ตอนที่แล้วตอนต่อไป“จืออวิ้น ก่อนหน้านี้นางไม่ได้มีพรสรรค์มากนักตลอดชีวิตของนางเพียงแค่ให้ถึงระดับ 1 ดาว หรือ 2 ดาว Black Gold ก็เป็นขีดจำกัดของนางแล้วการที่จะได้เป็นร่างทรงอสูรระดับ Black Gold1 ดาวหรือ2ดาวมันก็มากเกินพอสำหรับคนปกติถึงอย่างนั้นเพื่อที่จะได้เป็นเจ้าเมืองมันยังไม่พอมันยังห่างไกลกับการที่นางจะได้เป็นเจ้าเมืองกับการบ่มเพาะพลังระดับนั้น”
เมื่อได้ยินคำพูดของ ‘เอียเชิ้ง’ , ‘เนี่ยลี่’พยักหน้าหัวเห็นด้วย ….
“เพราะข้าคือเจ้าเมือง ข้ารู้ซึ้งถึงความลำบากของการเป็นเจ้าเมืองถึงแม้ข้าจะมีอำนาจมากแค่ไหนข้าก็ไม่มีเวลาพอที่จะเอาใจใส่ภรรยา และลูกสาวได้ จนทำให้แม่ของจืออวิ้นต้องเสียไปข้าเป็นหนี้พวกเธอมากเกินไป….”
‘เอียเชิ้ง’ถอนหายใจและบอกว่า
“ที่ข้าบังคับให้จืออวิ้นต้องฝึกอย่างหนัก เพื่อที่นางจะได้แข็งแก่งเพียงพอสามารถต่อสู้กับเหล่าสัตว์อสูรได้และเป็นตัวแทนของเจ้าเมือง”
“นั้นคือเจตนารมณ์ที่ตระกูลวายุเหมันต์ (Snow Wind family)สืบทอดมาท่านคิดว่าจืออวิ้น จะสามารถกลายเป็นคนธรรมดาอยากที่ท่านต้องการได้ ? ท่านคิดว่าสามารถส่งต่อให้กับ เอียฮั่นและกลายเป็นที่ยอมรับท่านคิดว่าผู้อาวุโสของตระกูลวายุเหมันต์ จะยอมรับให้เขาเป็นเจ้าเมืองได้เช่นนั้นเหรอ? ท่านคิดง่ายเกินไป!”
‘เนี้ยหลี่’พูดอย่างไร้ความปราณี
‘เอียเชิ้ง’ เปิดปากจะพูดแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาคิดว่ามันคือสิ่งที่ต้องทำเมื่อนานมาแล้วเขายังคงจะต้องต่อสู้เพื่อ’จืออวิ้น’
“เอียฮั่นมีพรสวรรค์ถ้าเขาไปถึงระดับ 5 ดาว Black Gold จะไม่มีใครกล้าพูดถึงมันอีก!” เอียเชิ้งพูด “ถึงอย่างนั้นความก้าวหน้าของนางที่แสดงออกมา ณ จุดนี้ บางทีเอียจืออวิ้นอาจจะสามารถไปถึงระดับ 5 ดาว Black Gold หรือแม้กระทั่งระดับ ตำนาน!”
ระดับตำนาน? ท่านพ่อตากำลังประเมินลูกสาวของท่านต่ำเกินไป’เนี้ยหลี่’ยิ้มเบาแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
.
‘เอียเชิ้ง’มองดู ‘เนี้ยหลี่’ และพูดว่า“ข้ายังคงต้องขอบคุณเจ้า ถ้าไม่ใช้เพราะเจ้าการบ่มเพาะพลังของเอียจืออวิ้นคงไม่สามารถมาถึงระดับ 5 ดาว Silver ในระยะเวลาอันสั้นขณะนี้ได้ ”
ถึงแม้ว่าจะมีหลายสิ่งเกิดขึ้นระหว่างเขาและ’เนี้ยหลี่’ ‘เอียเชิ้ง’ยังคงพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงใจ
“แน่นอน”
‘เนี้ยหลี่’ยิ้มอย่างภูมิใจและพูดว่า
“ท่านพ่อตาท่านสามารถพักผ่อนได้อย่างสบายใจและปล่อยให้ข้าดูแลลูกสาวของท่านเอง!” (บางทีนะคุณม…งก็หน้าด้านเกิ๊น)
หลังจากได้ยินคำของ ‘เนี้ยหลี่’ ‘เอียเชิ้ง’แสดงสีหน้ามืดมนอีกครั้งท่ามกลางการพูดคุยกัน เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ ไอ้เด็กนี้หาโอกาสให้ ข้าส่งลูกสาวให้กับมัน? อย่างน้อยที่สุดลูกสาวข้าต้องยอมรับมัน!ก่อน
ถึงจะอย่างนั้นในหัวใจของ’เอียเชิ้ง’ ยังให้โอกาสเล็กน้อยเพราะเขาได้พูดคุยกับ’เนี้ยหลี่’เป็นเวลานาน’เอียเชิ้ง’ ถึงเข้าใจการกระทำทุกๆอย่างที่’เนี้ยหลี่’ทำ แม้มันจะเกินเลยจากคนธรรมดาเขาทำกันไปบ้างเขาก็ไม่ได้ใส่ใจและภายใต้การปรากฏตัวของ’เนี้ยหลี่’เขามีความคิดที่หลักแหลมมาก
นอกจากนี้ถ้า’เอียจืออวิ้น’จะยอมรับ’เนี้ยหลี่’เธอจะไม่ผิดหวังกับความสามารถของ ‘เนี้ยหลี่’ ถ้ามีใครที่จะยั่วยุเขามันจะได้รับความตายง่ายๆโดยที่ไม่ต้องการ
“เนี้ยหลี่ข้าจะบอกเจ้าอย่างหนึ่งถ้าเอียจืออวิ้นยอมรับเจ้าข้าจะไม่ห้ามพวกเจ้าแต่ถ้านางไม่ตกลงและเจ้าข่มเหงนางอย่ามาตำหนิ ถ้าข้าจะเสียมารยาท!”
‘เอียเชิ้ง’หายใจออกอย่างความรุนแรง
หลังจากได้ยินคำพูดของ’เอียเชิ้ง’ดวงตาของ ‘เนี้ยหลี่’สว่างขึ้นดูเหมือนว่าท่านพ่อตาจะผ่อนปรนมากขึ้น’เอียจืออวิ้น’จะตอบรับเขาตั้งแต่แรกอยู่แล้วมันคือโชคชะตาเพื่อ’เอียจืออวิ้น’ ‘เนี้ยหลี่’จะค่อยๆเพิ่มความผูกพันระหว่างทั้งสองคน
‘เอียเชิ้ง’คิดอะไรบ่างอย่างออกหน้าของเขากลับมาตึงเครียดอีกครั้ง
“เนี้ยหลี่เจ้ารู้ไมว่าการกระทำของเจ้าวันนี้ได้กระตุ้น ตระกูลศักดิ์สิทธิ์? ตระกูลศักดิ์สิทธิ์เห็นท่าทีของพวกเราที่จะต่อต้านพวกนั้น”
ความจริงแล้ว’เอียเชิ้ง’ ได้ส่งคนไปคอยจับตาดูตระกูลศักดิ์สิทธิ์มานานแล้วการกระทำของ ‘เนี้ยหลี่’ในคืนนี้เหมือนการเตือน ตระกูลศักดิ์สิทธิ์ว่าพวกนั้นกำลังถูกจับตามอง
“เจ้ามีเหตุผลงั้นเหรอ?”
‘เอียเชิ้ง’ มองดู ‘เนี้ยหลี่’แต่’เนี้ยหลี่’ก็หาได้สนใจไม่
“ถึงแม้ว่าท่านจะส่งคนไปคอยจับตาดู ตระกูลศักดิ์สิทธิ์เสิ่น ฮ่องมันคือจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ ที่จะไม่ปล่อยให้เกิดความผิดพลาดใดๆขึ้นมันคงเป็นเรื่องยากที่สุดถ้าท่านต้องการหาหลักฐานการสมรู้ร่วมคิดของตระกูลศักดิ์สิทธิ์และสมาคมทมิฬเหตุผลที่ตระกูลศักดิ์สิทธิ์ ยังไม่ได้กระทำสิ่งใดๆก็เพราะพวกมันยังไม่ได้เตรียมตัวอย่างเต็มที่ถ้าพวกเราจนพวกมันเตรียมตัวเสร็จก่อนที่พวกเราจะพร้อมเมืองกลอรี่ จะตกอยู่ในอันตรายอยากมาก ทำไมเราไม่ใช้ตระกูลวายุเหมันต์ หยุดยั้ง ตระกูลศักดิ์สิทธิ์ ตระกูลศักดิ์สิทธิ์รู้เจตนาของพวกเราและตอบโต้กลับมาเมื่อนั้นพวกมันก็จะเปิดช่องโหว่”
‘เนี้ยหลี่’ต้องการบังคับให้ ตระกูลวายุเหมันต์ ไม่มีตัวเลือกใดๆ เพียงแค่ที่จะต้องสู้กับตระกูลศักดิ์สิทธิ์
“เจ้าได้กระทำไปแล้ว ตระกูลวายุเหมันต์ของข้าจะมีทางเลือกอื่นๆอีกเหรอ?”
‘เอียเชิ้ง’ กล่าวอย่างหดหู่’เนี้ยหลี่’ที่บอกความคิดของเขาเขาต้องการยับยั้งตระกูลศักดิ์สิทธิ์ในบางส่วนและถ้าเห็นว่าตระกูลศักดิ์สิทธิ์มีความตั้งใจจะก็การกบฏ
ในที่สุดสมาคมปรุงยาจะทำการต่อต้านอย่างชัดเจนและตระกูลวายุเหมันต์ จะต้องทำอะไรสักอย่าง
“ตระกูลศักดิ์สิทธิ์ รับผิดชอบกำแพงด้านตะวันตกเราจะต้องระวังถ้าพวกมันตัดสินใจจะใช้ความแข็งแกร่งของสัตว์อสูรเพราะฉะนั้น เราต้องรีบวางอาณาเขตหมื่นอสูรให้เสร็จเร็วเท่าที่จะเป็นไปได้”
‘เนี้ยหลี่’กล่าวก่อนสงครามระหว่างตระกูลวายุเหมันต์ กับตระกูลศักดิ์สิทธิ์ จะเกิดขึ้นเขาจะต้องไปถึงระดับ Gold ให้เร็วที่สุดเพื่อให้มีความสามารถเพียงพอที่จะเผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญของตระกูลศักดิ์สิทธิ์ เขาบอก’เอียเชิ้ง’ให้รู้ว่าตระกูลศักดิ์สิทธิ์ จะใช้สัตว์อสูรในการโจมตีเมืองกลอรี่ เพราะนั้นคือสิ่งที่ทำลายเมืองกลอรี่ในชาติที่แล้วของเขา
“พวกมันยืมความแข็งแกล่งของสัตว์อสูร ?”
ตาของ’เอียเชิ้ง’ กะพริบอย่างกะหลอดไฟ การที่ขอยืมพลังของสัตว์อสูรมันช่างเหมือนกับการเล่นกับไฟยิงนักถ้าตระกูลศักดิ์สิทธิ์ ปล่อยให้เหล่าสัตว์อสูรเข้ามา ตระกูลวายุเหมันต์ จะไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากจะต้องกำจัดมันทั้งหมด
แน่นอน’เอียเชิ้ง’ จะไม่ปล่อยให้ใครมาสร้างความเดือนร้อนให้กับเมืองกลอรี่
“ที่ผ่านมา ตระกูลศักดิ์สิทธิ์ ได้ฝังรากลึกลงไปเมืองกลอรี่นอกจากนี้คนส่วนใหญ่ยังไม่ได้รู้จักโฉมหน้าที่แท้จริงของ ตระกูลศักดิ์สิทธิ์ เมื่อตระกูลศักดิ์สิทธิ์ ทำการจลาจลผลที่ตามมาจะเลวร้ายถึงขีดสุดเพราะฉะนั้นเราจะต้องเตรียมตัวให้พร้อม”เนี้ยหลี่เงียบไปสักพักและพูดว่า “ยิ่งกว่านั้นเราจะต้องกำจัดทุกความเป็นไปได้ที่ ตระกูลศักดิ์สิทธิ์ จะขอความช่วยเหลือจากสมาคมทมิฬมิเช่นนั้นเมืองกลอรี่จะตกอยู่ในอันตราย”
‘เอียเชิ้ง’ พยักหน้าเข้าใจ วันนี้’เนี้ยหลี่’ยั่วยุตระกูลศักดิ์สิทธิ์ ในงานเลี้ยง’เอียเชิ้ง’ได้โต้ตอบไปแล้วโดยไม่ได้ทำการเตี๊ยมกันกับ’เนี้ยหลี่’
“เนี้ยหลี่ถ้าตระกูลวายุเหมันต์ และตระกูลศักดิ์สิทธิ์ เกิดการต่อสู้ขึ้นข้ามีบางอย่างอยากจะขอร้องเจ้า”
“อะไร? ”
“ช่วยนำเอียจืออวิ้นออกจากการสู้รบที”
‘เอียเชิ้ง’พูด
‘เนี้ยหลี่’ เข้าใจถ้าสถานการณ์ภายในเกิดลุกลามเข้าในเมืองกลอรี่ตระกูลศักดิ์สิทธิ์จะไม่ยอมถูกกำจัดโดยง่ายและนั่นจะทำให้’เอียจืออวิ้น’มีอันตรายเพราะนางคือจุดอ่อนเพียงหนึ่งเดียวของ’เอียเชิ้ง’
ที่’เนี้ยหลี่’ตำหนิก่อนหน้านั้นแม้’เอียซ่ง’ดูแล’เอียฮั่น’ดั่งลูกของตัวเองแต่สายแลือดก็ยังเป็นสายเลือดอยู่ดี อาจมีความแตกต่างเล็กน้อย
‘เนี้ยหลี่’ตบบนไหลของ’เอียเชิ้ง’ เบาๆ
“ท่านพ่อตาโปรดวางใจปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้าเองไม่ว่าจะเกิดเรื่องร้ายแรงแค่ไหนข้าจักไม่ปล่อยให้เอียจืออวิ้นตกอยู่ในอันตราย!”
‘เอียเชิ้ง’ ยิ้มอย่างขมขื่น
“หวังว่าเจ้าจักทำได้ตามที่พูด!”
หลังจากนั้น ‘เนี้ยหลี่’ปรึกษาหารือกับ’เอียเชิ้ง’ ต่อเล็กน้อยเพื่อว่างแผ่นการตอบโต้ตระกูลศักดิ์สิทธิ์
ดวงดาวกำลังส่องแสงในท้องฝ้าอันมืดมิดเอียเชิ้ง เดินออกมาจากลานหน้าจวนของ’จืออวิ้น’เมื่อเร็วๆนี้เพื่อที่จะจัดการกับตระกูลศักดิ์สิทธิ์ เขานั้นมีเรื่องวุ่นวายมากมาย
ภายใต้แสงจันทร์’เอียฮั่น’เดินออกมาจากเงามืด
“คาราวะท่านพ่อบุญธรรม”
“เอียฮั่นเจ้ามาทำอะไรในที่นี้? ”
‘เอียเชิ้ง’ หยุดก้าวเดินไปต่อ
หลังจากเงียบสักพัก’เอียฮั่น’ก็พูดว่า
“ท่านพ่อบุญธรรมข้ามีบางสิ่งที่จะพูด”
“เอียฮั่นข้า …… ”
‘เอียเชิ้ง’ ก็มีหลายอย่างที่อยากจะพูดกับ’เอียฮั่น’
“ท่านพ่อบุญธรรมข้ารู้ดีว่าท่านนั้นดูแลข้ามาอย่างกับลูกแท้ๆถ้าท่านไม่รับข้ามาดูแลข้าคงตายอยู่ข้างถนน ข้าจักตอบแทนบุญคุณของท่านถึงแม้นข้าเอียฮั่นจะต้องจบชีวิตลงข้าก็ไม่ลังเล”
“เอียฮั่น…… ”
‘เอียเชิ้ง’ เปิดปากต้องการจักอธิบายให้แก่’เอียฮั่น’เข้าใจ
‘เอียฮั่น’สั่นศีรษะแสดงสีหน้าอย่างเจ็บปวด
“ท่านพ่อบุญธรรม ข้าเข้าใจตั้งแต่ยังเด็กข้านั้นไม่เคยต้องการที่จะเป็นเจ้าเมือง ที่ผ่านมานั้นข้าหลงรักเอียจืออวิ้นแต่ข้าเข้าใจในชาติกำเนิดของข้า ข้านั้นไม่ดีพอสำหรับเอียจืออวิ้น”
“เจ้าไม่ควรพูดอย่างนั้นพรสวรรค์เจ้านั้นวิเศษมากมันขึ้นอยู่ที่เวลาเท่านั้นที่เจ้าจะได้เป็นร่างทรงอสูรระดับ Black Gold บิดาข้า เอียมัวร์ ก็เคยเป็นคนธรรมดามาก่อน … ”
‘เอียเชิ้ง’
“ดังนั้นสำหรับเรื่องที่เจ้าหลงรักเอียจืออวิ้นมันเป็นครั้งแรกที่ข้าได้ยิน เจ้าและเอียจืออวิ้นเป็นพี่น้องกัน……”
ภายใต้แสงจันทร์ที่เงียบสงัด’เอียฮั่น’ที่ดูโดดเดี่ยวสั่นศีรษะของเขา
“ท่านพ่อบุญธรรมท่านไม่ต้องอธิบายอันใดหรอกข้าเต็มใจยกตำแหน่งเจ้าเมืองให้แก่เอียจืออวิ้นนับจากนี้ไป ข้าจักทำงานและฝึกฝนอย่างนักและข้าจะกลายเป็นมือขวาของเอียจืออวิ้นท่านพ่อบุญธรรมเวลานี้ข้าข้อลาท่านก่อน”
เมื่อ’เอียฮั่น’พูดจบหันหลังเดินจากไปอย่างช้าๆ (คิดว่าม..งหล่อหรอส….ด)
มองดู’เอียฮั่น’เดินจากไป ‘เอียเชิ้ง’หายใจยาวๆออกมา’เอียฮั่น’มีดีทุกๆอย่างยกเว้นเขาฉลาดเกินไปเขาวางแผนไว้อย่างลึกลับหลังจากที่ทุกสิ่งเกิดขึ้นในคืนนี้’เอียฮั่น’ได้รู้แล้วเค้าจะไม่สามารถขึ้นมาเป็นเจ้าเมืองได้
‘เอียเชิ้ง’ หวังว่า’เอียฮั่น’จะสามารถทำใจของเขาได้ในเร็วๆนี้
ปราศจากจากคำพูดๆในคืนนี้
หลายวันจากงานเลี้ยงตระกูลศักดิ์สิทธิ์ได้ทำการปรับเปลี่ยนอย่างมากในทันทีตระกูลวายุเหมันต์ ได้ระงับการติดต่อและค้าขายทั้งหมดกับตระกูลศักดิ์สิทธิ์เป็นสาเหตุให้ตระกูลศักดิ์สิทธิ์ได้รับความเดือดร้อนอย่างมากหลังจากรับรู้สถานการณ์ระหว่างตระกูลวายุเหมันต์ และตระกูลศักดิ์สิทธิ์ ตระกูลต่างๆที่เกี่ยวข้องกับตระกูลศักดิ์สิทธิ์ ต่างตัดออกความสัมพันธ์ทั้งหมดกับตระกูลศักดิ์สิทธิ์
นั้นมันเรื่องตลกอันใด? จุดมุ่งหมายของตระกูลวายุเหมันต์ คือสิ่งใด?
บรรพบุรุษผู้ก่อตั้งเมืองทั้ง 5 คนมาตระกูลวายุเหมันต์ ผู้คุ้มครองเมืองกลอรี่ ท่านลอร์ด’เอียมัวร์’เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลเอี้ยอีกด้วยถึงเข้าจะแต่งงานเข้าตระกูลศักดิ์สิทธิ์ตระกูลวายุเหมันต์ ยังคงมีตำแหน่งที่มั่นคงพวกเขาดำเนินการดึงดูดอัจฉริยะบุคคลเข้ามามากมายเป็นสาเหตุให้ตระกูลวายุเหมันต์ มีอำนาจอย่างน่ากลัว
มันเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อว่าตระกูลวายุเหมันต์จะระงับตระกูลอื่นๆให้หยุดการติดต่อกับตระกูลศักดิ์สิทธิ์ การระงับตระกูลศักดิ์สิทธิ์มันเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนแล้วจะมีตระกูลไหนกล้าต่อต้าน?
ตระกูลศักดิ์สิทธิ์ได้รับความทุกข์ยากอย่างมากในสิ่งที่เกิดขึ้น การค้าขายของตระกูลดิ่งลงเหวอำนาจป้องกันเมืองของตระกูลถูกโยกย้ายสมาชิกตระกูลศักดิ์สิทธิ์ทุกคนถูกย้ายจากหน้าป้องกันเมืองทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ตระกูลวายุเหมันต์ จะระงับการติดต่อของตระกูลศักดิ์สิทธิ์พวกเขาก็ไม่สามารถกระทำอันใดอื่นได้อีกทำได้เพียงแค่ติดตามดูเท่านั้น
แม้’เอียเชิ้ง’ ได้รวบรวมหลักฐานจำนวนหนึ่งที่ตระกูลศักดิ์สิทธิ์สมคบคิดกับสมาคมทมิฬ แต่หลักฐานเหล่านั้นไม่เพียงพอที่ตระกูลหิมะเหมันต์ จะสามารถทำลายล้างตระกูลศักดิ์สิทธิ์ได้โดยปราศจากหลักฐานที่หนาแน่นกว่านี้
เพราะมันอาจเป็นสาเหตุให้ตระกูลทั้งหมดในเมืองกลอรี่เกิดความไม่พอใจ
จบตอน…
ที่มา :