I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Tales of Demons & Gods (妖神记) ตอนที่ 201 โลกาเมฆาฝัน

| Tales of Demons & Gods (妖神记) | 23776 | 2527 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

อย่าง’เนี่ยหลี่’น่ะหรือ ต้องการคนหนุนหลัง? ‘ยู่หยาน’คิดว่าเขากำลังล้อเล่น เพราะเทียบกับความสัมพันธ์ของพวกเขาแล้ว ผู้ที่มีจุดยืนสูงกว่าไม่ใช่นาง แต่เป็น’เนี่ยหลี่’ นางต่างหากที่ได้รับการช่วยเหลือจากเขา ยิ่งเมื่อ’เนี่ยหลี่’เข้าถึงพลังแห่งพลังสัจธรรมถึงสองชนิด พลังของ’เนี่ยหลี่’ย่อมจะต้องพุ่งขึ้นสูงจนน่าตกใจภายในเวลาไม่กี่เดือนเท่านั้น อาจะถึงขนาดก้าวไปสู่ระดับตำนานด้วยซ้ำ

“ข้าจะต้องตอบแทนหนี้บุญคุณในวันนี้ของเจ้าแน่ เอาล่ะ ที่ข้าต้องทำก็คือปกปิดพลังแล้วออกไปจากที่นี่ใช่ไหม?”

‘ยู่หยาน’ถามพลางมองไปที่’เนี่ยหลี่’ นางรู้สึกได้ว่ากายาเทพของนางขยับตามที่นางคิด และพลังสัจธรรมแห่งไฟในพื้นที่บริเวณนี้ถูกกายาเทพของนางดูดซับจนเกลี้ยงแล้ว

เป็นไปตามที่’เนี่ยหลี่’บอกนาง นางต้องเดินทางไปหลายๆ ที่จึงจะสามารถดูดซับพลังของพลังสัจธรรมแห่งไฟจึงจะสามารถฟื้นพลังให้ตัวเองจนกลับมาอยู่ในสภาพที่ดีที่สุดได้

“หากเราจะออกไปจากที่นี่ พี่นางฟ้า ท่านต้องทำตามคำพูดของข้า”

‘เนี่ยหลี่’ยิ้มแล้วพูดต่อว่า

“ไม่อย่างนั้นหากพลังของท่านถูกตรวจพบ ข้าต้องตายแน่นอน”

“ข้าเข้าใจ ยังมียอดฝีมืออีกมากที่ถือครองพลังแห่งพลังสัจธรรมในหมู่ชนเผ่าสัตว์อสูร ดังนั้นข้าจึงทำได้เพียงปกปิดพลังของตัวเอง หากว่าข้าถูกจับได้ ก็เหลือเพียงทางตายเท่านั้น ตราบเท่าที่คำแนะนำของเจ้าถูกต้อง ข้าจะรับฟัง”

นางพูดพลางพยักหน้า เพื่อฟื้นฟูกำลังของตนแล้ว นางไม่มีทางเลือกนอกจากยอมรับเรื่องที่น่าหงุดหงิดบ้าง

“ข้าจะหุ้มท่านด้วยลายอาคมที่สร้างขึ้นจากพลังสัจธรรมแห่งความมืด เพื่อปกปิดพลังของท่าน ข้าไม่มีทางเลือกอื่น ได้แต่รบกวนความสะดวกของพี่นางฟ้าแล้ว ท่านพยายามหดตัวให้เล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วซ่อนตัวในแขนเสื้อของข้า อีกประการ ข้าต้องการเสื้อผ้าและสิ่งของที่ท่านพกติดตัว เอาวางไว้ที่นี่เพื่อลงลายอาคมขยายกลิ่นอายของพลังสัจธรรมแห่งไฟ ปลอมเป็นพลังของท่าน สัตว์อสูรพวกนั้นจะได้คิดว่าท่านยังอยู่ในผนึก ข้าจะลงลายอาคมให้ท่านภายหลัง”

‘เนี่ยหลี่’พูด

‘ยู่หยาน’พยักหน้า เข้าใจในแผนของ’เนี่ยหลี่’

นางกระทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย ร่างเล็กๆ นั่นลอยไปรอบๆ แม้ว่านางจะตัวเล็กแต่ความเร็วนั้นไม่เล็กตามเลย

ในข่ายลายอาคมที่นางลงเอาไว้ ร่างจางๆค่อยๆ ปรากฎขึ้นที่กลางข่ายลายอาคมอย่างเงียบๆ ในท่ายืน ร่างนั้นเหมือนกับ’ยู่หยาน’ราวกับแกะออกจากพิมพ์เดียวกัน เพียงแต่ว่าเป็นร่างที่ไร้ชีวิตเท่านั้น

หลังจากเตรียมการเสร็จเรียบร้อย ‘เนี่ยหลี่’มองไปที่’ยู่หยาน’แล้วพูดว่า

“พี่ยู่หยาน ช่วยหดตัวลงให้เล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้ด้วย”

พอมองไปที่แขนเสื้อของ’เนี่ยหลี่’ ‘ยู่หยาน’รู้สึกอายอย่างช่วยไม่ได้ แม้นางจะหดตัวจนเหลือความสูงเพียงเชี๊ยะเดียว แต่ที่ว่างในแขนเสื้อของ’เนี่ยหลี่’ก็ยังนับว่าคับแคบไป แต่นางไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ได้แต่ทำตามคำแนะนำของเขา

เพื่ออนาคตของเผ่าพันธุ์มนุษย์แล้ว ‘ยู่หยาน’ย่อมไม่สามารถถือตัวในเรื่องหยุมหยิมเช่นนี้ได้ ร่างของนางค่อยๆ หดตัวลงจนเหลือหนึ่งเชี๊ยะ แล้วกลายเป็นลำแสงพุ่งเข้าไปในแขนเสื้อของ’เนี่ยหลี่’

ที่ว่างในแขนเสื้อของ’เนี่ยหลี่’ค่อนข้างแคบ แค่’ยู่หยาน’เข้าไปในแขนเสื้อได้ก็เต็มที่แล้ว ทำให้นางยากจะขยับตัวได้แม้เพียงเล็กน้อย นางบิดกายอย่างไม่ชอบใจเล็กน้อย แขนของ’เนี่ยหลี่’ราวกับเสาต้นใหญ่ที่กำลังขวางทางนาง และนางไม่มีทางเลือกนอกจากจะแนบกายไปกับแขนของเขา

“พี่นางฟ้า อย่าเล่นสิ”

‘เนี่ยหลี่’ฝืนยิ้ม แน่นนอนว่าเขารู้ว่าแขนเสื้อของเขานั้นคับแคบเพียงใด แต่นั่นนับว่าช่วยไม่ได้ เพราะเขาก็จำเป็นจะต้องส่งพลังผ่านลายอาคม ดังนั้นยิ่งอยู่ใกล้มือยิ่งดี

‘เนี่ยหลี่’เริ่มสร้างลายอาคมแห่งความมืดแล้วค่อยๆ ห่อหุ้มพลังนั้นไปบนร่างของยู่หยาน

‘ยู่หยาน’รับรู้ได้ว่าพลังของนางถูกปกปิดอย่างสมบูรณ์ด้วยลายอาคมแห่งความมืดของ’เนี่ยหลี่’ นางไม่คิดเลยว่า’เนี่ยหลี่’จะสามารถใช้พลังของพลังสัจธรรมแห่งความมืดได้แยบยลขนาดนี้แม้จะเพิ่งเข้าถึงพลังสัจธรรมได้ไม่นาน นับเป็นการกระตุ้นที่เย้ายวนใจยิ่ง

‘เนี่ยหลี่’หัวเราะแหะๆ แม้ในชาติก่อน เขาก็ไม่เคยพบกับเหตุการณ์ที่แปลกประหลาดเช่นนี้

ก่อนจะเข้ามาที่นี่ เขาเพียงคิดว่าอาจจะได้สมบัติลับระดับตำนานหรือสูงกว่าติดมือกลับไปบ้าง แต่ไม่เคยคิดเลยว่าจะพบกับเทพธิดาตัวเป็นๆ เขาไม่ได้สมบัติอะไรกลับไป แต่ดันได้นางฟ้ากลับบ้านแทน โชคชะตาช่างเล่นตลกนัก

แม้ว่าแขนเสื้อจะคับไปหน่อย แต่ดูจากภายนอกแล้วไม่ได้แตกต่างจากเดิม

“ไปกันเถอะ”

‘เนี่ยหลี่’พูดกับยู่หยานในแขนเสื้อ จากนั้นจึงเดินกลับไปตามเส้นทางขามา

หลังจากออกจากถ้ำ ‘เนี่ยหลี่’มองลงไปที่หุบเหวแต่ไม่เห็นก้น มีเพียงความมืดสีดำสนิท จากที่’ยู่หยาน’บอกมา ข้างล่างนั่นมีสัตว์อสูรชั้นตำนานระดับปลายซ่อนตัวอยู่ ดังนั้นเขาจะต้องซ่อนพลังของ’ยู่หยาน’ให้มิดชิด

‘เนี่ยหลี่’ปีนขอบผาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะลุกขึ้นปัดฝุ่นบนตัวออก ในการเดินทางมาน้ำพุทมิฬรอบนี้นับว่าได้กำไรไม่เลว จากนั้นเขาจึงมุ่งหน้าไปยังที่ราบสูงชะตาสวรรค์

เดิมที ‘เนี่ยหลี่’คิดว่าการไปยังน้ำพุทมิฬเพื่อค้นหหาขุมทรัพย์ไม่น่ากินเวลานาน แต่เขาไม่คิดเลยว่าจะได้พบกับ’ยู่หยาน’ทำให้ต้องยืดเวลากลับออกไป

บนที่ราบสูงชะตาสวรรค์ ‘เสี่ยวกวง’และพวกที่รอ’เนี่ยหลี่’อยู่เป็นเวลานานจนไม่สามารถรอได้อีก พวกเขาคิดว่า’เนี่ยหลี่’คงจะตายในน้ำพุทมิฬไปแล้ว พวกเขาจึงกลับมายังที่ราบสูงชะตาสวรรค์

เมื่อได้รู้ข่าวว่า’เนี่ยลี่’ไม่กลับออกมา ‘เสี่ยวอู่’รู้สึกกินไม่ได้นอนไม่หลับ ยามนี้หาก’เนี่ยหลี่’ไปตายในน้ำพุทมิฬ หากเจ้าเมืองกลอรี่รู้เข้า ไม่รู้ว่าเขาจะเอาเรื่องคนบนที่ราบสูงชะตาสวรรค์หรือไม่?

ก่อน’เนี่ยหลี่’จะกลับออกมา พวกเขาไม่กล้าส่งคนไปเมืองกลอรี่ พอ’เสี่ยวอู่’ได้ข่าวว่าลิ่วล้อของ’เสี่ยวหลาง’กลับมา ก็สั่งให้จับตัวทั้งหมดไว้สอบสวน

หลังจากได้รับข้อมูลจากทั้งหกคน ‘เสี่ยวอู่’กลับไม่เข้าใจว่าเหตุใด’เนี่ยหลี่’จึงทำการฟั่นเชือกเส้นยาว เขาตั้งใจจะลงไปในน้ำพุทมิฬหรือ?

หลังจากที่ทบทวนความตำนานอันน่าสยอดสยองของน้ำพุทมิฬ พวกเขาถึงกับหยุดอาการสั่นไม่อยู่ พวกเขาได้แต่หวังว่า’เนี่ยหลี่’จะได้รับประทานพรจากฟ้าและสามารถรอดชีวิตกลับมาได้ ไม่เช่นนั้นแล้ว หากคนของเมืองกลอรี่ตามรอยเขามาถึงที่นี่ก็จบสิ้นกัน พวกเขาแน่ใจได้ว่า’เนี่ยหลี่’เป็นบุคคลสำคัญในจวนของเจ้าเมืองกลอรี่ อาจจะเป็นนายน้อยแห่งตระกูลเจ้าเมืองด้วยซ้ำ

ณ ตลาดบนที่ราบสูงชะตาสวรรค์

ขณะที่’เนี่ยหลี่’เดินอยู่ ‘ยู่หยาน’ก็ถอนหายใจอย่างเศร้าสร้อย นางกลับมายังโลกมนุษย์อีกครั้งแล้ว แม้ว่ามนุษย์จะถูกสัตว์อสูรตามล่า แต่อย่างน้อย มนุษย์ก็ยังไม่สูญพันธุ์ไปหมด

‘เนี่ยหลี่’ลอบถอนหายใจถามว่า

“พี่นางฟ้า ยังมีผู้คนเช่นที่ราบสูงนี้เหลือรอดอยู่กี่แห่ง?”

“ข้าไม่แน่ใจเหมือนกัน”

‘ยู่หยาน’ส่ายหัว

“หลังจากที่เผชิญกับสงครามเทพไร้ที่สุด ต่อให้มีมนุษย์รอดชีวิตเท่าไหร่ หรือจะมีจักรวรรดิใดครองอำนาจ หากมีเทพวิญญาณเกิดขึ้นในเผ่าสัตว์อสูร มนุษย์ก็เท่ากับรอวันพ่ายแพ้เท่านั้น”

‘ยู่หยาน’นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า

“แม้ว่าสงครามระหว่างมนุษย์กับสัตว์อสูร ฝ่ายเราจะเสียเปรียบ แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่าล้างเผ่ามนุษย์ทั้งหมด เทพวิญญาณหลายตนมีการสืบเชื้อสายกันมาเป็นทอดๆ และกระจัดกระจายกันอยู่ในโลกต่างๆ แม้ว่าสงครามในโลกหลักจะไม่เหลือเผ่ามนุษย์แล้ว แต่ก็ยังมีเผ่ามนุษย์ที่เป็นใหญ่ในโลกอื่นๆ อีก มีเทพวิญญาณหลายตนใช้ไผ่ม่วงเป็นแกนลงลายอาคมป้องกันโลกเหล่านั้นไว้อย่างแน่นหนา แม้ผ่านไปหลายหมื่นปีก็ยังคงอยู่ ต่อให้เทพวิญญาณเผามนุษย์ดับสูญไปหมด เผ่าสัตว์อสูรก็ทำอะไรโลกเหล่านั้นไม่ได้”

ดูเหมือนว่าจะยังมีมนุษย์เป็นใหญ่อยู่ในโลกอื่นๆ สินะ

“ในบรรดาตระกูลของมนุษย์ทั้งหลายนั้น ที่แข็งแกร่งที่สุดสมควรเป็นตระกูลแรกเริ่ม ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากเทพวิญญาณแห่งความยุ่งเหยิงแรกเริ่ม ในตระกูลนั้น มียอดฝีมือระดับเซียนจำนวนนับไม่ถ้วน และมีไผ่ม่วงแบบจำลองเป็นเครื่องรางสำหรับป้องกันตัว ต่อให้เทพวิญญาณของเผ่าตว์อสูรฝืนดึงดันโจมตีไป เขาจะกลายเป็นฝ่ายถูกทำลายเสียเอง แม้ว่าข้าจะได้เห็นต้นพลังเทพของเทพวิญญาณแห่งความสับสนแรกเริ่มแตกสลายกับตา แต่เขาก็นับเป็นตัวตนที่ลึกลับที่สุดในหมู่พวกเรา ข้าพูดได้ไม่เต็มปากหรอกว่าเขาจะหาทางคืนชีพเองไม่ได้”

‘ยู่หยาน’พูดอย่างยืดยาวหลังจากนิ่งคิดไป

“ถ้างั้น เราสามารถเข้าไปในโลกพวกนั้นได้หรือเปล่า?”

‘เนี่ยหลี่’ถามเสียงต่ำ

“ย่อมสามารถทำได้ ตราบใดที่เราสามารถค้นพบศิลาเมฆาฝันถึงตอนนั้น เราก็สามารถลงลายอาคมเคลื่อนย้ายและเข้าไปสู่โลกาเมฆาฝันได้ ที่โลกแห่งอิสระนั่นมีดอกไม้บานตลอดปี มีความอุดมสมบูรณ์ เป็นโลกที่มีขนาดเล็กกว่าโลกหลักไม่มากนัก”

‘ยู่หยาน’พูด นางเป็นหนึ่งเทพวิญญาณของเผ่ามนุษย์ที่รู้จัก [ขอบข่ายลายอาคมเคลื่อนจักรวาล] ที่สามารถพาไปยังโลกาเมฆาฝันนี้ได้

โลกที่มนุษย์เป็นใหญ่นั้นแน่นอนว่าต้องปลอดภัยกว่าโลกหลักอยู่แล้ว ยิ่งกว่านั้นยังเหมาะกับการดำรงชีวิตมากกว่ามิติหุบต้องขัง

หากเขาสามารถย้ายเมืองกลอรี่ไปยังโลกาเมฆาฝันได้ ก็นับว่าปลอดภัยยิ่ง

‘เนี่ยหลี่’ใครครวญอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามว่า

“แล้วเราจะหาศิลาเมฆาฝันนี้ได้ที่ไหน?”

“เพื่อขัดขวางการอพยพจากโลกหลักไปยังโลกาเมฆาฝัน เทพวิญญาณของเผ่าสัตว์อสูรทำการบุกปล้นชิงศิลาเมฆาฝันส่วนใหญ่ไป ต่อให้ไปค้นหาในซากเมืองเก่าๆ ก็คงพบแค่ไม่กี่ก้อนเท่านั้น ก่อนข้าจะเสียต้นพลังเทพไป ข้าซ่อนแหวนมิติเอาไว้ที่โลกหลัก ห่างจากที่นี่ไปหลายหมื่นลี้ หากเราสามารถหาแหวนของข้าเจอได้ ก็มีศิลาเมฆาฝันเพียงพอแล้ว”

‘ยู่หยาน’พูดพลางทอดถอนใจ

แหวนมิติของ’ยู่หยาน’? ด้วยความแข็งแกร่งของนาง ย่อมจะต้องมีของดีๆ ใส่ไว้ไม่น้อยแน่ ยิ่งนางต้องเอาไปซ่อนในตอนที่นางยังมีชีวิตอยู่ด้วยแล้ว

ทว่า หลายหมื่นลี้นี่ไกลไปหน่อยนะ

‘เนี่ยหลี่’คาดหวังกับโลกาเมฆาฝันนี้มาก ในชาติก่อน พื้นที่ส่วนใหญ่ที่เขาตระเวณไปเป็นของโลกหลัก ไม่เคยไปยังมิติชั้นรองมาก่อน ยิ่งโลกาเมฆาฝันนั้นเขายังไม่เคยได้ยินชื่อด้วยซ้ำ

‘ยู่หยาน’นึกบางอย่างขึ้นได้แล้วพูดว่า

“เราควรไปจากที่นี่ อย่างเร็วด้วย ไม่เช่นนั้นเราอาจนำหายนะมาสู่ที่ราบสูงแห่งนี้”

เมื่อใดก็ตามที่สัตว์อสูรในน้ำพุทมิฬรู้ตัวว่า’ยู่หยาน’หายไป พวกมันต้องไล่ล่าอย่างเอาเป็นเอาตายแน่ แม้ว่า’เนี่ยหลี่’จะวางขอบข่ายลายอาคมเอาไว้แล้ว แต่ผู้ใดรับประกันได้ว่าพวกมันจะไม่มีวิธีที่จะสามารถมองทะลุข่ายอาคมไปได้?

“เข้าใจแล้ว”

‘เนี่ยหลี่’พยักหน้า เขาเผยตัวในตลาดครู่เดียวก็จากไป

จบตอน

ที่มา : 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments