I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Tales of Demons & Gods (妖神记) ตอนที่ 167 เห็นหมดแล้ว!! (18+)

| Tales of Demons & Gods (妖神记) | 19636 | 2524 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

‘เอียจืออวิ้น’กำลังสวมอาภรณ์(น่าจะเป็นเสื้อ)ผ้าไหมบางๆ ผมของนางเลื่อนลงมา รูปร่างบริเวณหน้าอกของเธอเผยออกมาให้เห็นรางๆ ผ้าไหมแค่คลุมส่วนท่อนบนของนางเท่านั้น เรียวขาของนางช่างดูเปล่งปลั่งทำให้ชวนมีความรู้สึกยั่วยวนยิ่งนัก

‘เซี่ยวหนิงเอ๋อ’ที่อยู่บนเตียง ปิดหน้าอกของนางไว้แต่ก็ไม่สามรถบดบังรูปร่างของนางที่น่าหลงใหล จนไม่มีใครจะจินตนาการออกมาได้

‘เอียจืออวิ้น’หน้าซีดเมื่อมองไปยัง’เนี่ยหลี่’ ‘เซี่ยวหนิงเอ๋อ’ก็ก้มหลบด้วยความเขินอายพร้อมหน้าที่แดงอย่างเห็นได้ชัด

“อ่ะ ดูเหมือนว่าข้าจะมาผิดเวลาสินะ ขอโทษด้วย….”

‘เนี้ยหลี่’พูดพร้อมยิ้มแบบอายๆ จากนั้นก็หันหน้าหนีไปอย่างรวดเร็ว

“เนี่ยหลี่ ใครอนุญาตให้เจ้าเข้ามาในนี้ ออกไปนะ!”

‘เอียจื่ออวิ้น’พูดและยกมือขวาขึ้นมาพร้อมปล่อยหอกน้ำแข็งออกไปทาง’เนี่ยหลี่’ อุณหภูมิในหน้องลดลงอย่างฮวบฮาบ ‘เนี่ยหลี่’จึงหลบออกมาแล้วปิดประตูทันที
*ปัง*

หอกน้ำแข็งได้ระเบิดออก ส่วนนั้นของห้องก็กลายเป็นน้ำแข็ง
เมื่อเห็น’เอี้ยจื่ออวิ้น’แสดงความโกรธออกมา ‘เซี่ยวหนิงเอ๋อ’ก็ได้เผยรอยยิ้มเล็กๆ นางมองไปทางประตู ‘เนี่ยหลี่’มองด้วยสายตาที่อบอุ่นเพราะนางทำไปเพราะความอาย อย่างไรก็ตามนางยังคิดไม่ตกว่าระหว่างเธอกับ’เอียจืออวิ้น’ เขาจะเลือกใคร

“เนี้ยหลี่ชอบทำอะไรตามที่เขาต้องการโดยที่ไม่สนผู้อื่น เขาจะต้องได้รับบทเรียนซะบ้าง”

‘เอียจืออวิ้น’พูดพร้อมหน้าที่แดง ทาง’เซี่ยวหนิงเอ๋อ’ก็เช่นกัน ร่างกายของนางถูกปกปิดไว้เพียงเล็กน้อยแม้ว่าจะสวมอาภรณ์หลายอย่างแล้วก็ตาม ด้วยผ้าที่บางไม่ได้พูดถึงเนี่ยหลี่ที่แอบชำเลืองมอง เธอก็ถูกเนี่ยหลี่เห็นหมดแล้ว (ตั้งแต่ชาติที่แล้วแล้วนิ….)

“นั้นไม่ใช่วัตถุประสงค์ของเนี่ยหลี่หรอก เพียงแต่เขาเป็นห่วงพวกเราเท่านั้นเอง ทำไมต้องโกรธด้วยหละ”

‘เซี่ยวหนิงเอ๋อ’พูด

“หนิงเอ๋อ เจ้ายังไม่ได้แต่งงานกับเนี่ยหลี่และยังไม่ป้องกันตัวเองอีก ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะข่มเหงเจ้าจนตายในอนาคตก็ได้นะ”

‘เอียจืออวิ้น’พูดด้วยความไม่พอใจ

เมื่อได้ยินดังนั้น’เซี่ยวหนิงเอ๋อ’ก็แสดงแววตาอันเศร้าสร้อยขึ้นมา แต่งงานกับ’เนี่ยหลี่’? ข้าเนี่ยหรือที่จะเหมาะสมคู่ควรกับเขา? ‘เนี่ยหลี่’มีความสามารถอันน่าอัศจรรย์ยิ่งนักมีเพียงเอียจืออวิ้นที่เป็นดั่งนางฟ้าที่เหมาะสมคู่ควรกับเขา ข้าที่มาจากตระกูลปีกมังกรสู้ตระกูลวายุเหมันต์ได้อย่างไรกัน?

ทันทีที่เห็น’เซี่ยวหนิงเอ๋อ’นิ่งไป ไม่รู้ว่าทำไม’เอียจืออวิ้น’รู้สึกเจ็บปวดใจ ‘เซี่ยวหนิงเอ๋อ’ที่มีท่าทีเย็นชากับผู้อื่นจะไม่สามารถเข้าใกล้นางได้ แต่ความจริงแล้วหัวใจนางนั้นกลับตรงกันข้าม (แปลแบบนี่เพราะตาม Eng คำว่า fiery มันแปลว่าร้อนดังไฟ มันน่าจะหมายถึงตรงกันข้ามกับที่เธอแสดง มั้ง)

ถ้าเธอเป็นเหมือนกับดั่งคนอื่นๆเธอจะต้องเป็นคนที่อ่อนโยนและสุภาพเรียบร้อย เธอจะพยายามใช้ทุกอย่างเท่าที่เธอมี ‘เอียจืออวิ้น’ครุ่นคิดว่าตนต่างจาก’เซี่ยวหนิงเอ๋อ’ นางเป็นลูกสาวของเจ้าเมือง นางต้องแบบรับภาระมากมาย จะต้องทำให้สำเร็จด้วยกำลังของตัวเอง นางคิดว่าตัวเองนั้นไม่เหมาะกับ’เนี่ยหลี่’เลย

ในส่วนของ ‘เนี่ยหลี่’ยังนึกถึงภาพที่ได้เห็นก่อนหน้านี้ สาวสวยทั้งสองที่อยู่ด้วยกัน คนไม่มีใครคาดคิดว่าที่เป็นดังนางฟ้าที่สวยที่สุดทั้งสองของเมืองกลอรี่ (ทับศัพท์เลยละกัน) จะอยู่ในห้องนี้ แม้ว่าเขาจะถูกทุบตีแต่มันก็คุ้มค่า ในชาติที่แล้ว ถ้าเมืองกลอรี่ ไม่ถูกทำลาย คนไร้ค่าและยากจนอย่างเนี่ยหลี่ไม่มีทางที่จะอยู่ในสายตาของนางฟ้า’เอี้ยจื่ออวิ้น’ได้ แต่หลังจากที่เข้าฟื้นคืนชีพมา ความรู้สึกที่มีต่อ’เอียจืออวิ้น’ยังคงมั่นคงเสมอ

สำหรับ ‘หนิงเอ๋อ’ ในชาติที่แล้ว เขาไม่เคยได้รู้จักกับเธอ เขาได้แต่สงสารเธอ กับเรื่องที่เกิดขึ้นมากมายเนี่ยหลี่เข้าไปเปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอโดยสิ้นเชิง จนเขารู้สึกว่าไม่รู้จะสู้หน้าเธออย่างไรดี ดังนั้น ‘เนี่ยหลี่’ก็เปิดใจให้กว้าง โดยให้อนาคตเป็นตัวตัดสินแทน

‘เนี่ยหลี่’นั่งลงขัดสมาธิกับพื้นแล้วฟื้นฟูบ่มเพาะพลังวิญญาณต่อ หลังจากที่ผ่านระดับทอง ขั้นสองดาวแล้ว ‘เนี่ยหลี่’เข้าใจแล้วว่า ในวิญาณหนึ่งชีวิตนั้น การที่จะได้รับพลังวิญญาณในโลกนี้คือการจากไปหลังความตายของหลายๆชีวิต พลังจิตวิญญาณของเขาดึงดูดพลังวิญญาณจากบริเวณโดยรอบ

เมื่อไม่มีใครเข้ามาบริเวณนั้นทำให้การฝึกของเขาเร็วยิ่งขึ้น แต่เนี่หลี่ก็ไม่ประมาท จากอุบัติเหตุครั้งที่แล้ว มันจะต้องไม่เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อใกล้พลบค่ำ เอี้ยจื่ออวิ้นเดินออกมาจากห้องของเธอ

“จืออวิ้น”

‘เนี่ยหลี่’พูดพร้อมยกมือทักทายและอายเล็กน้อยที่ได้เจอ’เอียจืออวิ้น’ ‘เอียจืออวิ้น’ทำเย็นชาใส่’เนี่ยหลี่’ แต่เขาก็เข้าใจว่าเธอยังโกรธเขาอยู่ เขาจึงยิ้มออกมาเมื่อเห็นเอียจืออวิ้นไม่มีท่าทีอย่างอื่น เพราะจะได้ทำแบบนี้ไปมากมายในอนคต เมื่อเห็นเซี่ยวหนิงเอ๋อก็รู้ว่าเขาผิด

‘เอี้ยจื่ออวิ้น’มองไปที่’เนี่ย’แล้วพูดว่า

“เนี่ยหลี่ เจ้าจะไม่ได้รับอนุญาตให้อยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว ย้ายออกไปในคืนนี้ซะ”

“ทำไมละ?”

‘เนี่ยหลี่’ถามด้วยความสงสัย มองเขามองไปยังตาของ’เอียจืออวิ้น’ เขาก็รับรู้ถึงความเยือกเย็นแบบที่ไม่เคยเจอมาก่อน

“เจ้าไม่คิดบ้างรึว่ามันไม่เหมาะที่เจ้าจะอยู่ที่นี่ ข้าเป็นลูกสาวที่มีเชื้อสายมาจากตระกูลวายุเหมันต์ การที่เจ้าอาศัยอยู่ที่นี่ หากมีผู้ใดล่วงรู้เข้าเขาจะคิดยังไง”

‘เอียจืออวิ้น’มองไปทาง’เนี่ยหลี่’

“พ่อเจ้าตอบตกลงไปแล้วไม่ใช่รึ”

‘เนี่ยหลี่’รู้สึกว่า’เอียจืออวิ้น’นั้นไม่ถูกต้อง เขาก็จะไม่สามารถเชื่อมความสันพันธ์ต่อได้นะสิ

“พ่อข้าเป็นคนตอบตกลง แต่ไม่ได้หมายความว่าข้าจะตอบตกลงด้วย ในอดีตข้าใจอ่อนและไม่ได้พูดอย่างชัดเจน แต่ต่อไปนี้หากข้าไม่อนุญาต เจ้าห้ามเข้ามาเด็ดขาด”

เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

“จืออวิ้น, ข้าแค่ร้อนใจและมันก็เป็นเพียงอุบัติเหตุ….”

‘เนี่ยหลี่’คาดคิดว่าที่นางโกรธนั้นเป็นเพราะเหตุการณ์ก่อนหน้านี้และเขาก็พยายามที่จะอธิบาย

“เมื่อเจ้าเข้าใจแล้วก็ ย้ายออกไปคืนนี้เลย”

‘เอียจืออวิ้น’มองไปที่’เนี่ยหลี่’แล้วพูดออกมาว่า

“เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ข้าเข้าใจแล้วว่าเจ้านั้นก็ไม่ได้ต่างไปจาก เอียฮั่น เจ้าไม่ได้จริงใจกับข้า เจ้าหลอกใช้ข้าเป็นเครื่องมือโดย การแต่งงานกับข้าก็เท่ากับว่าเจ้าจะได้ตำแหน่งเจ้าเมืองไปแล้วสินะ เพื่อที่จะกลายเป็นคนที่อำนาจมากที่สุดในเมือง ช่างน่าขันจริงๆ”

“เหลวไหล ข้าไม่สนใจตำแหน่งเจ้าเมืองเลยแม้สักเพียงนิด….”

‘เนี่ยหลี่’ขมวดคิ้ว ทำไม’เอี้ยจื่ออวิ้น’จู่ๆถึงพูดแบบนี้ออกมา มันช่างไม่เหมืนกับตัวเธอเลย

“เนี่ยหลี่ อย่าคิดนะว่าเจ้าเก่งเพราะความสามารถที่สูงลิ่ว แต่เจ้าก็ยังเป็นเด็กจนๆที่มาจากตระกูลบันทึกสวรรค์ ด้วยฐานะของเจ้าคิดที่จะแต่งงานกับลูกสาวท่านเจ้าเมือง ฝันไปเถอะ”

‘เอี้ยจื่ออวิ้น’พูดด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย

“ด้วยการต่างชนชั้นระหว่างเราสองคน เจ้าคิดหรือว่าจะก้าวข้ามมันมาได้”

เมื่อได้ยินดังนั้น’เนี่ยหลี่’ก็รู้สึกโกรธเล็กน้อย เขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เขาไม่เคยรู้เลยว่า’เอี้ยจื่ออวิ้น’จะเป็นแบบนี้ แต่เธอก็ไม่ให้โอกาสเขาแม้แต่จะพูดสักคำ

“เจ้ายังไม่ไปอีกหรือ! หรือเจ้ายังทำให้ข้าอับอายไม่พอ”

‘เอียจืออวิ้น’พูดแล้วแลมองไปที่’เนี่ยหลี่’
เมื่อเห็นสายตาของ’เอียจืออวิ้น’ ‘เนี่ยหลี่’คิดว่าสิ่งแตกต่าง ที่เกิดขึ้นในชาติที่แล้วของเขาก็คือ หากเมืองรุ่งโรจน์ไม่ได้ถูกทำลายลง คนในตระกูลวายุเหมันต์จะต้องคัดค้านเรื่องระหว่างเขากับ’เอียจืออวิ้น’ที่จะอยู่ด้วยกัน

แต่ก็จริงดังที่’เอียจืออวิ้น’พูดมา เขานั้นเป็นเด็กยากจนจากตระกูลบันทึกสวรรค์ จะเหมาะสมคู่ควรกับลูกสาวของท่านเจ้าเมืองได้อย่างไร

คิดแล้วคำพูดเหล่านี้ก็เคยออกมาจากปากของพวกผู้อาวุโสของตระกูลวายุเหมันต์ในชาติที่แล้ว เนี่ยหลี่ก็รู้สึกท้อแท้ เขาไม่โกรธเอียจืออวิ้นแม้แต่น้อย ได้แต่หันหลังกลับแล้วโบกมือลา

“ไม่ต้องพูดอีกแล้ว ข้าไปก็ได้”

หลังจากที่พูด’เนี่ยหลี่’ก็เดินตรงไปยังทางเข้าตำหนัก

“เจ้ายังไม่เอาของของเจ้าไปด้วยหละ”

‘เอียจืออวิ้น’พูดอย่างเย็นชา

“มีไม่มากหรอก ถ้ามีเหลืออยู่ก็เชิญโยนทิ้งไปได้เลย”

‘เนี่ยหลี่’แล้วก็เดินออกจากตำหนักไป
เมื่อเห็น’เนี่ยหลี่’ก้าวเดินจากไป ‘เอียจืออวิ้น’ยังยืนต่ออยู่เนิ่นนาน ไม่รู้ว่าทำไมหัวใจนางถึงได้รู้สึกถึงความเจ็บปวดรวดร้าวนัก ดังมีอะไรในใจของนางได้หลุดลอยหายไปและเต็มไปด้วยความสิ้นหวังกับสับสน น้ำตาก็ไหลพรั่งพรูออกมา นี่ข้าเป็นคนผิดกระนั้นหรือ

หลังจากนั้นในห้องของ’เอียจืออวิ้น’ ‘เซี่ยวหนิงเอ๋อ’สวมเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยมองไปยังเอียจื่ออวิ้นที่เดินเข้ามา จึงถามว่า

“จืออวิ้น เนี่ยหลี่หละ”

“เขามีธุระที่ต้องไปทำและกลับไปที่ตระกูลของเขาแล้ว”

‘เอียจืออวิ้น’พูดโดยหันหน้าหนีเธอ พร้อมกับพูดต่อว่า

“เจ้ายังไม่หายดี จะดีกว่าถ้าเจ้าดื่มยาแล้วพักรักษาตัวอีกสักพัก”

‘เซี่ยวหนิงเอ๋อ’มองไปยัง’เอียจืออวิ้น’ด้วยความรู้สึกสงสัย ‘เอียจืออวิ้น’ทำตัวแปลกๆ เธอมองออกว่า ต้องมีอะไรบางอย่างน่าสงสัยเกิดขึ้น ทำไมเนี่ยหลี่ถึงออกไปยังเร่งรีบ(โดนไล่นิ) แต่นางก็ไม่ถามไปมากกว่านี้ เธอยังคิดว่านี่เป็นการแข่งขันระหว่างเธอกับ’เอียจืออวิ้น’ เธอจะไม่ยอมมอบ’เนี่ยหลี่’กับ’เอียจืออวิ้น’ไปง่ายๆ เธอได้แต่รอให้’เนี่ยหลี่’หันมาเลือกตัวเธอเอง ถ้า’เนี่ยหลี่’ยังเลือก’เอียจืออวิ้น’ เธอก็จะยอมรับชะตากรรมของเธอ

‘หลู่เพี่ยว’ ‘ตู่ซื่อ’ และพรรคพวก กลับไปยังตระกูลของตน ‘เนี่ยหลี่’ก็พา ต้วนเหยียนและ’เนี่ยหยู’กลับไปที่ตระกูลบันทึกสวรรค์ เมื่อเห็นคนในตระกูลปลอดภัย เขาก็รู้สึกโล่งอก ตระกูลบันทึกสวรรค์ไม่เป็นเหมือนดังเช่นเคยอีกแล้ว ตระกูลวายุเหมันต์และสมาคมนักปรุงยา ไม่ปล่อยให้มีอันตรายม้ากล้ำกลายตระกูลบันทึกสวรรค์ หลังจากพา’เนี่ยหยู’กลับไปหาครอบครัวและให้ ‘ต้วนเหยียน’ ตระกูลของเขา ‘เนี่ยหลี่’ก็มุ่งหน้าไปที่สมาคมนักปรุงยา

เมื่อนึกถึงสิ่งที่เอี้ยจื่ออวิ้นพูดทำร้ายจิตใจของเขา แต่เขาก็ยังคงหาทางทำทุกอย่างเพื่อให้เมืองกลอรี่ ปลอดภัย เพราะที่นี่คือที่เขาอาศัยอยู่

ณ สมาคมนักปรุงยา

ที่ห้องโถงอันโอ่งอ่า ‘หยางซิ่นนั่ง’อยู่เพียงลำพังด้านหน้ากำลังเรียนรู้อะไรบางอย่างอยู่ เธอสวมชุดรัดรูปสีแดง ทำให้เธอดูมีเสน่ห์จนไม่สามารถบรรยายออกมาได้ หน้าออกของเธอราวกับว่ากำลังจะระเบิดออกมาเสื้อของนางทำให้รู้สึกน่าหลงใหลและยั่วยวน ผู้หญิงคนนี้เป็นดั่งปีศาจที่เลอโฉม เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็พบเนี่ยหลี่ หยางซิ่น ตกใจและยิ้มออกมา

“น้องชาย ทำไมเจ้าถึงมาหาพี่สาววันนี้ได้ละ เจ้าไม่มาเยี่ยมข้าเลยหลังจากเข้าไปอยู่ในตำหนักของเอี้ยจื่ออวิ้น”

‘เนี่ยหลี่’ไม่ได้สนใจคำหยอกล้อของหยางซิ่น เขารึจะถูกปีศาจสาวตนนี้กิน

“วันนี้ข้ามีบางอย่างที่จะต้องพูด”
“โอ้”

‘หยางซิ่น’มองเนี่ยหลี่ด้วยความขุ่นเคือง

“ไม่ต้องเป็นทางการมากนักหรอก เจ้าไม่เต็มใจที่จะมาหาพี่สาวงั้นรึ?พูดมาสิ”
“ข้าต้องการให้พี่สาวหยางซิ่นเตรียมยาทิพย์บางอย่างไว้ ถ้าเป็นไปได้สักหลายแสนขวดภายในปีนี้”

‘เนี่ยหลี่’พูด

“มากขนาดนั้นเชียวรึ”

‘หยางซิ่น’ขมวดคิ้ว จากการบุกของสัตว์อสูรนับล้านคราวนี้ เหลือพียงไม่กี่พันขวด ทำไม’เนี่ยหลี่’ต้องการมากขึ้นขนาดนั้น เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอก็คิดได้จึงได้ถามออกไป

“เจ้าหมายความว่าภายในปีนี้จะมีกองทัพอสูรที่ใหญ่กว่านี้บุกมาอีกงั้นรึ?”

จบตอน (นามแฝง Starbot ละกันนะครับ อาจจะมีซับนรกไปบ้างก็ขออภัยมา ณ ทีนี้ด้วยนะครับ แปลครั้งแรกครับ) แปลได้ดีนะครับ ข้าน้อยช่วยเกาและแก้คำผิดให้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น อย่าลืมคอมเม้นให้กำลังใจนักแปลด้วยนะครับ จากผู้ไม่ประสงค์จะออกนาม

 

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments