I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Tales of Demons & Gods (妖神记) ตอนที่ 128 เป็นสายเลือดจริงๆของท่านหรือ

| Tales of Demons & Gods (妖神记) | 6161 | 2427 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

มุมปากของ’เสิ่นเฟย’เกิดการกระตุกขึ้นอย่างหยุดไม่ได้ ‘เสิ่นเฟย’ ไม่มีความกล้าเพียงพอที่จะสู้กับ’เนี่ยหลี่’ นับตั้งแต่ได้รับความพ่ายแพ้อย่างน่าสังเวชในการต่อสู้คราวนั้น ไม่ต้องเอ่ยถึงความแข็งแกร่งของเนี่ยหลี่ ที่ต่างจากตอนนั้นเลย

‘เสิ่นเฟย’แหงนหน้ามองไปยังเบื้องบนด้วยปราถนาที่จะได้รับความช่วยเหลือจากผู้ที่เป็นพ่อ แต่ใบหน้าที่เย็นเฉยของ’เสิ่นฮอง’ก็สามารถบอกได้คำตอบว่าไม่สามารถจะช่วยอันใดได้

เมื่อเห็นท่าทีของ’เสิ่นเฟย’ ‘เนี่ยหลี่’อยากจะหัวเราะออกมาให้ดังเสียจริง ‘เสิ่นเฟย’เป็นเพียงคนขี้ขลาดยังไม่สังเกตุเห็นกันอีกหรือ? ‘เสิ่นฮอง’ติดกับเข้าแล้วด้วยคำพูดของ’เนี่ยหลี่’ ถ้ากลั่นแกล้ง’เสิ่นเฟย’ต่อจะเป็นเช่นใด อยากรู้นักว่าเสิ่นฮองจะแสดงสีหน้าแบบใดออกมากัน

‘เนี่ยหลี่’ทำตัวหยาบคายต่ำช้านับตั้งแต่เข้ามายังห้องโถงงานเลี้ยงแล้ว ทุกการกระทำเป็นขั้นตอนในการจัดการกับ’เสิ่นเฟย’ และยังแสดงความเกลียดชังที่มีต่อตระกูลศักดิ์สิทธิ์

‘เนี่ยหลี่’จงใจแสดงความแข็งแกร่งของตนเองเพื่อเป็นคำเตือน ยิ่งกระตุ้นให้ตระกูลศักดิ์สิทธิ์เพิ่มพูนความเกลียดชังที่มีต่อ’เนี่ยหลี่’มากยิ่งขึ้นไปอีก และด้วยเหตุนี้จะทำให้ตระกูลศักดิ์สิทธิ์ต้องหาวิธีจัดการเขาเป็นแน่

เหตุผลที่นครรุ่งโรจน์ถูกทำลายอย่างรวดเร็วในชีวิตก่อนหน้านี้ของ’เนี่ยหลี่’ เป็นเพราะมันถูกทำลายจากภายใน ตระกูลศักดิ์สิทธิ์นั้นก็เปรียบได้ราวกับระเบิดเวลาในนครรุ่งโรจน์ ‘เนี่ยหลี่’จักต้องทำลายมันให้สิ้นซาก! ทั้งสมาคมนักปรุงยาและตระกูลวายุเหมันต์เริ่มระมัดระวังตัวต่อตระกูลศักดิ์สิทธิ์แล้ว ตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมมากที่จะยั่วยุตระกูลศักดิ์สิทธิ์ ‘เอี้ยฮั่น’ตอบอย่างเย็นชาว่า

“เนี่ยหลี่ เสิ่นเฟยเป็นแขกของข้าในงานนี้ แต่เจ้ากลับทำเช่นนี้งั้นรึ?”

“ข้าไม่สนหรอกว่าจะเป็นแขกของเจ้ารึไม่ ข้าต้องการให้มันออกไปมิเช่นนั้นข้านี่แหละจะเป็นคนเตะก้นมันจนกว่ามันจะออกไป!”

‘เนี่ยหลี่’มอง’เอี้ยฮั่น’ด้วยสายตาที่โกรธเกรี้ยว

“ถ้าเจ้าต้องการจะสอดมือเข้ามายุ่งนักละก็เตรียมตัวรับผลที่ตามมาด้วยละกัน!”

คำพูดจาโอหังที่’เนี่ยหลี่’กล่าวออกมาทำให้ ‘เอี้ยฮั่น’ โกรธมิใช่น้อย อย่างไรก็ตาม ‘เอี้ยฮั่น’เพิ่งจะกลับมาไม่นานนัก’เอี้ยฮั่น’จึงไม่สามารถเข้าใจตัวตนของ’เนี่ยหลี่’ได้ หรือแม้แต่ ‘เอี้ยซ่ง’ ก็ไม่ทำอันใดกับการกระทำของ’เนี่ยหลี่’ ในท้ายที่สุดแล้ว’เอี้ยฮั่น’ตัดสินใจเก็บฝืนความโกรธนั้นเอาไว้แทน

‘เอี้ยฮั่น’ยักไหล่แล้วไปยืนดูอีกทางด้านหนึ่งแทน แม้แต่’เอี้ยฮั่น’ ก็ไม่สามารถช่วยข้า? ทันใดนั้น เสิ่นเฟย ก็สั่นสะท้านด้วยความกลัวขึ้นมา

เมื่อเห็น’เอี้ยฮั่น’หลีกทางให้ ‘เนี่ยหลี่’กวาดสายตามองไปยังเสิ่ยเฟยอีกครา และกล่าวว่า

“นี่เจ้ายังเฉยอยู่อีกเหรอ?!”

“จดจำไว้ให้ดีเนี่ยหลี่ ไม่ช้าก็เร็วข้าจะกลับมาเอาคืนเจ้าแน่!”

‘เสิ่นเฟย’ กล่าวอย่างเย็นชาและเดินออกจากห้องโถงไป’เสิ่นเฟย’ ออกไปจริง?

ทุกคนต่างตกตะลึง ‘เสิ่นเฟย’เป็นแขกของงานเลี้ยงนี้และจากนั้นเขาก็ถูกขับไล่ออกไปอย่างไม่ใยดี นี้เป็นเรื่องที่น่าอับอายเกินไปแล้ว…ผู้คนต่างรู้สึกอับอายแทนที่มีสายสัมพันธ์กับ’เสิ่นเฟย’ ‘เสิ่นเฟย’ไม่ขี้ขลาดเกินไปหน่อยหรือ? (เอ็งก็ลองไปให้ไอ่ขี้หลี่ ผสาน แพนด้า ตบฟันร่วงดูเด้)

เนี่ยหลี่’ละสายตาจาก’เสิ่นเฟย’ แล้วมองไปที่ ‘เอี้ยฮั่น’แทน ‘เอี้ยฮั่น’ผู้นี้หลักแหลมยิ่งนัก มันรู้ว่าเวลาใดควรรุกเวลาใดควรล่าถอย เป็นบุคคลประเภทที่จัดการได้ยาก!

นี่เป็นเหตุผลที่ ‘เอี้ยจืออวิ้น’ ไม่ค่อยกล่าวถึง’เอี้ยฮั่น’ ในชีวิตก่อนหน้านี้เท่าไรนัก’เนี่ยหลี่’เริ่มเข้าใจได้แล้ว แต่ยังมีอีกจากการตรวจสอบพบว่า ‘เอี้ยฮั่น’ในตอนนี้ได้เป็นร่างทรงอสูรระดับ 3 ดาวทองเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ แต่เหตุใดเนี่ยหลี่ไม่ได้ยินข่าวการตายใดๆในการต่อสู้ของ’เอี้ยฮั่น’ ?

หมอนี่ลึกลับ! จริงอยู่ว่าอาจจะซ่อนตัวตนที่แท้จริงไว้ภายในส่วนลึก แต่ข้านี่แหละจะขุดส่วนลึกของเจ้าเอามากองไว้เบื้องหน้าเอง
เมื่อได้เห็น’เสิ่นเฟย’ถูกไล่ออกไปจากการกระทำของ’เนี่ยหลี่’

จู่ๆ ‘เสิ่นฮอง’ก็ลุกขึ้นยืนพรวด ใบหน้าของผู้นำตระกูลอื่นถอดสีซีดเผือด เจ้าโง่’เสิ่นเฟย’ยอมให้กับ’เนี่ยหลี่’? มันก็จริงอยู่ที่เทียบกับสมาชิกรุ่นเยาว์ในตระกูล’เสิ่นเฟย’อาจจะไม่เทียบเคียงกับคนอื่น

‘เนี่ยหลี่’ไม่สามารถทุบตีเจ้าได้ต่อหน้าผู้คนมากมายหรอก แต่ในท้ายที่สุดมันบอกให้เจ้ายอมรับความพ่ายแพ้เจ้ากลับยอม? ‘เสิ่นเฟย’ช่างขี้ขลาดเสียจริง!

“ในเมื่อคฤหาสน์เจ้าเมืองแห่งนี้ ไม่ต้อนรับพวกเราตระกูลศักดิ์สิทธิ์เช่นนั้น ข้าก็จะไป!”

สิ้นเสียงที่เย็นชา’เสิ่นฮอง’ก็เดินออกไปจากงานเลี้ยง ‘เอี้ยซ่ง’ รู้ว่าเสิ่นฮองไม่มีหน้าที่จะอยู่ตรงนี้อีกแล้ว เลยกล่าวอย่างสุภาพว่า

“พี่น้องเสิ่น ทำไมท่านจึงทำเช่นนี้ นั่นเป็นเพียงการต่อสู้กันระหว่างเด็กน้อย ไม่จำเป็นต้องไปใส่ใจอันใด แต่ในเมื่อท่านยืนกรานว่าจะไป ข้าก็จะไม่ดึงรั้งท่านเอาไว้ เอี้ยซิ่ว ส่งแขก!!” (ฮ่าๆ สะใจ เกรียนเทพแท้ เจ้าเมืองเรา)

“ไม่จำเป็น”

‘เสิ่นฮอง’ โบกมือปัด ‘เสิ่นเฟย’เดินออกจากคฤหาสน์เจ้าเมืองพร้อมกับ’เสิ่นฮอง’ ผู้นำตระกูลอื่นดูเหมือนจะรับรู้ได้บางอย่าง จากการที่ ‘เอี้ยซ่ง’ไม่ได้รั้ง ‘เสิ่นฮอง’เอาไว้ ดูเหมือนจะมีลับลมคมในกับเรื่องราวนี้ ผู้นำตระกูลอื่นต่างพิจารณา คงจะเป็นการดีที่สุดหากตัดสัมพันธ์ที่มีกับตระกูลศักดิ์สิทธิ์

การกระทำทั้งหมดสำเร็จลุล่วง ‘เนี่ยหลี่’หันไปมองรอบๆ และเห็น ‘ฮูเหยียนหลานเร่อ’ มองเขาตาเป็นมัน ‘เนี่ยหลี่’แทบจะร้องออกมา

‘บ้าชิบ!’

‘เนี่ยหลี่’ หันไปทาง ‘เอี้ยจืออวิ้น’ กับ ‘เซี่ยวหนิงเอ๋อ’ และกล่าว่า

“งานเลี้ยงนี้ดูไม่มีสลักสาระสำคัญอันใด จืออวิ้น หนิงเอ๋อ กลับกันเถอะ!”

“ตกลง”

‘เอี้ยจืออวิ้น’ พยักหน้าตอบรับ นางเองก็ไม่ชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหล่านี้สักเท่าใดนัก ‘เซี่ยวหนิงเอ๋อ’ ก็ตาม’เนี่ยหลี่’ออกไปโดยปริยาย

‘ฮูเหยียนหลานเร่อ’หันไปทาง’เนี่ยหลี’แล้วตะโกนว่า

“โอ้ว เนี่ยหลี่ เจ้าจะไปแล้วรึ?”

เมื่อได้ยินเสียงของ ‘ฮูเหยียนหลานเร่อ’ ‘เนี่ยหลี่’รีบวิ่งหนีออกไปโดยเร็ว บ้าจริง! กับปีศาจที่ตามติดเช่นนางถ้าไม่รับ ข้าจะเป็นอย่างไร?

‘ฮูเหยียนหลานเร่อ’อยากจะวิ่งตามไป แต่ด้วยการที่นางแต่งตัวด้วยชุดที่มีความพิถีพิถัน จึงทำให้ลำบากในการที่จะวิ่งตามไปทำให้นางเหมือนย่ำเท้าอยู่กับที่

หลังจากได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องโถง ‘เนี่ยหลี่’วิ่งไปไหนแล้ว เกือบทุกคนแสดงหน้าเหยเก ไม่ทราบที่มาที่ไป มีแต่เพียงผู้ที่มีสติเท่านั้นจึงจะสามารถเข้าใจการกระทำของ’เนี่ยหลี่’เมื่อครู่ โดยเฉพาะ ‘เฉินหลินเจี๋ยน’ และพรรคพวกที่แสดงอาการที่อดขำไม่อยู่
ทุกคนที่ได้เจอกับเหตุการณ์ต่างครุ่นคิด แม้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดในงานเลี้ยง แต่เอี้ยซ่งก็ดึงสถานการณ์กลับมาและดำเนินงานเลี้ยงต่อไปจนจบ

ในคืนที่เงียบสงัด ณ ตระกูลศักดิ์สิทธิ์ เสียงตบลั่นสนั่น เสิ่นเฟยถูกเสิ่นฮองตบอย่างแรงทิ้งให้เห็นรอบฝ่ามือที่แดงฉานปรากฏบนหน้าของ’เสิ่นเฟย’

“ท่านพ่อ…”

‘เสิ่นเฟย’ มอง’เสิ่นฮอง’ด้วยความหวาดกลัว ตั้งแต่เด็ก’เสิ่นฮอ’งไม่เคยตบตีเขามาก่อน ‘เสิ่นฮอง’ทำหน้าดุ

“ขยะ! ทำไมเจ้าไม่ตายไปเสีย?มันบอกให้เจ้าออกมาเจ้าก็ออกมาง่ายๆ?เจ้าไม่เหลือศักดิ์ศรีของตระกูลศักดิ์สิทธิ์แล้วรึไง!!”

“ท่านพ่อ ท่านก็ไม่ได้ช่วยข้า ข้าคิดว่า…”

“คิดอะไรของเจ้า! หัวของเจ้ามันไม่มีสมองแล้วรึไง? ในสถานการณ์เช่นนั้นเจ้าคิดว่าข้าสามารถทำอันใดได้งั้นรึ ? ฮึ่มม!!”

‘เสิ่นฮอง’โกรธมาก

“ทำไมตระกูลข้าถึงต้องมีขยะเช่นเจ้าอยู่ด้วย!”

‘เสิ่นเฟย’ ถูก ‘เสิ่นฮอง’ด่าทอต่างๆนาๆ โดยไม่หลงเหลือความสุขชนิดที่อยากจะฆ่าตัวตายไปเสียตรงนั้น ความเกลียดชังที่มีต่อเนี่ยหลี่ฝังลึกลงไปถึงกระดูก ต่อหน้า’เสิ่นฮอง’ตอนนี้ ‘เสิ่นเฟย’ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ ได้แต่เงียบฟังในสิ่งที่เสิ่นฮองด่าว่าอย่างไม่ขาดสาย

‘เสิ่นฮอง’กลาดตามองไปยัง’เสิ่นเฟย’ แล้วถอนหายใจ ตระกูลศักดิ์สิทธิ์นับเป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่ หากแต่ขาดทายาทที่มีความสามารถ ถ้าเสิ่นฮองไม่สามารถรวบรวมอำนาจให้กับตระกูลศักดิ์สิทธิ์แล้วละก็ อำนาจของตระกูลศักดิ์สิทธิ์จะต้องลดลงแน่นอน แล้วตระกูลศักดิ์สิทธิ์ก็จะไม่ได้เป้น 1 ใน 3 ตระกูลหลักอีกต่อไป

“ลืมมันเสีย แล้วจงฟัง ข้าขอห้ามเจ้ามิให้ออกไปภายนอก ตระกูลวายุเหมันต์ ต้องการจะจัดการกับเรา ข้าต้องการให้เจ้าอยู่อย่างเงียบๆเข้าใจ?!”

‘เสิ่นฮอง’กล่าวพร้อมจ้องตาใส่’เสิ่นเฟย’

“ข้าทราบแล้ว”

‘เสิ่นเฟย’รีบพยักหน้ารับคำ สายตาพลันกลับเป็นเย็นชา ‘เซี่ยวหนิงเอ๋อ’ กับ ‘เนี่ยหลี่’ รอจนกว่าข้าจะได้เป็นผู้นำตระกูลก่อนเถอะ ข้าจะจัดการกับพวกเจ้าจนต้องขอชีวิต!

‘เสิ่นฮอง’ขมวดคิ้ว อยู่ภายใต้อานัติของตระกูลวายุเหมันต์เช่นนี้ไม่ดีแน่ แต่เดิน’เสิ่นฮอง’สามารถ วางแผนจัดการทุกอย่างกับตระกูลวายุเหมันต์อย่างเงียบๆ แต่มันกลับถูกทำลายโดย’เนี่ยหลี่’ ไม่มีทางเลือกที่จะต้องชะลอแผนการที่เตรียมมาทุกอย่างเอาไว้ก่อน
‘เนี่ยหลี่’คงไม่ได้ต้องการให้เรื่องเป็นแบบนี้ใช่มั้ย? ‘เสิ่นฮอง’ส่ายหน้า

ก่อนหน้านี้’เนี่ยหลี่’ได้รับเงินเดิมพันไปมากมายจากตระกูลศักดิ์สิทธิ์ แล้วทำให้ตระกูลศักดิ์สิทธิ์ประสบปัญหาทางการเงินสำหรับใช้เตรียมแผนการ หรือนี่จะเป็นแผนของ’เนี่ยหลี่’กันแน่? หากจริงเช่นนั้น เจ้าเด็กนั่นฉลาดแกมโกงมากเกินไป ข้าต้องระวังให้มากเสียแล้ว!

คฤหาสน์เจ้าเมือง ลานของ’เอี้ยจืออวิ้น’

‘เอี้ยจืออวิ้น’ กับ ‘เซี่ยวหนิงเอ๋อ’ หลับไปก่อนแล้ว เหลือเพียง’เนี่ยหลี่’ที่ยังคงฝึกบ่มเพาะพลังอยู่ แรงวิญญาณถูกควบคุมราวกับจะคุมทั้งดินและฟ้าเอาไว้ได้ เวิ้งวิญญาณถูกหล่อเลี้ยง

หลังจากการบ่มเพาะพลัง ‘เนี่ยหลี่’รู้สึกได้ว่าพลังได้เพิ่มขึ้นมาแม้ว่า ประสิทธิภาพเทคนิคเทพวิถีฟ้า จะช้ากว่าเทคนิคอื่นๆอยู่เล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับ เทคนิคขยะเหล่านั้น พลังเทพวิถีฟ้าก็ ดีกว่าหลายเท่าตัว

‘เนี่ยหลี่’ถอนหายใจช้าๆแล้วมองไปที่พุ่มไม้และกล่าวว่า

“ เมื่อได้มาคอยนานแล้ว ทำไมยังไม่ออกมาอีก?”

‘เอี้ยซ่ง’ออกมาจากพุ่มไม้อย่างช้าๆ

“นี่เจ้าสามารถรับรู้ถึงกลิ่นอายของข้าได้จริงๆ!”

‘เอี้ยซ่ง’ หดหู่ไม่น้อย เป็นถึงร่างทรงอสูรระดับทองคำดำ แต่กลับถูกตรวจพบโดย ระดับ 5 ดาวเงิน หมายความว่า’เนี่ยหลี่’ได้ตรวจพบข้า?

‘เนี่ยหลี่’ขยันหาแต่เรื่องปวดหัวเสียจริง ‘เนี่ยหลี่’พูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน

“เป็นเพียงแค่ร่างทรงระดับทองคำดำ จะซ่อนกลิ่นอายจากข้าเชียวรึ?”

แค่ระดับทองคำดำ ??

‘เนี่ยหลี่’ไม่รู้รึไงว่า ตำแหน่งร่างทรงอสูรทองคำดำหมายถึงอะไร? ในนครรุ่งโรจน์นี้ ‘เอี้ยซ่ง’ เป็นรองแค่ ‘เอี้ยมัวร์’ เท่านั้น

“ท่านมาที่นี่ ต้องการจะคุยอันใดกับข้างั้นรึ?”

เนี่ยหลี่ยักไหล่

“แม้ว่า เอี้ยฮั่น จะเจ้าเล่ห์เพทุบาย แต่ลึกๆแล้วเขาไม่ได้เป็นคนเลวร้ายอันใด ข้าหวังว่าเจ้าทั้งสองจะสามารถอยู่ร่วมกันได้ในอนาคต ในฐานะตำแหน่งเจ้าเมือง ข้าได้ตัดสินใจจะยกมันให้ เอี้ยจืออวิ้น”

‘เอี้ยซ่ง’กล่าว นี่อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้วในตอนนี้ ถ้ามอบตำแหน่งให้’เอี้ยฮั่น’ ‘เนี่ยหลี่’อาจจะก่อเหตุที่ไม่คาดฝันขึ้นอีกก็เป็นได้ มิหนำซ้ำผู้อาวุโสในตระกูลยังไม่ค่อยเห็นด้วยกับ’เอี้ยซ่ง’ โดยเฉพาะการมอบตำแหน่งให้’เอี้ยจืออวิ้น’ทุกอย่างสามารถจบเรื่องได้ อย่างไรก็ตามหากเกิดปัญหาขึ้นในอนาคต คงมิอาจหลีกเลี่ยง

“ดี งั้นข้าต้องการจะถามท่านอย่างนึง เอี้ยจืออวิ้นเป็นสายเลือดจริงๆของท่านหรือไม่?”

‘เนี่ยหลี่’มองไปที่’เอี้ยซ่ง’

‘เอี้ยซ่ง’จ้องไปยังเนี่ยหลี่พร้อมตอบว่า

“แน่นอนเอี้ยจืออวิ้นคือสายเลือดของข้า!”

“แล้วเอี้ยฮั่น เป็นลูกนอกสมรสของท่าน?”

‘เนี่ยหลี่’ยังคงถามต่อ

“นี่เจ้าพูดถึงเรื่องอันใด?”

‘เอี้ยซ่ง’โกรธที่’เนี่ยหลี่’ถาม โดยไม่ระวังคำพูดที่ถามออกมา

“ถ้านับ เอี้ยจืออวิ้น เป็นสายเลือดของท่าน แล้วเอี้ยฮั่นไม่ได้เป็นลูกนอกสมรสของท่าน ทำไมท่านดูเหมือนไม่เต็มใจนักที่จะมอบตำแหน่งเจ้าเมืองให้เอี้ยจืออวิ้น?”

‘เนี่ยหลี่’คิ้วกะตุก ได้ยินสิ่งที่’เนี่ยหลี่’พูด ‘เอี้ยซ่ง’ ถึงกับเงียบลงไปพักหนึ่ง หลังจากนั้นถอนหายใจ พร้อมหัวเราะแล้วกล่าว

“เจ้าไม่สามารถจะเข้าใจได้หรอก มันเป็นความลำบากของผู้เป็นพ่อของทั้งคู่!”

“โอ้??ยากลำบากอันใด? ข้าจะขอบคุณท่านมากหากท่านสามารถบอกมันให้แก่ข้าได้”

‘เนี่ยหลี่’ถาม ใจเต้นขึ้นมาเล็กน้อย ปกติ’เนี่ยหลี่’ ไม่ได้พูดคุยกับ ‘เอี้ยซ่ง’มากมายเท่าไหร่นัก เพียงรู้จักจากคำบอกเล่าของ’เอี้ยจืออวิ้น’ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่อยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับ’เอี้ยซ่ง’มากยิ่งขึ้น……

 

จบตอน…
ปล. เอี้ยซ่ง เอี้ยเซิ่ง กะผีตัวเดียวกัน แต่ที่ไม่อยากใช้เซิ่ง เพราะมัน จะงง ถ้า ไอ้รองอาจารย์ใหญ่กับเจ้าเมืองอยู่ด้วยกัน แล้ว มันก็ไม่ได้งงมากนะ ผมก็อ่านดูแล้ว แล้วที่บอกให้ผู้แปล แปลศัพท์ ออก เหมือนๆกัน ขอความกรุณา ลิส ศัพท์มาให้ผมด้วย เดียวผมจัดให้ สุดท้ายช่วงนี้งานยุ่ง จะหายตัวไป สัก 2 เดือน 5555 ปิ้งป่อง ลาก่อนสวัสดี

 

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments