I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Tales of Demons & Gods (妖神记) ตอนที่ 186 เคล็ดย้ายวิญญาณ

| Tales of Demons & Gods (妖神记) | 23524 | 2526 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

*บูมๆๆ*

ภาพของเงาขนาดเท่าภูเขา กระหน่ำใส่ ‘กุยชา’ จนตกลงมาสู่พื้น ‘กุยชา’ สามารถรู้สึกได้ว่า แต่ละการโจมตีที่เข้ามานั้นรุนแรงกว่าก่อนหน้านี้หลายเท่า ด้วยพลังขนาดนี้ ไม่ใช่อะไรที่ ‘กุยชา’ จะสามารถรับมือได้ด้วยพลังกายของเขา ถึงแม้ว่าเขาจะมีพลังกายของสัตว์อสูร อสูรปีศาจกระหายเลือด ก็ตาม

พลังค่อยๆเพิ่มขึ้นจนเลยจุดที่เขาสามารถรับไหว ‘กุยชา’ รู้สึกได้ว่ากล้ามเนื้อที่แขนของเขานั้นเริ่มฉีกขาดออกเรื่อยๆ ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อ ร่ายกายของเขาต้องแหลกละเอียดแน่นอนด้วยพลังขนาดนี้ นี่คือพลังของค่ายกลหมื่นอสูร

พลังของค่ายกลนั้นมาจากวิญญาณสัตว์อสูรระดับแบล็คโกลถึงหมื่นตัว ‘เนี่ยหลี่’ใช้แค่10เปอเซนของพลังของมันก็เพียงพอที่จะฆ่า ‘กุยชา’ได้แล้ว

เมื่อเห็นภาพตรงหน้านี้ ‘เสิ่นฮอง’ ตกใจกลัวจนขวัญกระเจิง  ร่างของเขากลายเป็นแสงยาวๆและพยายามที่จะหนี ชั่วขณะนั้น เขาคิดแค่จะหนีและออกจากเมืองกลอรี่อย่างเดียว

‘เอียเซิ่ง’จะลืม’เสิ่นฮอง’ได้อย่างไร?

เมื่อเห็น’เสิ่นฮอง’กำลังหนีอย่างน่าทุเรศ เขาถอนหายใจ ถ้าเขาต้องมามีสภาพแบบนี้ แล้วทำไมก่อนหน้านี้เขาถึงตัดสินใจอย่างนั้นหละ? ดาบในมือของเขากลายเป็นแสงยาว แล้วพุ่งเข้าหาเสิ่นฮองที่กำลังหนี

“ในเมื่อแกเลือกที่จะทรยศเรา  เราก็จะไม่เอาแกไว้อีกต่อไป”

‘เอียเซิ่ง’นั้นอยู่ระดับตำนานแล้วในตอนนี้  ไม่ใช่ใครที่’เสิ่นฮอง’จะสามารถรับมือได้

ฉึก!!!!

ดาบแทงทะลุอกของ’เสิ่นฮอง’

‘เสิ่นฮอง’ไม่เชื่อสายตาตัวเองเมื่อมองที่ดาบที่แทงทะลุอกของเขา เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าเขาจะมามีจุดจบที่น่าอนาถอย่างนี้ ความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่ของเขาและทุกๆสิ่ง หายไปในอากาศเหมือนหมอกควัน มันกลายเป็นว่าทั้งหมดนั้นไม่ใช่อะไรเลยนอกจากความฝัน เขาตาย  ตระกูลศักดิ์สิทธิ์อันเก่าแก่หลายร้อยปีนั้น ได้จบลงด้วยมือของเขา

‘เสิ่นฮอง’ถอนหายใจ ค่อยๆหลับตาลง  มันอาจจะเป็นเพราะการกระทำทั้งหมดของเขานั้นมันผิดใช่ไหม?   เห็นที นี่คงเป็นจุดจบของเขา  พลังงานค่อยๆออกจากร่างของเขา ในขณะที่มันตกลงมาจากฟ้า

ผู้นำตระกูลคนอื่นๆเห็นร่างของ’เสิ่นฮอง’ตกลงมา  เหลือแค่   ‘กุยชา’ เท่านั้นที่ยังรอด ซึ่งกำลังอดทนต่อความเจ็บปวดจากการถูกโจมตี เขาพยายามฝ่าเงาที่เหมือนภูเขานั้นที่กำลังกดทับเขาอยู่   อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเขาจะพยายามเท่าไหร่  เงาที่เหมือนภูเขานั้นมันเต็มไปด้วยพลังที่ไม่สามารถประเมิณได้   ทำให้เขาขยับไม่ได้เลยซักนิดเดียว

ถ้าฆ่า ‘กุยชา’ได้ เมืองกลอรี่ก็จะปลอดภัย ‘เนี่ยหลี่’ถอนหายใจอย่างเย็นชา ขณะที่เขาเพิ่มพลังของค่ายกลหมื่นอสูร ถ้าพลังนี้ปะทะลงไปแค่ครั้งเดียว ‘กุยชา’ นั้นต้องตายอย่างแน่นอน

ทันใดนั้น! เกิดเสียงดังสนั่นขึ้น  เงาขนาดเท่าภูเขาได้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ ปรากฏคนๆหนึ่ง ได้บินอย่างรวดเร็วไปที่ ‘กุยชา’  คว้าตัวเขาไว้และคำรามไปยังท้องฟ้า เขาสามารถทำลายภูเขานับพันชั้นของค่ายกลหมื่นอสูรได้จริงๆ เป็นไปได้ว่าชายคนนี้ อย่างน้อยต้องอยู่นะดับตำนาน

‘เนี่ยหลี่’เพ่งมองไปที่ชายที่ใส่เสื้อคลุมบางๆสีขาว เป็นหนุ่มหล่อมากๆคนหนึ่ง ภายในสมาคมทมิฬ นั้น มีเพียงสองคนที่มีระดับพลังเหนือ ‘กุยชา’เขาไม่คิดเลยว่าหนึ่งในนั้นจะปรากฏตัวจริงๆ

เมื่อ ‘กุยชา’ ถูกช่วยไว้แล้ว ‘เอียเซิ่ง’ถอนหายใจอย่างเย็นชา

“คิดจะหนีรึ  มันไม่ง่ายหรอก”

เขารีบรวมร่างกับวานรวายุเหมันต์ทันที และสร้างพายุหิมะไรสิ้นสุดขึ้น  มันหมุนเข้าหาชายหนุ่มคนนั้น และในเวลาเดียวกัน วิญญาณเทพวายุเหมันต์ ที่ตั้งท่ารออยู่แล้ว ก็คำรามอย่างบ้าคลั่งทันที  และจับชายเสื้อของชายหนุ่มเอาไว้

เมื่อ ‘กุยชา’ ลืมตาขึ้นอย่างงุนงง  และเห็นชายหนุ่มชุดขาว  เขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

” หลงชา ทำไมแกถึงมาที่นี่”

ชายหนุ่มชุดขาวไม่ตอบ แต่สายตาที่เฉียบคมของเขา จับจ้องไปที่ศูนย์กลางของเขตอาคมหนื่นอสูรสังหาร ที่มุมปากของเขา ปรากฏรอยยิ้มลึกๆ

“นอกจากเอียมัวแล้ว ที่นี่ยังมีคนน่าสนใจอยู่อีก ข้าเชื่อว่า จอมมาร ต้องสนใจคนๆนี้อย่างแน่นอน”

ขณะที่มอง’เอิยเซิ่ง’และวิญญาณเทพวายุเหมันต์ กำลังโจมตีเข้ามา ชายหนุ่มในชุดขาวก็สะบัดแขนเสื้อของเขา แล้วหินลึกลับสองก้อนก็หล่นออกมา หินลึกลับสองก้อนนั้นสร้างพลังงานที่ไม่เป็นรูปเป็นร่างขึ้น และระเบิดในทันที คลื่นกระแทกเหวี่ยงวิญญาณเทพวายุเหมันต์กระเด็นถอยหลังไป ทำให้มันต้องทรงตัวเพื่อรักษาสมดุล สำหรับเอิยเซิ่งนั้น ถูงส่งลอยออกไป และกระอักเลือดออกมาเต็มปาก

ไม่มีใครรู้ว่าหินสองก้อนนั้นคืออะไร แต่มันมีพลังทำลายมหาศาล ชายหนุ่มชุดขาวยังคงสงบนิ่งเมื่อมองมาทางเนี่ยหลี่ และถามว่า

“ข้าสงสัย เจ้าชื่ออะไร ผ่านการย้ายวิญญาณมากี่ครั้งแล้ว? จากมุมมองของข้า ไม่จำเป็นต้องต่อสู้กันอีกแล้ว ถ้าเจ้าสนใจ เจ้าสามารถไปเที่ยวชมสมาคมทมิฬของข้าได้ และไปบพกับ ท่านจอมมาร พร้อมกับข้า เราจะรอคอยการไปเยี่ยมของแก “

เมื่อได้ยินคำนั้น ย้ายวิญญาณ ‘เนี่ยหลี่’ผู้ซึ่งยืนอยู่ตรงกลางของค่ายกลหมื่นอสูร   เปลือกตากระตุกทันที เคล็ดย้ายวิญญาณ นั้นเป็นเทคนิคลับที่น่ากลัวมาก ในขั้นตอนการใช้เทคนิคนี้นั้น ต้องสังเวยชีวิตเด็กนับไม่ถ้วน เพื่อใส่วิญญาณของตัวเองลงไปในร่างของเด็กแค่คนเดียวได้รับชีวิตใหม่ ตราบใดที่วิญญาณยังไม่ถูกทำลาย ก็ยังสามารถมีวิตอยู่ได้หลายชั่วอายุคน แน่นอน มันมีผลข้างเคียงมากมายในการใช้เทคนิคนี้  วิญญาณจะได้รับความเจ็บปวดจากการถูกเผา  และร่างใหม่จะได้รับความเสียหายอย่างรวดเร็วจากผลข้างเคียงนี้

ในเมื่อเด็กอย่าง’เนี่ยหลี่’ครอบครองความรู้มากมายเกินจินตนาการได้ขนาดนี้ และยังสร้างเขตอาคมขนาดใหญ่อย่างค่ายกลหมื่นอสูรได้  ในมุมมองของหนุ่มชุดขาวนี้  เขาต้องใช้เคล็ดย้ายวิญญาณอย่างแน่นอน  มิฉะนั้น เขาคงไม่มีความสามารถมากขนาดนี้ อย่างไรก็ตาม ที่เขาไม่รู้ก็คือ ‘เนี่ยหลี่’นั้นกลับมาในชีวิตนี้เพราะ หนังสือจิตอสูรท่องเวลา ไม่ใช่เพราะเคล็ดย้ายวิญญาณ

เคล็ดย้ายวิญญาณนั้นลึกลับซับซ้อนมาก  นอกจากไม่กี่คนเท่านั้นที่เคยได้ยินเกี่ยวกับมัน แล้วพวกเขาก็ยังไม่คิดว่ามันมีอยู่จริงๆ

หลังจากที่มนุษย์ไปถึงจุดสูงสุดของระดับตำนานแล้วพวกเขาจะบพว่ามันยากมากในการบ่มเพาะพลังของพวกเขาเพื่อเข้าสู้ระดับพลังขั้นต่อไป  ร่างกายของเขาจะเริ่มเสื่อมถอย และเข้าสู่สภาพที่เขาไม่สามารถเพิ่มระดับพลังได้อีกต่อไป

ยอดฝีมือจำนวนนับไม่ถ้วน ได้ตายลงไปพร้อมกับความเสียใจนี้ ผลที่ตามมาคือ มียอดอัจฉริยะคนหนึ่ง ค้นพบวิธีที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดของเขา  ซึ่งก็คือเคล็ดย้ายวิญญาณนั่นเอง  เพื่อรักษาวิญญาณไว้และได้ครอบครองร่างใหม่ หลังจากนั้น  เขาจะสามารถเริ่มต้นบ่มเพาะพลังได้ใหม่จากจุดเริ่มต้น   (ก็จะบ่มเพาะพลังได้เร็วกว่าเดิมเพราะเซียนแล้ว)

ทุกครั้งที่เขาไปถึงจุดสูงสุดของระดับตำนาน และพบว่าเขาไม่สามารถพัฒนาระดับพลังได้อีกต่อไป  และร่างของเราเริ่มเสื่อมถอย  เขาจะใช้เคล็ดย้ายวิญญาณอีกครั้ง  ด้วยวิธีนี้ เขาจะสามารถขยับเข้าใกล้ระดับพลังขั้นต่อไปได้ที่ละนิดๆระดับรองหัวหน้าสมาคมทมิฬนี้ประกาศเองว่าเป็นลูกน้อง จอมมารเป็นไปได้ไหมว่า จอมมาร เองก็ใช้เคล็ดย้ายวิญญาณเช่นเดียวกัน

ชายหนุ่มชุดขาวน่าจะเป็นหมายเลขสองของสมาคมทมิฬ  หลงชา ‘เนี่ยหลี่’ไม่ปล่อยให้ศัตรูคนนี้หนีไปแน่นอนมิฉะนั้น ปัญหาก็จะตามมาไม่สิ้นสุด! ระดับของหนุ่มชุดขาวคนนี้ อย่างน้อยก็น่าจะระดับตำนาน

“อยากจะคุยกับข้าเหรอ? ได้เลย! ยังไงก็ตาม ลองรับมือการโจมตีของข้าให้ได้ก่อน ถ้าเจ้ามีคุณสมบัติพอ”

‘เนี่ยหลี่’พูดอย่างใจเย็นขณะที่เขาเริ่มการทำงานของค่ายกลหมื่นอสูรอย่างรวดเร็ว เขาไม่หุนหันพลันแล่นในเวลาแบบนี้  ดังนั้น เขาจึงใช้พลังสูงสุดของค่ายกลหมื่นอสูร

ค่ายกลหมื่นอสูรเริ่มหมุนอย่างรวดเร็ว แล้ววิญญาณอสูรระดับแบล็คโกลหมื่นตัวก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า  พลังงานของพวกมันไปรวมกันที่จุดๆเดียว

“ฮ่าๆ แน่นอน สุดยอดฝีมือนั้นไม่ได้แค่คุยเป็นอย่างเดียว”

ชายหนุ่มชุดขาวนั้นยิ้มอย่างภูมิใจจุดสนใจของเขานั้นอยู่บนฟ้า เขามั่นใจในพลังของเขาอย่างมาก  เขากำลังจะถึงจุดสูงสุดของระดับตำนานในเร็วๆนี้  ทำไมเขาจะต้องกลัวกับแค่เขตอาคมนี้ ?

ชายหนุ่มชุดขาวนั้นยืนอยู่บนพื้นอย่างภูมิใจ เสื้อผ้าของเขาสะบัดไปตามลม  เขามีใบหน้าขาวสะอาด  ตาสีดำของเขามีประกายคมลึก  คิ้วหนา  จมูกโด่ง และริมฝีปากที่ละเอียดอ่อน เผยให้เห็นความมีสง่าราศี ถ้าไม่มีใครรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา และดูแค่ภายนอกอย่างเดียวนั้น  มันสามารถยั่วยวนผู้หญิงได้นับไม่ถ้วน

‘เนี่ยหลี่’จ้องมองอย่างเย็นชาไปที่เขา ถ้า’เนี่ยหลี่’เห็นเขาบนถนนของเมืองกลอรี่  เขาต้องไม่คิดแน่นอนว่านี่คือ ‘หลงชา’ ที่ทำให้เปลี่ยนสีหน้าทันทีที่ได้ยินชื่อเขา

ถ้า  ‘หลงชา’ ต้องการจะหนี  ถึงแม้ว่า’เนี่ยหลี่’สามารถใช้ค่ายกลหมื่นอสูรหยุดเขา  มันก็คงจะไม่ได้ผล ในเมื่อฝั่งตรงข้ามมีความมั่นใจมาก  ‘เนี่ยหลี่’ก็จะไม่ปราณี  เขาจะใช้พลังทั้งหมดของค่ายกลหมื่นอสูร วิญญาณสัตว์อสูรหมื่นตัว เปลี่ยนเป็นพลังงานที่น่ากลัว กลายเป็นฝ่ามือสีทองเลือดหมูขนาดใหญ่ และพุ่งเข้าหา ‘หลงชา’

“หลงชา ระวัง  อย่าประมาทค่ายกลหมื่นอสูรนี้”

‘กุยชา’รีบเตือนเขา

หลงชา พ่นลมหายใจอย่างเย็นชา(ต่อไปนี้จะใช้คำว่า ” หึ “กับคำนี้)และพูดว่า

” ข้าไม่เชื่อว่าค่ายกลนั่นจะทำอะไรข้าได้”

เขากำลังจะก้าวสู่จุดสูงสุดของระดับตำนานในเร็วๆนี้ เขามีร่างกายที่เป็นเลือดมังกรบริสุทธิ์ และเขามีสมบัติมากมายหลายชนิดที่จะปกป้องเขาได้ ทำไมเขาจะต้องมากลัวค่ายกลนี่ ? เขาแค่อยากจะทดสอบพลังของค่ายกลนี่เท่านั้น

ทุกคนที่เลื่อนระดับสู่ระดับตำนานนั้นจะรู้สึกว่าเขาขึ้นสู่จุดสูงสุดของโลกนี้แล้ว ในมุมมองของพวกเขา ระดับตำนานนั้นเปรียบเสมือนเทพ จากเลเวลต่ำสุดของมนุษย์  พวกเขากลายมาเป็นสุดยอดฝีมือ  ความภาคภูมิใจของการอยู่บนจุดสูงสุดแบบนี้ ไม่ใช่สิ่งที่จะสั่นคลอนได้ด้วย ค่ายกลหมื่นอสูร

‘เนี่ยหลี่’เข้าใจความคิดของยอดฝีมือระดับตำนานคนนี้  เมื่อเจอกับคู่ต่อสู้ที่ทรงพลัง  พวกเขาอยากจะลองทดสอบฝีมือของพวกเขา เมื่อเห็น’หลงชา’จ้องมองไปยังพลังมหาศาลที่หาอะไรมาเทียบไม่ได้ภายใต้ท้องฟ้านั้น ‘เนี่ยหลี่’ก็ยิ้มที่มุมปาก ‘หลงชา’นี้ ก็เหมือนกับเขา ตอนที่เขาก้าวสู่ระดับตำนาน

ณ เวลานั้น เขาดูถูกทุกสิ่งภายใต้ท้องฟ้านี้  รู้สึกเหมือนเขาคือยอดฝีมือที่ไม่มีใครมาเทียบเทียมได้ และสร้างปัญหาไปทุกที่ อย่างไรก็ตาม  เขาไม่คิดฝันเลยว่าเขาจะถูกไล่ล่าโดยสัตว์อสูรหลายสิบตัว   วิ่งหนีไปทั่วโลก  และโดยบังเอิญ เขาเข้าไปในมิติของหนังสือจิตอสูรท่องเวลา หลังจากเหตุการณ์นั้น  เขาเข้าใจความหมายของคำว่าความรู้นั้นไม่มีที่สิ้นสุด และมีคนที่แข็งแกร่งกว่าตัวเองอยู่เสมอ

“ในเมื่อเป็นแบบนี้  ก็ลองรับการโจมตีของข้าดู!”

มีประกายแสงพุ่งออกมาจากดวงตาของ’เนี่ยหลี่’   ควบคุมค่ายกลและผลักฝ่ามือของเขาพร้อมกับคำรามเสียงต่ำ

ฝ่ามือนั้นเต็มไปด้วยพลังของค่ายกลหมื่นอสูร  ขณะที่ผลักฝ่ามือออกไป  ท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยความโกลาหล  และพื้นดินก็ถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิด  บดบังดวงจันทร์และดวงอาทิตย์  ความกดดันที่น่ากลัวนี้เหมือนกับคลื่นที่ถาโถมเข้าใส่ ‘หลงชา’

เมื่อเห็นพลังที่น่ากลัวนี้  ‘หลงชา’ ขมวดคิ้วทันที  นี่เป็นพลังที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา ตั้งแต่เข้าสู่ระดับตำนาน

“ดีเลย  เข้ามา “

‘หลงชา’ก็ยังคงไม่มีความกลัวใดๆ  และรวบรวมพลังภายในร่างทั้งหมดของเขา  กล้ามเนื้อของเขาโป่งพอง  ทำให้ขนาดของเขานั้นใหญ่ขึ้นหลายเท่า หางขนาดใหญ่งอกขึ้นที่หลังของเขา  หัวไหล่นั้นแยกออกจากกันเหมือนปีกของเขาที่เติบโตขึ้นบนหลัง

และเขาก็ผลักฝ่ามือไปข้างหน้า  ก็เหมือนระดับตำนานทั่วไป  ถ้าเขาถอยหลังเพราะคู่ต่อสู้แข็งแกร่ง  ถ้าอย่างนั้น เขาก็จะไม่สามารถ พัฒนาการบ่มเพาะพลังของเขาในชีวิตนี้ได้อีกต่อไป

สัตว์อสูรที่ หลงชา รวมร่างด้วยนั้น คือวิญญาณอสูร มังกรปีกทอง  เป็นสัตว์อสูรเชื้อสายมังกรอย่างแท้จริง  แข็งแกร่งกว่ามังกรเกล็ดทมิฬของ’เอียเซิ่ง’

“ข้าขอดูพลังที่แท้จริงของค่ายกลหมื่นอสูรของแกหน่อยซิ “

‘หลงชา’พูด  เขามีร่างกายที่แข็งแรงของเผ่ามังกร  ด้วยธรรมชาติของเขาแแล้ว  เขาไม่คิดว่าค่ายกลหมื่นอสูรจะทำอะไรเขาได้

 

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments