I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Tales of Demons & Gods (妖神记) ตอนที่ 148 ระเบิดเปลวเพลิงอันเร่าร้อนของมังกรทมิฬ

| Tales of Demons & Gods (妖神记) | 13645 | 2522 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

‘ซีคงจื่อ’และพรรคพวก ต่างขมวดคิ้วในเวลานี้นั้นพวกเขาไม่เข้าใจว่าเนี้ยหลี่หมายความว่าอย่างไร และเพียงแต่ได้ยินเสียง

เป้ง เป้ง เป้ง!!!

“อ๊าก”

‘ต้วนเจี้ยน’คำราม กล้ามเนื้อขยายใหญ่ขึ้น สายโซ่เส้นสีดำที่ร้อยรัดเขาไว้ก็พลันแตกออกทีละชิ้นทีละชิ้น

เมื่อเห็นภาพฉากที่ปรากฏตรงหน้า ‘ซีคงจื่อ’ และพรรคพวก ก็พลันหน้าเปลี่ยนสี ต้องเป็นพวกสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งเท่านั้นจึงจะสามารถทำลายโซ่แบล็คโกลด์นี้ไปได้? มันเกิดสิ่งใดกันขึ้นมาหละเนี่ย?

‘ซีคงจื่อ’ ก็เข้าใจบางสิ่งขึ้นมาทันที และเริ่มเคร่งขรึมขึ้นมาทันที พร้อมทั้งกล่าวว่า

“ รีบสังหารมันเร็วเข้า”

ผู้เชี่ยวชาญระดับโกลด์สามคน พุ่งตรงเข้าไปหา ‘ต้วนเจี้ยน’ กวัดแกว่งดาบอันแหลมคม ประกายดาบพุ่งผ่านแหวกอากาศ จนได้ยินเป็นเสียง

“ฆ่า!”

รังสีสังหารอันหนาวเหน็บ ระเบิดออกมาจากเหล่าผู้เชี่ยวชาญระดับทองทั้งสามคน

“ฉิ่ง ฉิ่ง ฉิ่ง!”

ดาบทั้งสามเล่มฟาดลงบนร่างกายของ ‘ต้วนเจี้ยน’ ในตอนนี้นั้นได้ยิน เพียงเสียงโลหะกระทบกับโลหะ ‘ต้วนเจี้ยน’นั้นไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆเลย ไม่มีแม้แต่เลือดหยดเล็กๆ

“ทำไมมันเป็นเช่นนี้?”

“ เจ้าเด็กบ้าคนนี้ ร่างกายมันช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก ทำไมเป็นเช่นนี้?”

‘ซีคงจื่อ’ และพรรคพวกส่วนที่เหลือนั้นต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกัน

‘เนี้ยหลี่’ยิ้มเล็กน้อย สายเลือดแห่งมังกรที่ซ่อนอยู่ในตัวของ’ต้วนเจี้ยน’นั้น สำหรับเผ่ามังกรแล้วนั้นร่างกายจะมีพละกำลังมากมายมหาศาล และมันยังแข็งแกร่งซะยิ่งกว่าเหล็กล้าเลยทีเดียว มันจึงเป็นไปไม่ได้ว่าที่ผู้เชี่ยวชาญระดับโกลด์จะสามารถทำอันตรายใดๆให้แก่ร่างกายของ’ต้วนเจี้ยน’ไปได้

ประกายแสงแห่งความมุ่งมั่นได้ส่องออกมาจากแววตาของ’ต้วนเจี้ยน’ในช่วงสั้นๆ เขาได้ยกมือข้างขวาจับไปบนดาบของผู้เชี่ยวชาญระดับทองคนหนึ่งพร้อมทั้งดึงออกจากมือแล้วขว้างย้อนกลับคืนไปให้แก่เขา

บูม!!!

พลังงานอันมหาศาล ระเบิดออกมา โดยมี’ต้วนเจี้ยน’นั้นเป็นศูนย์กลาง พลังงานนั้นระเบิดออกมาสี่ทิศทาง ตามตำแหน่งที่ผู้เชี่ยวชาญระดับโกลด์

ซึ่งขณะนี้พวกเขานั้นได้โดนหมัดเข้าที่บริเวณหน้าท้อง เป็นจนเป็นเหตุทำให้ใบหน้าของพวกนั้นต้องบูดเบี้ยว จากนั้นก็ต้องปลิงกระเด็นไปไกลราว ร้อยสองถึงสามร้อยเมตร ก่อนที่จะตกกระแทกกับพื้นดินอย่างรุนแรง เมื่อมายังตัว’ต้วนเจี้ยน’แล้วนั้น มันเป็นสิ่งที่ดูเหมือนว่าใครจะคาดคิดว่าเขาไม่สามารถทำมันได้

กระต่ายตัวน้อยในสายตาของ’ซีคงจื้อ’ แปลเปลี่ยนกลายมาเป็นพยัคฆ์ร้ายแล้วทั้งหมดนี้ต้องมีอะไรบางสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเนี้ยหลีแน่

‘ซีคงจื่อ’ โกรธจัดพรางจ้องมองมายังที่ เนี้ยหลี่แล้วกล่าวขึ้นว่า

“ ท่ายเหลย นี่เป็นความต้องการของท่านหรือไม่?”

‘เนี้ยหลี่’พยักหน้าและกล่าวขึ้นว่า

“ถามว่าข้าต้องการอะไรนะหรือ แค่ต้องการเห็นต้วนเจี้ยนแก้แค้นพวกเจ้า และสิ่งที่พวกท่านทำกับข้าด้วย?

‘ซีคงจื่อ’ ชักดาบเล่มใหญ่ออกมา เขาสามารถรู้สึกสัมผัสได้ถึงความอันตรายที่ย่างกลายเข้ามา คือความแข็งแกร่งของ’ต้วนเจี้ยน’นั่นเอง

*เพ่ง เพ่ง เพ่ง*

‘ต้วนเจี้ยน’ กำลังต่อสู้อยู่กับผู้เชี่ยวชาญระดับโกลด์ การโจมตีของผู้เชี่ยวชาญระดับโกลด์นั้น ไม่ได้ก็ให้เกิดความเสียหายใดๆให้แก่เขา หมัด เตะ หรือ ตบ แม้ว่ามันจะมีพลังเพียง สามสิบเปอร์เซ็นต์ ก็เพียงพอที่จะจัดการกับผู้เชี่ยวชาญระดับทองลงได้

บูม!!!

‘ต้วนเจี้ยน’ปล่อยหมัด ส่งให้ผู้เชี่ยวชาญระดับโกลด์ ลอยไปในอากาศ

“มีสามคนอยู่ทางซ้าย”

ต้วนเจี้ยน ชำเลืองด้วยสายตา มองไปที่สามคนที่เหลือโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ซีคงจื้อ ซึ่งใช้ฝ่าเท้าเหยียบลงบนใบหน้าในก่อนหน้านี้ และ มิหนำซ้ำยังดูถูกมารดาของเขาอีกด้วย

“ พวกเจ้าทั้งหมดต้องตาย”

เขายังจำได้ถึงวันเวลาที่ ต้องอยู่กับครอบครัว และวิ่งเล่นซ่อนหากันกับพวกเขา แม้วว่าพวกเขาจะต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายอย่างต่อเนื่อง มันก็ยังติดอยู่ในความทรงจำแห่งห้วงคำนึง แล้วทุกอย่างก็จบลงเมื่อตระกูลปีกสีเงินเดินเข้ามา ครอบครัวของเขาต้องจบชีวิตลง ขณะที่พวกเขาทั้งหลายต่างก็ขอร้องอ้อนวอน

แต่ก็ไม่เป็นผล ความเจ็บปวดชนิดนี้นั้นไม่มีสิ่งใดที่จะสามารถอธิบายได้ ในใจของเขานั้น ครอบครัวถือว่าเป็นจุดสูงสุด ความเจ็บปวดทรมาน การต้องถูกเนรเทศ การการเยาะเย้ยถากถาง เขาต้องอดทนและมีชีวิตรอดมาได้ จนกระทั้งว่าเขานั้นสามารถที่จะแก้แค้นในวันหนึ่ง

ตาทั้งสองข้างของต้วนเจี้ยนนั้น แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงเหมือนเช่นสัตว์อสูร เมื่อเห็น’ต้วนเจี้ยน’ เช่นนั้น ‘ซีคงจื่อ’ เริ่มหวาดกลัว เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่า’ต้วนเจี้ยน’จะทำลายโซ่ที่พันธนาการเขาไว้ และแปรเปลี่ยนกลายมาเป็นสัตว์ร้ายเช่นนี้ เขาสมารถนึกภาพออกได้เลยถึงการแก้แค้นอันน่ากลัวของต้วนเจี้ยน ซึ่งจะต้องน่าสยดสยองและน่าสมเพทเป็นแน่

‘ซีคงจื้อ’ คำรามก้อง

“เรามาตายพร้อมกันเถอะ”

ในเวลานั้น ‘ซีคงจื้อ’เปล่งเสียงออกมา ผู้เชี่ยวชาญระดับโกลด์ สองคนก็กระโดดเข้าไปโจม’ตีต้วนเจี้ยน’ ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญระดับโกลด์ กระโดด ซีคงจื้อกลับหันหลัง พร้อมทั้งวิ่งหนี

*เฉ่ง เฉ่ง เฉ่ง*

‘ต้วนเจี้ยน’ และ ผู้เชี่ยวชาญระดับทองสองคนกำลังต่อสู้กันอยู่นั้น

เมื่อ ‘ซีคงจื้อ’ วิ่งออกไปไม่กี่ร้อยเมตร เขาก็เห็น’เนี้ยหลี่’นั้นยืนขวางทางอยู่

“เหลย โซ่ว เจ้ารนหาที่ตายเองนะ”

‘ซีคงจื้อ’ จองมองมาที่’เนี้ยหลี่’อย่างเย็นชาพร้อมทั้งแกว่งดาบมายัง’เนี้ยหลี่’ และผ่าเข้าไปยัง’เนี้ยหลี่’

“ ข้าไม่ต้องการต่อสู้กับเจ้า ข้าต้องการให้ต้วนเจี้ยนเป็นผู้พิพากษา เนี้ยหลี่ผสานร่างกายอย่างรวดเร็วกลายมาเป็นรูปแบบของแพนด้าเขี้ยวอสูร”

เขาเปิดปากของเขาและพ่นระเบิด หยิน หยาง เป็นวงกลม สีขาว และดำ ออกมา

วงกลมพลังงานทั้งสองหมุนรอบซึ่งกันและกันและกำลังบินตรงไปยัง’ซีคงจื่อ’

‘ซีคงจื้อ’ รู้สึกประหลาดใจ เขานั้นไม่ได้เข้าต่อสู้กับร่างทรงอสูรมาหลายปีแล้ว พลังงานที่ถูกบรรจุลงเป็นรูปทรงกลมนั้น ทำให้เขารู้สึกกลัว เขาจึงรีบโดดหลบในทันที
*บูม*

ก้อนพลังงานทรงกลมประสานการเกิดคลื่นพลังงานแผ่พวยพุ่งกระจายออกมาส่งให้’ซีคงจื่อ’ นั้นบินล่องลอยไปในอากาศ ไปนับสิบเมตร ร่างของเขาก็ตกลงมา

พร้อมทั้งปรากฏภาพที่หน้ากลัวอย่างสุดยอดอยู่ตรงหน้า เขานั้นไม่เคยคาดคิดเลยว่า’เนี้ยหลี่’นั้นจะมีพละกำลังอันมหาศาลขนาดนี้ ‘ซีคงจื่อ’ นั้นตกใจอย่างมาก เขาถูกหลอกโดย’เนี้ยหลี่’ว่าเป็นระดับเงิน? แต่แท้จริงแล้วเขาเป็นร่างทรงอสูรระดับทองเลยทีเดียว!

เสียงกระแทกกันสองครั้งที่ได้ยิน เป็นเสียงของกะโหลกศีรษะกำลังแตก ผู้เชี่ยวชาญยศทองนั้นปลิวล่องลอยไปในอากาศโดย ‘ต้วนเจี้ยน’และดูเหมือนว่าพวกเขานั้นไม่น่าจะสามารถรอดชีวิตไปได้

หลังจากที่เข่นฆ่า สองผู้เชี่ยวชาญระดับโกลด์ไปแล้ว ‘ต้วนเจี้ยน’ ก็มายืนปรากฏกลายที่ด้านหน้า’ซีคงจื้อ’

“ เจ้า……”

‘ซีคงจื้อ’ มองไปยัง ‘ต้วนเจี้ยน’ ซึ่งยืนสงนิ่งจนหนาวเหน็บขึ้นมาเลยทีเดียว หัวใจของเขานั้นเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ‘ต้วนเจี้ยน’นั้นเป็นเหมือนดั่งสัตว์อสูร เขานั้นแข็งแกร่งและน่ากลัวมาก ซึ่งไม่มีทางที่เขานั้นจะสามารถต้านทานได้เลย

แม้ว่า ‘ต้วนเจี้ยน’ จะย่างก้าวอย่างแผ่วเบา แต่ละก้าวที่เดินออกไปนั้นพื้นดินก็ปรากฏรอยแยกขึ้น ที่ตรงตัวเขานั้นเป็นเหมือนดังเช่นปากปล่องภูเขาไฟ ซึ่งสร้างสนามพลังที่น่ากลัวสุดๆออกมา

“เจ้าไม่ควรจะดูถูกแม่ของข้า!?”

เสียงพูดของ’ต้วนเจี้ยน’นั้นฟังดูหนาวเย็น มันราวกับว่าเป็นเสียงที่เปล่งออกมาจากขุมนรกเลยทีเดียว

“ ข้า…….ขอโทษ ปล่อยข้าไป….”

‘ซีคงจื่อ’ กล่าวด้วยความกลัวในขณะที่เดินถอยออกไป

“เจ้าคิดว่าข้าจะปล่อยเจ้าออกไปอีกหรือ?”

‘ต้วนเจี้ยน’สายตาเย็นชาทอดไปยัง’ซีคงจื่อ’ และยังย่างก้าวต่อไปข้างหน้า เขารวบรวมพลังที่แข็งแกร่งรุนแรงด้วยแขนทั้งสองข้างของเขา ทำให้อากาศบริเวณโดยรามนั้นมีเสียงออกมาคล้ายเสียงผิวปากแผ่กระจายออกมา

‘ต้วนเจี้ยน’อยู่ห่างเพียงระยะไม่กี่สิบเมตรจากเขา อากับกิริยาของซีคงจื่อในขณะนั้นแปรเปลี่ยนกลายมาเป็นดุร้าย เขานำเอาผลึกโลหิตออกมาหกก้อน แล้วกลืนพวกมันลงไป

*ว๊าก..*

ร่างกายของ’ซีคงจื่อ’นั้น ได้ขยายตัวออก เนื่องมาการพลังงานของผลึกโลหิต เขานั้นมีความสูงเพิ่มขึ้นเรื่อยตลอดเวลา เสื้อผ้าก็เริ่มฉีกขาดออกมา

ไม่มีผู้ใดจะสามารถที่จะดูดซับพลังงานทั้งหมดของผลึกโลหิตทั้งหกก้อนได้ แม้ในนั้นจะมีจำนวนน้อยมาก เว้นแต่ถ้าเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับตำนาน แต่ว่าเขานั้นเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญระดับโกลด์ขั้นห้าดาว

ร่างกายของซีคงจื่อนั้นเต็มไปด้วยพลังงานอันเกรี้ยวกราด เขาปล่อยหมัดใส่ไปยัง’ต้วนเจี้ยน’

แม้เมื่อเห็นรางกายอันใหญ่โตของ’ซีคงจื่อ’ขยายตัวขึ้นตลอดเวลา ‘ต้วนเจี้ยน’ก็หาได้แสดงความหวาดกลัว เขาปล่อยหมัดไปยัง’ซีคงจื้อ’

*บูม*

พลังหมัดประสานกันแรงมหาศาลนั้นกวาดผ่านไปยังบริเวณโดยรอบ โดยมีพวกเขาเป็นจุดศูนย์กลาง

บูม! บูม! บูม!

เสียงนั้นบริเวณระเบิดเป็นเส้นรอบวงราวสองถึงสามร้อยเมตร

“ มันเป็นไปได้อย่างไรกัน?”

ความกลัวปรากฏลงบนบริเวณใบหน้าของ’ซีคงจื้อ’ หลังจาก ที่กลืนผลึกโลหิตทั้งหกก้อน เป็นสาเหตุที่ให้ทำร่างกายของเขานั้นแข็งแกร่งเพิ่งขึ้นกว่าขีดจำกัด จนทำให้เส้นเลือดปรากฏบวมปูดอกมาจนเกือบจะระเบิดออกมาเนื่องมาจากพลังอำนาจของผลึกโลหิต เขายังคงไม่สามารถที่จะสยบความแข็งแกร่งของ’ต้วนเจี้ยน’ลงได้

*เป้ง เป้ง เป้ง*

‘ต้วนเจี้ยน’ กระโจนทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าและขว้างระเบิดพลังงานโจมตีไปยังร่างกายขนาดใหญ่ของ’ซีคงจื่อ’ เป็นเหมือนดั่งลูกบอล ในท้องฟ้ากำลังเคาะเขาอยู่และโจมตีอย่างหนักหน่วงอย่างไร้ความเมตตาปราณีจนล่วงไปยังพื้นดินหลุมขนาดใหญ่โตถูกสร้างขึ้นบนร่างกายของ’ซีคงจื่อ’

มองมายัง’ต้วนเจี้ยน’นั้นเป็นเหมือนดังเช่นดาวตกกำลังล่วงลงมา ‘ซีคงจื่อ’รวบรวมพลังทั้งหมดของเขาไว้ที่มือข้างขวาและปล่อยหมัดไปยังท้องของ’ต้วนเจี้ยน’ ส่งให้เขานั้นปลิวหมุนล่องลอยไปในอากาศก่อนที่จะล่วงหล่นลงไปกองกับพื้นดิน นี่นับว่าเป็นครั้งแรกที่’ซีคงจื่อ’โจมตีโดน ‘ต้วนเจี้ยน’

*บูม*

‘ต้วนเจี้ยน’ เช็ดเลือดออกจากมุมปาก กระโดดยกเท้าขึ้นและฟาดลงไปที่’ซีคงจื้อ’

‘ซีคงจื่อ’ ตกใจรีบหมุนตัวออกไปบริเวณด้านข้าง

*บูม*

เมื่อ’ต้วนเจี้น’ ยกขาข้างขวาขึ้นจากพื้นดิน หลุมขนาดใหญ่นั้นเกิดขึ้นจากการระเบิด

“พลังที่น่ากลัวนี้มันคืออะไรกัน?”

‘ซีคงจื่อ’ ปรากฏความกลัวเกิดขึ้นบนใบหน้าของเขา ‘ต้วนเจี้ยน’ชั่งไร้ปราณียิ่งนัก เขามีความแข็งแกร่งพื้นฐานทางร่างกายของผู้เชี่ยวชาญระดับตำนานเลยทีเดียว เขาสูญเสียพลังจากผลึกโลหิตและได้รับความเสียหายอย่างหนักจากเส้นเลือดที่ปูดบวม ถ้าเขาไม่หลบหนีไปในตอนนี้นั้นจะไม่มีโอกาสอีกแล้ว!

‘ซีคงจื่อ’ กระโดดไปมาพร้อมวิ่งหนีในขณะที่หน้าอกของเขานั้นได้หลับบาดเก็บหนัก เขานั้นเปรียบเหมือนสุนัขที่บาดเจ็บกำลังวิ่งหนี จากหางของตัวเอง

“ เจ้าจะพยายามวิ่งหนีไปทำไม? ไม่ใช่เรื่องง่ายหรอกที่จะไปได้!”

‘ต้วนเจี้ยน’มองมายังที่หลังของ’ซีคงจื่อ’ ศัตรูของครอบครัวเราต้องตาย ไม่สามารถปล่อยให้หนีออกไปได้หรอก ภายใต้อาการตรึงเครียดจากความโกรธ สายเลือดมังกรในร่างกายของเขาเริ่มที่จะเคลื่อนไหว

เปลวเพลิงแห่งความโกรธของมังกรทมิฬ!
‘ต้วนเจี้ยน’เปิดปากของเขาและ พ่นลมหายใจออกมาเป็นเปลวเพลิงสีดำขนาดใหญ่ แปรเปลี่ยนรูปลักษณ์กลายมาเป็นมังกรทมิฬขนาดใหญ่ และกระหน่ำยิงลูกไฟไปยิง’ซีคงจื่อ’

*อ๊ากกกกก*

‘ซีคงจื่อ’ กรีดร้องอย่างน่าเห็นใจเมื่อเขานั้นถูกกลืนหายไปในเปลวเพลิงทมิฬนั้น

บูม บูม บูม!!!

บูม บูม บูม!!!

เปลวเพลิงทมิฬระเบิดออกมากเผาไหม้ทุกสิ่ง ในระยะ สองถึงสามร้อยเมตร

จนทำให้พื้นดินนั้นกลายมาเป็นหลุมขนาดใหญ่

“เปลวเพลิงแห่งความโกรธของมังกรทมิฬหรือ?”

‘เนี้ยหลี่’ไม่เคยคาดคิดเลยว่า’ต้วนเจี้ยน’นั้นจะมีความสามารถทางด้านการต่อสู้ของชนเผ่ามังกร ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้นั้น ความโกรธเนื่องมาจากเปลวเพลิงอันบ้าคลั่งของ มังกรทมิฬ นี้มีหลายครั้งที่รุนแรงยิ่งกว่าระเบิด ‘หยิน หยาง’ ซะอีก

เมื่อศัตรูของเขานั้นถูกกลืนหายไปภายใต้เปลวเพลิงแห่งความโกรธของมังกรทมิฬ ต้วนเจี้ยนก็นั่งคุกเข่าลงบนพื้นน้ำตาพลันรินไหลลงมาอาบบนใบหน้าของเขา เป็นภาพที่ช่างเหมือนกับเด็กร้องให้ยิ่งนัก การที่ต้องทนทรมานมาเป็นระยะเวลานานในท้ายที่สุดก็ได้รับการปลดปล่อยแล้ว

ภายใต้น้ำตาอันเย็นเยือกของเขา ทำให้สามารถมองเห็นได้ถึงความรักที่มีต่อแม่และพ่อของเขาตั้งแต่ครั้งก่อน พวกเขาต้องหลบหนีออกจากเงื้อมือของตระกูลปิกสีเงินมังยังในถิ่นที่ทุรกันดาร

“ท่านพ่อ ท่านแม่…….”

‘ต้วนเจี้ยน’กล่าว เขายกมือขึ้นมาพยายามที่จะคว้าพวกเขาแต่ภาพของครอบครัว พ่อ แม่ นั้นก็ค่อยๆ จางหายไป ในความว่างเปล่า

 

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments