I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Tales of Demons & Gods (妖神记) ตอนที่ 143 โลกภายนอก

| Tales of Demons & Gods (妖神记) | 15600 | 2522 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

“ขอบคุณท่านลุง”

‘เนี่ยหลี่’กล่าวแล้วพยักหน้า มุมปากขดขึ้นเผยให้เห็นรอยยิ้มอ่อนๆ จิ้งจอกเฒ่าคงต้องคิดว่าเขาได้กำไรจากเรื่องนี้แน่ๆ ก็จริงอยู่! หญ้าเทียนฟ้างนั้นไม่มีฤทธิ์เป็นพิษ อย่างไรก็ตามหลังจากบริโภคมันเข้าไปมากๆ ผู้ที่ทานเข้าไปก็จะเริ่มตกเป็นทาสของมัน นั้นก็หมายถึงว่าเมื่อหญ้าเทียนฟ้างหมดลง ‘ซิคงอวี้’ก็จะไม่สนอะไรอีกนอกจากค้นหาหญ้าเทียนฟ้านมาเพิ่มอย่างสุดกำลัง

<เคี้ยกกๆๆๆๆ>

‘เนียหลี่’เองก็มีวิธีจะรักษาอาการของ’ซิคงอวี้’อยู่ แต่อย่างไรก็ตาม เขาเข้าใจถึงนิสัยใจคอที่โหดเหี้ยมเฉกเช่นของ’ซิคงอวี้’ ตอนก่อนจะหายเขายังอาจจะยำเกรงเกรงกลัว’เนี่ยหลี่’อยู่ แต่ถ้าพอตาจิ้งจอกเฒ่าหายแล้วล่ะก็

ฮึ..ฮืม

‘เนียหลี่’คงจะเสียไพ่ในมือใบที่เขาจะสามารถควบคุมได้ไปแน่แท้

‘ซิคงอวี้’กล่าวอย่างดัง

“ทหาร! เตรียมจัดงานเลี้ยง,ข้าจะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงต้อนรับหลานเหลยโจ๋วคนนี้เอง”

ลึกเข้าไปในใจของ’เนียหลี่’ เขาคิดได้ว่า’หนิงเอ๋อ’,’ลู่เปียว’และคนอื่นๆยังคงอยู่ข้างนอก,แล้วแบบนี้ข้าจะติดต่อกับพวกเขาได้ยังไง? ถ้า’หนิงเอ๋อ’กับคนอื่นๆเห็นเขาหายไปนานๆแบบนี้ พวกก็คงจะพลิกภูเขาค้นหาแน่ และถ้าเป็นเช่นนั้น พวกเขาอาจจะมีโอกาสประสบกับเรื่องร้ายๆก็เป็นได้

‘เนียหลี่’เองก็ตระหนักว่าถ้ามีจำนวนคนมาที่นี้มากไป มันก็จะไม่ค่อยจะดีนัก แต่อย่างั้นก็เถอะเขาก็เลือกที่จะพาพวกพ้องมาที่นี่ แต่จะให้ดีเขาต้องหาวิธีอื่นเพื่อรับมือกับตาเฒ่า’ซิคงอวี้’

‘เนียหลี่’หันหน้ากล่าวไปทาง’ซิคงอวี้’

“ท่านเจ้าตระกูล ข้าจำต้องเดินทางลงเขาไป เพื่อนๆของข้ากำลังรอคอยข้าอยู่ด้านล่างเขา”

“โอ้?เพื่อนหรอ?”

‘ซิคงอวี้’คิ้วขมวดและคิดอะไรบางอย่างจากนั้นจึงพูดขึ้นว่า

“เพื่อนของหลานก็เหมือนเพื่อนของพวกเรา ข้าจะส่งคนไปซักกลุ่มเพื่อรับพวกเขามาที่นี่!”

“ข้าควรจะต้องเดินทางไปเอง ถ้าหากเพื่อนๆของข้าเกิดปะทะกันกับคนของท่าน,มันจะเป็นปัญหาซะเปล่าๆ”

‘เนี่ยหลี่’กล่าว

“ได้สิ, งั้นให้ฮงหยู๋ไปกับเจ้า”

‘ซิคงอวี้’กล่าว ด้วยความแข็งแกร่งของ’ฮงหยู๋’, นางสามารถที่จะหยุดยั้งระดับเงิน5ดาวเช่น’เนียหลี่’ได้ง่ายดาย

ด้วยการร่วมทางมากับ’ฮงหยู๋’ ‘เนี่ยหลี่’เดินทางลงจากเขามาพบกับ’หนิงเอ๋อ’และคนอื่นๆ

‘ลู่เปียว’ถอนหายใจอย่างโล่งออกและพูดขึ้น

“เนียหลี่ในที่สุดนายก็กลับมาซะที นายเล่นหายไปซะนานเลยนะ พวกเราก็เป็นห่วงแทบแย่และกำลังจะขึ้นไปตามหาบนเขาอยู่แล้วเชียว”

‘เนียหลี่’และ’เซี่ยวหนิงเอ๋อ’สบตากัน จากนั้น’เนี่ยหลี่’จึงกล่าวขึ้น

“หลังจากขึ้นไปบนเขา,ข้าได้พบกับท่านลุง เขามาจากตระกูลปีกสีเงินผู้มีสายสัมพันธ์กับตระกูลสีเงินจรัสแสงของข้าจนก่อนที่จะถึงยุคมืด!”

‘เนียหลี่’ไปเป็นสมาชิกตระกูลสีเงินจรัสแสงตั้งแต่เมื่อไหร่วะเนี่ย? ‘ตู่ซือ’เหลือบไปเห็นสตรีที่ยืนรออยู่ข้างหลัง’เนี่ยหลี’ก็เข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น

‘เซี่ยวหนิงเอ๋อ’และคนอื่นๆก็ค่อยๆเริ่มเข้าใจสถานการณ์ที่’เนียหลี่’จะสื่อในไม่ช้าหลังจากนั้น พวกเขาเป็นคนฉลาดมีไหวพริบดีจึงเข้าใจได้ว่า ‘เนี่ยหลี่’คงกำลังหลบซ่อนความจริงอะไรบางอย่างกับคนพวกนั้น

แต่ก็ยังมีคนที่ทุกคนเป็นห่วงนั้นก็คือ ‘ลู่เปียว’

แววตาของ’ซิคงฮงหยู๋’กำลังสังเกตท่าทีตอบสนองของ’ตู่ซือ’และพรรคพวก และแล้วมาหยุดการสังเกตอยู่ที่’ลูเปียว’ที่ปฏิกิริยาดูแปลกๆ

‘ลู่เปียว’ดูตกตะลึงขณะที่จ้องมอง’ซิคงฮงหยู๋’อย่างเห็นได้ชัด ‘เซี่ยวเซว่’กระแทก’ลู่เปียว’ด้วยแขนของเธอ เมื่อ’ลู่เปียว’มองกลับมาก็หลุดจากภวังค์และได้สติ ดวงตาของเขาเบิกโตขึ้นและถามเนี่ยหลี่ว่า

“เนี่ยหลี่,นางเป็นใครน่ะ? รูปร่างนางดูช่างแข็งแกร่งซะจริงๆ!”

ที่เมื่อกี้ข้าดูตะลึงๆก็เพราะกำลังมองความแปลกของนางเนี่ยแหละ ‘ซิคงฮงหยู๋’ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย

“ลู่เปียว, หยุดพูดบ้าๆเลยนะ นี่พี่สาวของข้านะเฮ้ย!”

‘เนียหลี่’พูดขึ้นทันทีเพื่อให้รู้สึกเบาใจขึ้น (บรรยากาศเริ่มไม่ดีเพราะปากลู่เปี่ยวนี่น้อ)

“ฮี่ฮี่, โทดๆข้าหลุดสำรวมไปนิด พี่สาว, ท่านชื่ออะไรอ่ะ?”

‘ลู่เปียว’จ้องมอง’ซิคงฮงหยู๋’แบบหื่นๆพิลึก ที่เขาต้องแสร้งหื่นก็เพื่อที่จะแสดงตัวตนจริงๆของเขา ว่าจริงๆเขานั้นไม่มีอะไรดูผิดปรกติ (หื่นหลบเกลื่อนนี่หว่า)

“ซิคงฮงหยู๋”

นางตอบกลับมาอย่างเย็นชา ถ้ามิเพราะว่าตระกูลปีกสีเงินต้องการบางสิ่งจาก’เนียหลี่’ นางก็อยากที่จะสมนาคุณการกับผูกมิตรแบบนี้ให้กับเจ้าเด็กหนุ่มคนนี้ซะจริงๆ (สมนาคุณแบบไหนน้อ >,,<)

“ลู่เปียว, นี่นายกล้าหลีหญิงต่อหน้าข้าเลยเรอะ? อยากตายใช่มั๊ย?”

เสียงดังตั๊บ! เซี่ยวซุ่ยฟาดลูเปี่ยวเข้าไป 1hit

จากนั้น’ลู่เปียว’โอดครวญจากการโดนตีอย่างต่อเนื่อง 118combo hits และนั่งยองๆเอามือกุมหัวไว้ (พ่อบ้านใจกล้านี่เนาะ)

‘ซิคงฮงหยู๋’หาได้สนใจท่าทีเหล่านั้นโดยสิ้น นางหมุนตัวแล้วพูดขึ้นว่า

“ไปกันได้แล้ว”

ทั้งกลุ่มเดินตาม’ซิคงฮงหยู๋’ไป ‘เนียหลี่’จงใจเดินช้าลงและใช้สายตาจ้องมองตอบโต้สื่อสารกับกลุ่ม เพราะถึงเขาจะลดเสียงลงเพื่อพูดบางอย่าง มันก็ไม่สามารถหนีรอดหูระดับโกลด์5ดาวเฉกเช่น’ซิคงฮงหยู๋’ไปได้

ตระกูลปีกสีเงิน,ปราสาทที่ตั้งอยู่บนต้นไม้ใหญ่ยักษ์
ณ ห้องโถงที่บรรจุคนประมาณ100คน ผู้ซึ่งกำลังโยนไวน์ส่งต่อกันเป็นทอดๆ

“หลานข้า, มาๆข้าจะเทไวน์ใส่ถ้วยให้”

‘ซิคงอวี้’หยิบแก้วมาแล้วพูดเสียงดังขึ้นว่า

“หลานเหลยโจ๋วคนของตระกูลสีเงินจรัสแสง,แขกคนสำคัญ ต่อไปไม่ว่าเขาจะไปที่ไหนแห่งใดเขตตระกูลปีกสีเงินของเรา จะไม่มีใครขัดขวางเขา และถ้าเขามีความต้องการอะไร พวกเจ้าทั้งหลายก็จงทำตามคำขอให้เขาอย่างดีที่สุด!”

หลังจากได้ยินคำพูดของ’ซิคงอวี้’ สมาชิกของตระกูลปีกสีเงินก็มองหน้ากัน จากนั้นก็หันมามอง’เนี่ยหลี่’และประหลาดใจว่าเขาเป็นใครกัน ถึงได้รับความใส่ใจจากหัวหน้าตระกูลขนาดนี้

‘ซิคงอวี้’จ้องมองกวาดตาผ่านไปยัง’ตู่ซือ’และคนอื่นๆที่ช่วยไม่ได้เลยที่จะรู้สึกกดดัน เพราะหลังจากที่ถึงสถานที่แห่งนี้ พวกเขาก็ได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจาก’เนียหลี่’ จากนั้นหัวใจของพวกเขาก็ถูกกระตุ้นด้วยความกลัวด้วยเรื่องที่’ซิคงอวี้’เป็นถึงผู้เชี่ยวชาญระดับตำนาน

“เจ้าและเพื่อนๆของเจ้าเป็นแขกผู้มีเกียรติของตระกูลปีกสีเงิน คิดซะว่าเป็นบ้านของเจ้า ไม่ต้องอึกอักลังเลไปหรอก!”

‘ซิคงอวี้’พูดและหัวเราะเสียงดัง

“ขอบคุณครับท่านหัวหน้าตระกูล”

‘ตู่ซือ’และคนอื่นๆประสานมือคารวะ

คนที่ยังดูนิ่งสงบภายใต้เจตนาแอบแฝงของ’ซิคงอวี้’อยู่ได้ก็คงมีเพียงผู้เดียวคือ ‘เนียหลี่’ แม้แต่’เซี่ยวหนิงเอ๋อ’ก็ยังดูเกร็งๆนิดๆซึ่งสามารถสังเกตได้จากใบหน้าของนางที่แสดงออกมา

‘เนียหลี่’บีบมือนางเบาๆใบ้ให้นางทำตัวผ่อนคลายขึ้น

ทันใดนั้น,เสียงแส้ฟาดเป็นชุดก็ดังจนทำให้ได้ยินได้ ดึงความสนใจของทุกๆคนไปยังมุมของห้องโถง ที่เสาหินนั้นแท่งนั้นยังปรากฏร่างของเด็กหนุ่มที่ถูกมัดอยู่ เด็กหนุ่มคนนั้นยังคงถูกทรมาณจนถึงบัดนี้ และคนส่วนใหญ่ให้ห้องโถงก็เห็นพ้องด้วยกับการทรมาณนั้น พวกเขาหัวเราะคิกคักเบาๆดูไม่แยแสกับมัน

‘เซี่ยวหนิงเอ๋อ’ไม่สามารถทนต่อไปได้จึงถาม’เนี่ยหลี่’ขึ้นว่า

“เขาเป็นใครน่ะ”

“สมาชิกของตระกูลปีกสีเงิน”

‘เนียหลี’จึงเล่าถึงจุดเริ่มต้นและรายละเอียดของเรื่องราวทั้งหมด

‘เซี่ยวหนิงเอ๋อ’ก้มคอต่ำลงแล้วพูดพึมพำด้วยเสียงแผ่วเบา

“พ่อแม่ของเขาตายหมดแล้วหรือ และตัวเขาเองก็มาถูกเฆี่ยนตีทรมาณอยู่แบบนี้นะหรือ,น่าสงสารจัง!”

‘เนียหลี่’มองไกลออกไป ดวงตาของเด็กหนุ่มเติมเต็มไปด้วยความไม่ยอมอ่อนข้อและเกลียดชัง ปีกสีทองเข้มบนหลังของเขาถูกมัดไว้ด้วยโซ่ พรสวรรค์ของเด็กหนุ่มน่าจะดีเยี่ยมไม่เบา อย่างไรก็ตามถ้า’เนียหลี่’ช่วยชีวิตเขาๆน่าจะนำเรื่องมาให้เสียมากกว่า พิจารณาแล้วเด็กหนุ่มคนนั้นน่าจะเป็นดั่งเสี้ยนหนามในสายตาของ’ซิคงอวี้’

ทันใดนั้น ความคิดดีๆก็แวบขึ้นในสมองของ’เนียหลี่’

หลังจากดื่มไวน์ไปอีกซักพักนึง ‘เนียหลี่’ก็พูดกับ’ซิคงอวี้’ที่ดูมีท่าทีที่เริ่มมึนเมา

“ท่านลุงข้ามีคำขอขอรับ ข้าจะรู้สึกเยี่ยมมากเลยถ้าท่านลุงตกลงให้ตามคำขอ”

“อะไรรึ? เจ้าว่ามาได้เลย”

‘ซิคงอวี้’พูดแล้วหัวเราะ

‘เนียหลี่’ชี้ไปที่เด็กหนุ่มที่ถูกล่ามโซ่ที่อยู่ห่างออกไปแล้วกล่าวต่อว่า

“ข้าต้องการเขาคนนั้น”

“จะเอามันไปทำอะไรรึ”

การไต่ถามของ’ซิคงอวี้’มาพร้อมกับแววตาแหลมคมที่ฉายแววออกมา

“ไอ้เด็กหนุ่มนั้นเป็นคนทรยศของตระกูลปีกสีเงิน!”

‘เนียหลี่’เผชิญหน้ากับสายตาที่เหลือบมองมาของ’ซิคงอวี้’โดยไม่ได้แสดงอาการหวาดกลัวใดๆ เขายิ้มอ่อนๆและพูดต่อไปว่า

“ข้าเห็นว่าไอ้เด็กหนุ่มนั่นเป็นเสี้ยนหนามในสายตาของท่านลุง และยังเป็นไอ้คนทรยศของตระกูลปีกสีเงิน และทุกๆคนคงอยากกำจัดเขาออกไปให้ได้ไวๆ อย่างไรก็ตามท่านลุงมัดเขาไว้ตรงนั้นและเฆี่ยนตีอย่างต่อเนื่องแบบนี้ มันจะเป็นเยี่ยงอย่างให้สมาชิกอื่นจดจำใช่ไหมล่ะ แต่ข้ามีวิธีที่ดีกว่านั้น!”

“วิธีอะไรล่ะ”

‘ซิคงอวี้’ดื่มไวน์ต่อไปอย่างนิ่งๆ

“เอามันไปเป็นหนูทดลองยา”

‘เนี่ยหลี่’กล่าว

“แม้ว่าข้าจะมีความมั่นใจแน่นอนว่าจะรักษาท่านลุงจากอาการป่วยได้ สมุนไพรบางตัวมีอยู่แล้ว แต่กระนั้นสมุนไพรบางตัวยังมีคงมีไม่เพียงพอ สมุนไพรหลายๆตัวล้วนหาได้จากโลกภายนอก หากมีสมุนไพรซักตัวสองตัวที่ไม่ถูกต้อง ข้าคงจะไม่สามารถรักษาอาการป่วยของท่านได้ ข้าเกรงว่าข้าจะไม่สามารถแบกความรับผิดชอบจากความผิดพลาดเอาไว้ได้ เช่นนั้นถ้าข้าอยากจะหาใครซักคนมาลองยาข้าจะได้ไหม ถือซะว่าให้เขาได้อุทิศตัวเองครั้งสุดท้ายเพื่อตระกูลปีกสีเงินเถอะ”

‘ซิคงอวี้’มองมาที่’เนี่ยหลี่’และพยายามหาว่าไอ้เด็กนี่มันพยายามจะโกหกหรือไม่ ในขณะที่’เนี่ยหลี่’เองก็ดื่มไวน์ในถ้วยไปอย่างนิ่งสงบ โดยแสร้งทำเป็นว่าไม่ได้แยแสอะไรกับมัน

“ได้, ให้มันได้เป็นตัวลองยาให้เจ้าละกัน”

‘ซิคงอวี้’พูดอย่างนุ่มนวล ภายใต้อาณาเขตของตระกูลปีกสีเงิน, เขาไม่เชื่อว่า’เนี่ยหลี่’จะสามารถหนีไปไหนได้

“นอกจากเรื่องนี้, ข้ายังมีคำขออีกข้อนึง”

‘เนี่ยหลี่’ยิ้มอ่อนๆและพูดไป

“ถึงแม้ว่ามันจะเป็นความปรารถนาส่วนตัวของข้า แต่ข้าก็รู้มาว่าในดินแดนของท่านลุงนั้นมีเหมืองหินศิลาเลือดอยู่ มันจะเป็นไปได้ไหมถ้าข้าจะขอหินศิลาเลือดของท่านซักหน่อย”

“แค่หินศิลาเลือด, ข้ามีอยู่เยอะแยะไป เจ้าหยิบเอาเถอะ เอาไปได้เลย”

จากนั้นมือขวาของ’ซิคงอวี้’ทุบลงบนผิวโต๊ะ

“ถ้าเจ้าไม่สามารถปรุงยาออกมาได้ในหนึ่งหรือสองเดือน……”

‘เนี่ยหลี่’พูดสวนขึ้นมาทันที

“จะผลิตยาในเดือนสองเดือนมันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน แต่อย่างไรข้าก็ยังสามารถปรุงยาเพื่อบรรเทาอาการป่วยของท่านลงได้”

‘เนียหลี่’พูดต่อเนื่องทันที

“มันจะสามารถฟื้นฟูการเพาะบ่มพลังของท่านลุงได้ด้วยและบรรเทาปวดจากอาการป่วยไปในตัว”

ได้ยินคำพูดของ’เนียหลี่’,

‘ซิคงอวี้’ก็รู้สึกโกรธขึ้นมานิดๆแต่เขาก็ไม่สามารถจะทำอะไรได้ เรื่องที่จะพยายามให้’เนี่ยหลี่’ปรุงยาขึ้นมาในช่วงระยะเวลาอันสั้นมันก็ดูไม่น่าเป็นไปได้จริงๆ แต่ถ้าสามารถบรรเทาอาการเจ็บปวดได้มันก็ยังพอรับได้อยู่ แม้กระนั้นพลังเพาะบ่มของ’ซิคงอวี้’นั้นสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้ตระกูลปีกสีเงินได้ถึงความปลอดภัย จากที่ผ่านมาไม่นานอาการป่วยของ’ซิคงอวี้’ที่เริ่มแย่ลง มันทำให้ตระกูลของศัตรูไม่น้อยเริ่มเคลื่อนไหว

‘ซิคงอวี้’พยักหน้าและกล่าวขึ้นว่า

“ได้,ถ้าเช่นนั้นหลานก็จงปรุงมันมาเถิด”

มุมปากของ’เนียหลี่’ผุดรอยยิ้มขึ้น มันเป็นไปไม่ได้เลยที่’ซิคงอวี้’จะให้เขาแจกจ่ายยาทั้งหมดออกไปเฉกเช่นเดียวกันกับที่จะไม่ปล่อยให้’เนียหลี่’ออกไปได้ครบสามสิบสอง อย่างยังไงตอนนี้’เนียหลี่’มีวิธีควบคุมซิคงอวี้แล้ว ฉะนั้นเขาจึงไม่ต้องกังวลอะไร

‘เนียหลี่’พูดต่อ

“ท่านลุง,ถ้าข้าจะปรุงยาให้ได้ครบถ้วน ข้าก็จำจะต้องออกจากเขตแดนไปยังโลกภายนอก”

“โลกภายนอก?”

‘ซิคงอวี้’แย้มให้เห็นถึงความอึกอักลังเลของเขา

“มันไม่จำเป็นต้องไปทั้งตระกูลหรอก ส่งคนไปซักกลุ่มเพื่อเก็บตัวยาก็เพียงพอแล้วขอรับ”

‘เนียหลี’กล่าว

‘ซิคงอวี้’ตอบกลับมาว่า

“แต่ข้าไม่รู้ว่าจะออกไปจากห้วงบริเวณนี้ได้อย่างไร ตั้งแต่บรรพบุรุษของเราเข้ามาที่แห่งนี่ พวกเราก็ไม่สามารถกลับออกไปได้อีก”

“ในป่าห่างไกลนั้น มันมีอาณาเขตเคลื่อยย้ายต่างมิติอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม, เพื่อที่จะกระตุ้นอาณาเขตให้มันทำงาน พวกเราต้องการหินศิลาแห่งแสง23ก้อน เมื่อเราค้นพบหินศิลาแห่งแสงแล้ว เราก็จะสามารถออกไปได้”

‘เนี่ยหลี่’กล่าวขึ้นดั่งโยนภาระหาหินศิลาแห่งแสงไปให้’ซิคงอวี้’ เพื่อที่จะรักษาอาการของ’ซิคงอวี้’เอง ตัวเขาไม่สามารถปฏิเสธอะไรได้

หลังจากได้ยินคำของ’เนียหลี่’ ‘ซิคงอวี้’ไตร่ตรองอยู่ซักพักนึง แล้วคิดได้ว่าแม้ว่าเขาจะเปิดอาณาเขตเคลื่อนย้ายต่างมิติ แต่เขาก็สามารถทำลายมันลงเวลาใดก็ได้ จากนั้น’ซิคงอวี้’จึงพยักหน้า

“ก็ได้!! ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้าเอง”

 

< และแล้วตอนต่อไปก็มาถึงตอนเด็ดตอนหนึ่งในใจของคนแปล **เด็กหนุ่มคนนั้นจะเป็นใคร? มาเปิดตัวกันในตอนหน้า** สำหรับในตอนนี้….สวัสดีจ้า >

ปล. ค้างกันก่อนไปนะเหล่านักอ่าน…จุ๊บๆ เจอกันตอนหน้า อิอิ!!

แปลโดย: IDeaPaeTonG นะแจ๊ะ…

จบตอน..

ที่มา : 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments