I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Tales of Demons & Gods (妖神记) ตอนที่ 198 สัมผัสพลังแห่งสัจธรรม

| Tales of Demons & Gods (妖神记) | 21318 | 2527 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

‘เนี่ยหลี่’รู้สึกสงสัยเรื่องกายาเทพของ’ยู่หยาน’ หากเขาสามารถวิเคราะห์ส่วนประกอบของกายาเทพได้ คงเป็นประโยชน์ต่อการฝึกตนของเขาไม่น้อยแน่

“เมื่อเทพียู่หยานอยู่มานานขนาดนี้ นางย่อมจะต้องเป็นคนเปิดกว้างในเรื่องนี้พอสมควร”

ด้วยความยินดี ‘เนี่ยหลี่’แทบจะลืมเรื่องความคิดไปเลย

ขณะเดียวกัน ที่เหนือผิวน้ำ ‘ยู่หยาน’ขมวดคิ้วเล็กน้อย แม้ว่าสติของนางจะลอยอยู่บนอากาศเหนือบ่อน้ำพุ นางก็ยังสามารถเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในบ่อได้ ในฐานะเทพวิญญาณอัคคี นางนับเป็นตัวตนที่อยู่เหนือสรรพสิ่งทั้งปวง ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่กล้าสบตานางมาก่อน อย่าว่าแต่ลบหลู่นางเช่นนี้

ทว่า กายาเทพของนางยังฟื้นฟูไม่เรียบร้อย ดังนั้นต่อให้’เนี่ยหลี่’ทำอะไรนาง นางก็ไม่สามารถขัดขืนได้ นางขมวดคิ้วแน่นขึ้นเมื่อเห็น’เนี่ยหลี่’ยกมือขึ้น ‘เนี่ยหลี่’คิดจะทำอะไร? หากเขาจะทำเหมือนร่างของนางเป็นของเล่น นางก็ไม่มีปัญญาขัดขวาง

หากเป็นคนธรรมดาหรือแม้แต่ยอดฝีมือชั้นตำนาน ‘ยู่หยาน’ก็เพียงปล่อยให้พลังรั่วไหลออกก็เพียงพอข่มขู่ให้พวกนั้นแตกตื่นแล้ว ทว่า พลังเทพของนางไม่มีผลต่อ’เนี่ยหลี่’แม้แต่น้อย นางไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด นางทำได้เพียงมอง’เนี่ยหลี่’เข้าถึงตัวนางเท่านั้น

“โครงสร้างของกายาเทพนี่เป็นยังไงกันนะ?”

‘เนี่ยหลี่’คิดในใจพลางยกมือขึ้น สัมผัสลูกกลมแสงสีชาด ใช้สัมผัสที่มือรับรู้ความเปลี่ยนแปลงภายในลูกกลม เพื่อคำนวณโครงสร้างของกายาเทพ

“กายาเทพของเทพียู่หยานมีโครงสร้างแบบเดียวกับมนุษย์?”

‘เนี่ยหลี่’คิดขณะใช้นิ้วจิ้ม สัมผัสนุ่มนิ่มส่งมาจากนิ้วของ’เนี่ยหลี่’ นุ่มนวลและยืดหยุ่นเช่นเดียวกันกับผิวหนังของมนุษย์

ความรู้สึกแบบเดียวกันกับผิวหนังของมนุษย์เลย?! ‘เนี่ยหลี่’เริ่มเกิดความสงสัยขึ้นในใจ กายาเทพช่างน่าทึ่งเสียจริง

‘ยู่หยาน’ที่กำลังหลับตาเพื่อรับรู้ความเป็นไปในบ่อน้ำพุ ส่งเสียงร้องแผ่วเบาออกมาเมื่อ’เนี่ยหลี่’แตะกายาเทพของนาง ทันใดนั้น นางลืมตากลมกว้างและรู้สึกว่าวิญญาณของนางกำลังสั่นไหว ในช่วงเวลาหลายหมื่นปีที่ผ่านมา นางเป็นเทพีที่ได้รับการเคารพจากมนุษย์ทั้งปวง แต่’เนี่ยหลี่’กับกล้าแตะต้องกายาเทพของนาง นี่นับว่าเป็นการกำแหงไปแล้ว!

นางไม่เคยคิดว่า’เนี่ยหลี่’จะมีความสามารถพอจะทะลวงการป้องกันด้วยพลังแห่งสัจธรรมของนางและสามารถใช้มือเปล่าแตะต้องตัวนางได้ หาก’เนี่ยหลี่’มีเจตนาร้าย และตัดสินใจทำลายกำเนิดพลังเทพของนางไป นางก็เท่ากับว่าจบสิ้นแล้ว

อย่างไรก็ตาม ‘เนี่ยหลี่’เป็นเพียงเด็กอายุสิบสี่ เป็นเรื่องปกติหากจะมีความอยากรู้อยากเห็นกันบ้าง แต่ในชั่วพริบตาที่’เนี่ยหลี่’สัมผัสกับกายาเทพของนาง นางรู้สึกถึงกระแสที่ทั้งลึกลับและทรงพลังจนน่าตกใจไหลเวียนอยู่ในร่าง

นี่เป็นพลังแห่งสัจธรรม มันคือพลังแห่งสัจธรรมที่นางคุ้นเคย และดูจะทั้งลึกล้ำและทรงพลังมากเสียด้วย

‘ยู่หยาน’พึมพำกับตัวเอง เป็นไปได้หรือไม่ว่าในร่างกาย’เนี่ยหลี่’มีพลังชั้นสูงกว่า? ในโลกนี้ พลังที่ยิ่งใหญ่กว่าเทพวิญญาณควรจะเป็นพลังของเทพผู้สร้างโลกแล้ว เป็นไปได้หรือไม่ว่า’เนี่ยหลี่’คือผู้สืบทอดของผู้สรรสร้างสรรพสิ่ง?

‘ยู่หยาน’จ้อง’เนี่ยหลี่’ เพราะกายาเทพของนางถูกลบหลู่ ตอนนี้นางจึงเริ่มโมโหขึ้นมาบ้าง หากมิใช่ว่าบนหน้าของ’เนี่ยหลี่’ไม่ได้แสดงอารมณ์ในทางลบออกมา เพียงแค่มองอย่างพิจารณาเท่านั้น นางคงไม่สามารถยั้งตัวเองได้

‘เนี่ยหลี่’หลับตาลงพร้อมกับลากนิ้วลูบไปตามร่างกายาเทพของยู่หยาน สัมผัสถึงโครงสร้างของมัน และเข้าใจได้ในทันที

“ไม่น่าแแปลกใจเลยที่โดยทั่วไปแล้วไม่มีใครสามารถฝึกพลังแห่งสัจธรรมได้ในโลกนี้ การฝึกพลังแห่งสัจธรรม คือความเป็นไปได้ที่จะก้าวข้ามชั้นตำนานไปสู่ระดับชะตาฟ้า แต่เป็นเพียงแค่โอกาสขั้นแรกเท่านั้น แค่พลังแห่งสัจธรรมอย่างเดียวยังไม่เพียงพอให้ก้าวไปในระดับสูงได้” เนี่ยหลี่คิดในใจ “อย่างไรก็ตาม พลังแห่งสัจธรรมนี้นับว่าลึกล้ำในตัวเอง หากเราสามารถหลอมรวมพลังนี้เข้ากับพลังฟ้าและใช้มันฝึกฝน บางทีเราอาจจะสามารถก้าวข้ามไปชั้นถัดไปเลยก็ได้”

‘เนี่ยหลี่’คิดในใจ

“ยิ่งไปกว่านั้น พลังแห่งสัจธรรมยังสามารถฝึกตัวเองได้ มันมีระดับสูงกว่าพลังวิญญาณเสียอีก หากฝึกมันระดับพลังของเราก็จะสามารถค่อยๆ เพิ่มขึ้นเองได้ แต่พลังฟ้าจะสามารถฝึกได้ก็ต่อเมื่อเข้าขอบเขตขั้นตำนานแล้วเท่านั้นเนี่ยสิ”

พอคิดมาถึงตรงนี้ ‘เนี่ยหลี่’ก็รวบรวมความคิดทั้งหมดเอาไว้ด้วยกัน

“ก่อนอื่นต้องแปลงพลังวิญญาณทั้งหมดในตัวเราให้เป็นพลังแห่งสัจธรรมก่อน”

‘เนี่ยหลี่’เข้าสู่ภาวะไร้ตัวตนอีกครั้ง

พอเห็น’เนี่ยหลี่’เริ่มฝึกต่อ ‘ยู่หยาน’ก็จมอยู่ในความคิด นางไม่รู้ว่าในหัวของ’เนี่ยหลี่’กำลังคิดอะไร และรู้สึกว่า’เนี่ยหลี่’เป็นคนที่ลึกลับมากทีเดียว

หลังจาก’เนี่ยหลี่’ใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่ง ดวงตาของเขาก็พลันเปิดขึ้น

“เข้าใจแล้ว!! อยากรู้จริงว่านางฟ้ายู่หยานจะขอบคุณเรายังไง”

แม้ว่าสัมผัสที่ได้รับจะเป็นเช่นเดียวกับผิวหนังมนุษย์ แต่ด้วยประสาทสัมผัสอันคมกริบของ’เนี่ยหลี่’ จึงสามารถรับรู้ได้ถึงโครงสร้างกายาเทพของ’ยู่หยาน’ ซึ่งความจริงแล้ว แตกต่างจากมนุษย์

แม้ว่าเขาจะแตะต้องเพียงแค่แผ่นหลังอันราบลื่นของ’ยู่หยาน’ ใช้เวลาสัมผัสเพียงไม่นาน และมีความรู้อันน้อยนิดเกี่ยวกับพลังแห่งสัจธรรม ด้วยความรู้พื้นฐานจากชาติก่อน ‘เนี่ยหลี่’ก็ยังสามารถรวมความคิดที่อาจจะสามารถรักษากายาเทพของ’ยู่หยาน’และเพิ่มความเร็วในการรวบรวมต้นกำเนิดพลังเทพของนางขึ้นได้

‘เนี่ยหลี่’ค่อยๆ โผล่ขึ้นจากผิวน้ำ ก่อนจะกระโดดออกจากบ่อน้ำพุแล้วรีบสวมเสื้อผ้า

‘เนี่ยหลี่’ลืมตาขึ้น มอไปยัง’ยู่หยาน’แล้วถามว่า

“พี่นางฟ้า เหตุใดที่จึงหน้าดำคร่ำเครียดเช่นนั้นเล่า?”

“ไม่มีอะไร”

พอเห็นท่าทางไร้เดียงสาของ’เนี่ยหลี่’ ‘ยู่หยาน’ก็สูดลมหายใจคราหนึ่งแล้วสงบใจลง แม้ว่านางจะเป็นเทพีที่อยู่มาหลายหมื่นปี แต่ชั่วชีวิตของนางก็ผ่านการฝึกฝนบ่มเพาะพลังของสัจธรรมแห่งฟ้าดินมาอย่างต่อเนื่อง ความคิดของนางเทียบกับคนทั่วไปแล้วนับว่าเรียบง่ายกว่ากันมาก

ถึง’เนี่ยหลี่’จะแตะต้องกายาเทพของนางไป นางก็ไม่อยากจะเอาความเรื่องนี้อีก

‘เนี่ยหลี่’ที่เห็นท่าทางนั้นก็เข้าใจได้ทันที่ว่านางกำลังอดกลั้นเรื่องที่’เนี่ยหลี่’ไปแตะกายาเทพของนาง

แต่หากเขาไม่แตะกายาเทพของนาง เขาก็ไม่สามารถบอกได้ว่าโครงสร้างของมันเป็นอย่างไร ‘เนี่ยหลี่’ไม่มีความคิดล่วงเกินอะไร ดังนั้นเขาจึงบอกได้ทันที

‘เนี่ยหลี่’มองไปยัง’ยู่หยาน’แล้วถามอย่างจริงจังว่า

“พี่นางฟ้า ข้ามีความคิดดีๆ ที่จะสามารถสร้างกายาเทพของท่านขึ้นมาใหม่ให้ออกไปจากบ่อน้ำพุทมิฬนี้ ท่านต้องการทดลองหรือไม่?”

“เด็กน้อย เจ้าจะบอกข้าว่าเจ้าสามารถสร้างกายาเทพของข้าขึ้นมาใหม่ได้งั้นหรือ?”

‘ยู่หยาน’พูดอย่างยิ้มแย้ม มองไปยัง’เนี่ยหลี่’อย่างไม่เชื่อถือ แม้ว่า’เนี่ยหลี่’จะมีสายเลือดชั้นสูงมาก แต่การสร้างกายาเทพขึ้นใหม่นั้นยากมาก ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะทำได้

“ข้าทำได้จริง”

‘เนี่ยหลี่’พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“หยุดพูดไร้สาระ แล้วฝึกต่อไปเสีย”

‘ยู่หยาน’พูด

เมื่อ’ยู่หยาน’ไม่เชื่อ ‘เนี่ยหลี่’ก็ช่วยอะไรไม่ได้ มันทำได้เพียงเลิกพูดถึงเรื่องนี้แล้วคอยหาโอกาสพูดให้นางเชื่ออีกครั้ง

‘ยู่หยาน’พูดขึ้นหลังจากที่ใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่งว่า

“หลังจากที่แช่น้ำพุเป็นเวลานาน ความแข็งแกร่งของร่างกายของเจ้าเพิ่มขึ้นเร็วมาก เฉพาะความแข็งแกร่งของร่างกายเจ้าอาจจะสามารถก้าวไปถึงระดับตำนานได้ภายในสามเดือน นั่นนับว่าเร็วกว่าที่ข้าคิดไว้มาก เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ควรจะเริ่มสัมผัสพลังแห่งสัจธรรมได้แล้ว”

แม้จะมีเวลาไม่มาก แต่หาก’เนี่ยหลี่’สามารถสัมผัสพลังแห่งสัจธรรมได้แม้จะสัมผัสได้แค่ร่องรอยอ่อนจาง ก็ยังสามารถเข้าใจแนวทางการฝึกฝนบ่มเพาะพลังแห่งสัจธรรมแล้วนำไปฝึกหลังจากที่ก้ามข้ามชั้นตำนานไปแล้วได้ แม้จะเป็นอีกร้อยปีให้หลังก็ตาม

“เอาล่ะ เช่นนั้น ข้าจะสัมผัสพลังแห่งสัจธรรมได้อย่างไร?”

‘เนี่ยหลี่’ถาม แม้ว่าจะเริ่มเข้าใจธรรมชาติอันลึกล้ำของพลังแห่งสัจธรรมบ้างแล้วก็ตาม แต่เมื่อกลายเป็นพลังที่ใช้ในการฝึกฝน ‘เนี่ยหลี่’ยังรู้ไม่มากนัก

‘ยู่หยาน’ใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า

“ข้าไม่รู้ว่าเจ้าเหมาะสมกับพลังแห่งสัจธรรมแบบไหน ดังนั้นน่าจะลองสัมผัสพลังแห่งแสงก่อน”

พลังแห่งแสงเป็นรองเพียงความยุ่งเหยิงแรกเริ่ม ทรงพลังกว่าพลังแห่งความมืดอยู่นิดหน่อย และยังง่ายต่อการสัมผัสถึงมัน

“ได้”

‘เนี่ยหลี่’พยักหน้าแล้วนั่งลงบนก้อนหินใหญ่และปิดตาลง

“ด้วยการชี้นำของข้า เจ้าอาจจะสามารถสัมผัสพลังแห่งสัจธรรมได้เร็วกว่าผู้อื่น เอาล่ะ ตอนนี้จงทำจิตใจให้ว่างเปล่า”

‘ยู่หยาน’พูด นางสอน’เนี่ยหลี่’อย่างใจเย็น

‘เนี่ยหลี่’หลับตาลงทั้งสองข้างและเริ่มตัดสิ่งต่างๆ ออกจากความคิด

“พลังแห่งสัจธรรมนั้นมีอยู่ทุกแห่งหน พลังอันลึกล้ำ จงสัมผัสมันด้วยใจ จินตนาการว่าตอนนี้เจ้าอยู่ในความมืด มืดและสงบจนไม่อาจเห็นนิ้วมือหรือได้ยินเสียงใด เจ้าอยู่ในความมืดอันไร้ที่สุด จากนั้นจุดแสงเล็กๆ ก็ปราสัจธรรมขึ้น มันทำให้เจ้าสามารถรับรู้ความอบอุ่นได้……”

เสียงของ’ยู่หยาน’เรียบราวกับกำลังร้องเพลงกล่อมเด็ก

‘เนี่ยหลี่’ทำตามคำชี้แนะของ’ยู่หยาน’ จินตนาการว่าตัวเองอยู่ในความมืดและและได้เห็นแสงเล็กๆ

“การสัมผัสพลังแห่งสัจธรรมเป็นขั้นตอนที่ยากมาก เจ้าอาจจะต้องผ่านความล้มเหลวนับไม่ถ้วนเพื่อทำให้ตัวเจ้ามีพื้นที่ว่างพอรองรับพลังและให้จิตใจของเจ้าบริสุทธิ์และสะอาดเช่นฟ้าดิน พลังแห่งสัจธรรมจะสัมผัสได้ถึงจิตใจอันน่านับถือนั้นและยอมรับเจ้า”

‘ยู่หยาน’พูดอย่างช้าๆ ความคิดของนางล่อยลอยไป ในยามที่นางยังเป็นเพียงเด็กหญิงผูกผมทรงหางม้า บิดาและมารดาของนางสอนให้นางสัมผัสพลังแห่งสัจธรรม และในชั่วพริบตา ก็ผ่านไปแล้วนับหมื่นปี พ่อแม่นางล้วนจากไปแล้ว นางไม่อาจจำได้แม้กระทั่งรอยยิ้มของพวกท่าน

ในเวลาชั่วพริบตานี้ ความทรงจำอันงดงามก็เลือนลับไป

พอนางมองไปยัง’เนี่ยหลี่’ที่นั่งอยู่บนก้อนหิน ‘ยู่หยาน’ก็ยิ้มออกมา ใครจะรู้ว่า’เนี่ยหลี่’จะใช้เวลาในการสัมผัสรองรอยของพลังแห่งสัจธรรมนานเท่าใด บางทีคงหลายเดือน หลายปี หรืออาจยาวนานกว่านั้น

“สัมผัสร่องรอยแห่งแสงสว่าง ที่มอบความอบอุ่นแก่ข้า…”

‘เนี่ยหลี่’ทำตามคำของ’ยู่หยาน’ และใช้ใจสัมผัส ‘เนี่ยหลี่’รู้สึกว่าตนเองตกลงไปในความมืดอันไร้ก้นบึ้ง และในความมืดนั้น ร่องรอยแห่งแสงปรากฎขึ้นราวกับประกายต้นกำเนิดไฟ

สัมผัสอันอบอุ่นแผ่กระจายไปทั่วร่าง

นี่คือสัจธรรมแห่งแสงสว่างงั้นหรือ? ‘เนี่ยหลี่’คิดพลางรับรู้ตัวตนของมัน ‘เนี่ยหลี่’เห็นเพียงแสงสีขาวกำลังรวมตัว สว่างขึ้นๆ ร้อนขึ้นๆ เนี่ยหลี่รู้สึกราวกับกำลังถูกดวงอาทิตย์ล้อมรอบ

“อั้ก”

‘เนี่ยหลี่’ส่งเสียงร้องออกมาแล้วลืมตาขึ้น มันรู้สึกร้อนมาก ทั้งตัวราวกับจะเดือดด้วยความร้อนของเปลวไฟ จึงรีบกระโดดลงน้ำพุทมิฬ

ตูมมมม

ทันทีที่’เนี่ยหลี่’สัมผัสกับผิวน้ำ น้ำในน้ำพุก็ระเหยเป็นไอน้ำหนาเป็นชั้นๆ

“เกิดอะไรขึ้น?”

‘ยู่หยาน’คิดว่า’เนี่ยหลี่’จะฝึกพลังแห่งสัจธรรมนานกว่านี้ ไม่คาดเลยว่าอยู่ๆ ‘เนี่ยหลี่’ก็จะกรีดร้องออกมาราวกับเสียสติแล้วกระโดลงบ่อน้ำพุทมิฬเยี่ยงนี้

จบตอน

ที่มา : 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments