I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Tales of Demons & Gods (妖神记) ตอนที่ 147 เปลวเพลิงอันเร่าร้อน ของมังกรทมิฬ

| Tales of Demons & Gods (妖神记) | 12232 | 2522 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

“ท่านลุง ต้องพูดเรื่องตลกแน่ จะเป็นไปได้อย่างไร ที่ข้าจะคู่ควรกับพี่ฮงหยู๋”

‘เนี้ยหลี่’เปล่งวาจาพร้อมยิ้มเล็กน้อย ในใจของเขานั้นครุ่นคิดวางแผนการอย่างรวดเร็ว ในตอนนี้นั้นศิลาแห่งแสง อยู่กับสุนัขจิ้งจอกเฒ่าอย่าง ‘ซีคงยี้’ เขาไม่ยอมให้พวกมันหลุดออกจากมือแน่นนอน จะต้องทำอย่างไรจึงจะทำให้ ซีคงยี้ นั้นลดความระมัดระวังลงมา?

‘ซีคงยี้’ หัวเราะพร้อมทั้งกล่าวออกมา

“ หลานชาย ไม่ต้องลดค่าตัวเองลงมาหรอก แม้ว่าการบ่มเพาะพลังวิญญาณของเจ้าจะไม่สามารถเทียบกับ ฮงหยู๋ได้ แต่เรื่องทักษะการปรุงยาของเจ้านั้น คู่ควรกับฮงหยู๋ อย่างแน่นอน”

เจ้ายังจะทำเรื่องอะไรต่อ? ‘เนี้ยหลี่’แอบคิดอยู่ภายในใจ แต่ภายนอกกลับแสดงรอยยิ้มบนใบหน้าพร้อมกล่าว

“ ท่านลุงสามารถส่งคนไปเลือกเก็บสมุนไพร อย่างไรก็ตามโลกภายนอก ล้วนเต็มไปด้วยสัตว์อสูรซึ่งมันอันตรายมาก ข้านั้นกลัวว่าพวกเขาจะไม่รู้จักเส้นทางแล้วไม่สามารถที่จะกลับมาได้……………….”

‘ซีคงยี้’ ขมวดคิ้วขึ้นมาสักครู่พลางกล่าวต่อว่า

“เมื่อเป็นอย่างนี้หลานชาย สามารถไปพร้อมกับคนของข้า การเดินทางครั้งนี้มันอันตราย ข้าจะส่งยอดฝีมือติดตามไปกับเจ้าด้วย สำหรับเพื่อนของเจ้า พวกเขาสามารถค้างอยู่ที่นี่ได้ เพื่อรอเจ้าจัดการเรื่องพวกนั้น?”

‘ซีคงยี้’ นั้นโหดเหี้ยมมาก เขาต้องการใช้’เซี่ยวหนิงเอ๋อ’ และพรรคพวกของเขาเป็นตัวประกัน

‘เนี้ยหลี่’ยิ้มพร้อมทั้งกล่าว

“ ได้แน่นอน ข้าสงสัยว่าท่านผู้อาวุโสวางแผนจะส่งยอดฝีมือท่านใดไปกับข้า?”

จนกระทั้งในอาณาเขตของข้านั้นมีเพียงผู้เดียวที่สามารถไปถึงระดับตำนานได้ก็คือตัวข้านั่นเอง มีผู้อาวุโสอีกสองคนซึ่งอยู่ในระดับแบล็คโกลด์ แต่พวกเขามีภาระหน้าที่ติดพันทำให้เหนื่อยล้ามาก และยังไม่สามารถที่จะละทิ้งหน้าที่ได้อีกด้วย อย่างไรก็ตามในการออกสู่บริเวณโลกด้านนอกนั้น

ข้าจะส่งยอดฝีมือระดับโกลด์ห้าคน ติดตามไปกับเจ้าในการเดินทางครั้งนี้ เพียงพอหรือไม่? ‘ซีคง ยี้’ นั้นมองเห็นได้ชัดถึงความกังวลเล็กๆ ของการกลัวที่จะก้าวออกสู่โลกภายนอก

“ท่านลุงไม่ต้องกังวลมากนักหรอก ส่งยอดฝีมือระดับโกลด์ติดตามข้าไปสักสองคนก็มากเกินพอแล้ว โลกภายนอกไม่ได้น่ากลัวเท่าไรดอก สิ่งใดกันที่ทำให้ท่านลุงยังครุ่นคิดอยู่”

‘เนี้ยหลี่’ หัวเราะออกมาหลังกล่าวเสร็จ

“ถ้ามีเพียงสองคน ข้าจะรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจ เหมือนมียอดฝีมือระดับโกลด์ห้าคนร่วมเดินทางไปกับเจ้า”

‘ซีคง ยี้’ กล่าว พร้อมทั้งส่ายหน้าของเขา จะให้ส่งยอดฝีมือระดับโกลด์ไปเพียงสองคน ทำไมเขาถึงสามารถมั่นใจเช่นนั้นกัน?

“ ตกลง แต่ข้ามีคำขอร้องต่อท่าน”

‘เนี้ยหลี่’กล่าวหลังจากครุ่นคิดอยู่ซักครู่

“คำของร้องเรื่องอะไร? หลานชายสามารกล่าวมันออกมาได้เลย”

‘ซีคง ยี้’ กล่าวพร้อมทั้งหัวเราะออกมา

“เพราะว่า สมุนไพรนั้นมีหลากหลายชนิด การที่จะตรวจสอบสรรพคุณทางยานั้นเป็นเรื่องที่ยากเย็นยิ่งนัก ข้าต้องการที่จะนำต้วนเจี้ยน ไปด้วย เพราะว่าเขานั้นใช้ทดสอบตัวยาได้”

‘เนี้ยหลี่’กล่าว พร้อมจับจ้องไปที่อากัปกิริยาของ’ซีคงยี้’

‘ซีคงยี้’ ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขานั้นไม่สามารถที่คิดออกมาได้ว่าทำไมง’เนี้ยหลี่’งนั้นจึงมีความสนใจในตัวต้วนเจี้ยนเช่นนี้ เป็นสาเหตุให้เขามีความวิตกกังวล อย่างไรก็ในเร็วๆนี้ เขาเชื่อว่า’ต้วนเจี้ยน’นั้น ต้องได้รับการกรีดร้องทนทุกข์ทรมาน จากการที่’เนี้ยหลี่’ใช้เขาทดสอบตัวยา

นอกจากนี้’ต้วนเจี้ยน’นั้น มีการบ่มเพาะพลังเพียงระดับโกลด์ขั้น สามดาว เขาไม่สามารถที่จะเป็นสาเหตุให้เกิดผลกระทบใดๆตามมาเป็นแน่

“ ไม่มีปัญหา ท่านสมารถนำ ต้วนเจี้ยนติดตามไปด้วยได้เลย”

‘ซีคงยี้’ ยิ้มเล็กน้อยพร้อมทั้งกล่าว

“เจ้าสามารถเตรียมการที่จะออกไปจากที่นี่ได้ในวันพรุ่งนี้ ข้าจะเตรียมคนของข้าให้นำศิลาแห่งแสงมาด้วยและเจ้าสามารถเดินทางไปด้วยกันได้เลย!”

เพื่อป้องกันความล่าช้าที่จะเกิดขึ้น’ซี คงยี้’ได้ตัดสินใจดำเนินการโดยทันที

“ตกลงตามนั้น”

‘เนี้ยหลี่’พยักหน้าพร้อมเปล่งวาจา เขานั้นได้มีความคิดที่ชัดเจนอยู่เรียบร้อยแล้วว่าต้องทำเช่นไร ไม่ว่าการเดินทางเป็นเวลาใดย่อมไม่เป็นปัญหา

‘ซีคงยี้’ ยิ้มเล็กน้อย ในดวงตามองต่ำลงเล็กน้อย การให้เพื่อนของเจ้าอยู่ที่นี้ โดยในหมู่พวกนั้นมีผู้หญิงที่สวยมากอยู่ด้วย ข้านั้นไม่เชื่อหรอกว่าเจ้านั้นจะไม่กลับมาหาพวกเพื่อนของเจ้า

‘เนี้ยหลี่’ ยังคงเจรจาต่อรองทีเล่นทีจริง กับ ‘ซีคงยี้’ โดยมีเจตนาที่จะใช้สาเหตุนี้เอาศิลาแห่งแสงจากมือของ’ซีคงยี้’ แต่เขาก็ยังพยายามที่จะเบี่ยงเบนประเด็นในการที่จะมอบศิลาแห่งแสง ซึ่งก็หมายความว่าเขานั้นจะไม่ยอมให้ศิลาแห่งแสงกับ’เนี้ยหลี่’เป็นผู้ถือนั้นเอง

‘เนี้ยหลี่’ยอมแพ้อย่างไม่เต็มใจพร้อมทั้งกล่าวอำลา’ซีคงยี้’ ‘ฮงหยู๋’ เจ้าคิดว่าเหลยโซ่ว กำลังทำเป็นเรื่องเล่นๆ ไหม?

“แม้ว่าเหลยโซ่ว จะพยายามทำสิ่งใดเรื่องเล่นๆ แต่เขาเป็นคนที่ใจอ่อน ถ้าเราเก็บเพื่อนของเขาให้อยู่ที่นี่ เราไม่ต้องกลัวว่าเขาจะไม่ย้อนกลับมาหรอก”

‘ซีคง’ ‘ฮงหยู๋’กล่าว พร้อมทั้งย้อมความคิดไปถึงตอนที่อยู่ในเหมืองคริสตัลโลหิต นางก็ไม่สามารถที่จะอดยิ้มอย่างเหยียดหยามขึ้นมาได้

เขาเป็นคนที่แสดงกิริยาอาการเช่นนั้นต่อคนแปลกหน้าแม้ว่าจะไม่ใช่เพื่อนของเขา

“มันนับว่าเป็นเรื่องที่ดี”

‘ซีคงยี้’ รู้สึกโล่งใจและหัวเราะออกมา

“ถ้าตระกูลปีกสีเงินของพวกเรา รักษาอาการเจ็บป่วยได้ ตระกูลเราก็ไม่น่ามีเรื่องอะไรที่ทำให้เราต้องกลัวไปอีก? หลังจากตระกูลเราเป็นปึกแผ่นแล้วก็จะออกไปมองโลกภายนอกกัน”

ถึงแม้ว่า ‘ซีคงยี้’ จะกลัวโลกภายนอก แต่ถ้าเทียบกับการต้องทนอยู่แต่ในโลกแห่งความมืด ต้องตกอยู่ให้สภาวะอาหารที่มีอยู่อย่างจำกัด และต้องคอยระวัดระวังสัตว์ร้ายในแต่ละวัน เขายังคงต้องการที่จะลองทำมันดู ถ้ามีความเป็นไปได้ว่าจะก้าวออกสู่โลกภายนอกได้

ณ ลาน แห่งหนึ่ง

“พวกเจ้ารอข้าอยู่ที่นี่ก่อน เราจะดำเนินการภายในสิบวัน นับจากคืนนี้ ข้าได้เริ่มทำการบางอย่างพวกเจ้าจะต้องหนีตามทางนี้”

‘เนี้ยหลี่’ยืนเปิดแผนที่พร้อมบอกกล่าวแก่’เซี่ยวหนิงเอ๋อ’ ‘ตู่ซื่อ’และพรรคพวก

แผนที่ ที่วาดโดย’เนี้ยหลี่’นั้น หลังจากที่เขาได้เดินย้อนกลับมา เป็นรูปภาพของอาณาบริเวณการปกครองของตระกูลปีกสีเงินอย่างชัดเจน

‘เซี่ยวหนิงเอ๋อ’ ‘ตู่ซื่อ’ และพรรคพวก จดจำรูปร่างแผนที่นั้นไว้อย่างขึ้นใจ

“ในเวลานี้ ตระกูลปีกสีเงินจะเข้าใจอย่างแน่นอนว่าข้าต้องกลับลงมาข้างล่าง”

‘เนี้ยหลี่’กล่าวพร้อมรอยยิ้ม ทุกๆสิ่งนั้นได้เตรียมการไว้เรียบร้อย

เมื่อได้ยินคำพูดจาก’เนี้ยหลี่’ ‘ต้วนเจี้ยน’ ใครจะรู้บ้างว่าบริเวณมุมปากของเขานั้นขยับอย่างมีเลศนัยตาของเขานั้นเปล่งประกายตาก็เปล่งแสงอันไม่ปกติออกมาจากแววตาของเขา เวลาในการเอาคืนคงจะเหลืออีกไม่กี่วันแล้ว

กลางดึกของคืนอันเงียบสงัด
ในเช้าวันถัดไป ผู้เชี่ยวชาญระดับโกลด์ทั้งห้ามา รวมตัวกันที่เนี้ยหลี่และเพื่อนของเขา ณ บริเวณลาน

“คุณชายเหลย เรากำลังจะออกจากที่นี่”

หัวหน้าสาขา ระดับโกลด์ ขั้น ห้าดาว กล่าวอย่างสุภาพ พร้อมกับชำเลืองสายตามาที่ ต้วนเจี้ยน ที่นั่งอยู่ที่มุม ประกายตาและรอยยิ้มของเขาบ่งบอกถึงการดูถูกเหยียดหยาม

“ข้าคือซีคง จื่อ ข้าของรับรองความปลอดภายใจการเดินทางครั้งนี้ของคุณชายเหลยเอง!”

“ท่านนำศิลาแห่งแสงมาด้วยหรือไม่?”

‘เนี้ยหลี่’กล่าวพร้อมจ้องมองไปยัง’ซีคงจื่อ’

“ ข้ามี กรุณามองมาทางนี้”

‘ซีคง จื่อ’ นำบางอย่างออกมา มันนั้นคือศิลาแห่งแสงซึ่งเตรียมมาพร้อมนำออกมาถือไว้บนมือและเอ่ยว่า

“ข้าได้นำมันมารวมทั้งสิ้นจำนวน ห้าสิบอัน พวกมันอยู่ในแหวนมิตินี้?”

‘เนี้ยหลี่’ชำเลืองมองไปยังก้อนศิลาบนมือของ’ซีคงจื่อ’ เขาต้องการศิลาแห่งแสงนี้

เมื่อ’เนี้ยหลี่’ ยื่นมือของเขาไปออกไป ‘ซีคงจื่อ’กลับเก็บศิลาแห่งแสงลงในแหวนมิติทันที่พร้อมทั้งยิ้มและกล่าวออกมาว่า

“ท่านชายเหลย เราควรจะออกไปในตอนนี้”

ชายแก่เจ้าเล่ห์อย่างซีคงยี้ ต้องบอกกล่าวแก่’ซีคงจื่อ’ ว่าห้ามไม่ให้เนี้ยเหลี่ยได้รับศิลาแห่งแสงเป็นแน่ ‘เนี้ยหลี่’ทำเป็นไม่สนใจ ‘ซีคงจื่อ’

“ นี่คงได้เวลาที่เราต้องเดินทางกันแล้ว”

“เนี่ยหลี่ดูแลตัวเองด้วยนะ”

‘ตู่ซื่อ’ ‘หลู่เพลี่ยว’ และพรรคพวกทั้งหมด กล่าวตามลำดับ

‘เซี่ยวหนิงเอ๋อ’ นิ่งเงียบจ้องมองมายัง ‘เนี้ยหลี่’ ในแววตาของนางนั้นบ่งบอกได้ถึงความวิตกกังวล

“ไม่ต้องเป็นห่วงข้าหรอกนะ พวกเจ้าอยู่ที่นี่และฝึกซ้อมขณะรอคอยการกลับมาของข้า”

‘เนี้ยหลี่’หัวเราะ

‘ซีคงจื่อ’เดินออกไปทาง ‘ต้วนเจี้ยน’ แล้วหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเขาและกล่าวอย่างเย็นชาว่า

“เจ้าเด็กบ้าออกไปซะ”

‘ต้วนเจี้ยน’ เงยหน้ามองไปยัง’ซีคงจื่อ’ แววตาแห่งความเกลียดชังนั้นปรากฏอยู่ในสายตาของเขา ถ้าเขาลงมือจัดการในตอนนี้ ข้อสงสัยถึงสาเหตุการตายของซือคงจื่อก็จะแพร่กระจายออกไป

“เด็กบ้า เจ้ายังกล้าจ้องมองมายังข้าอีกหรือ?”

‘ซีคงจื่อ’หยุดยืนมองไปยังใบหน้าของ’ต้วนเจี้ยน’ กดศีรษะของเขาลงบนพื้นดินแล้วใช้เท้าเหยียบลงบนใบหน้าอย่างโหดเหี้ยม

“ แม่ของเจ้าเป็นดอกทองไร้ยางอายยิ่งนัก นางคงจะหลอกล่อสำส่อนผู้คนจากตระกูลต่างๆ และให้คงให้กำเนิดเจ้าเด็กบ้างเหมือนเช่นเจ้า จนไม่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อ เจ้านับว่าโชคดีแล้วที่มีชีวิตอยู่รอดมาได้จนถึงวันนี้”

‘ต้วนเจี้ยน’ กัดฟันแน่น ความโกรธนั้นแสดงให้เห็นได้ในแววตาของเขา

‘เนี้ยหลี่’แอบร้องอยู่ในใจ ถ้า’ต้วนเจี้ยน’ลงมือตอบโต้ในตอนนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำมาจะต้องไร้ความหมายเป็นแน่

‘เนี้ยหลี่’เดินก้าวไปข้างหน้าพร้อมทั้งกล่าว

“ พี่ชาย ทำไมท่านต้องโกรธมาก เขาทำอะไรแก่ท่านหรือ? มันชั่งไร้จุดมุ่งหมายนัก เรายังต้องการใช้เขาในการทดสอบตัวยา ถ้าพี่ชายจะไม่ทำร้ายเขา การพี่ชายทำให้เขามีบาดแผล ข้าจะต้องรักษาเขา”

‘เนี้ยหลี่’ส่งผ่านยาทิพย์ต่างๆไปยัง’ซีคงจื่อ’
‘ซีคงจื่อ’ ก้มมองต่ำลงมาพร้อมชำเลืองด้วยสายตา พร้อมถอนหายใจ

“ เจ้าต้องซื่อสัตย์ต่อข้าตลอดการเดินทางในครั้งนี้ ถ้าเจ้ากล้าทำเรื่องตลกใดๆ ข้าจะถลกหนังเจ้าออกมาซะ”

‘ซีคงจื่อ’ดุด่า’ต้วน เจี้ยน’ พร้อมกับยกฝ่าเท้าออกมา

‘ต้วนเจี้ยน’ ลุกขึ้นยืนอย่างรวมเร็ว แต่ไม่ได้พูดสิ่งใดออกมา

‘เนี้ยหลี่’ ไม่สามารถจะกล่าวคำใดๆเพื่อช่วยเหลือ ‘ต้วนเจี้ยนไ’ด้เลย เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่า ‘ต้วนเจี้ยน’ จะสามารถทนทรหดได้ขนาดนี้ มันเป็นการดีแน่นอนถ้าเขาสามารถผ่านตระกูลปีกสีเงินนี้ออกไปได้ ในอนาคตเขาจะต้องทะลุขีดจำกัดอย่างแน่นอน

หลังจากกล่าวคำอำลา ‘ตู่ซื่อ’ ‘หลู่เพลี่ยว’ และพรรคพวกที่เหลือ ‘เนี้ยหลี่’ที่ออกจากลานนั้นไป พร้อมกับ’ซีคงจื่อ’ ‘ต้วนเจี้ยน’ซึ่งถูกผูกพันธนาการติดอยู่กับโซ่เหล็กสีดำไว้อย่างแน่นหนา พร้อมกับระดับโกลด์อีกสองคนคอยติดตามขนาบซ้ายและขวา

ที่ พระราชวังซึ่งอยู่บนต้นไม้

‘ซีคงยี้’ และ ‘ซีคงฮงหยู๋’ พวกเขายืนดูเนี้ยหลี่และพรรคพวกตระกูลปีกสีเงิน ที่เคลื่อนตัวออกไปอย่างเงียบๆ จนกระทั้งหายลับตาเข้าไปในความมืด

“ถ้าเหลยโซ่ว นำยากลับมาให้แล้ว ก็จัดการสังหาร เจ้าต้วนเจี้ยน ทันที ถ้าเจ้าต้วนเจี้ยนยังมีลมหายใจอยู่ ข้ารู้สึกไม่ค่อยสบายใจ”

‘ซีคงยี้’ ถอนสายตาของเขาด้วยแววตาที่กังวล เขานั้นเป็นถึงยอดยุทธ์ระดับตำนาน มันเป็นเรื่องน่าเบื่อที่ต้องคอยมากังวลกับระดับทองเช่นนี้? สาเหตุนี้ทำให้’ซีคงฮงหยู๋’ รู้สึกประหลาดใจบ้างเล็กน้อย

“เมื่อเหลยโซ่ว เดินทางกลับมา ข้าจะปิดฉากชีวิตของชายผู้นี้เอง”

‘ซีคง’ ‘ฮงหยู๋’มองด้วยแววตาที่เห็นแล้วหนานสะท้านเลยทีเดียว

ในถิ่นทุรกันดาร แลดูเวิ้งว้างเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด กลุ่มคนกำลังเดินทางอยู่พร้อม ผู้เชี่ยวชาญระดับโกลด์ห้าคน สองคนรับผิดชอบในการป้องกันกำลังลงมือฆ่าภูตโลหิตอยู่ตามทาง ทำให้ที่เหลืออีกสี่คนเดินทางอย่างช้าๆไปยังถิ่นทุรกันดารที่อยู่ลึกเข้าไป

ในป่าอันเงียบสงบ จนแลน่ากลัว แม้แต่ซีคงจื่อ ยังไม่กล้าที่จะผ่อนคลาย มันเป็นที่เข้าใจได้ชัดเจนแล้วว่าสถานที่แห่งนี้นั้นอันตรายสุดๆ พวกเขาสามารถได้รับอันตรายในเวลาใดก็ได้
กุจิ กุจิ!!

เสียงกรีดร้องของภูตโลหิต ที่ดังก้องอยู่ในอากาศ แม้ว่าพวกเขาจะฆ่ามันอย่างต่อเนื่อง แต่พวกภูตโลหิต กับยิ่งเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ

“ แม่ง ช่างน่าสะอิดสะเอียนยิ่งนัก!”

‘ซีคงจื่อ’ เปล่งเสียงออกทางจมูก ความรู้สึกในตอนนี้นั้นชั่งรันทดเล็กน้อยเลยทีเดียว เดิมทีเขานั้นพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย และบนที่นอนรายล้อมไปด้วยสาวสวยจากในตระกูล ปัจจุบันเขาต้องออกมายังสถานที่เฉกเช่นนรกแห่งนี้ สาเหตุทั้งหมดนั้นต้องโทษว่าเป็นเพราะเจ้าเหลย โซ่ว ที่ทำผิดพลาด

“ถ้าเราไม่ได้หาวิธีจัดการพวกมันออกไป พวกมันก็จะทวีจำนวนรวมกันเป็นกลุ่มมากขึ้นเรื่อยๆ!”

เสียงกล่าวจาก ผู้เชี่ยวชาญระดับโกลด์ ขั้นสามดาว

‘เนี้ยหลี่’ และ ‘ต้วนเจี้ยน’ มองสบตากัน แต่ก็ไม่ได้กระทำท่าทางใดๆ พวกเขาสามารถมองดูอยู่เงียบๆได้

“ แม่ง!”

‘ซีคงจื่อ’ ดึงดาบออกจากฝักเข้าร่วมต่อสู้

*ฟุบ….ฟุบ…*

ภูตโลหิตได้แยกออกเป็นสองกลุ่ม พวกหนึ่งลอยขึ้นไปบนอากาศ

การต่อสู้อันรุนแรงได้ประทุออกมา

*บูม บูม บูม!*

‘ซีคงจื่อ’ และพรรคพวก เร่งแรงพลังวิญญาณสูงสุดอย่างต่อเนื่อง เพื่อจัดการสังหาร ภูตโลหิตเหล่านี้

หลังจากผ่านไปหลายชั่วโมง บนพื้นล้วนเต็มไปด้วยซากศพของเหล่าภูตโลหิตวางปูเป็นพรมกระจายอยู่โดยรอบ ซีคงจื่อและ เหล่าผู้เชี่ยวชาญระดับโกลด์ พากันหยุดพักหายใจจากการต่อสู้

‘เนี้ยหลี่’พิงอยู่กับหินก้อนใหญ่ อากับกิริยาที่แสดงออกมานั้นราวกับว่าเขานั้นมาพักผ่อน ทำให้พวก’ซีคงจื่อ’ นั้นโกรธมากขึ้นมาทีเดียว ‘เนี้ยหลี่’พูดอย่างใจเย็นว่า

“ พวกท่านลองหันหลังกลับไป”

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments