I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Tales of Demons & Gods (妖神记) ตอนที่ 184 ถึงแม้ว่าจะตายข้าก็ไม่เสียใจ

| Tales of Demons & Gods (妖神记) | 22542 | 2525 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

เมื่อเห็นสองสิ่งที่น่ากลัวอยู่บนท้องฟ้า เหล่าผู้เชี่ยวชาญต่างประหลาดใจกับสิ่งที่เห็น ไม่น่าแปลกใจเลย ที่พวกเขาทั้งสองได้เป็นตระกูลหลัก ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้

ทั้งสองตระกูลหลัก จะมีใครบ้างที่รู้เรื่องนี้ มันถูกปกปิดไว้ราวกับการ์ดที่คว่ำไว้ เงาปีศาจและจิตวิญญาณเทพเจ้าวายุเหมันต์ เข้าต่อสู้กัน ทุกอย่างสบสนวุ่นวายไปหมด

ในขณะที่ท้องฟ้ากำลังมืด ขวานน้ำแข็งก็ฟันไปที่เงาปีศาจ เงาปีศาจล้มตัวหลบแล้วใช้กรงเล็บสวนกลับ ไปที่ขวาน

ตูม! ตูม! ตูม!

แรง ระเบิด ที่ปะทะกัน ส่งผลต่อ ผู้เชี่ยวชาญ ที่อยู่ ด้านล่าง สิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้ นักสู้ระดับโกลด์ และร่างทรงอสูรระดับโกลด์ ต่างถอยห่าง และคอยดู สถานการณ์ อยู่ ไกลๆ

พลังของจิตวิญญาณเทพเจ้าวายุเหมันต์แข็งแกร่งกว่า เงาปีศาจมาก ท้องฟ้า เต็มไปด้วย พายุหิมะ ที่กำลังเคลื่อนตัวไปหาเงาปีศาจ ความหนาวเย็นที่เกิดขึ้น

เข้าไปปกคลุมร่างกายเงาปีศาจ จนเกิดเป็นชั้นน้ำแข็ง

โฮก เสียงคำราม กึกก้อง!

จิตวิญญาณเทพเจ้าวายุเหมันต์ เป็นเหมือนเทพโบราณ ร่างกายมีขนาดใหญ่และทนทาน เปรียบเสมือน ขุนเขา ครึ่งร่างของร่างกายอยู่ในพายุ หิมะ ในขณะมือที่เคลื่อนไหวขวานน้ำแข็ง สร้างใบมีด ลม ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

ภายใต้การโจมตีของจิตวิญญาณเทพเจ้าวายุเหมันต์ เงาปีศาจได้กรีดร้อง และถอยห่างอย่างช้าๆ ใบหน้าของผู้อาวุโส ระดับแบล็คโกลด์ แสดงสีหน้าน่าเกลียดน่ากลัวเป็นอย่างมาก เดิมทีพวกเขาคิดว่าการเรียกเงาปีศาจออกมาจะเพียงพอต่อการ จัดการกับผู้เชี่ยวชาญด้านอื่น ๆ จาก ตระกูลอื่น ๆ

แต่พวกเขาคาดไม่ถึงว่าเอียซิ่ว’ จะอัญเชิญจิตวิญญาณผู้พิทักษ์เทพเจ้าวายุเหมันต์ จิตวิญญาณเทพเจ้าวายุเหมันต์มีพลังที่แข็งแกร่งมาก สามารถจัดการกับเงาปีศาจได้อย่างง่ายดาย

ไม่รู้ว่าเนิ่นนานเท่าใดมาแล้ว ที่พวกเขาคิดว่าจิตวิญญาณเทพเจ้าวายุเหมันเป็นเพียงตำนานที่เล่าขานกันเท่านั้น???
‘เนี้ยหลี่’กำลังเตรียมการอยู่มองเห็นจิตวิญญาณเทพเจ้าวายุเหมันต์ที่เป็นดั่งภูเขา

“ข้าก็สงสัยอยู่ว่าทำไม ท่านเอียซิ่ว ไม่ได้เตรียมการไดๆเลยที่จะเริ่มใช้งานค่ายกลหมื่นอสูร ขณะที่การต่อสู้กำลังจะเริ่มขึ้น ที่แท้พวกเขาได้เตรียมการไว้ ตระกูลวายุเหมันต์ไม่ง่ายอย่างที่คิด”

‘เนี้ยหลี่’ยังคงคลุมเครือกับสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตก่อนของเขา เมื่อเมืองกลอรี่ได้ถูกทำลายไปแล้ว ครั้งนึงเขาเคยเห็นจิตวิญญาณเทพเจ้าวายุเหมันต์จากระยะไกล เว้นเสียแต่ว่าในชีวิตของเขาก่อนหน้านี้แม้ว่าจิตวิญญาณเทพเจ้าวายุเหมันต์จะแข็งแกร่งขนาดไหน ก็ยังถูกรุมจัดการจากสัตว์อสูรจำนวนมากมายมหาศาล

เหตุผลที่ว่าทำไมเอียซิ่วไม่ใช่ค่ายกลหมื่นอสูร คงเป็นเพราะว่าเขาได้เลือกใช้จิตวิญญาณเทพเจ้าวายุเหมันต์แทน พวกเขาคงจะเก็บค่ายกลหมื่นอสูรไว้เป็นไม้ตาย

ก่อนหน้าที่พวกเขาจะตัดสินใจใช้ค่ายกลหมื่นอสูร ตอนที่เห็นการทำงานของค่ายกลหมื่นอสูรครั้งแรก พวกเขาคงคิดได้ว่าแค่จิตวิญญาณเทพเจ้าวายุเหมันต์ก็เพียงพอแล้วที่จะกำจัดตระกูลศักดิ์สิทธิ์ทุกคน

เงาปีศาจร้องอย่างน่าอย่างน่าสังเวช ดาบและกรงเล็บฟาดฟันใส่วิญญาณเทพเจ้าวายุเหมันต์ จิตวิญญาณเทพเจ้าวายุเหมันต์ คำรามแล้วใช้มือป้องกัน

แก๊ง! แก๊ง! แก๊ง!

ดาบสีดำโจมตีใส่มือของจิตวิญญาณเทพเจ้าวายุเหมันต์ เสียงของการโจมตีทั้งหมด เหมือนปะทะกับเหล็ก ไม่มีความเสียหายใดๆเกิดขึ้นเลย

หมับ!

จิตวิญญาณเทพเจ้าวายุเหมันต์ จับเงาปีศาจและแผ่ไอความเย็นสู่มันร่างกายของเงาปีศาจ ถูกแช่แข็งอย่างรวดเร็วในขณะที่มันยังคงต่อสู้ มันดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้น ราวกับว่ารู้ซึ้งถึงสัจธรรมและความตายที่ใกล้เข้ามา มันร้องกรีดร้องโหยหวนอย่างน่าสังเวช จนกระทั่งมันกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง

ผู้อาวุโสระดับแบล็กโกลด์ของตระกูลศักดิ์สิทธิ์ กระอักเลือดออกมาแล้วรีบเหาะออกไป เงาปีศาจนั้นถูกเรียกด้วยพลังจิตวิญญาณของพวกเขา ดังนั้นหลังจากเงาปีศาจก็กลายเป็นน้ำแข็ง แรงจิตวิญญาณของพวกเขาย่อมได้รับผลกระทบ จากความเสียหายนั้นเช่นกัน

‘เอียซิ่ว’ที่ยืนอยู่ด้านล่างของจิตวิญญาณเทพเจ้าวายุเหมันต์ กล่าวอย่างเย็นชา

“แค่เงาปีศาจกระจอกงอกง่อย ยังจะกล้าอวดดี คิดต่อกรกับตระกูลวายุเหมันต์ แกยังจะกล้าดีในเขตตระกูลวายุเหมันต์อีกไหม”

เวลาที่พวกเขาจะอัญเชิญจิตวิญญาณเทพเจ้าวายุเหมันต์ พวกเขาจะต้องใช้หินวิญญาณศักดิ์สิทธิ์จำนวนมาก หินวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่แหลืออยู่ในคลังสมบัติของตระกูลวายุเหมันต์ มีหินศักดิ์สิทธิ์เพียงพอที่จะอัญเชิญได้ 3ครั้ง

พวกเขาจะต้องคิดให้รอบคอบทุกครั้งก่อนที่จะอัญเชิญ แต่ตอนนี้พวกเขามีค่ายกลหมื่นอสูรเพิ่มขึ้นมาอีกอย่างแล้ว ตอนนี้ตระกูลวายุเหมันต์ไพ่ในมือเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไม เอียซิ่วถึงอัญเชิญจิตวิญญาณเทพเจ้าวายุเหมันต์

เงาปีศาจที่พ่ายแพ้ต่อพลังที่เหนือกว่าของจิตวิญญาณเทพเจ้าวายุเหมันต์ เวลาดับสูญของคนตระกูลศักดิ์สิทธิ์ ได้มาถึงแล้ว จิตวิญญาณเทพเจ้าวายุเหมันต์ก้มลงแล้วขยายมือคว้าตัวผู้อาวุโสระดับแบล็กโกลด์ของตระกูลศักดิ์สิทธิ์ ถ้าพวกเขาถูกจับตัวโดยจิตวิญญาณเทพเจ้าวายุเหมันต์ ผู้อาวุโสตะกูลศักดิ์สิทธิ์จะถูกแช่แข็งแล้วบดขยี้เป็นชิ้นๆ

‘เสิ่นฮอง’ที่เห็นฉากนี้รู้สึกใจแตกสลาย ทุกครั้งที่เขาพยายามที่จะหนีออกจะถูกขัดขวางโดย’ต้วนเจี้ยน’ เขาไม่สามารถหนีออกไปได้แม้จะพยายามยังไงก็ตาม ถ้าเขาอยู่ที่นั้นถึงแม้ว่าเขาจะไม่ชนะแต่เงาปีศาจจะไม่แพ้อย่างง่ายดายและ’เอียซิ่ว’จะไม่มีโอกาสชนะ

แบบง่ายๆเช่นนี้ ใบหน้าของ’เสิ่นฮอง’มืดดำ ทำไมผู้ชายคนนั้นยังไม่มา ตระกูลศักดิ์สิทธิ์ถูกทอดทิ้งโดยสมาคมทมิฬแล้วหรือ
‘เนี้ยหลี่’มองจากระยะไกล รากฐานของตระกูลศักดิ์สิทธิ์แล้วยังห่างชั้นกับตระกูลวายุเหมันต์ มันดูเหมือนว่าจะไม่มีความจำเป็นสำหรับเขาที่จะเปิดใช้ค่ายกลหมื่นอสูรอีกต่อไป

เมื่อมือของจิตวิญญาณเทพเจ้าวายุเหมันต์จะถึงตัวของผู้อาวุโสระดับแบล็คโกลด์ มีแสงสีดำห่อหุ้มพวกเขาอย่างกะทันหัน

ตูม!

มือของจิตวิญญาณเทพเจ้าวายุเหมันต์ชนกับแสงสีดำและกระเทือน จนไม่สามารถทำอะไรได้

“นี่เหรอจิตวิญญาณเทพเจ้าวายุเหมันต์ แข็งแกร่งดี”

ชายคนดังกล่าวลอยอยู่หน้าจิตวิญญาณเทพเจ้าวายุเหมันต์ คู่กับปีกสีดำที่ด้านหลังของเขา แม้ว่าเสียงของเขาเป็นเพียงสายลมที่แผ่วเบา ขณะนั้นทุกคนก็สามารถที่จะได้ยินมันอย่างชัดเจน

‘เอียซิ่ว’จ้องมองชายที่ลอยอยู่บนอากาศ อย่างพิจารณา

“ข้าไม่รู้จักเจ้า…เจ้าเป็นใคร

“สมาคมทมิฬ กุยชา!”

ชายหนุ่มหัวเราะ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นผู้อาวุโสคุมกฎของสมาคมทมิฬ

“อาจารย์ของข้าออกไปฝึกฝนข้างนอก ดังนั้นคนที่คอยจัดการสมาคมทมิฬอยู่คือ หลงชา เมืออาจารย์ของข้ากลับมาจากการฝึก เขาจะแสดงให้พวกแกได้เห็นจุดสุดยอดของขอบเขตพลัง ตระกูลวายุเหมันต์ทั้งหมดจะไม่มีความผิดหากก้มหัวให้กับสมาคมทมิฬของเรา อย่างเต็มใจ เราจะให้ตระกูลของพวกเจ้าได้มันส่วนหนึ่งของสาขาสมาคมทมิฬ”

“ไร้สาระสิ้นดี!”

‘เอียซิ่ว’พ่นลมหายใจอย่างเย็นชา

“คุยกับจิตวิญญาณเทพเจ้าวายุเหมันต์ ก่อนเถอะ”

จิตวิญญาณเทพเจ้าวายุเหมันต์เอื่อมมือไปหา ‘กุยชา’ ร่างกายของ’กุยชา’มีลูกกลมๆแสงสีดำปรากฏปรากฏออกมา เมื่อมือของจิตวิญญาณเทพเจ้าวายุเหมันต์ จับลูกกลมๆนั้นแล้วพยายามขยี้มัน น้ำแข็งได้ปกคลุมลูกกลมๆนั้นแต่ไม่มีไรอะเกิดขึ้นเลย ความแข็งแกร่งของจิตวิญญาณเทพเจ้าวายุเหมันต์ไม่สามารถทำลายมันได้

เมื่อเห็นฉากนี้’เอียซิ่ว’ขมวดคิ้ว พลังป้องกันที่แม้แต่จิตวิญญาณเทพเจ้าวายุเหมันต์ไม่สามารถทำอะไร กุยชาได้ หรือว่าเข้าจะอยู่ในระดับตำนาน ระดับตำนานยังเป็นแค่ผู้รับใช้หรือ?? แล้วพลังของอาจารย์เขาหล่ะ

“การทำลายล้างสาขาของสมาคมทมิฬ อย่างตระกูลศักดิ์สิทธิ์ก็ยังเป็นเรื่องยากที่จะอภัยได้ ข้าจะต้องจัดการกับตระกูลวายุเหมันต์ ถึงแม้ว่าข้าจะคิดยังไงก็ตาม ข้อเสนอของข้ายังอยู่ ถ้าตระกูลวายุเหมันต์เต็มใจที่จะก้มหัวให้ ยังมีโอกาสที่พวกเจ้าจะรอด?? ถ้าไม่เช่นนั้น อย่าตำหนิข้าถ้าหากว่าข้าจะต้องทำอะไรที่ไม่สุภาพ!”

‘กุยชา’พ่นลมหายใจอย่างเย็นชา แล้วค่อยยกมือขวาของเขาไปที่จิตวิญญาณเทพเจ้าวายุเหมันต์ เขาคำรามด้วยเสียงเบาๆ และซัดไปก้อนสีดำใส่น้ำแข็งของจิตวิญญาณเทพเจ้าวายุเหมันต์

เปลวไฟค่อยๆลามไปยังมือของวิญญาณเทพเจ้าวายุเหมันต์อย่างช้าๆ

“มีแค่จิตวิญญาณเทพเจ้าวายุเหมันต์ที่อ่อนแอ แต่เจ้ายังคิดจะต่อการกับข้า?”

‘กุยชา’ พ่นลมหายใจอย่างเย็นชาขณะที่เขาลอยตัวอยู่กลางอากาศ จิตสังหารที่เขาปล่อยออกมานั้นไม่มีใครเทียบได้ ขนาดจิตวิญญาณเทพเจ้าวายุเหมันต์ยังไม่อาจต่อกรกับเขาได้ ความแข็งแกร่งของ ‘กุยชา’ เป็นของจริง อยู่ในระดับสุดยอด??? แล้วอาจารย์ของเขาหล่ะ การดำรงอยู่ของเขาเป็นสิ่งที่น่ากลัวเกินไปแล้ว!!!

ในขณะนี้ผู้เชี่ยวชาญจากตระกูลต่างๆตกใจอย่างเต็มที่ ความแข็งแกร่งของผู้ชายคนนี้ข่มขู่พวกเขา แม้จะรู้ว่า จิตวิญญาณเทพเจ้าวายุเหมันต์ ที่แม้แต่’เอียมัวร์’ยังไม่สามารถต่อกรได้ แต่เขาไม่สามารถสู้ชายคนนี้ได้ และเขาอยู่ จุดสุดยอดของระดับตำนาน มันอาจจะเป็นไปได้ว่าผู้ชายคนนี้ เป็นระดับตำนานและอยู่ในระดับสูงสุดของการจัดอันดับที่ยังมีชีวิตอยู่ พลังของเขาสามารถทำลายเมืองกลอรี่ ได้อย่างไม่มีปัญหา

‘เอียซิ่ว’ขมวดคิ้วของเขา แม้ว่าเขาจะรู้สึกว่าบางสิ่งบางอย่างไม่ถูกต้องเขาไม่สามารถบอกได้ว่ามันคืออะไร

“มันคืออะไร?”

ขณะที่มองดูภาพที่เห็นตรงหน้า มุมปากของ’เสิ่นฮอง’ก็เผยรอยยิ้มอย่างโกรธเกรี้ยว เขาได้เห็นความแข็งแกร่งของ ‘กุยชา’มาแล้วก่อนหน้านั้น และเขารู้ ถึงการดำรงอยู่ของ ระดับตำนานขั้นสูงสุดอีก2คน หากเพิ่ม ‘หลงชา’ และ ‘จอมมาร’ เข้าไปก็จะเป็น 3ผู้เชี่ยวชาญระดับตำนาน เมื่อ ‘จอมมาร’ กลับมาจากการฝึกฝน ตระกูลวายุเหมันต์ ก็จะถึงคราวที่ถูกทำลาย และนี้ก็คือเหตุผลว่าทำไมตระกูลศักดิ์สิทธิ์ ถึงเข้าร่วมกับสมาคมทมิฬ

ในช่วงปีที่ผ่าน สมาคมทมิฬ รวบรวม ความแข็งแกร่งไว้มากมาย นี้ไม่ใช่สิ่งที่ เมืองกลอรี่จะต่อกรได้ สมาคมทมิฬ ยังคงมีความกลัวต่อการคงอยู่ของ’เอียมัวร์’ แต่เขาค่อยๆแก่ตัวลง มันถูกกำหนดแล้วว่า เมืองกลอรี่จะตกอยู่ในมือสมาคมทมิฬ เห็นภาพตรงหน้านี้ ในตรงกันข้ามกับคนอื่น ๆ ‘เนี้ยหลี่’หัวเราะ

“ข้าอยู่จุดสุดยอดของ ระดับแบล็คโกลด์ ยังเสมอกับเอียเซิ่งได้ อันที่จริงเจ้าอ้างว่าเป็นจุดสุดยอดของระดับตำนาน แม้ว่าคุณสมบัติเหล่านั้น ที่เจ้ามีอยู่มันก็ไม่เลว แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าข้า เจ้าอ่อนแอเกินไป! “

‘เนี้ยหลี่’รับรู้ได้เพียงมองแค่ครั้งเดียว ไม่ว่าจอมมารจะมีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับตำนานหรือไม่ ‘เนี้ยหลี่’ไม่มั่นใจ แต่ที่แน่ๆ ‘กุยชา’ที่อยู่ตรงหน้าเขา ไม่ได้มีความแข็งแกร่งของคนที่อยู่จุดสูงสุดของระดับตำนาน!

เมื่อรวมกับคุณสมบัติเหล่านั้น อย่างน้อย เขายังสามารถเดินหน้าหรือถอยหลัง ถ้าเขาเปิดใช้งานค่ายกลหมื่นอสูร! เนี้ยหลี่มองไปยังค่ายกลหมื่นอสูร เพียงแค่ได้ยินสิ่งที่ ‘กุยชา’พูด เขาควร จะเป็น หมายเลขสามของสมามาคมมืด ดังนั้นเขามีค่าพอที่จะใช้ค่ายกลหมื่นอสูร

ค่ายกลหมื่นอสูรเป็นไพ่ตายของตระกูลวายุเหมันต์ ในมุมมองของ’เอียซิ่ว’และคนอื่นๆ ถ้าพวกเขาหลีกเลี่ยงการใช้ค่ายกลหมื่นอสูรแล้วหาทางอื่นจะดีที่สุด แต่เนี้ยหลี่ไม่ได้คิดแบบนั้น หากไพ่ที่อยู่ในมือถูกเผยแล้ว จะต้องเตรียมตัวมากขึ้น

“เอาหล่ะ”

‘เนี้ยหลี่’เริ่มการทำงานของค่ายกลหมื่นอสูร อย่างรวดเร็ว ‘กุยชา’หยุด จิตวิญญาณเทพเจ้าวายุเหมันต์ และมองผู้เชี่ยวชาญของเมืองกลอรี่ จากกลางอากาศ มันทำให้ผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้นสิ้นหวัง ปราศจากเอียมัวร์ ใครจะกล้าเป็นศัตรูกับเขา

ทันใดนั้นบังเกิดเสียง

“มองดูตรงนั้นสิ ท่านเจ้าเมือง กลับมาแล้ว??”

หลังจากที่’เอียเซิ่ง’ถอนรากถอนโคนสาขาย่อยสมาคมทมิฬ และทะลายรังของตระกูลศักดิ์สิทธิ์เขารีบวิ่งกลับไปโดยไม่หยุดพัก แต่ช่วงเวลาที่เขากลับมาเขาเห็นภาพที่กุยชา หยุดจิตวิญญาณเทพเจ้าวายุเหมันต์ได้

ผู้เชี่ยวชาญสามคมทมิฬ ยังไม่หยุดเคลื่อนไหว ?เขาไม่เคยคิดเลยว่าผู้เชี่ยวชาญของสมาคมทมิฬ จะมายังเมืองกลอรี่ แม้ว่าเขาจะกำราบจิตวิญญาณเทพเจ้าวายุเหมันต์ได้ ความแข็งแกร่งของกุยชาไปถึงขอบเขตที่เขายังไปไม่ถึง สมาคมทมิฬ ส่งผู้เชี่ยวชาญมาถล่มเมือเกลอรี่งั้นเหรอ

ด้วยความแข็งแกร่งของ’เอียเซิ่ง’เขาไม่สามารถต่อกรกับกุยชาได้ ถ้าเขาบินขึ้นไปจะเป็นการตายหมู่เสียมากกว่า แต่เขาไม่สามารถหนีได้ในขณะนี้ เขาเป็นเจ้าเมืองและเสาหลักของประชาชนเมืองกลอรี่

ถ้าเขาหนีทุกคนจะตกเป็นทาสของสมาคมทมิฬ ภาพประกายผ่านในใจ’เอียเซิ่ง’ เขาเห็น ‘เอียจืออวิ้น’ ‘เนี้ยหลี่’ ‘เอียซิ่ว’ และคนอื่นๆ สายตาของเขาค่อยๆกลับมามั่นคง

เพื่อปกป้องความปลอดภัยของเมืองกลอรี่ ถึงข้าจะต้องตายข้าก็ไม่เสียใจ
ขณะที่’เอียเซิ่ง’เผชิญกับฝ่ายตรงข้าม สายตาของเขายังคงมุ่งมั่น เป็นอย่างมาก เขาลอยขึ้นบนอากาศ ขยายแรงดันวิญญาณของเขา…..

จบครับ

 

ที่มา : 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments