I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Tales of Demons & Gods (妖神记) ตอนที่ 126 สร้างความวุ่นวาย

| Tales of Demons & Gods (妖神记) | 6394 | 2427 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

ทุกคนลดสายตาจ้องมองไปยังกำไลข้อมือนั่น พวกเขาสูดลมหายใจครู่หนึ่งก็รับรู้ได้ถึงบรรยากาศที่ค่อนข้างเย็นกำไลหยกเยือกแข็ง! ของชั้นดีเลยนี่!

กำไลหยกเยือกแข็งถูกสร้างเมื่อพันปีก่อน กระบวนการสร้างนั้นได้จมหายไปกับยุคมืด หลังจากนั้นจำนวนของกำไลหยกเยือกแข็งก็ลดลงจนแทบจะนับนิ้วได้ อีกทั้งกำไลนี้ช่วยส่งเสริมการบ่มเพาะพลังได้อย่างดีเยี่ยม และมันยังช่วยไม่ให้พลังที่บ่มเพาะออกนอกลู่นอกทางหรือลดลงระหว่างการฝึก พร้อมทั้งยังช่วยหล่อเลี้ยงเวิ้งวิญญาณอีกด้วย

เมื่อมองไปที่กำไลหยกเยือกแข็ง ‘เนี่ยหลี’ก็ตาทอประกาย ถ้ากำไลหยกเยือกแข็งรวมเข้ากับราชินีหิมะของ’เอียจืออวิ้น’มันแทบจะเป็นการจับคู่เพิ่มพลังที่ไม่รู้จบแน่นอน

“พี่ชายเอียฮั่น ข้าคงไม่สามารถรับของขวัญชิ้นนี้ไว้ได้”

‘เอียจืออวิ้น’ตอบปฏิเสธพร้อมส่ายหน้า

‘เอียฮั่น’ถึงกับมึนงง เขาแทบทำตัวไม่ถูกและไม่รู้ว่าควรจะดึงมือที่ถือกำไลหยกเยือกแข็งกลับดีหรือไม่

ทุกคนในที่นี้ตระหนักได้ถึงความอึดอัดลึกลับในความสัมพันธ์ของพวกเขา ทันใดนั้น’เนี่ยหลี’ก็ยื่นมือไปคว้ากำไลหยกเยือกแข็งมาเพื่อทำลายความเงียบที่น่าอึดอัดนี้ เขาหัวเราะและกล่าวว่า

“นี่มันเป็นของขวัญเลอค่านะเนี่ย ข้ารู้สึกอายจริง ๆ แต่ว่าข้าขอรับนี่ไว้แทนจืออวิ้นของข้าก็แล้วกันนะ ขอบคุณมากพี่ชายเอียฮั่น!”

มือของ’เอียฮั่น’รู้สึกเหมือนโดนไฟช็อต กำไลหยกเยือกแข็งได้หายไปจากมือเขา ‘เนี่ยหลี’ฉกฉวยมันไปอย่างรวดเร็ว นี่มันไม่ต่างกับการขโมย! คิ้วของเขาแทบจะม้วนเข้าหากัน, พี่เอียฮั่น? เจ้าโผล่มาจากไหน? เจ้าสมควรเรียกข้าว่าพี่เอียฮั่นงั้นเหรอ? ‘จืออวิน’ของเจ้า? ใครคือของเจ้า? ทำไมรู้สึกว่านี่มันช่างไร้ยางอายยิ่งนัก!

“เจ้าคือ…”

‘เอียฮั่น’มองไปยัง’เนี่ยหลี’ที่ยืนอยู่ข้าง’เอียจืออวิ้น’

“เขาเป็นเพื่อน!”

‘เอียจืออวิน’ตอบ เธอรู้สึกอับจนคำพูดจนต้องกระทืบเท้า ‘เนี่ยหลี’นั้นดีแต่รบกวนคนอื่นและทำเป็นสนิทสนมกับเธอ เธอยังไม่ได้ตอบรับซักคำเรื่องกำไลหยกเยือกแข็งนั่น แต่’เนี่ยหลี’กลับรับมันไว้แทนเธอ!

‘เนี่ยหลี’อาจไม่ใส่ใจกับเรื่องพวกนี้ ทำไมไม่รับผลประโยชน์อันมหาศาลนี้? แม้ว่า’เนี่ยหลี’จะไม่ค่อยคุ้นเคยกับ’เอียฮั่น’ แต่ในเมื่อมันเป็นของขวัญ ทำไมเธอถึงปฏิเสธ? สำหรับการช่วยเหลือ มีเพียงแค่เพื่อนเท่านั้นที่จะช่วย ถ้ามันไม่แปลกเกินไป

ใครจะสนกัน จากการเปลี่ยนท่าทีอันเล็กน้อยระหว่าง’เอียฮั่น’กับ’เอียจืออวิ้น’ ‘เนี่ยหลี’ก็พอที่จะเดาสถานะความสัมพันธ์ของทั้งสองได้อย่างคร่าวๆ ดูเหมือนว่า’เอียฮั่น’จะได้รับการใส่ใจจาก’เอียเซิ่ง’แต่ว่าถูกปฏิเสธโดยเธอ

มันอาจเป็นไปได้ว่า’เอียฮั่น’สนใจ’เอียจืออวิ้น’? ถ้าอย่างนั้น’เอียฮั่น’มันจะต้องตายอย่างอนาถ!

หลังจากที่มีชีวิตมาหลายปี ‘เนี่ยหลี’มีประสบการณ์มากมายจากผู้คนที่แตกต่างหลากหลาย ด้วยพรสวรรค์อันน่าตกใจของ’เอียฮั่น’ เขามีทั้งรูปโฉมอันสง่างาม และยังมีบรรยากาศที่บ่งบอกว่าเป็นชายผู้สมบูรณ์แบบด้วย อย่างไรก็ตามด้วยความที่เป็นคนที่สมบูรณ์แบบมาก ก็ต้องมีปัญหามากด้วยเช่นกัน

มุมมองของ’เนี่ยหลี’ มีแค่คนอย่าง’เสิ่นหลินเจี่ยน’เท่านั้นที่แสดงออกถึงตัวตนจริงๆ ของเขา ‘เนี่ยหลี’คิดถึงความเป็นไปได้ เขาได้ยินว่า’เอียเซิ่ง’มีความตั้งใจที่จะให้’เอียฮั่น’รับมอบตำแหน่งเจ้าเมือง ด้วยเหตุผลนี้นี่เองที่ทำให้’เอียฮั่น’แสดงความเป็นบุคคลที่สมบูรณ์แบบออกมาเพื่อปูทางไปสู่ตำแหน่งเจ้าเมือง

อย่างไรก็ตาม’เอียฮั่น’ไม่ใช่คนของตระกูลวายุเหมันต์ ถ้าเขาต้องการที่จะนั่งตำแหน่งเจ้าเมือง เขาก็ต้องได้รับการยอมรับจากเหล่าผู้อาวุโสของตระกูลวายุเหมันต์เสียก่อน ซึ่งเหล่าผู้อาวุโสของตระกูลวายุเหมันต์ไม่มีทางที่จะยอมรับคนนอกตระกูลมารับช่วงตำแหน่งเจ้าเมืองเป็นแน่ อย่างไรก็ตามถ้า’เอียฮั่น’มี’เอียจืออวิ้น’เป็นภรรยานั่นก็เป็นอีกเรื่อง

เขาเดาว่ามันน่าจะเป็นไปได้ 80 ถึง 90 เปอร์เซ็นต์เลยล่ะ

หลังจากที่ได้ยิน’เอียจืออวิ้น’พูด ใจของ’เอียฮั่น’ก็หล่นวูบ สายตาของเขาจ้องมองอย่างเย็นยะเยือกไปที่’เนี่ยหลี’

‘เนี่ยหลี’รู้สึกได้อย่างชัดเจนจากสายตาของ’เอียฮั่น’ ความสามารถทางด้านการตรวจจับวิญญาณเป็นหนึ่งในจุดเด่นของเนี่ยหลี’ ทุกการกระทำของ’เอียฮั่น’ไม่อาจรอดพ้นจากสายตาของ’เนี่ยหลี’ ‘ชิชิ ยังไงเจ้าก็หลบสายตาข้าหรอก อีกไม่นานเจ้าต้องเผลอตัวหลุดออกมาแน่ ตั้งแต่ที่เจ้าต้องการจะเล่น ข้าก็พร้อมจะเล่นกับเจ้า’

“เนี่ยหลี ข้าชื่นชมต่อการกระทำของเจ้า!”

‘เสิ่นหลินเจี่ยน’ถึงกับยกนิ้วโป้งให้’เนี่ยหลี’

เดินโดยมีสองสาวเคียงข้าง หนึ่งในนั้นแย่งมาจาก’เสิ่นเฟย’และอีกคนแย่งมาจาก’เอียฮั่น’ ท้ายที่สุดก็เห็นได้ชัดว่า’เนี่ยหลี’มีผู้หญิงถึงสองคน ‘ฮู่เหลียนหลานรั่ว’ก็ยังคงเสนอตัวให้เขา ผลประโยชน์ทั้งหมดนั้นตกไปที่’เนี่ยหลี’

‘เสิ่นเฟย’ถึงกับมีเส้นเลือดผุดขึ้นมาให้เห็น ‘เซี่ยวหนิงเอ๋อ’ยืนเคียงข้างเนี่ยหลี ไม่ว่าจะว่ายังไงมันก็รบกวนสายตาของเขายิ่งนัก

“เนี่ยหลี ที่นี่เป็นสถานที่ที่เจ้าสามารถเข้ามาได้?”

‘เสิ่นเฟย’แค่นเสียงถาม

“ข้าสงสัยจริงว่าเจ้าเคยมาที่นี่หรือไม่ ตัวเจ้านั้นแต่งตัวอย่างกับพวกบ้านนอก!”

คนกลุ่มหนึ่งได้หัวเราะเบาๆ

‘เนี่ยหลี’มองไปยังเอียเซิ่งและครุ่นคิดชั่วครู่ ตระกูลศักดิ์สิทธิ์คือเนื้อร้ายของเมืองกลอรี่ ถ้าพวกมันยังอยู่มันคงจะเป็นการสายเกินแก้ถ้าพวกสัตว์อสูรมาเยือน เขาอาจต้องทำให้ตระกูลวายุเหมันต์เกิดความคิดที่จะขับไล่ตระกูลศักดิ์สิทธิ์ออกไป

ดูเหมือนว่าข้าจะต้องสวมบทตัวร้ายอีกครั้งเพื่อกระตุ้นความขัดแย้งระหว่างตระกูลศักดิ์สิทธิ์และตระกูลวายุเหมันต์

แม้ว่าตั้งแต่เขากลับมา ระดับการบ่มเพาะพลังจะยังไปไม่ถึงจุดที่สามารถทำทุกสิ่งได้ เรื่องนี้ไม่อาจปล่อยไว้นานได้ ควรจะต้องรีบสะสางให้เรียบร้อย

“ไม่สงสัยเลยว่าทำไมที่นี่มีกลิ่นเหม็น เป็นเพราะนายน้อยเสิ่นอยู่ที่นี่สินะ เมื่อกี้อะไรนะ? บทเรียนที่ข้ามอบให้ครั้งก่อนยังไม่พองั้นรึ? เจ้าต้องการอีกสินะ”

‘เนี่ยหลี’กระตุกคิ้ว สายตาของเขาเปลี่ยนเป็นคมกล้า ดาบเทพอัสนีดาวตกปรากฏที่มือด้านขวาของเขาพร้อมทั้งทำการเหวี่ยงลงเพื่อแยกโต๊ะออกจากกัน

“มาสิ ถ้าเจ้ากล้าเผชิญหน้ากับดาบเทพอัสนีดาวตกของข้า!”

ท่าทีของ’เนี่ยหลี’เปลี่ยนไปราวกับพลิกผ่ามือ เขาได้ปล่อยรัศมีพลังที่น่าหวาดหวั่นและลึกลับยิ่ง

“เจ้า…”

มองไปยังสายตาอันเย็นยะเยือกของ’เนี่ยหลี’ ‘เสิ่นเฟย’กลายเป็นเต่าหัวหด ล้อกันเล่นใช่ไหม? สู้กับ’เนี่ยหลี’ตอนนี้เนี่ยนะ? แค่นี้เขาก็เจ็บช้ำมากพอแล้ว เขาไม่ต้องการให้ประวัติศาสตร์มันซ้ำรอยอีกครั้งหรอก

ไม่เพียงแค่’เสิ่นเฟย’ เหล่าลูกหลานของตระกูลอื่นต่างก็เกรงกลัวต่อรัศมีพลังนั่น พวกเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่า’เนี่ยหลี’จะกล้าแสดงกริยาไม่เกรงกลัวสิ่งใดเช่นนี้ในงานเลี้ยงที่คฤหาสน์เจ้าเมือง

‘เอียจืออวิ้น’ถึงกับตื่นตกใจ ‘เซี่ยวหนิงเอ๋อ’เคลื่อนกายเพื่อไปดู’เนี่ยหลี’ ความขัดแย้งระหว่าง’เนี่ยหลี’และ’เสิ่นเฟย’นั้นเป็นเพราะเธอ เหตุผลที่เขาแสดงกริยาเช่นนี้ที่นี่ก็เป็นเพราะเธอ ที่พวกเขาไม่อาจทราบคือนี่เป็นความตั้งใจของ’เนี่ยหลี’ แมลงวันตัวจ้อยเช่น’เสิ่นเฟย’นั้นไม่คู่ควรที่จะให้’เนี่ยหลี’แสดงกริยาเช่นนี้ด้วยซ้ำ เป้าหมายของ’เนี่ยหลี’แท้จริงแล้วคือตระกูลศักดิ์สิทธิ์!

“เสิ่นเฟย ข้าจะบอกเจ้าว่า ถ้าเจ้ายังคงตามตอแยหนิงเอ๋อ ข้าจะผ่าร่างเจ้าด้วยดาบเทพอัสนีดาวตก!”

‘เนี่ยหลี’ประกาศก้องและจ้องมองอย่างเย็นชาไปที่’เสิ่นเฟย’ด้วยความโกรธ เขาตระหนักดีถึงการกระทำต่อ’เสิ่นเฟย’ หญิงสาวจำนวนมากจากตระกูลน้อยใหญ่ต่างโดนล่อลวงโดย’เนี่ยหลี’

คิ้วของ’เอียฮั่น’ขมวดเป็นปม แม้ว่าถ้า’เนี่ยหลี’มีปัญหากับเสิ่นเฟย แต่ว่าที่นี่คือโถงรับรองของคฤหาสน์เจ้าเมือง การกระทำของเขานั้นแทบไม่มีความเกรงใจแม้แต่นิด

“เนี่ยหลี อย่าลืมว่าที่นี่คือโถงรับรองของคฤหาสน์เจ้าเมือง ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่เจ้าจะเพิกเฉยแสดงกริยาไร้ความเกรงใจเช่นนี้ได้!”

‘เอียฮั่น’พูดอย่างเคร่งขรึม

เขาเงยหน้าขึ้นพร้อมมองไปยัง’เอียเซิ่ง’ที่อยู่ห่างออกไป ไม่ว่ายังไงเขาก็เป็นแค่บุตรบุญธรรมของ’เอียเซิ่ง’ ในสถานการณ์เช่นนี้เขาไม่สามารถที่จะรับมือกับ’เนี่ยหลี’ได้ นอกจากนี้’เอียฮั่น’ยังไม่ต้องการให้’เอียจืออวิ้น’มองเขาในภาพลักษ์ที่แย่ลง เพราะงั้นโยนปัญหาให้’เอียเซิ่ง’เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

ดูเหมือนว่า’เอียเซิ่ง’ที่อยู่ไกลออกไปจะไม่ได้รับรู้ถึงสถานการณ์ทางฟากนี้เลยแม้แต่น้อย

“แล้วยังไง ถ้าข้าจะแสดงความถือดีในห้องโถงรับรอง ณ คฤหาสน์เจ้าเมืองแห่งนี้? ท่านเจ้าเมืองยังไม่ได้พูดอะไรด้วยซ้ำ เจ้าจะอ้างอะไร? จงรับรู้ถึงสถานะอันแท้จริงของเจ้า ณ ตอนนี้ด้วย เวลานี้คฤหาสน์เจ้าเมืองแห่งนี้ไม่ใช่ของเจ้า!”

เสียงของ’เนี่ยหลี’ดังจนแทบจะได้ยินกันทั่วทั้งโถงรับรอง

เมื่อได้ยินคำของ’เนี่ยหลี’ ผู้คนรอบข้างถึงกับแสดงสีหน้าแปลกประหลาดพิกลออกมา

หน้าของ’เอียฮั่น’แทบเปลี่ยนสี คำพูดของ’เนี่ยหลี’นั้นแทงเข้าไปถึงจิตใจของเขาเลยทีเดียว เขากวาดสายตามองไปยัง’เอียจืออวิ้น’และขบคิดภายในใจ น้อง’จืออวิ้น’ให้’เนี่ยหลี’พูดสิ่งนี้? ไม่ น้อง’เอียจืออวิ้น’ไม่ใช่คนเช่นนั้น ‘เนี่ยหลี’มันจะต้องพูดด้วยความตั้งใจของตัวเองเป็นแน่

‘เอียจืออวิ้น’ถึงกับต้องดึงเนี่ยหลี มีอะไรบ้างเนี่ยที่’เนี่ยหลี’ไม่กล้าพูด

“ข้า…”

เมื่อ’เอียจืออวิ้น’พยายามที่จะพูด เธอก็ถึงกับจนคำพูด

“ข้าจะถอนคำพูดของข้า เจ้าไม่ได้เป็นแม้กระทั่งผู้สืบทอดของตระกูลวายุเหมันต์ อย่าฝันเลยว่าตำแหน่งเจ้าเมืองจะไปอยู่กับคนนอกตระกูล ด้วยตำแหน่งของเจ้าเมือง ถ้าจืออวิ้นไม่ต้องการ ที่นี่ยังมีข้า! หลังจากข้าถึงจะเป็นเจ้า! ถ้าเจ้าได้เป็นเจ้าเมือง ข้าจะพลิกคฤหาสน์เจ้าเมืองซะ ข้าจะทำตามที่ข้าพูดแน่!”

ทุกผู้คนได้ยินคำของ’เนี่ยหลี’ กระทั่งเริ่มมีเสียงกระซิบวิพากษ์วิจารณ์เกิดขึ้น

‘เนี่ยหลี’จะสู้เพื่อชิงตำแหน่งเจ้าเมือง? แต่ว่านามสกุลของ’เนี่ยหลี’ คือ เนี่ย เขาไม่อาจจะมีแม้สัมพันธ์เส้นเล็กๆไปยังตระกูลวายุเหมันต์ได้เลย เมื่อกี้’เนี่ยหลี’พูดพล่อยๆ?

“โอหัง! เจ้ากล้าพูดเช่นนี้จะต้องได้รับบทเรียน!”

ผู้นำตระกูลศักดิ์สิทธิ์ ‘เสิ่นฮอง’แค่นเสียงอย่างโกรธแค้น ทันใดนั้นพลังวิญญาณของเขาก็ได้ปลดปล่อยออกมาจากร่าง

‘เอียเซิ่ง’ทราบดีว่า’เสิ่นฮอง’จะฉวยโอกาสนี้ฆ่า’เนี่ยหลี’ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะปล่อยให้มันเกิดขึ้นไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงว่า’เนี่ยหลี’ตอนนี้นั้นสำคัญกับเมืองกลอรี่ยิ่งนัก ถ้า’เสิ่นฮอง’ต้องการที่จะฆ่า’เนี่ยหลี’ สมาคมนักปรุงยาจะต้องไม่ยอมแน่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้อาวุโสที่หนุนหลัง’เนี่ยหลี’ก็ต้องไม่ยอม

ไม่ว่า’เนี่ยหลี’จะทำอะไร ‘เอียเซิ่ง’ก็ต้องปกป้องเนี่ยหลี แม้ว่าเขาจะไม่เคยคาดหวังให้’เนี่ยหลี’ทำอะไรเช่นนี้ ‘เอียเซิ่ง’ก็ยังคงมีการเตรียมการรับมืออยู่ก่อนแล้ว ‘เนี่ยหลี’อาจจะดูเหมือนคนเลินเล่อที่ทำตัวตามสบาย แต่ว่านั่นเป็นมุมมองของคนอื่น

เชื่อได้เลยว่า’เนี่ยหลี’คือคนที่คิดอย่างรอบคอบก่อนที่จะลงมือกระทำสิ่งใด ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่อาจมาถึงจุดนี้ได้ มันจะต้องมีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้เนี่ยหลีแสดงกริยาโอหังเช่นนี้เพื่อที่จะยั่วความโกรธจากฝ่ายตรงข้าม

พลังวิญญาณของ’เสิ่นฮอง’มุ่งไปยังเนี่ยหลี พยายามที่จะฆ่าเขาโดยซึ่งหน้า ทันใดนั้น’เอียเซิ่ง’ก็ปล่อยพลังวิญญาณออกมาเช่นกัน

ตู้ม!

สองพลังวิญญาณเข้าปะทะกันทำให้เกิดการระเบิด จนโต๊ะและเก้าอี้รอบข้างถึงกับกระจัดกระจาย

“นี่เป็นเรื่องของเด็กๆ ถ้าผู้อาวุโสเช่นเราจะทำอะไรนั้นก็เปรียบได้ดั่งการกลั่นแกล้ง มันคงดูไม่ดีเท่าไหร่”

‘เอียเซิ่ง’ยิ้มอย่างใจเย็นและส่งคำพูดไปยัง’เสิ่นฮอง’

หน้าของ’เสิ่นฮอง’ซีดเซียวลง เมื่อเขาได้รับการตอบโต้โดยการชนกันของพลังวิญญาณ เขาชำเลืองมอง’เอียเซิ่ง’และพบว่าท่าทางจะยังคงใจเย็นอยู่ เขาถึงกับตื่นตะลึง ตัวเขานั้นไปถึงระดับเหล็กดำ ‘เสิ่นฮอง’ไม่เคยคาดคิดว่า’เอียเซิ่ง’จะมีการบ่มเพาะพลังที่สูงจนเกินกว่าตัวเขา

“ท่านเจ้าเมือง ข้าแค่รู้สึกว่าไม่อาจปล่อยให้เด็กที่หยิ่งยโสโอหังเช่นนี้อยู่ในคฤหาสน์ของท่านเจ้าเมืองได้ มันเปรียบดั่งการดูหมิ่นเกียรติ์ของท่านเจ้าเมือง อย่างไรก็ตามหากท่านเจ้าเมืองไม่ถือสามัน ข้าก็ไม่มีสิ่งใดที่จะพูดอีก”

‘เสิ่นฮอง’กล่าวออกมาเสียงค่อย พร้อมทั้งพยายามที่จะสงบพลังของเขา

“ถ้าผู้อาวุโสเสิ่นฮองมีความประสงค์จะทำร้ายเนี่ยหลี ไม่ต้องกล่าวถึงท่านเจ้าเมืองหรอก สมาคมนักปรุงยาของข้าก็ไม่อาจยอมรับได้”

เสียงดังออกมาจากอีกฝั่ง เป็น’หยางซิน’นั่นเอง

หน้าของ’เสิ่นฮอง’แทบเปลี่ยนสีพร้อมแค่นเสียง ‘เอียเซิ่ง’ห้ามข้าก็แย่แล้ว ตอนนี้เจ้าก็อีกคนที่ต้องการห้ามข้า?

แม้ว่าเสิ่นฮองจะไม่ได้แสดงความไม่พอใจใดๆ ไม่ว่ายังไง’หยางซิน’ก็เป็นผู้อำนวยการของสมาคมนักปรุงยา ณ ตอนนี้สมาคมนักปรุงยานั้นช่างมีสถานะต่างจากแต่ก่อนยิ่งนัก ตอนนี้มันเป็นตัวตนที่ทุกผู้คนต้องเกรงใจ

“เมื่อผู้อำนวยการหยางกล่าวเช่นนั้น ข้าก็ไม่อาจหาญที่จะยุ่งกับเรื่องนี้อีก”

‘เสิ่นฮอง’กล่าวเสียงเยือกเย็นออกมา

 

จบตอน…

ที่มา : 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments