I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Tales of Demons & Gods (妖神记) ตอนที่ 175 ของขวัญ

| Tales of Demons & Gods (妖神记) | 22222 | 2525 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

ภายในห้องลับของตำหนักเจ้าเมือง

งานใกล้จะเริ่มขึ้นแล้ว หลังจากที่’เนี่ยหลี่’ หนีพ้นจาก ‘ฮูเหยียน หลานเร่อ’ เขาก็พา’เอี้ยจื่ออวิ้น’มาที่นี่

ที่ห้องลับรายล้อมไปด้วยแผ่นหินทำเป็นผนังของห้อง แต่ละฝั่งจะลงอาคมที่เพิ่มความแข็งแกร่งของผนังเอาไว้ มันมีไว้เพื่อเป้นที่ซ่อนตัวเมื่อกองทัพอสูรบุกเข้ามาได้สำเร็จ เจ้าเมืองคนก่อนๆต่างก็สร้างให้มันสมบูรณ์แบบที่สุดกันมาเรื่อยๆ เพื่อให้ที่แห่งนี้เป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุดของตำหนักเจ้าเมือง

“เนี่ยหลี่ เจ้าบอกว่าพ่อของข้าให้พาข้าที่แห่งนี้ แต่เราจะทำอะไรกันที่นี่หล่ะ”

‘เอี้ยจื่ออวิ้น’ สงสัยจึงถามออกมา

ภายในห้องลับที่ทั้งที่ว่างและพร้อมไปด้วยเสบียง โดยที่ไม่มีสิ่งอื่นนอกจากนี้

“งานเลี้ยงกำลังจะเริ่มแล้ว ครั้งนี้พวกเราต้องกำจัดพวกตระกูลศักดิ์สิทธิ์ แน่นอนว่าต้องมีการต่อสู้กันเกิดขึ้น ในเวลานี้ข้าเกรงว่ามันอาจจะมีสถานการณ์ที่เราไม่สามารถควบคุมได้”

‘เนี่ยหลี่’พูดและมองไปที่’เอี้ยจื่ออวิ้น’ด้วยความเศร้า

“แต่เรามาทำอะไรกันที่นี่หล่ะ”

‘เอี้ยจื่ออวิ้น’ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ทันทีที่นางคิดได้ นางก็พูดออกมาด้วยความตกใจ

“เนี่ยหลี่ นี่เจ้า…..”

ขณะที่’เอี้ยจื่ออวิ้น’กำลังจะมีปฏิกิริยา ‘เนี่ยหลี่’ก็เปิดกลไกบนผนังหิน เกราะป้องกัน(น่าจะเป็นพลังบาเรีย)ก็โผล่ขึ้นมาระหว่าง ‘เอี้ยจื่ออวิ้น’กับ’เนี่ยหลี่’ ‘เอี้ยจื่ออวิ้น’ถูกกักไว้อยู่ในห้องลับ

“นี่เป็นคำขอร้องจากพ่อของเจ้า”

‘เนี่ยหลี่’พูดและยิ้มออกมา(นึกท่าทางมันออกมาเลย…) ความจริงแล้ว ‘เอี้ยเซิ่ง’กับ’เนี่ยหลี่’นั้นไม่ถูกกัน ก็มีบางอย่างที่เขาทั้งสองคนสามารถเข้ากันได้

เพื่อความปลอดภัยของ’เอี้ยจื่ออวิ้น’ แม้ว่า’เอี้ยจื่ออวิ้น’ต่อต้านสำหรับเรื่องนี้ แต่’เอี้ยเซิ่ง’กับ’เนี่ยหลี่’จำเป็นต้องขังเธอไว้ที่ห้องลับแห่งนี้

“เนี่ยหลี่ ปล่อยข้าออกไปนะ เร็วเข้า! การต่อสู้กำลังจะเกิดขึ้น เจ้าขังข้าไว้แบบนี้ทำไม”

‘เอี้ยจื่ออวิ้น’มองไปที่’เนี่ยหลี่’ด้วยความโกรธเธอรวบรวมพลังวิญญาณเพื่อที่จะทำลายบาเรียออกมา แต่พลังของเธอก็ถูกดีดกลับมา

“เกรงว่าข้าคงทำไม่ได้ ตระกูลศักดิ์สิทธิ์จะต้องตอบโต้เราแน่นอน เจ้าเป็นลูกหลานที่สืบเชื้อสายจากตระกูลหลักของวายุเหมันต์ ตกเป็นเป้าหมายได้ง่าย เจ้าคือจุดอ่อนของพวกเรา ดังนั้นเจ้าจึงต้องอยู่ที่นี่”

‘เนี่ยหลี่’พูดออกมาและยิ้มให้กับ’เอี้ยจื่ออวิ้น’

“วางใจ้ได้ แม้ตระกูลศักดิ์สิทธิ์คงสร้างปัญหาได้ไม่มากเท่าไหร่ เจ้ารออยู่ที่นี่ไปก่อน อีกไม่นานข้าจะกลับมาหาเจ้า”

หลังจากที่พูดเสร็จ ‘เนี่ยหลี่’ทะยานออกไป

“เนี่ยหลี่ เจ้ากลับมานะ”

‘เอี้ยจื่ออวิ้น’พูดตะโกนออกมาด้วยความโกรธ

“ถ้าวันนี้เจ้าไม่ปล่อยข้าออกไป เจ้าอย่างหวังว่าจะได้พบข้าอีก….”

เสียงของเธอดังก้องไปทั่วทั้งทางลับ ‘เนี่ยหลี่’ก็หายไปจากทางเข้าห้องลับอย่างรวดเร็ว ‘เอี้ยจื่ออวิ้น’กระทืบเท้าด้วยความโกรธ เธอตกหลุมพรางของ’เนี่ยหลี่’อีกแล้วรึนี่

ตอนที่’เนี่ยหลี่’พาเธอมาที่นี่ เธอก็เริ่มเอะใจเร็วกว่านี้ เธอพยายามที่จะพังบาเรียออกมาแต่ไม่ว่าจะทำกี่ครั้งก็ไม่เป็นผล เธอได้แต่รอให้ใครสักคนเข้ามาช่วยเธออกไปหรือรอจนกว่าบาเรียจะหยุดทำงานในอีก 3 วันหลังจากนี้ แต่ในเวลานี้การต่อสู้กำลังจะเกิดขึ้นที่จะนำไปสู่การจบเรื่องราวทั้งหมด(ในที่นี้น่าจะหมายถึงการกำจัดสิ่งที่เป็นภัยต่อเมืองนะครับ)

จะเป็นอย่างไรถ้าพ่อของเธอและ’เนี่ยหลี่’ต้องตกอยู่ในอันตราย

น้ำตาก็เริ่มไหลลงมาบนแก้มของเธอ ในตอนนี้เธอไม่สามารถทำอะไรได้เลย ใจเธอกลัวว่า’เนี่ยหลี่’จะต้องตาย แม้ว่า’เนี่ยหลี่’จะบอกกับเธอว่าอีกไม่นานเขาจะกลับมา แต่เธอก็ยังคงอดเป็นห่วงไม่ได้อยู่ดี

แขกก็เริ่มเข้ามาที่งานเลี้ยง

ตำหนักของเจ้าเมืองก็ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น เหล่ายอดฝีมือจากตระกูลต่างๆมีการสนทนาและทำความรู้จักกับคนอื่นๆ
ผู้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์สูงคือ ‘เอี้ยซิว’กับ’เอี้ยโช่ว’

‘เนี่ยหลี่’ได้รู้จาก’เอียซิ่ว’ว่า ‘เอี้ยโช่ว’เป็นคนที่ลึกลับเป็นอย่างมากในตระกูลวายุเหมันต์ เขาเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังในการควมคุมกำลังคนของตระกูลวายุเหมันต์ เขาจะหาคนจากสถาบันกล้วยไม้ศักดิ์สิทธิ์มาเป็นพวกของตนและเขาก็เป็นผู้ที่มีอำนาจที่น่ากลัวไว้อยู่ในมือ

ในเมืองกลอรี่ มีไม่มากนักที่จะรู้จักชื่อ ‘เอี้ยโช่ว’ แต่ภายในตำหนักของเจ้าเมืองเข้าถือเป็นอันสองรองจาก’เอี้ยซิว’เท่านั้น (ถ้าไม่นับ เอี้ยมัวกับเอี้ยเซิ่งนะ) และเป็นอันดับสี่ของตระกูลวายุเหมันต์อีกด้วย
เขาเป็นคนแก่ที่ทรงอิทธิพล

เมื่อ’เอี้ยโช่ว’เห็น’เนี่ยหลี่’ เขาก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย

ได้เห็นรอยยิ้มของ’เอี้ยโช่ว’ ‘เนี่ยหลี่’รู้สึกสงสัยจึงถามออกไป

“ผู้อาวุโส เราเคยเจอกันมาก่อนรึเปล่าครับ”

ทั้งชาติที่แล้วและในชาตินี้ ‘เนี่ยหลี่’ไม่ได้รู้จักหรือคุ้นเคยกับ’เอี้ยโช่ว’เลย ถ้า’เนี่ยหลี่’ได้เห็นเพียงครั้งเดียวเขาจะสามารถจำจดพวกเขาได้ทันที หลังจากที่ใช้ชีวิตมาทั้งสองชีวิต เขาจำได้เหมือนกับได้ถ่ายรูปเอาไว้ด้วยซ้ำ แต่’เนี่ยหลี่’มั่นใจอย่างแน่นอนว่าเขาไม่เคยพบชายแก่คนนี้มาก่อน

“เจ้าอาจจะไม่เคยพบข้ามาก่อน แต่ข้ารู้จักเจ้า ในวันนั้นที่เจ้าได้ทะเลาะกับเสิ่นซิ่ว ข้าได้เห็นทั้งหมดจากข้างนอก แม้กระทั้งเรื่องตำแหน่งที่ให้เจ้าดูแลห้องสมุดทั้งหมดก็เป็นฝีมือของข้าเอง ข้าไม่เคยนึกมาก่อนเลยว่าในเวลาอันสั้นเช่นนี้ เราจะได้พบกันอีกครั้งในสถานการณ์เช่นนี้”

‘เอี้ยโช่ว’พูดและหัวเราะออกมา

วันที่’เนี่ยหลี่’มีปากเสียงกับ’เสิ่นซิ่ว’ เขาสัมผัสได้ว่ากำลังถูกจับตามองอยู่โดยยอดฝีมือ และรู้สึกถึงพลังน้ำแข็งที่ถูกปล่อยออกมา ‘เนี่ยหลี่’เดาว่าคนๆนั้นน่าจะต้องมาจากตระกูลวายุเหมันต์ แต่เขาก็ไม่รู้นั่นคือ ‘เอี้ยโช่ว’ นั่นเอง

ถ้าไม่ใช่เพราะเขารู้ว่ามีคนจากตระกูลวายุเหมันต์ ‘เนี่ยหลี่’คงจะไม่ยั่วโมโหใส่’เสิ่นซิ่ว’

“ข้าไม่คิดมาก่อนเลยว่า ผู้อาวุโสคนนั้นก็คือท่าน ข้าขอขอบคุณท่านที่ช่วยเหลือข้าเอาไว้”

‘เนี่ยหลี่’คารวะและขอบคุณ’เอี้ยโช่ว’

‘เอี้ยโช่ว’หัวเราะออกมาแล้วยังพูดว่า

“ข้าคงไม่จำเป็นต้องช่วยเหลือเจ้าอีกแล้ว ข้าเกรงว่าทุกอย่างได้อยู่ภายใต้การคำนวณของเจ้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ข้าคงทำได้เพียงทำไปตามกระแสเท่านั้น”

ทั้งสองคนหัวเราะออกมาเพราะต่างก็เข้าใจและรู้ใจกันทั้งสองฝ่าย

“ข้าไม่เคยคิดเลยว่าเจ้าจะสามารถทำลายม่านพลังของเขตแดนจิตสีเพลิงได้และการเพิ่มพลังของเจ้าที่เพิ่มขึ้นมาแบบก้าวกระโดด แม้แต่ข้าเองก็เทียบไม่ได้ ข้าละอายใจเหลือเกินที่จะพูดมาออกมาว่าคนแก่อย่างเราคงต้องเกษียณตัวเองเสียที เรื่องของอนาคตคงต้องฝากไว้กับคนรุ่นใหม่อย่างพวกเจ้า”

‘เอี้ยโช่ว’หัวเราะออกมาจนหัวของเขาสั่นไปหมด

“ท่านผู้อาวุโส ท่านกล่าวหนักไปแล้ว ท่านนะหรือชราภาพแล้วไม่จริงซะหน่อย พวกเราคนรุ่นหลังยังต้องการคำชี้แนะจากผู้อาวุโสอย่างพวกท่านอีกมากนัก นี่อาจจะไม่มากนักแต่เพื่อเป็นการแสดงความนับถือจากข้า โปรดรับไว้ด้วย”

‘เนี่ยหลี่’ดึงเอาผลึกโลหิตหลายอันออกมาและมอบให้แก่’เอี้ยโช่ว’

เขาจะต้องสร้างความสันพันธ์ที่ดีต่อเหล่าผู้อาวุโสระดับแบล็คโกลด์ของตระกูลวายุเหมันต์เอาไว้

เมื่อได้เห็นผลึกโลหิตที่อยู่ในมือของเขา ‘เอี้ยโช่ว’ถึงกับตะลึงไปชั่วขณะ ผลึกโลหิตนั่นเป็นของที่ล้ำค่า แม้แต่ยอดฝีมือระดับตำนานก็ยังต้องการมัน เขารู้สึกประหลาดใจที่’เนี่ยหลี่’ไปหาของพวกนี้มาจากที่ไหนกันแน่

‘เอี้ยซิ่ว’เริ่มเข้าใจแล้วว่า’เนี่ยหลี่’นั้นวางแผนอะไรไว้จึงหัวเราะและพูดออกมาว่า

“รับมันไปถอะ ก่อนหน้านี้ข้าก็ได้มันมาด้วยเช่นกัน ถ้าท่านไม่รับไว้ เนี่ยหลี่เองก็คงจะไม่สบายใจ”

‘เอี้ยโช่ว’มองไปที่’เนี่ยหลี่’และ’เอี้ยซิ่ว’ เขาเข้าใจได้ว่าทั้งคู่นั้นต้องการอะไร เหตุผลที่’เนี่ยหลี่’มองของขวัญที่ล้ำค่าเช่นนี้ต้องเป็นเพราะ ‘อวิ้นเอ๋อ’ เขาได้รู้เรื่องราวระหว่าง’เนี่ยหลี่’กับ’เอี้ยจื่ออวิ้น’ เขาจึงหัวเราะออกมาและพูดว่า

“งั้นข้าจะรับมันเอาไว้”

‘เนี่ยหลี่’หัวเราะออกมาเล็กน้อย ‘เอี้ยซิ่ว’เริ่มทำความสนิทสนมกับเขา ‘เอี้ยโช่ว’ด้วยเช่นกัน ดูเหมือนว่าผู้อาวุโสระดับแบล็คโกลด์ของตระกูลวายุเหมันต์นั้นคุยด้วยกันง่าย (ยัดใต้โต๊ะนี่หว่า…) ด้วยการมีทั้งผู้มีตำแหน่งระดับสูงของตระกูลวายุเหมันต์และการอนุมัติจาก’เอี้ยเซิ่ง’ ความสำเร็จอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้ว

ผู้คนจากตระกูลต่างๆมากมายมีจำนวนมากขึ้น ไม่นานพื้นที่ทั้งหมดก็เต็มไปด้วยผู้คน พวกเขาต่างเข้าไปนั่งอยู่ในพื้นที่ที่ได้จัดเตรียมไว้ให้ ต่างก็มีมุมเป็นของตนเอง อย่างไรก็จำนวนคนที่มาร่วมงานของตระกูลวายุเหมันต์นั้นมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

“ทำไมคนของตระกูลวายุเหมันต์ยังไม่มาถึงกันหล่ะ”

‘เสิ่นฮอง’รู้สึกไม่ชอบมาพากล เหล่ายอดฝีมือทั้งหมดจากตระฏุลต่างๆก็มากันพร้อมแล้ว มีเพียงหนึ่งถึงสองคนจากสิบคนของตระกูลวายุเหมันต์มาร่วมงาน ที่สำคัญมีเพียง’เอี้ยซิ่ว’กับ’เอี้ยโช่ว’เท่านั้น

ตระกูลศักดิ์สิทธิ์ได้ตำแหน่งใจกลางงาน ล้อมรอบได้ด้วยตระกูลต่างๆ ในเวลาเช่นนี้ถ้าเขาทำอะไรออกไปก็เท่ากับเปิดเผยให้ตระกูลอื่นๆรู้เข้า

‘เนี่ยหลี่’ออกไปนอกพื้นที่จัดงานและเห็น’เซี่ยวหนิงเอ๋อ’ ‘ลู่เพี่ยว’กับพรรคพวกแม้กระทั้งคนจากตระกูลบันทึกสวรรค์และ’ต้วนเจี้ยน’ก็มาร่วมงานเลี้ยงนี้ด้วยเช่นกัน แม้’เนี่ยหลี่’จะไม่ยอมให้พวกเขามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยแต่พวกเขาก็ต้องการที่จะเข้าร่วมอยู่ดี เขาจึงต้องเตือนพวกนั้นเอาไว้ก่อน

‘เนี่ยหลี่’เดินตรงไปทางที่ตระกูลบันทึกสวรรค์อยู่

ได้เห็น’เนี่ยหลี่’ ‘เนี่ยไฮ้’ ‘เนี่ยอิง’และพรรคพวกก็รู้สึกตื่นเต้น เมื่อ’เนี่ยหลี่’เดินมาด้านหน้าของห้องโถงหลัก พวกเขาเห็นคนสำคัญจากตระกูลวายุเหมันต์ถึงสองคนด้วยกันมีให้เกียรติกับเขา

ด้วยสิ่งนี้มีคำถามมากมายเกิดขึ้นเกี่ยวกับฐานะของเขาในตอนนี้ มีข่าวลือแพร่สะพัดออกไปอย่างบ้าคลั่งว่าเนี่ยหลี้กลายเป็นตัวเก็งว่าจะได้เป็นลูกเขยของท่านเจ้าเมือง ในเวลานี้พวกเขาต่างก็พูดถึงเรื่องนี้ พวกเขาต่างก็รู้สึกตื่นเต้นและภาคภูมิใจ หน้าตระกูลบางคนที่เคยมีเรื่องบาดหมางกันต่างก็ก้มหน้าและเดินหลบออกเมื่อได้เห็นพวกเขา

‘เนี่ยหลี่’เดินมาหา’เนี่ยไฮ้’และ’เนี่ยอิง’ที่อยู่ข้างๆพูดกระซิบข้างหูว่า

“คืนนี้จะมีบางอย่างเกิดขึ้น ดูแลคนของเราให้ดี”

ได้ยินคำพูดของ’เนี่ยหลี่’ ‘เนี่ยไฮ้’และ’เนี่ยอิง’ถึงจับใจสั่นไปเล็กน้อยพวกเขาพยักหน้าตอบ แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นแต่ที่แน่ๆพวกเขาก็ต้องระวังตัวอย่างมากไว้ก่อน

โชคดีที่’เนี่ยหลี่’ส่งคนไปแจ้งพวกเขาเอาไว้ก่อนแล้ว นั่นคือเหตุผลที่’เนี่ยไฮ้’และ’เนี่ยอิง’พาพวกมีฝีมือมาเพียงไม่กี่คน อย่างไรก็ตาม’เนี่ยหลี่’ก็ไม่ได้เผยข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับพวกเขา ความลับเช่นนี้ยิ่งรู้น้อยที่สุดยิ่งดี

‘เนี่ยหลี่’มองไปที่’ต้วนเจี้ยน’และพูดว่า

“ต้วนเจี้ยน เจ้าตามข้ามา”

“ครับ”

‘ต้วนเจี้ยน’ยืนขึ้นและเดินตามหลัง’เนี่ยหลี่’

ขณะที่’เนี่ยหลี่’กำลังเดินอยู่ เขาใช้เสียงแผ่วๆที่พวกเขาจะได้ยินกันเพียงสองคนและพูดว่า

“คืนนี้ เมื่อการต่อสู้ได้เริ่มขึ้น เจ้าต้องจับตาคนๆหนึ่งเอาไว้ นั่นคือ เสิ่นฮอง แม้ว่าเจ้าจะไม่สามารถล้มเขาได้ ยังไงเจ้าก็ต้องขัดขวางเขาเอาไว้”

ตอนนี้ ‘ต้วยเจี้ยน’ก้าวเข้าสู่ระดับแบล็คโกลด์ แต่ก็ยังไม่ใช่คู่มือของ’เสิ่นฮอง’ อย่างไรก็ตามด้วยความแข็งแกร่งทางร่างกายของ ‘ต้วนเจี้ยน’นั้น แม้จะต้องสู้กับยอดฝีมือระดับตำนาน เขาพอมีโอกาสยื้อการต่อสู้ได้

“ครับ ข้าเข้าใจแล้ว”

‘ต้วยเจี้ยน’ ผงกหัวตอบรับอย่างจริงจัง

‘เนี่ยหลี่’และ’ต้วนเจี้ยน’เดินตรงไปทางตระกูลมังกรทะยานฟ้า

เมื่อ’เซี่ยวหยุนฟาง’และคนจากตระกูลมังกรทะยานฟ้าเห็นการปรากฎตัวของ ‘เนี่ยหลี่’ พวกเขาทั้งหมดล้วนยืนขึ้น ตอนนี้’เนี่ยหลี่’คือคนที่ทั้งอิทธิพลและทรงอำนาจมากคนหนึ่งเลยทีเดียว

“เนี่ยหลี่”

‘เซี่ยวหนิงเอ๋อ’ยินขึ้นและมองไปที่’เนี่ยหลี่’ ดวงตาของเธอดูเปล่งประกายงดงามยิ่งนัก

‘เนี่ยหลี่’ยิ้มออกมาเล็กน้อยและพูดกับ ‘เซี่ยวหยุนฟาง’ว่า

“ยินดีที่ได้พบครับ ท่านลุง”

ได้ยินคำพูดของ’เนี่ยหลี่’ ‘เซี่ยวหยุนฟาง’เต็มไปด้วยรู้สึกความปลาบปลื้ม และรีบตอบกลับว่า

“หลานเนี่ยหลี่ ข้าต้องขอขอบคุณเจ้าที่ช่วยเหลือดูแลเซี่ยวหนิงเอ๋อตลอดมา”

‘เซี่ยวหยุนฟาง’และคณะรู้ถึงตัวตนเอง’เนี่ยหลี่’แล้วจากนั้นจึงมองไปที่ ‘ต้วนเจี้ยน’ผู้ที่ยืนอยู่ข้างหลัง’เนี่ยหลี่’ ทั้งสองคนนั้นทำให้พวกเขารู้สึกเข้าใจอยู่ลึกๆ

“ท่านลุง ท่านกล่าวหนักไปแล้ว หนิงเอ๋อเป็นเพื่อนที่สนิทของข้า ดังนั้นท่านลุงไม่ต้องเป็นห่วง นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้พบกันข้าขอมอบของขวัญเพื่อแสดงความนับถือ โปรดรับไว้ด้วย”

‘เนี่ยหลี่’ดึงขวดยาหลายขวดออกมาและมอบให้’เซี่ยวหยุนฟาง’

เมื่อเห็นของขวัญที่’เนี่ยหลี่’มอบให้’เซี่ยวหยุนฟาง’ ‘เซี่ยวอี้’และคนอื่นๆก็อิจฉาตาร้อนขึ้นมา ‘เนี่ยหลี่’ช่างร่ำรวยมหาศาลนัก บรรดาขวดยาเหล่านั้นมีทั้ง ยาเสริมพลังกายสีชาด, ยาเสริมวิญญาณและยาเปลี่ยนรูปทั้งเก้าอันเลื่องชื่อ ยาแต่ละชนิดนั้นมีมูลค่ามากมายมหาศาล

และ’เนี่ยหลี่’มอบให้มาหลายขวดด้วยกัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงยาเสริมพลังกายสีชาด เพียงไม่กี่เม็ดก็มีมูลค่าสูงแล้ว

อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนั้นเป็นของขวัญที่มอบให้แก่’เซี่ยวหยุนฟาง’ ‘เซี่ยวอี้’และพวกของเขาได้แต่รู้สึกเศร้าสลด

ทำไมพวกเขาไม่ได้ให้กำเนิดบุตรสาวดีๆมาสักคนหนึ่ง

จบตอน

ที่มา : 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments