I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Tales of Demons & Gods (妖神记) ตอนที่ 156 บ้านอยู่หนใด

| Tales of Demons & Gods (妖神记) | 15688 | 2523 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

ในขณะที่ดาบของ’ซิคง หงหยู’ โดนตัว’ต้วน เจี้ยน’ ดวงตาของเขาพลันเกิดประกายอันเย็นเยือก หลายปีที่ผ่านมานี้ ความอัปยศที่เขาต้องทนทุกข์และอดกลั้นเอาไว้ เพื่อรอเวลาที่จะได้แก้แค้น เขาจะมาว้าวุ่นเพราะ’ซิคง หงหยู’ได้อย่างไร?

แม้ว่าการบ่มเพาะพลังของเขาจะเหนือกว่า’ซิคง หงหยู’ แต่การจะจัดการนางนั้นอาจจะต้องเป็นการต่อสู้ที่ถึงตายได้ นอกจากนี้ ที่นี่ยังคงเป็นอาณาเขตของตระกูลปีกสีเงิน เมื่อกองหนุนของพวกมันมาถึง จะเป็นปัญหาได้! เขาจึงต้องรีบจัดการให้เสร็จโดยเร็ว!
ดังนั้น’ต้วนเจี้ยน’เลยตั้งใจแสดงช่องโหว่ให้’ซิคง หงหยู’เห็นและเมื่อดาบยักษ์ของนาง พุ่งใส่ตัวเขา ‘ต้วน เจี้ยน’ก็รีบใช้มือซ้ายคว้าดาบนั่นเอาไว้ แล้วเหวี่ยงดาบในมือของเขาตรงไปที่คอของ’ซิคง หงหยู’

ม่านตาของ’ซิคง หงหยู’เบิกกว้าง นางไม่เคยคิดเลยว่า ‘ต้วน เจี้ยน’จะไม่ได้รับความเสียหาย จากการโจมตีของนางเลย แถมยังสวนกลับมาได้อีก ในช่วงเวลานั้นเอง นางจึงเลือกที่ปล่อยดาบ แล้วก้มหลบการโจมตีของ’ต้วนเจี้ยน’ จากนั้น’ต้วนเจี้ยน’ ไม่รีรอ รีบใช้ขาซ้ายเตะเสยขึ้นมา เข้าไปที่ท้องของ’ซิคง หงหยู’เน้นๆ นางเลยลอยละลิ่วออกไปกระแทกกับต้นไม้ใหญ่ โค่นไป 3 ต้น เกิดเสียงดังสนั่น

เผยรอยเลือดที่มุมปากของนาง ลูกเตะเมื่อตะกี้ ช่างหนักหน่วงยิ่งนัก ถ้าไม่ใช่ว่ามีเกราะสีเงินตัวนี้ ลูกเตะนั่นก็เพียงพอที่จะทำให้นางทรุดจนเสียศูนย์หรือพิการเลยทีเดียว

‘เนี่ย หลี่’ยืนพิจารณาการต่อสู้อยู่ไม่ไกล แม้ว่า’ต้วนเจี้ยน’จะไม่ได้ขัดเกลาทักษะการต่อสู้มากนัก แต่เดิมทีตระกูลของเขาก็แข็งแกร่งอยู่แล้ว เพียงแค่เขาใช้ความแข็งแกร่งของร่างกายเข้าปะทะกับ’ซิคง หงหยู’ ก็ทำให้การต่อสู้นี้จบลงอย่างรวดเร็ว

“ซิคง หงหยู ตายซะ!!!”

‘ต้วน เจี้ยน’ร้องคำรามอย่างเย็นชา ง้างดาบขึ้น แล้วพุ่งเข้าใส่’ซิคง หงหยู’
เมื่อพุ่งเข้าใส่ศัตรู เขาไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย มีเพียงแค่ความต้องการที่จะฆ่า’ซิคง หงหยู’ให้ได้อย่างรวดเร็ว

ในตอนที่’ต้วน เจี้ยน’กระโจนเข้าไป ‘เนี่ย หลี่’ก็สัมผัสได้ถึงออร่าของคน 3 คนกำลังมุ่งไปหา’ต้วน เจี้ยน’ เกิดประกายแสงเย็นยะเยือกขึ้นในดวงตาของ’เนี่ย หลี่’ มันเป็นออร่าของผู้เชี่ยวชาญระดับแบล็คโกลด์ 3 คน

“วู้สสสส!”

มีดบิน Scarlet Frame ลอยออกจากมือของ’เนี่ย หลี่’ และพุ่งเข้าใส่หนึ่งในเงาพวกนั้น ด้วยความแข็งแกร่งของ’เนี่ย หลี่’ ในตอนนี้ เขาควบคุมมีดบินได้เพียงแค่เล่มเดียว และมีดบิน Scarlet Frameก็เป็นเล่มที่เขาควบคุมได้คล่องที่สุด

บึ้ม!…บึ้ม!…

พลังอันรุนแรง 2 ลูกอัดเข้าใส่’ต้วน เจี้ยน’ ทำให้เข้ากระเด็นและถอยออกไปหลายก้าว กว่าจะตั้งหลักได้ ด้วยพลังทางกายภาพของร่างกาย’ต้วน เจี้ยน’ทำให้แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญระดับแบล็คโกลด์ก็ไม่สามารถฆ่าเขาได้ง่ายๆ
และในขณะเดียวกันก็มีเสียงร้องอย่างน่าอนาถจากเงาเหล่านั้น ร่างหนึ่งร่างกระเด็นออกไปและถูกตรึงอยู่กับต้นไม้ใหญ่ นั่ นก็คือร่างของ 1 ในผู้เชี่ยวชาญระดับแบล็คโกลด์

ในตอนที่ผู้เชี่ยวชาญระดับแบล็คโกลด์คนนั้นพุ่งเข้าใส่’ต้วน เจี้ยน’ เขาก็ถูกโจมตีที่หน้าอกอย่างรวดเร็วด้วยมีดบิน Scarlet Frame ของ’เนี่ย หลี่’และตรึงร่างนั้นไว้กับต้นไม้ ด้วยความแข็งแกร่งของ’เนี่ย หลี่’ในตอนนี้ เขาจึงยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของระดับแบล็คโกลด์

อย่างไรก็ตามหากใช้มีดบิน Scarlet Frameนี้โจมตีใส่คู่ต่อสู้ที่ไม่ทันตั้งตัว แม้จะเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับแบล็คโกลด์ หากโดนเข้าหล่ะก็ ตายสถานเดียว

จากการควบคุมด้วยพลังวิญญาณ มีดบิน Scarlet Frame ค่อยๆลอยกลับมาอยู่ในมือของ’เนี่ย หลี่’

เมื่อหันหลังกลับไปดูสิ่งที่เกิดขึ้น พลันปรากฏความกลัวในสายตาของผู้เชี่ยวชาญระดับแบล็คโกลด์ทั้งสองคน และเมื่อมองไปที่’เนี่ย หลี่’ ที่ยืนอยู่บนกิ่งไม้ กับมีดบินที่ลอยกลับมาอยู่ในมือเรียบร้อยแล้ว พวกเขารีบตะโกนขึ้นทันที

“ถอยก่อน!”

ผู้เชี่ยวชาญทั้งสองรีบอุ้ม ‘ซิคง หงหยู’ขึ้น แล้วกระโจนหนีเข้าป่าไป ‘ต้วน เจี้ยน’เอามือกุมที่หน้าอกของเขา แล้วกำลังจะตามพวกนั้นไป อย่างไรก็ตาม ‘เนี่ย หลี่’พูดขึ้นอย่างใจเย็นว่า

“กลับมาก่อน ไม่จำเป็นต้องตามพวกมันไป เราไม่ได้จะมาจับตัวพวกมัน เราจะต้องรีบหนีออกไปโดยเร็ว ถ้าตาเฒ่าเจ้าเล่ห์ซิคง อวี้ มาที่นี่ เราคงจะหนีออกไปไม่ได้!”

พูดจบ ‘เนี่ย หลี่’ก็กระโดดออกไป

เขาจะปล่อยให้’ซิคง หงหยู’หนีไปจริงๆเหรอนี่? ‘ต้วน เจี้ยน’ถอนหายใจแล้วรีบตาม’เนี่ย หลี่’ไป
เกี่ยวกับสถานการณ์ของตระกูลปีกสีเงินในตอนนี้ ‘เนี่ย หลี่ไ’ม่ได้เตรียมพร้อมมาพอที่จะเข้าไปยุ่งวุ่นวายมากนัก ดังนั้นเขาจึงให้’ต้วน เจี้ยน’ชั่งใจไว้ก่อน ‘ต้วน เจี้ยน’นั้นมีความแค้นฝังลึกอยู่กับตัวเอง และถ้าหากไม่ได้จัดการเจ้าพวกนั้นด้วยตัวเอง เรื่องนี้ก็จะกลายเป็นดั่งเงามืดที่ติดค้างอยู่ในใจ ซึ่งจะไม่เป็นผลดีต่อการบ่มเพาะพลังของเขาเองในอนาคต

จากประสบการณ์ของ’เนี่ย หลี่’ในชาติก่อนเขารู้ซึ้งแล้วว่าเรื่องบางเรื่องนั้นต้องจัดการด้วยตัวเอง จะให้คนอื่นจัดการให้ไม่ได้
ในวันนี้ตระกูลปีกสีเงินรับความเดือดร้อนอย่างหนัก

เขาคาดการณ์แล้วว่าพวกนั้นคงไม่สามารถฟื้นตัวจากเรื่องนี้ได้ในเร็ววันแน่ นอกจากนี้ ‘เนี่ย หลี่’พึ่งใช้มีดบินฆ่าผู้เชี่ยวชาญระดับแบล็คโกลด์ของตระกูลปีกสีเงินไปอีกคนนึง ดังนั้นเจ้าพวกนั้นคงจะไม่ส่งพวกแมลงหวี่แมลงวันกระจ้อยร่อยตามพวกเขามาแน่
‘เนี่ย หลี่’และ’ต้วย เจี้ยน’ กลับมาพบกับ’เสี่ยว หนิงเอ๋อ’ ‘ตู่ เซอ’และคนอื่นๆ และใช้หมอกอำพรางตัวไว้รอบๆ และหายเข้าป่าลึกไปอย่างรวดเร็ว

‘ซิคง อวี้’ที่ออกค้นหาภายในป่าทึบอยู่หลายชั่วโมง แต่ก็ไม่พบความเป็นไปได้ที่จะเจอตัว’เนี่ย หลี่’ กับคนอื่นๆ เลยต้องกลับไปอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อกลับมาถึง เขาได้รับรู้ว่าในช่วงเวลาที่เขาออกตามหาร่องรอยของ’เนี่ย หลี่’และพรรคพวก

เจ้าพวกนั้นยังคงอยู่ในอาณาเขตตระกูลปีกสีเงินและก่อความวุ่นวายขึ้นมากมายและยังฆ่าผู้เชี่ยวชาญระดับแบล็คโกลด์อีก ทำให้ซิคง อวี้โกรธจนควันหูออกเลยทีเดียว

พอเห็นศพของผู้เชี่ยวชาญระดับแบล็คโกลด์’ซิคง อวี้’ต่อยไปที่ต้นไม้ด้วยความโกรธ ต้นไม้ถึงกับป่นเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

“เหลย โจว หนี้ครั้งนี้จะต้องได้รับการชำระ! สักวันหนึ่ง ข้าจะหาตัวเจ้าให้เจอและฉีกเจ้าเป็นชิ้นๆ!”

‘ซิคง อวี้’ร้องคำรามอย่างบ้าคลั่ง

“ท่านพ่อ ข้างกายเนี่ย หลี่ ยังมีต้วน เจี้ยนอีกด้วย ในตอนนี้พลังทางกายภาพของร่างกายต้วน เจี้ยนไม่ได้ด้อยไปกว่าระดับแบล็คโกลด์เลย แม้แต่ข้าก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา”

‘ซิคง หงหยู’กุมหน้าอกแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเอื่อยๆ ด้วยความกลัว หากผู้อาวุโสของตระกูลไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยนาง นางคงตายด้วยน้ำมือของ’ต้วน เจี้ยน’ไปแล้ว

“ต้วน เจี้ยน!”

ความโกรธของ’ซิคง อวี้’มาถึงขีดสุด หากเขารู้เรื่องนี้มาก่อน เขาคงฆ่า’ต้วน เจี้ยน’ทิ้งไปนานแล้ว ตอนนี้’ต้วน เจี้ยน’กลายเป็นหอกข้างแคร่ไปแล้ว ตัวเขาเองเริ่มงงไปหมด

‘เนี่ย หลี่’และพรรคพวกยังหลบอยู่บนภูเขาอีกสิบกว่าวัน เขาคอยติดตามสถานการณ์ของตระกูลต่างๆในดินแดนนรกจองจำ ทุกอย่างเป็นไปตาม’ที่เนี่ย หลี่’คาดการณ์ไว้ หลายตระกูลเข้าโจมตีตระกูลปีกสีเงิน ซึ่งนั่นคือเหตุผลที่ทำให้ตระกูลปีกสีเงินไม่ได้ส่งใครออกตามหาพวกเขา ได้เวลาหนีแล้ว

หลังจากที่ออกมาจากนครรุ่งโรจน์มานาน นี่ก็ได้เวลากลับไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ‘เนี่ย หลี่’ได้รับข้อมูลมามากมายขณะที่อยู่ในดินแดนนรกจองจำ ‘เนี่ย หลี่’ได้คิดอะไรบางอย่างออก ในชีวิตก่อนหน้านี้ เมื่อสมาคมมืดเริ่มใช้สัตว์อสูรโจมตีนครรุ่งโรจน์ซึ่งต้องใช้ความพยายามอย่างหนักแต่ก็ยังไม่ดีเท่าที่ควร สมาคมมืดนั้นซ่อนตัวอยู่ตามเทือกเขาบรรพบุรุษ แยกตัวออกไปจากผู้คน สภาพความเป็นอยู่ของพวกมันย่ำแย่มากเมื่อเทียบกับนครรุ่งโรจน์

จนกระทั่งต่อมา’ลอร์ดเอีย มัว’เปิดข่ายอาคมโบราณ สมาคมมืดก็ไม่รีรออีกต่อไปและเริ่มการโจมตี แล้วยังให้ตระกูลศักดิ์สิทธิ์สังหาร’ลอร์ดเอีย มัว’อีก

ชีวิตที่แล้ว ‘เนี่ย หลี่’คิดไม่ออกเลยว่าสมาคมมืดจะได้อะไรจากการทำลายนครรุ่งโรจน์ พวกนั้นไม่กลัวจะถูกทำลายโดยสัตว์อสูรรึ? แต่ตอนนี้ เขาเข้าใจในทันทีเลยว่าหลังจากที่นครรุ่งโรจน์ถูกทำลายและยึดครองโดยสัตว์อสูรในชีวิตที่แล้วของเขา มันมีความเป็นไปได้สูงเลยว่าสมาคมมืดได้แทรกซึมเข้ามายังดินแดนนรกจองจำ

ต่อจากนั้นประชาชนในดินแดนนรกจองจำก็สามารถต่อสู้และป้องกันดินแดนนี้เอาไว้ได้ พวกมันเลยใช้ประโยชน์จากความแข็งแกร่งของคนที่นี่

แล้วตอนที่สัตว์อสูรมาถึง ทำไม’ลอร์ดเอีย มัว’ถึงไม่พาผู้คนอพยพมาที่ดินแดนนรกจองจำหล่ะ? นี่ยังปริศนาคาใจอยู่ บางทีในมุมมองของ’ลอร์ดเอีย มัว’ พวกสัตว์อสูรไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด และเขาคงไม่คิดว่าจะต้องเจอกับการก่อกบฏของตระกูลศักดิ์สิทธิ์

ภายในป่าทึบเมื่อ’เนี่ย หลี่’และพรรคพวก ก็มาถึงยังข่ายอาคมโบราณ พวกเขาก็ตรงเข้าไปยังข่ายอาคมเคลื่อนย้าย ทันใดนั้น ปรากฏร่างหนึ่งที่ดึงความสนใจของ’เนี่ย หลี่’ไปในทันที คลื่นออร่าที่น่ากลัวพัดผ่านตัวเขา

“ไม่มี ปลายทาง เมื่อ ไม่มี จุดเริ่มต้น ไม่มี จุดเริ่มต้น ก็ ไม่มี จุดสิ้นสุด”

ชายชราบ่นพึมพำ เสื้อผ้าของเขาขาดรุ่งริ่ง และเขาก็เดินโซเซขณะที่เดินอยู่ในป่าทึบ

“ตาแก่คนนั้นพูดว่าอะไร? ทำไมข้าไม่เข้าใจที่เขาพูดเลยแม้แต่คำเดียว?”

‘ลู่ เพียว’ถามขึ้น

“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน”

‘เนี่ย หลี่’ส่ายหัว ฝ่ามือของเขาเปียกโชกไปด้วยเหงื่อที่เย็นเฉียบ สัญชาติญาณ ของเขารับรู้ถึงอันตราย ชายชราผู้นี้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง คนที่เป็นผู้สืบทอดของจักรพรรดิคง หมิง หากฝ่ายตรงข้ามรู้ถึงตัวตนของเขาแล้วหล่ะก็ เขาต้องตกอยู่ในอันตรายแน่ๆ

อย่างไรก็ตาม’เนี่ย หลี่’ก็ยังไม่เข้าใจ ว่าหากฝ่ายนั้นเป็นถึงผู้สืบทอดของจักรพรรดิคง หมิงทำไมเขาถึงเปิดเผยสถานะของตัวเองออกมาง่ายๆอย่างงี้? เขาไม่กลัวว่าจะถูกตามรอยจากผู้สืบทอดคนอื่นหรอ?เป็นไปไดยังไง? ชายชราผู้นี้ตั้งใจจะฆ่าพวกเขาหรอ?

ชายชราเดินผ่าน’เนี่ย หลี่’และพรรคพวกไป ขณะที่หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง น้ำเสียงของเขาฟังดูเหมือนกำลังร้องไห้

“ไม่มีปลายทาง เมื่อ ไม่มี จุดเริ่มต้น ไม่มี จุดเริ่มต้น ก็ ไม่มี จุดสิ้นสุด ช่างน่าขัน! ช่างน่าขัน!”

ดวงตาของชายชรา มองผ่านมายัง’เนี่ย หลี่’ทำให้ตัวเขาเปียกโชกไปด้วยเหงื่อที่เย็นเฉียบ ชายชราผู้นี้รับรู้อะไรบางอย่างได้งั้นรึ?
และเมื่อ’เนี่ย หลี่’ตื่นตัวและเตรียมพร้อมจะสู้ ชายชราก็กลายเป็นบ้าไปทันที เขาหัวเราะ และร้องไห้ออกมาขณะที่เขาค่อยเดินห่างออกไปจนลับสายตา

หลังจากมองดูชายชราเดินหายเข้าไปในความมืด ‘เนี่ย หลี่’ถอนหายใจอย่างโล่งอก ชายแก่ผู้นั้นคงไม่ได้เป็นบ้าไปแล้วหรอกใช่มั้ย? ‘เนี่ย หลี่’สามารถรู้สึกได้ถึงพลังวิญญาณที่ไม่ปกติของชายชราผู้นั้น อะไรคือความหมายของคำพูดที่ชายแก่ผู้นั้นพูดถึงสองครั้งต่อหน้า’เนี่ย หลี่’กันนะ แถมซ้ำพูดย้ำประโยคเดิมอีก

ตราบเท่าที่เขาไม่ได้บอกคนอื่นว่าเขาเข้าใจถึงความหมายอันลึกซึ้งของประโยคที่ว่า

“ไม่มี ปลายทาง เมื่อ ไม่มี จุดเริ่มต้น ไม่มี จุดเริ่มต้น ก็ ไม่มี จุดสิ้นสุด”

เขาก็จะยังปลอดภัยอยู่ ถึงกระนั้น’เนี่ย หลี่’ก็ต้องรีบแข็งแกร่งขึ้นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ มิฉะนั้น หากเขาได้พบกับผู้สืบทอดคนอื่น อีกสี่คนที่เหลือ คงมีเพียงความตายที่รอเขาอยู่

ตลอดทาง ‘เนี่ย หลี่’ให้’ลู่ เพียว’และ’ตู่ซื่อ’จับภูตโลหิตมากมาย มาทำขวดเลือดอสูรได้เป็นจำนวนมากและเก็บเข้าแหวนต่างมิติไป เพราะยังไม่มีใครรู้ว่าเจ้าขวดเลือดอสูรนี้จะเป็นที่ต้องการเมื่อไหร่

ณ ข่ายอาคมเคลื่อนย้าย ‘เนี่ย หลี่’ว่างหินแห่งแสงสว่างลงบนเสาหิน ทีละก้อน ทีละก้อน เสาหินค่อยๆยกตัวขึ้น และคลื่นพลังชนิดพิเศษ ก็อัดแน่นพื้นโดยรอบอย่างต่อเนื่อง

“ในที่สุดพวกเราก็จะได้กลับไปแล้ว ข้ารู้สึกไม่สบายตัวเลยเวลาอยู่ที่นี่”

‘ลู่ เพียว’พูดขึ้น และบิดตัวไปมาเล็กน้อยจากนั้นก็เดินเข้าไปยังข่ายอาคมเคลื่อนย้ายเป็นคนแรก คนอื่นๆก็ค่อยๆ ทยอยตามเขาเข้าไปในข่ายอาคมเคลื่อนย้าย

‘เนี่ย หลี่’ ‘เสี่ยว หนิงเอ๋อ’และ’ต้วน เจี้ยน’อยู่เป็นกลุ่มสุดท้าย ‘ต้วนเจี้ยน’มองขึ้นไปบนท้องฟ้าอันดำมืด ด้วยใบหน้าที่แสดงถึงความรู้สึกบางอย่างที่ยากจะอธิบาย ภายในดินแดนนรกจองจำ เขาสูญเสียความสุขในวัยเด็กไป และยังได้รับความทรงจำอันขมขื่นจาก

ศัตรูที่เขาไม่สามารถฆ่าพวกมันได้ด้วยความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้อีก
‘เสี่ยว หนิงเอ๋อ’เองก็รู้สึกได้ถึงความโศกเศร้าภายในใจของ’ต้วน เจี้ยน’ และถอนหายใจออกมาอย่างซึมเศร้า

“ต้วน เจี้ยน หากว่าเจ้าต้องการจะอยู่ เราก็จะไม่ห้ามเจ้า ด้วยความที่ว่าที่นี่คือบ้านเกิดของเจ้า”

‘ต้วน เจี้ยน’ส่ายหัวและตอบกลับไปว่า

“ในตอนที่ท่านพ่อและท่านแม่ของข้าถูกสังหาร บ้านเกิดของข้าก็ได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับเสียแล้ว(…T^T…) ข้าเหลือก็แต่ความเคียดแค้น นายท่านเป็นคนมอบชีวิตใหม่ให้ข้า มอบความหวังที่จะได้แก้แค้นแก่ข้า ข้าจะขอติดตามท่านไป นายท่าน!!!”

หลังจากที่พูดจบ ต้วน เจี้ยนก็ก้าวเท้าเข้าไปยังข่ายอาคมเคลื่อนย้าย

‘เนี่ย หลี่’ถอนหายใจให้กับความเคียดแค้นของ’ต้วน เจี้ยน’ ในชีวิตที่แล้ว ‘เนี่ย หลี่’ เองก็แบกรับความเคียดแค้นเอาไว้ขณะที่เขาท่องไปทั่วทุกที่ไม่ใช่รึ? เขาเองก็เข้าใจความรู้สึกของ’ต้วน เจี้ยน’ในตอนนี้ จากนั้นเขาก็พูดกับ’เสี่ยว หนิงเอ๋อ’ว่า

“หนิงเอ๋อ เราเองก็ควรจะไปแล้วเช่นกัน”

จบบท….
แปลโดย ไอยรา ณ กุญชร

 

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments