ตอนที่แล้วตอนต่อไป‘ต้วน เจี้ยน’ ถึงกับตกตะลึง เหตุใด’เนี่ยหลี่’ถึงมียาทิพย์ล้ำค่ามากมายเช่นนี้? ‘เนี่ยหลี่’ เหลือบไปเห็น ‘ต้วน เจี้ยน’ ตกตะลึง ก็อดขำไม่ได้ แล้วก้าวย่างต่อไปข้างหน้า พวกเขาทั้งสองเดินไปพบโรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมือง และได้จ่ายค่าที่พักหรับ 8 วัน
ตอนนี้ พวกเขาแค่ต้องรอให้ถึงเวลาที่นัดหมาย และจากนั้น พวกเขาจึงค่อยลงมือสร้างความโกลาหลในอาณาเขตของตระกูลปีกสีเงิน(Silver Winged)
‘เนี่ยหลี่’พักอยู่ในห้องเขา และได้นำเอาไอเทมที่ซื้อออกมา 2 อย่าง คือม้วนคำภีร์คาถาต้องห้าม ระดับตำนานทั้ง 7 ม้วน และ มีดบิน 3 ประกาย
เขาเปิด 1 ในม้วนคำภีร์คาถาต้องห้าม ระดับตำนานออกดู จารึกที่ถูกเขียนด้วยเลือดของสัตว์อสูรช่างดูสกปรกจริงๆ อย่างไรก็ตาม มันยังคงแผ่พลังงานอันแข็งแกร่งออกมา ลวดลายจารึกบนคำภีร์ค่อนข้างหลากหลายและซับซ้อนมาก คนธรรมดาไม่สามารถเข้าใจมันได้ แต่สำหรับเนี่ยหลี่มันไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย
“มันคือคาถาอัญเชิญต้องห้ามระดับตำนานจริงๆด้วย!!!”
‘เนี่ยหลี่’ถึงกับตกใจ เขาไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามันจะเรียกสิ่งมีชีวิตอะไรออกมา
ความจริงแล้ว คนส่วนมากไม่รู้ว่าโลกที่พวกเขาอาศัยอยู่นั้นกว้างใหญ่ไพศาล ไร้ซึ่งขอบเขต สถานที่ที่’เนี่ยหลี่’และพวกอาศัยอยู่นั้นถูกเรียกว่า ทวีปศักดิ์สิทธิ ซึ่งเป็น 1 ใน 6 ทวีปของแผ่นดินหลักของโลก และในแผ่นดินหลักยังมีดินแดนย่อยอื่นๆอีก เช่น ดินแดนพันธนาคารนรก
ดินแดนพันธนาคารนรกเป็นดินแดนที่ค่อนข้างเล็ก บางดินแดนก็มีขนาดกว้างใหญ่แต่ก็เต็มไปด้วยอันตรายเช่นกัน เจ้าอสูรโลกันต์ที่โจมตีคฤหาสน์ของท่านจ้าวเมืองนั้นมาจากดินแดนนรก ซึ่งดินแดนนรกนั้นเป็น 1 ในดินแดนจำนวนน้อยที่น่ากลัวและอันตรายที่สุด
ใกล้กับดินแดนนรก ยังมีดินแดนพายุหิมะ,ดินแดนอัสนีบาต ดินแดนอำมหิต และอื่นๆอีกมากมาย ประตูระหว่างดินแดน ตั้งอยู่ตามสถานที่ต่างๆ บนแผ่นดินหลัก ดังนั้นมนุษย์จึงสามารถเข้า-ออกดินแดนต่างๆได้
ส่วนคาถาอัญเชิญ ใช้สำหรับอัญเชิญสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งจากดินแดนอื่น สิ่งที่ถูกอัญเชิญส่วนมากจะมาตามที่อัญเชิญ อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีก็ไม่ยอมมา แต่เมื่อมันปรากฎตัวขึ้น มักจะก่อให้เกิดภัยพิบัติใหญ่ดั่งเช่นที่เกิดจากอสูรโลกันต์
‘เนี่ยหลี่’ ปัดฝุ่นออกจากม้วนคัมภีร์อย่างระมัดระวัง จากนั้นเขาก็นำสมุนไพรหลายชนิดออกมากลั่นแล้วค่อยๆ ใช้มันกับรูปแบบจารึกวิธีการที่เนี่ยหลี่ใช้เรียกว่า การทำให้กระจ่าง มันช่วย กระตุ้นพลังของเลือดอสูร ที่ใช้เขียนจารึกในคัมภีร์ระดับตำนานทำให้มันปลดปล่อยพลังได้อีกครั้ง
เพียงชั่วครู่ ม้วนคัมภีร์ระดับตำนานก็กลับสู่สภาพเดิม(ยังไม่ได้ใช้)และเปี่ยมไปด้วยพลัง ความแข็งแกร่งของม้วนคำภีร์นี้กลับคืนมาอีกครั้ง ‘เนี่ยหลี่’ยังคงทำเช่นนี้กับม้วนคำภีร์ระดับตำนานเล่มอื่นๆด้วย มีแค่เล่มเดียวที่เป็นคาถาอัญเชิญ ที่เหลือเป็นแบบใช้เรียกธาตุต่างๆกับใช้เสริมความความแข็งแกร่ง ระดับตำนาน(นี่ก็ย้ำเหลือเกิน) หลังจากที่จัดการคัมภีร์เสร็จ เขาก็ยิ้มเล็กน้อย
ถึงแม้จะเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับตำนาน หากไม่ระวัง ‘เนี่ยหลี่’ก็สามารถทำให้คู่ต่อสู้เจ็บหนักถึงตายได้ เมื่อเก็บคำภีร์เสร็จ ‘เนี่ยหลี่’ก็มาสนใจ มีดบินทั้งสามเล่มต่อ
ลวดลายจารึกบนตัวมีดค่อนข้างเก่าแก่ อย่างน้อย หมื่นปีเลยทีเดียว ‘เนี่ยหลี่’คิดในใจ เขาปล่อยพลังวิญญาณบางส่วนเข้าไปในมีดเล่มหนึ่ง รอยจารึกบนมีดส่องแสงขึ้น พลังงานไหลพลุ่งพล่านอย่างต่อเนื่องภายในตัวมีด จนทำให้เกิดเปลวเเพลิงลุกไหม้ขึ้นเล็กน้อย
เมื่อพลังของมีดถูกปลุกขึ้น ก็พลันปรากฎตัวอักษรโบราณขึ้น 2 ตัวบนมีด
“Scarlet Flame”
‘เนี่ยหลี่’รับรู้ได้ว่า 2 คำนี้เป็นภาษาโบราณของทวีปศักดิ์สิทธิ์ที่หลงเหลือ อยู่มาเป็นเวลานาน แม้ว่า’เนี่ยหลี่’จะไม่เคยเห็นอักษร 2 ตัวนี้มาก่อน เขาก็ยังสามารถเข้าใจได้คร่าวๆถึงความหมายของมัน(เก่งโพดดด) มีดเล่มนี้ถูกเรียกว่า Scarlet Flame (เพลิงสีชาต)
‘เนี่ยหลี่’ลองใส่พลังวิญญาณลงในมีดอีก 2 เล่มที่เหลือ
“Scarlet Chill” ,”Scarlet Void” (ขอทับศัพท์นะอันนี้)
‘เนี่ยหลี่’อ่านชื่อของมีดทั้ง 2 เล่ม มีดแต่ละเล่มมีชื่อต่างกัน
Scarlet Flame มีพลังไฟที่ร้อนมาก Scarlet Chill มีพลังน้ำแข็งที่เย็นยะเยือก ในส่วนของScarlet Void มันยังคงเป็นปริศนาที่สุดในพวกมัน หลังพลังของมันถูกปลุกขึ้น (Scarlet Void)มันก็ถูกปกคลุมด้วยหมอกลึกลับสีดำ
มีดทั้ง 3 เล่มนี้มีคุณสมบัติเฉพาะที่แตกต่างกัน ข้าหล่ะทึ่งในตัวปรมาจารย์ที่สร้างมันขึ้นมาจริงๆ ‘เนี่ยหลี่’คิดในใจ มีดบินนี้จัดว่าอยู่ในระดับตำนานเลยทีเดียว
พวกมันต่างจากดาบเทพอัสนีดาวตก ตรงที่ดาบเทพอัสนีดาวตกไม่ได้มาจากโลกนี้ แต่มีดบินทั้งสาม จะต้องถูกสร้างขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญในโลกนี้แน่ ในปัจจุบัน’เนี่ยหลี่’แทบไม่สามารถใช้พลังอำนาจของดาบเทพอัสนีดาวตกได้ถึง 1 ใน หมื่น แต่ในส่วนของมีดบิน เขาสามารถใช้พลังของมันได้ถึง 60 เปอร์เซ็นต์
ในที่สุดข้าก็ได้มันมา สิ่งที่ข้าสามารถใช้มันได้ดั่งใจ ‘เนี่ยหลี่’คิด ขณะที่’เนี่ยหลี่’นั่งขัดสมาธิบ่มเพาะพลังด้วยด้วยเทคนิค[เทพวิถีฟ้า] มีดบิดทั้งสามก็ลอยวนเวียนรอบๆเนี่ยหลี่ แถมกลิ่นอายที่พวกมันปล่อยออกมายังคล้ายคลึงกับของ’เนี่ยหลี่’อีก
หลายวันผ่านไป ‘เนี่ยหลี่’ได้ทำการบ่มเพาะพลังจนถึงระดับ Gold 1 ดาว เขายังคงบ่มเพาะพลังต่อไปเรื่อยๆกลั่นกรองและดูดซับพลังวิญญาณจากผลึกโลหิต และค่อยๆเข้าใกล้ระดับGold 2 ดาว
ในส่วนของ’ต้วน เจี้ยน’ เขาอยู่ห้องข้างๆ’เนี่ย หลี่’ และเพ่งสมาธิไปที่การฝึก หลังจากการฝึกทุกครั้งเข้าลืมตาขึ้นแล้วตรวจหาออร่าของ’เนี่ย หลี่’ เมื่อพบแล้ว เขาก็จะหลับตาลงแล้วฝึกต่อ หลังจากที่สายเลือดมังกรของเขาถูกปลุกขึ้น ด้วยผลของผลึกโลหิตและยาบำรุงวิญญาณทำการบ่มเพาะของเขาเพิ่มสูงขึ้นจนเกือบถึงระดับBlack Gold
ในด้านพลังทางกายภาพของ’ต้วน เจี้ยน’ นั้นเทียบได้กับผู้เชี่ยวชาญระดับตำนาน ใครก็ตามที่คิดจะฆ่าเค้า คงต้องใช้เวลามากพอสมควร และหากเขาบ่มเพาะตัวเองไปจนถึงระดับ Black Gold แล้วหล่ะก็ เขาก็เป็นภัยได้แม้กับผู้เชี่ยวชาญระดับตำนาน ทั้งหมดนี้ล้วนได้รับมาจาก’เนี่ยหลี่’
ในชีวิตของ’ต้วน เจี้ยน’ เขามีเป้าหมายอยู่ 2 อย่าง 1คือแสวงหาการแก้แค้น 2 คือตอบแทนบุญคุณของ’เนี่ยหลี่’
ทุกๆการกระทำของ’ต้วน เจี้ยน’ ‘เนี่ยหลี่’สามารถรับรู้ได้ด้วยพลังวิญญาณอันเฉียบแหลมของเขา สำหรับ’เนี่ยหลี่’ หาก’ต้วน เจี้ยน’คิดจะติดตามเขาต่อไป ในภายภาคหน้า เขาจะช่วยให้’ต้วนเจี้ยน’ ประสบความสำเร็จ และได้รับโชคลาภมากมาย แต่หาก’ต้วน เจี้ยน’จะจากไป ‘เนี่ยหลี่’ก็จะไม่ขัดข้อง
ในชีวิตที่แล้วของเขา เขาได้สู้กับจักรพรรดินักปราชญ์และ 6 เทพสัตว์อสูร และจบชีวิตลงในการต่อสู้ ทำให้เนี่ยหลี่เข้าใจสิ่งหนึ่ง ในหลายๆครั้ง แม้ว่าคนหนึ่งคนจะมีพลังมากมายแค่ไหน ก็ไม่อาจเปลี่ยนกระแสน้ำได้ ดั้งนั้นในชีวิตนี้เขาจึงเสริมสร้างทีมของเขาให้แข็งแกร่ง
หลู่เพลี่ยว และตู่เซ่อทั้ง 2 ที่เป็นพี่น้องของเขา เนื่องจากชีวิตที่แล้วเนี่ยหลี่รู้จักบุคลิกของทั้ง 2 คนเป็นอย่างดี ดังนั้น’เนี่ยหลี่’จึงเชื่อในตัวพวกเขา ส่วน’ต้วน เจี้ยน’คือคนแปลกหน้าที่ถูกเขาช่วยไว้ ในใจของ’เนี่ยหลี่’ไม่มากก็น้อย ที่เขายังคอยระมัดระวังตัวกับ’ต้วนเจี้ยน’อยู่ อย่างไรก็ตาม จากที่ดูแล้ว ไม่มีข้อกังขาสำหรับความภักดีของ’ต้วนเจี้ยน’
หาก’ต้วนเจี้ยน’เต็มใจติดตามเขา ‘เนี่ยหลี่’ก็จะอุปถัมภ์เขาไว้เป็นอย่างดี แต่หาก’ต้วนเจี้ยน’ต้องการจะไปจากเขา เขาก็จะไม่รั้งไว้
‘เนี่ยหลี่’มองไปยังหนทางข้างหน้า หลังจากมีประสบการณ์ถึง 2 ชีวิต ‘เนี่ยหลี่’ค่อยๆเข้าใจว่าโลกที่เขาเคยพบเจอและเข้าใจจากชีวิตที่แล้วเป็นเพียงแค่ส่วนเล็กๆบนโลกอันกว้างใหญ่ ทุกสิ่งทุกอย่างที่’จักรพรรดิคงหมิง’ ทิ้งเอาไว้ เขาพอจะคาดเดาได้ว่า ‘จักรพรรดิคงหมิง’ ดำรงอยู่เช่นไร? ในหัวใจ’เนี่ยหลี่’มีแต่ความเคารพนับถือพระองค์ และพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะแข็งแกร่งขึ้น
เวลาผ่านผู้คนในดินแดนพันธนาคารนรก ก็ยังคงต่อสู้ดินเพื่อให้มีชีวิตรอดตามปกติ
หลังจากที่ทำการบ่มเพาะพลังวิญญาณมาหลายวัน เนี่ยหลี่เปิดตาขึ้นช้าๆ คืนนี้เป็นคืนที่นัดกันไว้ ระหว่างเขา ‘หนิงเอ๋อ’และคนอื่นๆ’เนี่ยหลี่’และ’ต้วนเจี้ยน’ออกจากโรงแรมพร้อมกัน
ท้องถนนเนืองแน่นไปด้วยผู้คนตามปกติ ผู้คนสัญจรไปยังที่ต่างๆ ‘เนี่ยหลี่’และ’ต้วนเจี้ยน’เดินท่ามกลางฝูงชน พวกเขาแปลงโฉมตัวเองเพื่อไม่ให้ตกเป็นเป้าสายตา
ทันใดนั้น พลันปรากฎเสียงที่ดึงดูด’เนี่ยหลี่’และ’ต้วนเจี้ยน’ จากที่ที่ห่างไกล
“ไอ่แก่ เจ้ากล้าเอาของของข้าไป? คอยดูเถอะ ข้าจะดับลมหายใจเจ้าซะ”
(อันนี้คนแปลใส่สีลงไปนิดนึงให้ได้อรรถรส) เสียงตะโกนอย่างโมโห ชายผู้หนึ่งแต่งตัวภูมิฐาน เคลื่อนมือของเขาออกไป หมายจะคว้าตัว ชายชราผู้หนึ่ง
‘เนี่ยหลี่’เหลือบมองไปทางนั้นเห็นชายชราเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง ผมเผ้ายุ่งเหยิง เดินเซไปเซมา ดวงตาทั้ง 2 ข้างเย็นชาและเต็มไปด้วยความสูญเสีย
มือของผู้ชายที่ดูภุมิฐานพยายามจะคว้าตัวชายชรา แต่ก็พลาด เขาสะดุดและล้มลงไปอย่างแรง ชายชรายกขาขึ้นแล้วก้าวไปบนหน้าของชายผู้นั้น
“อะเฮื้ออออ”
ผู้ชายที่ดูภูมิฐานร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด
“ไอ่แก่ ข้าจะฆ่าเจ้า!!!”
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ชายชราเหยียบหน้าของชายผู้นั้น เขาก็ยังเดินเซไปเซมาและก้าวต่อไปเรื่อยๆ เมื่อชายคนนั้นลุกขึ้น และเตรียมที่จะชกชายชรา ทันใดนั้นก็มีเหล่าชายฉกรรจ์เข้ามาห้ามเขา
“ลูกพี่! เจ้าแก่นั่นไม่ธรรมดาเลย เขาจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงแน่!”
“อย่าเสียเวลากับเขาเลย!”
ผู้ชายที่ดูภูมิฐานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง พยักหน้าแล้วถ่มน้ำลายปนเลือดลงไปบนพื้น ชายชราเดินโซเซ ผ่าน’เนี่ยหลี่’ไป ‘เนี่ยหลี่’รู้สึกได้ถึงออร่าที่น่ากลัว เจตนาฆ่าฟันจากการที่สังหารผู้คนเป็นร้อยเป็นพันชีวิตอยู่ภายในชายผู้นี้ เหมือนดั่งรังสีอำมหิต
‘เนี่ยหลี่’รู้สึกเย็นยะเยือกไปถึงหัวใจ มีเพียงผู้ที่สังหารผู้คนเป็นร้อยเป็นพันเท่านั้นที่จะมีรังสีอำมหิต บางทีชายชราคนนี้อาจอยู่ในระดับตำนานหรือสูงกว่านั้น แม้แต่ ‘ซิคงยี่’ ก็อาจจะไม่ได้อยู่ระดับเดียวกับชายชราผู้นี้
เมื่อรู้สึกถึงบางอย่าง ชายชราเหลือบมองมาทาง’เนี่ยหลี่’
เพียงแค่เหลือบมอง เส้นขนทุกเส้นบนร่างพลันลุกตั้งขึ้น ‘เนี่ยหลี่’ได้แต่พร่ำคิดในใจ ด้วยความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ หากชายชรา ลงมือแล้วหล่ะก็ ตัวเขาเองคงตายก่อนที่จะรู้ตัวด้วยซ้ำ’เนี่ยหลี่’ทำได้เพียงพยายามปิดบังออร่าของเขาอย่างดีที่สุดไม่ให้ถูกชายชราจับได้
ชายชราเพียงแค่เหลือบมองที่’เนี่ยหลี่’และถอนสายตาไปทางอื่น ขณะเดียวกันนั้นเขาสะดุดล้มตอนที่กำลังก้าวไปข้างหน้าและเขายังบ่นพึมพำอีกด้วย
“ไม่มี ปลายทาง เมื่อไม่มีจุดเริ่มต้นไม่มีจุดเริ่มต้นก็ไม่มีจุดสิ้นสุด…ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยม!!! 5555″
พูดจบชายชราก็หัวเราะเหมือนคนบ้าและเดินโซเซจากไปท่ามกลางฝูงชน
หลังจากที่ได้ยินชายชราพูด ‘เนี่ยหลี่’เกิดความกลัวขึ้นภายในใจ อย่าไงรก็ตาม เขาก็ไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆออกไป ขณะที่เดินอย่างสุขุม ชายชราผู้นั้นคงจะไม่ใช่ 1 ในทายาทผู้สืบสายเลือดขององค์’จักรพรรดิ์คงหมิง’หรอกใช่มั้ยนะ? หากศัตรูรู้ว่าเขาคือ 1 ในผู้สืบสายเลือดแล้วหล่ะก็ เขาต้องตายแน่!!!
ที่มา: