

“หืม จะให้ข้ามอบให้กับเจ้าคนที่ไม่เคยรักษาสัญญานั่นเนี่ยนะ เว้นเสียแต่ว่า เค้าจะมาขอกับข้าด้วยตัวเอง ข้าอาจจะยกให้ก็ได้”

‘เนี่ยลี่’พูดพร้อมกับพ่นลมหายใจออกทางจมูกอย่างรุนแรง

‘เอียซิ่ว’เข้าใจดีว่า มันไม่ง่ายที่จะให้’เนี่ยลี่’กับ’เอียซ่ง’ นั้นคืนญาติดีกัน เรื่องนี้มันจะเป็นไปได้หรือเปล่านะ? ‘เอียซิ่ว’รู้สึกเป็นกังวง
ยังไงซะ มันเป็นไปไม่ได้ที่’เอียซ่ง’จะยอมลดตัวลงมาขอร้อง’เนี่ยลี่’

แต่เนื่องจากเค้ามีคำตอบจาก’เนี่ยลี่’อยู่แล้ว เขาจึงสามารถกลับไปรายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้

หลังจากที่’เอียซิ่ว’ได้กลับออกไป เนี่ยลี่จึงนั่งฝึกวิชาต่อภายในห้อง ค่ำคืนค่อย ๆ ผ่านไปอย่างช้า ๆทั่วทั้งคฤหาสน์ตกอยู่ในความเงียบสงัด มีเพียงเสียงเท้าของหน่วยลาดตระเวณและเสียงกระพือปีกของนกเท่านั้น

‘เนี่ยลี่’กำลังฝึก [พลังเทพวิถีฟ้า] และค่อย ๆ ดูดกลืนพลังวิญญาณ ในยามค่ำคืนเช่นนี้ คลื่นออร่าหมุนวนราวกับอ่างน้ำวน ค่อย ๆ หมุนไปรอบๆและ เข้าไปในร่างกายของ’เนี่ยลี่’ ความเร็วในการบ่มเพาะของ’เนี่ยลี่’นั้นรวดเร็วจนน่าประหลาดใจ มันราวกับว่าตอนนี้’เนี่ยลี่’ ผสานเข้ากับความมืดมิด

“เจ้าตรวจสอบเรียบร้อยแล้วใช่ไหม ว่าเจ้าเสานั่นเอาไว้ทำอะไร”?

“พวกข้ายังไม่มั่นใจเท่าใดนัก ข้ารู้เพียงแค่ว่า ตอนที่เจ้าหนูนั่น เปิดใช้งานเสา สามารถที่จะทำให้เอียเซิ่ง ล้มลงไปนอนกับพื้นได้”

“แค่เจ้าหนูนั่น เปิดใช้งานเสานั่น ก็สามารถจัดการ ร่างทรงอสูรระดับแบล็คโกลด์อย่างเอียเซิ่งได้? มันเป็นไปได้ยังไง ? ข้าได้เห็นมันกับตาของข้าเอง!”

“ไม่แปลกใจเลยที่ หลงชา ต้องการให้เรามาตรวจสอบคฤหาสน์ท่านเจ้าเมือง ด้วยความแข็งแกร่งของสมาคมทมิฬในปัจจุบัน รวมไปถึง เทคนิคอันน่าตื่นตะลึง การถล่มเมืองกลอรี่ ไม่ใช่เรื่องที่ยากอะไร ทำไมท่านเจ้าอสูรจึงยังไม่ดำเนินการสิ่งใดเลย“?

“ไม่ใช่เรื่องยากที่จะถล่มเมืองกรอลี่อย่างนั้นเหรอ? เจ้าดูแคลนเมืองกลอรี่มากเกินไปแล้ว เมืองกลอรี่นั้นสืบทอดมาอย่างยาวนานในทางกลับกัน พวกเขาเหล่านั้นสามตระกูลหลัก เจ็ดตระกูลชั้นสูง หลายครอบครัวที่เริ่มแก่ชรา ถ้ามันเป็นความจริง หากเกิดอันตรายขึ้น ตระกูลนั้นก็จะล่มสลายแต่อย่าประเมินพลังของพวกเขาต่ำเกินไป ตอนนี้ เราเจ็ดคน จะเข้าไปโจมตีคฤหาสน์ท่านเจ้าเมืองพวกเจ้าจะต้องระวังตัวให้มาก และอย่าประมาทโดยเด็ดขาด!”

ชายที่สวมชุดสีดำสั่งการ

“นอกเหนือจากการทำลายอณาเขต เราจะต้องจับตัวเจ้าเด็กนั่นมาให้ได้!”

“พี่ใหญ่ ไม่ต้องเป็นห่วงด้วยพลังของพวกเราทั้งเจ็ด ต่อให้เป็นร่างทรงอสูรระดับแบล็คโกลด์ ก็ไม่สามารถที่จะหยุดพวกเราได้”

ชายในชุดดำทั้งเจ็ดคน ร่างกายของพวกเขาได้เปลี่ยนแปลงไปบางอย่างจิ้งจอกดำ ,พยัคฆ์อัคคี , เมียร์แคต , อสรพิษสีชาด , หมีหิมะ , และ หนอนซากศพหิมะเหมันต์

หลังจากที่ประสานร่างกายเข้ากับจิตอสูร พวกเขาก็พรางตัวเข้ากับความมืด

ณ เวลานี้ ในฝั่งทางทิศใต้ ของคฤหาสน์ท่านเจ้าเมือง ตรงส่วนนี้เป็นส่วนที่มีการป้องกันที่อ่อนแอที่สุด มันคือพื้นที่ลานประลองฝีมือและฝึกซ้อมของคฤหาน์ท่านเจ้าเมือง

ปกติแล้วในทุก ๆ วัน จะมี เหล่านักรบมาฝึกซ้อมกันที่นี่ส่วนในเวลากลางคืน มันก็เป็นเพียงพื้นที่ว่างเปล่า ในความเป็นจริงแล้ว ที่นี่ไม่มีอาคารบ้านเรือนอะไรที่จำเป็นจะต้องปกป้อง

ในตอนนี้ มีคนใส่ชุดดำ ราว ๆ หกสิบคน รวมกันอยู่ที่นี่นั่งล้อมวงอยู่ตรงกลางของพื้นที่ราว ๆ 10 กว่าเมตร เหนือขึ้นไปของพื้นที่ส่วนกลางมันถูกแกะสลักข้อความจารึกสำหรับชนรุ่นหลัง

คำจากรึกเหล่านี้ส่องแสวแวะวาวเป็นประกายสีฟ้า ดูแล้วช่างสะดุดตาเป็นยิ่งนักในยามคำคืน ทั้งหกสิบคนต่างเปร่งเสียงร่ายคาถาที่ซับซ้อน ทำให้ลวดลายคำจารึกสว่างขึ้นอีกครั้ง

ในเวลานี้ทหารยามสามคนได้เดินลาดตระเวณ พวกเขาเดินผ่านมาและมองเห็นแสงไฟสีฟ้าจึงเดินมาตรวจสอบ

“พวกเจ้าเป็นใคร แล้วมาทำอะไรที่นี้”

ทหารยามทั้งสามคนระมัดระวังเป็นอย่างมาก หลังจากที่ได้มองเห็นภายในคฤหาสน์ท่านเจ้าเมืองเป็นพื้นที่ ที่ปลอดภัยแน่นอน ใครจะกล้าเข้ามาก่อความวุ่นวายในคฤหาสน์ท่านเจ้าเมืองได้ทันใดนั้น มีร่างสามร่างปรากฏขึ้นด้านหลังของพวกเขา

*ฟับ ฟับ*

เลือดสด ๆ กระจัดกระจายเต็มไปหมด ทหารยามทั้งสามคนอยู่แค่ในระดับซิลเวอร์ แต่ผู้ที่สังหารเค้า อย่างน้อยที่สุดก็อยู่ในผู้เชี่ยวชาญระดับโกลด์ พวกเขาถูกจัดการโดยที่ไม่ได้ยินแม้เสียง ราวกับว่าค่อย ๆ จมลงไปในบ่อโลหิตทั้งหกสิบคน แสดงปฏิกิริยาราวกับไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น และ ร่ายคาถากันต่อไป

ครืน! ตูม! ตูม!

พื้นดินค่อย ๆ แตกออกทีละนิด

“ปลดปล่อย อสูรโลกันต์”

หนึ่งในหัวหน้ากลุ่มตะโกนเสียงดัง ราวกับคลุ้มคลั่ง แสงสีฟ้าส่องมายังใบหน้าของเขา ทำให้ยิ่งน่าขนลุกขึ้นไปอีก

เสื้อคลุมสีเทาของกลุ่มคนชุดดำทั้งหกสิบคน ค่อย ๆ ลอยขึ้นไป โดยที่ไม่มีแม้นสายลมพัดผ่าน ร่างกายของพวกเขากำลังล่องลอยอยู่กลางอากาศ

ตูม! ตูม! ตูม!

พื้นผิวของสนามประลองนั้นเต็มไปด้วยรอยแยกลาวาค่อย ๆ ไหลออกมาจากพื้นดินมีหัวที่ขนาดใหญ่มากค่อย ๆลุกขึ้นมากจากลาวาที่กำลังลุกไหม้ลาวาค่อย ๆ ประทุออกมา หยดลาวาขนาดเล็ก สาดกระเด็นลงไปบนพื้นดินที่ห่างออกไป

และกลายเป็นปิศาจขนาดเล็กที่ตัวลุกป็นไฟบรรดาปิศาจน้อย คำรามลั่น และวิ่งออกไปทุกทิศทาง ทุกแห่งหนที่พวกมันวิ่งผ่าน ล้วนมีรอยเผาไหม้อยู่บนพื้นดินเจ้าปิศาจตัวใหญ่สูงกว่า สิบสองเมตร โผล่ออกมาราวกับยักษ์ที่เพิ่งตื่น มีปีกขนาดใหญ่งอกออกมาจากจากทางด้านหลัง ในมือของมันถือดาบเพลิงขนาดใหญ่

“ฮ่าฮ่าฮ่า มาสร้างความหายนะกันเถิด! เจ้าอสูรโลกันต์”

ชายที่เป็นหัวหน้า กลุ่มคนชุดสีดำ หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ขณะนี้ดวงตาของอสูรโลกันต์ ค่อย ๆ เปิดขึ้น ดาบเพลิงยักษ์ในมือของมันเริ่มกวัดแกว่งชายหัวหน้ากลุ่มในชุดสีดำ ตายทันทีในเปลวไฟ โดยที่ไม่มีโอกาสแม้จะ เปร่งเสียงกรีดร้อง
หลังจากที่ได้เห็น ชายที่เหลืออีกกว่าห้าสิบคน ต่างรู้สึกตื่นตระหนก หวาดกลัว และรีบหนีออกไปข้างนอก
หลังจากที่ถูกเรียกขึ้นมา อสูรโลกันต์ จะไม่แยกมิตรหรือศัตรู ทุกสิ่งที่มันเห็น จะต้องถูกทำลายโดยปราศจาคความลังเล

ตูม! ตูม! ตูม!

เพลิงแห่งความพิโรธ ตอนนี้ทางใต้ของคฤหาน์ท่านเจ้าเมืองกำลังเกิดความวุ่นวาย

‘เนี่ยลี่’ ที่กำลังฝึกฝนอยู่ที่ สวนของ’เอียจืออวิ้น’ ได้ลืมตาขึ้น หลังจากที่รับรู้ได้ว่าเกิดเหตุวุ่นวายขึ้นตรงพื้นที่ทางด้านใต้ เขารีบมองไปทางทิศใต้ทันทีนั่นไง มีเฟลวไฟ ไหม้แผ่กระจายไปทุกทิศทาง มีเสียงตะโกนแหวกแหวกอยู่เต็มท้องฟ้า ท่าทางราวกับว่าอยู่ในช่วงกลางของการต่อสู้แล้ว

‘เนี่ยลี่’พยายามสงบนิ่ง ใครบางคนกำลังโจมตีคฤหาสน์ท่านเจ้าเมือง ? แถมยังสร้างความวุ่นวายไม่น้อยเลยทีเดียว

“เนี่ยลี่ เจ้าเป็นอะไรไหม”

‘เอียจืออวิ้น’ รีบวิ่งออกมาจากที่พักของเธอมองออกไปเห็นเปลวไฟลุกไหม้ เธอรู้สึกตกใจ คฤหาสน์ท่านเจ้าเมืองกำลังถูกโจมตีอย่างนั้นเหรอ?

‘เนี่ยลี่’เลิกคิ้วเล็กน้อย ในช่วงชีวิตก่อนของเขา จนก่อนหน้าที่สัตว์อสูรจะเข้าจู่โมคฤหาสน์ท่านเจ้าเมือง ที่แห่งนี้ไม่เคยถูกการโจมตีใด ๆ มาก่อนดูเหมือนว่าการเกิดใหม่ของเค้าจะส่งผลกระทบอะไรบางอย่าง ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น

แม้ว่าทางด้านใต้จะมีการป้องกันที่อ่อนแอ แต่ก็ไม่ได้เป็นสถานที่สำคัญใด ๆ มันไร้ความหมายที่จะโจมตีที่นั่น มีคำอธิบายได้เพียงข้อเดียว ต้องมีคนพยายามยามสร้างสถานการณ์อะไรบางอย่าง!

พวกเขากำลังพยายามที่จะโจมตีพื้นที่ภาคใต้เพื่อล่อความสนใจของยามเจตนาที่แท้จริง คือ……………

ตาของ’เนี่ยลี่’สอดส่อง มองหาเป้าหมาย ไม่ต้องสงสัย เขาคือเป้าหมายในเวลานี้ ความสามารถที่เขาแสดงออกมา นั่นก็เพียงพอที่จะดึกดูดความสนใจของสมาคมทมิฬ นอกเหนือไปจากสมาคมทมิฬแล้ว ก็ยังมีตระกูลศักดิ์สิทธิ์ ที่มีความคิดที่จะฆ่าเขาในตอนนี้!

“ฮึ่ม ไม่เคยคิดเลยว่าสมาคมทมิฬ จะยอมทำถึงขนาดนี้ถึงกับยอมโจมตีคฤหาสน์ท่านเจ้าเมืองเพื่อที่จะจับข้าเชียวรึ!”

‘เนี่ยลี่’คิดอยู่ในใจ

เขามองไปที่ ‘เอียจืออวิ้น’ กับ’เนี่ยยู่’ ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ

“จืออวิ้น ช่วยข้าพาเนี่ยยู่ ไปซ่อนในห้องลับที”
“ไม่”

‘เอียจืออวิ้น’ พูด มันต้องมีอะไรสักอย่างที่เธอทำได้ ในขณะที่คฤหาสน์ท่านเจ้าเมืองถูกโจมตี

“เจ้ายังอยู่แค่ระดับห้าดาวซิลเวอร์ ไม่สามารถที่จะต่อสู้กับคนพวกนี้ได้!”

“แล้วเจ้าหล่ะ?”

‘เอียจืออวิ้น’พูดด้วยความกังวล

“เป้าหมายของพวกมันคือข้า แต่ข้าก็มีวิธีที่จะปกป้องตัวเองข้าจะล่อพวกมันเข้าไปที่อณาเขตหมื่นอสูร และใช้ เทพอสุนีบาตสังหารและจะจัดการพวกมันโดยใช้เวลาไม่นาน”

‘เนี่ยลี่’ยิ้มแล้ว พูดออกมา

“ในตอนนี้ เจ้าก็รู้ถึงพลังของอณาเขตหมื่นอสูร กับ เทพอสุนีบาตสังหาร แม้แต่พ่อของเจ้าก็ต้องหมอบราบไปกับพื้นด้วยฝีมือของข้า”

‘เอียจืออวิ้น’ ยังคงนิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง

“พี่ใหญ่เนี่ยลี่ ข้าจะไปกับท่าน!”

บนใบหน้าอันอ่อนโยนของ’เนี่ยยู่’ เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

“เนี่ยยู่ คนเก่ง เจ้ายังไม่ต้องช่วยอะไรข้าหรอกนะ ถ้าหากเจ้าตามไป มันจะทำให้ข้าช้าลง เจ้าต้องทำตามพี่สาว จืออวิ้นนะ”
“เมื่อพี่ใหญ่เนี่ยลี่ จัดการพวกมันเสร็จแล้ว จะรีบกลับมาหาเจ้าทันที”

‘เนี่ยลี่’มองไปที่ ‘เอียจืออวิ้น’ แล้วพูดว่า

“จืออวิ้น ข้าต้องออกห่างจากเจ้าและเนี่ยยู่แล้วนะ!”

‘เอียจืออวิ้น’ มองไปที่เนี่ยยู่ แล้วพยักหน้าด้วยความลำบากใจ จากนั้นเธอก็พาเนี่ยยู่วิ่งไปที่ห้องลับภายในบ้าน ในฐานะที่เป็นลูกสาวท่านเจ้าเมือง ‘เอียจืออวิ้น’มีวิธีการรับมือสถานการณ์เป็นอย่างดีที่ห้องลับมีลานที่สามารถไปหาที่พำนักของ’เอียเซิ่ง’ได้’เอียจืออวิ้น’เข้าใจดีว่าเธอนั้นไม่สามารถที่จะช่วยเหลือ’เนี่ยลี่’ได้ และสิ่งเดียวที่เธอทำได้คือขอความช่วยเหลือจากพ่อของเธอ

‘เนี่ยลี่’เหลือมองทางด้านหลังของ’เอียจืออวิ้น’กับ’เนี่ยยู่’จากนั้นจึงผสานร่างกับเข้ากับจิตอสูรเงาพราย ร่างกายของเขาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว และค่อย ๆ กลืนหายไปกับความมืดในคืนที่มืดมิดมันเป็นโลกที่แสนง่ายของ จิตอสูรเงาพราย

ในเวลานี้ บนพื้นที่ของทางด้านใต้ มีทหารยามอยู่เต็มไปหมดพวกเขาได้กวัดแกว่งอาวุธของพวกเขา เข้าตะลุมบอนกับ ปิศาจไฟตัวเล็ก และใช้เวลาไม่นาน ก็สามารถจบการต่อสู้นี้ได้ส่วนใหญ่ทหารยามเหล่านี้เป็นนักรบ และมีประมาณหนึ่งในสิบที่เป็นเป็นร่างทรางอสูรอย่างไรก็ตามเหล่าร่างทรงอสูร เมื่อรวมร่างกับจิตอสูร ของพวกเขาแล้ว ก็ได้กลายเป็นกำลังหลักของการต่อสู้นี้

ตูม! ตูม! ตูม!

เปลวไฟปลิวไปทั่วทั้งพื้นที่ อาวุธของทั้งสองฝั่งเข้าปะทะกัน

แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดยอมเป็น อสูรโลกันต์อันทรงพลังที่ไม่อาจแยกแยะมิตรหรือศัตรูมันยกดาบเพลิงยักษ์ของมันแล้วฟันลง หอคอยอันสูงใหญ่พังทลายทันที ทหารยามที่ถือธนูและหน้าไม้กรีดร้องพร้อมกับหอคอยที่ทลายลง

ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ!

กลุ่มลูกธนูที่ราวห่าฝน พุ่งไปยัง อสูรโลกันต์ จากทุกทิศทาง ทั้งพื้นที่กำลังเต็มไปด้วยความวุ่นวาย

ในตอนนั้น ‘เอียซิ่ว’อันดับสาม ร่างทรงอสูรระดับแบล็คโกลด์ ได้มาถึงพื้นที่การต่อสู้ และผสานร่างเข้ากับจิตอสูรของเค้าเรียบร้อยแล้ว พร้อมที่จะเข้าร่วมการต่อสู้ทันที อันดับหนึ่งของร่างทรงอสูรระดับแบล็คโกลด์ มองไปยังเอียซิ่ว แล้วถามว่า

“เอียซิ่วเจ้าว่าเราควรจะทำอย่างไรดีอสูรโลกันต์ ไม่มีทางที่จะอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า ร่างทรงอสูรระดับตำนานปฏิเสธไม่ได้ว่า ในความจริงแล้วอสูรโลกันต์นั้นเคลื่อนไหวได้ช้า ไม่งั้นคฤหาสน์ท่านเจ้าเมืองคงย่อยยับไปแล้ว”

‘เอียซิ่ว’ พูดขึ้นมาหลังจากนิ่งเงียบไปชั่วครู่

“เราจะนำมันไปทางทิศตะวันตก! เราจะจัดการมันด้วย เทพอสุนีบาตสังหารนี่เป็นวิธีเดียวที่จะกำจัดมัน ได้ ไม่อย่างนั้นอสูรโลกันต์ จะต้องถล่มคฤหาสน์ท่านเจ้าเมืองพังย่อยยับแน่!”

 

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments