I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Tales of Demons & Gods (妖神记) ตอนที่ 155 คู่ต่อสู้ของเจ้า!

| Tales of Demons & Gods (妖神记) | 14975 | 2523 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

พลุยักษ์!

‘เนี่ยหลี่’ มองขึ้นไปบนท้องฟ้า อุทานขึ้นในใจ เริ่มแรกเขาใช้ระเบิดหยิน-หยาง ทำให้รูปแบบอาคมป้องกันเกิดรอยร้าว จากนั้นใช้ ใช้รูปแบบอาคมระเบิดเพลิงทั้ง 12 จุด ส่งหอคอยชั้นในขึ้นไปบนท้องฟ้า

ในตอนนี้ ยามที่เฝ้าอยู่รอบๆต่างก็ตกตะลึง พวกเขาเดินไปรอบๆและมองเห็นหอคอยหลักเหลือเพียงครึ่งเดียว ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางความมืด พวกนั้นได้แต่ชะเง้อดู หอคอยที่ดูคล้ายกับปืนใหญ่ จุดระเบิด ยิงขึ้นไปบนท้องฟ้า ที่ส่วนปลายหอคอยที่ถูกยิงออกไปมีไฟติดอยู่ จากนั้นมันก็ระเบิดออกบนท้องฟ้า แตกกระจายออก แล้วเศษชิ้นส่วนของมันก็ร่วงลงมาดั่งสายฝนเกิดอะไรขึ้น?

พวกยามไร้ปฏิกิริยาใด ขณะที่หอคอยหลัก ลอยละลิ่วอยู่ ยามของตระกูลปีกสีเงินหลายคนมีใบหน้าที่แสดงออกถึงความหวาดกลัว ไม่มีใครรู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป ตัวเอง อย่าง’ซิคงโจว’ ยังถึงกับตกตะลึง

คนงานที่กำลังเกรียวกราดอยู่ก็ถึงกับอึ้งเล็กน้อย จากนั้นก็ส่งเสียงโห่ร้องออกมา ขณะที่มองดู
3 ปรมาจารย์ผู้ใช้รูปอาคม ถูกสังหารไปแล้ว ตราประทับบนร่างกายของพวกเขาก็หายไป ผู้คนที่ถูกจับมาเป็นทาสส่วนใหญ่แล้วอยู่ในขั้นบ่มเพาะพลังระดับซิลเวอร์และโกลด์ ที่จริงแล้ว พวกเขานั้นถูกใช้ให้ขุดหาผลึกโลหิต

แต่หลายๆคนก็แอบเอามันมาใช้ฝึกอย่างลับๆกับตัวเอง เพื่อหาทางทำลายตราประทับ3 ปรมาจารย์ผู้ใช้อาคม ใช้ตราประทับเพื่อระงับการบ่มเพาะพลังของพวกเขา ทำให้หมดหวังไป แต่ตอนนี้ตราประทับหายไปแล้ว การบ่มเพาะพลังของพวกเขาจึงได้รับการฟื้นฟูทันที

“ผนึกของพวกเราหายไปแล้ว!!”

“ฆ่า!”

เสียงร้องคำรามด้วยความโกรธ ฟังคล้ายกับอสูรที่หลุดพ้นจากกรงขัง พวกเขาถูกกดขี่ มาแสนนาน โดยไร้ซึ่งอิสรภาพ และเกียรติ และยังถูกใช้ให้ขุดเหมืองทุกวี่วัน ยามที่ได้พักเพียงให้หายเหนื่อยสักหน่อย ก็ถูกซิคงโจวลงแส้ เฆี่ยนตี พวกเขาทั้งทั้งหมดต่างอดทน เฝ้ารอวันที่พวกเขาจะสามารถปลดปล่อยทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยอดกลั้นอดทนไว้ทั้งหมดออกมา

“ไม่ดีแล้ววว!”

ใบหน้าของ’ซิคงโจว’และลูกน้องต่างก็หวาดกลัว เมื่อปราศจากผนึก จากทั้ง 3 ปรมาจารย์ผู้ใช้อาคม จากลูกแกะที่ไร้ซึ่งอันตรายใดๆ ก็แปรเปลี่ยนเสื้อร้ายที่เกรี้ยวกราดเข้าขย้ำพวกเขา

ที่นี่มีคนงานอย่างน้อยก็หมื่นคน หลายคนเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับซิลเวอร์และโกลด์! คนงานต่างพุ่งเข้ามาดั่งน้ำหลาก สังหารยามของตระกูลปีกสีเงินที่อยู่ใกล้ตัวที่สุด

เพราะคนงานพวกนี้ไร้ซึ่งอาวุธมีคม พวกเขาจึงใช้พลั่วที่ถืออยู่ ฟาดฟันแทนและจ้องมองด้วยความเคียดแค้น

ฉึก!…ฉึก!…ฉึก!…(เอื้อ…ฝากลูกเมียข้าด้วย)

แม้ว่าพวกยามจะฟาดฟันพวกคนงานไปแล้ว แต่คนงานที่เข้ามานั้นมีเยอะมาก พวกเขานั้นโกรธเกรี้ยว และไร้ซึ่งความกลัวตาย ขณะที่พวกเขาพุ่งเข้าใส่ยามของตระกูลปีกสีเงินอย่างบ้าคลั่ง เมื่อพวกคนงานจะถูกดาบใหญ่ของยามฟาดฟัน พวกเขาปัดป้องอย่างรวดเร็ว แล้วกระโดดขย้ำเข้าที่คอของยามเหล่านั้น (โหดแท้!!!)

“เอื้อ!!!…”(ฝากลูก-เมียข้าด้วย…)

พวกยามส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่าอนาถ

แม้ว่าพวกยามจะเคยสู้กับสัตว์อสูรอยู่บ่อยๆ แต่โดยทั่วไปแล้ว พวกเขาเองก็กลัวตาย พวกเขาถูกส่งมาเฝ้าเหมืองนี้ ดังนั้น พวกเขาจึงไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกชนชั้นสูง เมื่อเห็นว่าพวกคนงานเริ่มบ้าคลั่งดั่งฝูงหมาป่าและเสือ พวกเขาจึงวิ่งหนีไป ที่ละคนๆ

“ฆ่า!!!”

เสียงร้องที่ดังก้องไปทั่วฟ้า

‘ซิคงโจว’ ฆ่าคนงานไปได้ซักโหลละ อย่างไรก็ตามคลื่นมหานทีแห่งมหาชนเหล่าคนงาน กก็ไปล้อมรอบตัวเขาเอาไว้ โดยปกติแล้วเขาเป็นคนที่โหดร้ายที่สุดในหมู่ยามด้วยกันและฆ่าคนไปเยอะที่สุด หลายๆคนเต็มไปด้วยความเกลียดชังที่มีต่อเขา คนงานคนหนึ่ง พุ่งเข้าประชิดตัวซิคงโจว ทำให้เขากลัวเล็กน้อย

เขาเริ่มมองไปรอบๆเพื่อหาคนช่วย แต่เมื่อมองไปจนทั่วแล้ว (ขุ่นพระ!!!) พวกยามทั้งหมดต่างก็พากันทิ้งอาวุธและเกราะ รีบหนีไป ขณะที่ในใจก็ตำหนิพ่อแม่ว่า ทำไมไม่ให้แขนขามาให้มากกว่านี้ จะหนีได้เร็วกว่านี้ เขาไม่นึกมาก่อนเลยว่าเขาจะต้องมาตายที่นี่ ขณะที่มีพวกทาสล้อมรอบ

ในตอนนี้ เขาตกอยู่ในห้วงของความสิ้นหวัง อย่างไรก็ตามเขารู้เพียงว่าเขาต้องกวัดแกว่งดาบของเขาและสู้เพราะตอนนี้ถ้าหากเขาหยุดมือแล้วหล่ะก็ คงไม่พ้นถูกคนงานเหล่านี้ ฉีกเป็นชิ้นๆ เหล่าคนงานที่แข็งแกร่ง มุ่งหน้ามาหาซิคงโจว เพื่อฆ่าเขา

“เอื้อ!!!…”(แบบพันธมิตร)

ในที่สุด’ซิคงโจว’ ก็ล้มลง หมดสติลงไปกองกับพื้นด้วยน้ำมือของคนงานและจมลงใน(กองทีน) กระแสน้ำแห่งความโกรธ
ขณะที่คนที่เป็นต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมด ซึ่งก็คือ’เนี่ยหลี่’ ได้หายตัวไปในความมืดอย่างรวดเร็ว

ไม่มีใครทันสังเกตเห็นเขา เขาสำรวจเหมืองอยู่นาน แต่ก็ไม่พบร่องรอยของเด็กเลย ด้วยจำนวนที่มากมายของผู้ที่ก่อกบฏ พื้นที่ทั้งหมดเต็มไปด้วยความโกลาหล เขาคงจะหาไม่พบแล้วหล่ะในตอนนี้ ดังนั้น’เนี่ยหลี่’จึงได้แต่หวังว่าเด็กคนนั้นจะได้รับพรจากสวรรค์ ให้รอดออกไป

ขณะที่เหล่าคนงานไล่โจมตีพวกยาม กลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่สวมชุดเกราะสีเงินก็มาถึง ผู้นำของคนกลุ่มนี้ คือ ‘ซิคง หงหยู๋’ นางก็สวมชุดเกราะสีเงินเช่นกัน และควงดาบขนาดยักษ์อยู่ในมือ ขณะที่ดวงตาของนาง เต็มไปด้วยเจตนาฆ่าอย่างเยือกเย็น

“เจ้าพวกทาสสวะ บังอาจก่อกวน ในอาณาเขตตระกูลปีกสีเงินของข้ารึ?! พวกเจ้าช่างรนหาที่ตาย!”

‘ซิคง หงหยู๋’ เหวี่ยงดาบในมือนาง ลงสู่พื้นดิน เลือดสดๆ สาดกระเซนไปตามทาง ทันใดนั้น คนงานสิบกว่าคนก็ลงไปนอนจมกองเลือด

ระดับการบ่มเพาะพลังของ’ซิคง หงหยู๋’นั้นช่างแข็งแกร่ง คนงานที่เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับทอง 2 คน ถูกฆ่าตายอย่างรวดเร็วด้วยน้ำมือของนาง’ ซิคง หงหยู๋’ช่างดุดันราวกับเสือ ในคราบหญิงสาว

‘เนี่ยหลี่’ ที่กำลังหลบหนี เริ่มวางแผน ‘ซิคงหงหยู๋’ นางสมควรตาย

“แม่นาง หงหยู๋ ไม่ได้พบกันซักพักแล้วสินะ!”

‘เนี่ยหลี่’พูดขึ้น ขณะที่นั่งอยู่บนกิ่งไม้ และมองมาที่’ซิคง หงหยู๋’ พร้อมกับยิ้มอย่างเย็นชา

“เจ้า!”

‘ซิคง หงหยู๋’ มองเห็น’เนี่ยหลี่’ ที่อยู่ห่างออกไป สายตาของนางเย็กยะเยือก นางไม่คิดว่าเนี่ยหลี่จะยังอยู่ในอาณาเขตของตระกูลปีกสีเงิน ดูเหมือนว่า’เนี่ยหลี่’จะทำให้นางเกิดความสับสน

“แม่นางหงหยู๋ คงงานยุ่งมาก งั้นข้าไม่รบกวนละกัน แล้วพบกันคราวหน้านะ!”

‘เนี่ยหลี่’ยิ้มแล้วกระโจนลงพื้น จากนั้นก็วิ่งเข้าไปในป่า
‘ซิคงหงหยู๋’ขมวดคิ้วมองตามแผ่นหลังของ’เนี่ยหลี่’ แล้วมองกลับมาที่คนงาน นางขบฟัน แล้วตัดสินใจตาม’เนี่ยหลี่’ไป นางจะต้องจับตัวคนร้ายให้ได้ ซึ่งก็คือ’เนี่ยหลี่’ ก่อนเป็นอย่างแรก หากนางปล่อยเนี่ยหลี่หนีไปได้ในตอนนี้ คงไม่มีโอกาสที่จะจับ’เนี่ยหลี่’อีกแล้ว

อย่างไรก็ตาม ‘ซิคงหงหยู๋’รู้ว่า’เนี่ยหลี่’จงใจล่อเธอมาที่นี่ เธอจึงระวังตัวเป็นอย่างมาก
ฝุบ!…ฝุบ!…ฝุป!…

ร่างทั้ง 2 ลอยผ่านเข้าไปในป่า แล้วค่อยๆหายลับไป
ไม่นานนักพวกเขาก็มาถึงชายแดนอาณาเขตของตระกูลปีกสีเงิน หากพวกเขายังคงวิ่งต่อไป ก็จะเข้าสู้อาณาเขตของตระกูลอื่น

“หยุดก่อน!”

‘ซิคงหงหยู๋’ตะโกนบอกอย่างเกรี้ยวกราด ปีกที่อยู่กลางหลังของนางกระพืออย่างแรง เพิ่มความเร็วให้นางเป็นอย่างมาก จนกลายเป็นแสง และเหวี่ยงดาบหนักๆของนางพุ่งตรงไปหาเนี่ยหลี่ พร้อมทั้งมีเปลวเพลิวลุกไหม้ที่ตัวดาบ เมื่อเห็นดาบของซิคง หงหยู๋กำลังจะถึงตัว เนี่ยหลี่รีบหมุนตัวพร้อมกับถือดาบเทพอัสนีดาวตกไว้ในมือ

ตูมมม!…

บังเกิดแสงแล้วเปลวเพลิงปะทะกัน แรงสั่นสะเทือน ส่งผลกระทบต่อพื้นที่โดยรอบ เนี่ยหลี่ใช้แรงปะทะ ส่งตัวเองกระเด็นไปไกลหลายสิบเมตร และลอยลงมาที่กิ่งไม้ ขณะที่ความเร็วของซิคง หงหยู๋ ลดลงและลอยลงมาหยุดที่พื้น

“เกิดอะไรขึ้น? เจ้าเด็กนี่มีพลังขนาดนี้ได้ยังไงกัน?”

‘ซิคง หงหยู๋’ถึงกับตกตะลึง ถ้าดูจากการที่ซิคงหงหยู๋ปะทะกับ’เนี่ยหลี่’เมื่อกี้นี้ ความแข็งแกร่งของเนี่ยหลี่พอๆกับนาง นางคิดอยู่ตลอดว่า’เนี่ยหลี่’ อยู่ระดับซิลเวอร์เท่านั้น นางไม่เคยคิดว่า’เนี่ยหลี่’นั้นขึ้นมาอยู่ในระดับโกลด์เรียบร้อยแล้ว

“ทำไมแม่นางหงหยู๋ถึงได้ดุร้ายเช่นนี้? กุลสตรี ที่ฆ่าเมื่อใดก็ตามที่อยากฆ่า ท่านไม่กลัวไม่ได้แต่งงานหรอ?” (แดกดันแบบเจ็บๆไปหนึ่งดอก)

‘เนี่ยหลี่’ยืนพิงกับต้นไม้ เขารู้สึกได้ทันทีว่ามีออร่าแปลกพุ่งตรงเข้ามา ก็อดยิ้มไม่ได้

“เจ้า…เตี้ย!!! ดูเหมือนว่าข้าจะประเมินเจ้าต่ำไป ข้าไม่เคยคิดเลยว่า ความแข็งแกร่งของเจ้าจะอยู่ในระดับโกลด์ อย่างไรก็ตาม ที่เจ้ามาเจอข้าในวันนี้ เจ้าจะต้องตายที่นี่”

มือขวาของ’ซิคงหงหยู๋’ หยิบดาบขึ้นมา นางค่อยๆลูบนิ้วไปบนตัวดาบ ร่างทั้งร่างของนางถูกปกคลุมไปด้วยเปลวไฟ พลังของนางเพิ่มขึ้น 2-3 เท่าตัว

เทคนิคระเบิดพลังกายาสีชาต(Scarlet Body refining technique) ระดับต่ำงั้นรึ? ไม่เลว เจ้าฝึกฝนตัวเองจนมาถึงขั้นนี้แล้วสินะ ‘เนี่ยหลี่’ยิ้มอ่อนๆแล้วพูดต่อ

“อย่างไรก็ตาม เจ้าก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า!”

หลังจากที่ได้ยิน’เนี่ยหลี่’พูดดังนั้น ‘ซิคงหงหยู๋’ถึงกับคิ้วกระตุก เกิดเสียง

ตูมมม!!!…

หนึ่งครั้งลงบนผืนดินด้านหน้าของนาง ปรากฏบุคคลซึ่งมีลักษณ์คล้ายกับซิคงหงหยู๋ ที่มีปีกคู่นึงปรากฏขึ้นบนหลังของเขา

อย่างไรก็ปีกคู่นี้นั้นต่างจากของซิคงหงหยู๋ มันมีขนาดใหญ่กว่า และสีของมันเป็นสีทองดำ เมื่อจ้องมองไปที่ชายผู้ที่อยู่เบื้องหน้า ‘ซิคงหงหยู๋’หรี่ตา และพูดขึ้นว่า

“เจ้า!! …ต้วน เจี้ยน!”

“ใช่แล้ว…ข้าเอง”

น้ำเสียงของ’ต้วน เจี้ยน’นั้นเย็นยะเยือกและเปี่ยมไปด้วยเจตนาที่จะฆ่า เขาไม่เคยลืมผู้หญิงนางนี้ตรงหน้าเขา ที่ครั้งหนึ่งเคยสังหารพ่อแม่ของเขา

‘ซิคงหงหยู๋’ รู้สึกได้ถึงออร่าที่น่ากลัวพุ่งเข้ามาจาก’ต้วน เจี้ยน’ ดูเหมือนว่าออร่านี้จะสะกดเธอได้อย่างสมบูรณ์ มันทำให้หัวใจของนางบังเกิดความกลัวขึ้น นางไม่เคยรู้สึกอย่างนี้มาก่อน นั่นทำให้เธอรู้ต้วนเจี้ยนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ไม่เหมือนกับเขาคนเดิมเมื่อก่อน

‘ซิคงหงหยู๋’ ชี้นิ้วของนางไปยัง’เนี่ยหลี่’ที่อยู่บนกิ่งไม้ไกลๆ และก่นด่า

“ตอนนั้น เราไม่ควรเชื่อใจคนเนรคุณเจ้า พวกเรา พ่อ-ลูกเชื่อใจเจ้า นี่รึ คือสิ่งที่เจ้าตอบแทนกลับมา?”

เมื่อได้ยินที่’ซิคงหงหยู๋’พูด ‘เนี่ยหลี่’ถึงกับหัวเราะ

“ซิคงหงหยู๋ ข้าขอถามเจ้าหน่อย เจ้าและพ่อของเจ้าให้สิ่งใดแก่ข้าบ้าง? เจ้าและพ่อของเจ้าเพียงต้องวิธีรักษาอาการป่วยของตระกูลเจ้า เชื่อใจรึ? หากเชื่อใจข้าจริงคงไม่ให้ข้าทิ้งเพื่อนข้าไว้กับพวกเจ้าแบบนี้!!! ข้าไม่มีความแค้นกับตระตูลปีกสีเงินของเจ้า อย่างไรก็ตาม ข้าไม่ได้พูดว่าผู้เคราะห์ร้ายเบื้องหน้าเจ้าจะไม่มี!!!”(ส่งให้กันง่ายๆ งี้เลย!!!)

ดวงตาของ’ต้วนเจี้ยน’ ปรากฏแสงสีแดงออกมา ดูคล้ายกับอสูรกายที่กำลังบ้าคลั่ง

“ซิคงหงหยู๋…เจ้าและพ่อของเจ้า สังหารพ่อแม่ข้า และยังให้ข้าไปเป็นทาส ทำให้ข้าต้องทรมาน จากความอัปยศอดสูที่ไม่มีที่สุดจากเจ้า!!! วันนี้หล่ะ ข้าจะแก้แค้นและฆ่าเจ้า จากนั้นข้าจะความหาตัวไอ้แก่เจ้าเล่ห์ ซิคงอวี้”

‘ต้วนเจี้ยน’เหวี่ยงดาบเพลิงทมิฬในมือ ฟันลงไปที่’ซิคงหงหยู๋’

“เฮอะ!!!…ต้วนเจี้ยน แม่ของเจ้านั้นไร้ซึ่งความละอาย นางไปติดพันธ์ กับคนนอกตระกูล ความตายนั่นก็ถือว่าเป็นทางออกที่แสนง่ายแล้วที่ข้ามอบให้ ผู้หญิงเช่นนาง ควรเปลื้องผ้าต่อหน้าทุกคนในตระกูลปีกสีเงินด้วยซ้ำ”(ปากดีจริงๆ)

‘ซิคงหงหยู๋’พูดด้วยน้ำเสียงต่ำช้า แล้วกระโดดหลบกานโจมตีของ’ต้วนเจี้ยน’

“เจ้าบังอาจดูหมิ่นแม่ข้า?! ข้าจะฆ่าเจ้า!”

‘ต้วนเจี้ยน’โมโหมากขึ้น ดาบเพลิงทมิฬ ถูกเหวี่ยงใส่’ซิคงหงหยู๋’อย่างต่อเนื่อง อย่าไรก็ตาม ‘ต้วนเจี้ยน’ไม่เคยได้เรียนเทคนิคการใช้ดาบ เขาได้แต่เหวี่ยงดาบไปมั่วๆ

‘ซิคงหงหยู๋’ ยิ้มเยาะในใจ เจ้าอยากจะฆ่าข้าด้วยความอดกลั้นอันน่าเวทนาอย่างนั้นรึ? เหตุผลที่นางดูถูกต้วนเจี้ยนเพราะนางต้องการทำให้’ต้วนเจี้ยน’เกิดความสับในใจ!

ตูมมมม!!!…

ช่องโหว่ในการเหวี่ยงดาบของ’ต้วนเจี้ยน’ เปิดโอกาสให้’ซิคงหงหยู๋’ซัดดาบของนางไปที่หน้าอกของ’ต้วนเจี้ยน’อย่างจัง

แปลโดย ไอยรา ณ กุญชร

 

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments