I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Tales of Demons & Gods (妖神记) ตอนที่ 208 โครงสร้างพลังแห่งสัจธรรม

| Tales of Demons & Gods (妖神记) | 22640 | 2527 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

“ท่านปู่เอียมัว ตระกูลหวู่กุ้ยได้ส่งคนมาเพื่อจัดการกับเมืองกลอรี่แล้ว พวกเราควรกลับไปโดยเร็ว!”

‘เนี้ยหลี่’พูดขึ้น ‘เอียมัว’มองตรงไปด้านหน้าอย่างครุ่นคิด นับแต่ที่เขาได้อาศัยอยู่ภายในเมืองใต้พิภพมาอย่างยาวนาน เขาควรจะเข้าใจในสถานการณ์ปัจจุบันมากกว่าเมื่อเทียบกับ’เนี้ยหลี่’

สีหน้าของ’เอียมัว’เคร่งขรึมลงเล็กน้อยและกล่าวด้วยความเย็นชาว่า

“ เอียฮั่นเจ้าคนทรยศนั่น ! เขาได้แพร่งพรายข้อมูลของเมืองกลอรี่แก่ตระกูลหวู่กุ้ย เมืองกลอรี่ย่อมต้องถูกหมายตาโดยตระกูลหวู่กุ้ยเป็นแน่ ด้วยความแข็งแกร่งของเมืองกลอรี่ในตอนนี้ เราคงไม่สามารถจัดการกับตระกูลหวู่กุ้ย ถ้าหากเราสามารถถ่วงเวลาพวกมันไว้นานที่สุดได้ล่ะก็ จากนั้นค่อยคิดหาหนทางอื่น”

ถ้าเขาทราบมาก่อนว่า’เอียฮั่น’นั้นมีใจคิดคดทรยศ’เอียมัว’คงจะสังหารเขาด้วยมือของตัวเองมานานแล้ว!

“ท่านปู่เอียมัว ท่านอยู่ในนครใต้พิภพมานานเท่าใดแล้วหรือขอรับ?”

‘เนี้ยหลี่’ถามขณะมองไปที่’เอียมัว’

“ข้าได้ตระหนักถึงการดำรงอยู่ของนครใต้พิภพเมื่อห้าปีก่อน……”

‘เอียมัว’ยังคงไม่สามารถยืนยันตัวตนของ’เนี้ยหลี่’ได้ ด้วยเหตุนี้เขาไม่ควรจะพูดมากเกินไป

ดังนั้นแล้วตลอดเวลาห้าปีที่ผ่านมา’เอียมัว’ได้ค้นพบนครใต้พิภพ นี่เป็นระยะเวลาที่เขาไม่ได้อาศัยอยู่ภายในเมืองกลอรี่ ด้วยความสามารถของ’เอียมัว’เขาคงไม่สามารถทำอะไรได้ภายในห้าปี หรือว่าเขาอาจจะเตรียมการทำบางอย่างไว้อยู่แล้ว

ในเมืองกลอรี่ ‘เอียมัว’เป็นเสาหลักศูนย์รวมจิตใจของทุกคน จากช่วงเวลาที่’เนี้ยหลี่’เข้าใจ เขาเคยได้ยินความสำเร็จทุกอย่างของ’เอียมัว’เคยทำมา ในฐานะของเขาที่เป็นพลเมืองธรรมดาเขาได้ลุกขึ้นด้วยความสามารถของตนเอง

และจากความเข้าใจที่มีต่อการฝึกฝนเขาก็ได้แต่งงานกับบุตรสาวเจ้าเมือง จนกลายมาเป็นเจ้าเมืองคนต่อไป และกลายเป็นจุดสูงสุดที่ดำรงอยู่ของเมืองกลอรี่ เพราะเหตุนี้’เอียมัว’จึงถูกเคารพประดุจบุคคลในตำนาน

สำหรับเรื่องการแต่งงานกับลูกสาวของเจ้าเมือง ‘เนี้ยหลี่’รู้สึกว่าเขาควรต้องหารือเล็กๆน้อยๆกับท่านปู่’เอียมัว’เสียแล้ว

สักครู่หนึ่ง’เอียมัว’ไม่อาจทนต่อความสงสัยได้อีกต่อไปจึงถามว่า

“เจ้าเด็กน้อยเจ้ามาจากตระกูลใด?”

“ข้ามาจากตระกูลบันทึกสวรรค์ขอรับ”

‘เนี้ยหลี่’ยิ้ม

‘เอียมัว’จำได้ว่าท่ามกลางเหล่าตระกูลขุนนางในเมืองกลอรี่ตระกูลบันทึกสวรรค์นั้นอยู่อันดับท้ายสุด เขาไม่เคยคิดเลยว่าพวกเขาจะสามารถผลิตอัจฉริยะดังเช่น’เนี้ยหลี่’ได้ แต่มันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ

เขามองสำรวจ’เนี้ยหลี่’ใหม่ทั้งหมด ถึงแม้ว่า’เนี้ยหลี่’จะเป็นคนของตระกูลบันทึกสวรรค์ แต่ถ้ายึดความสำเร็จของ’เนี้ยหลี่’เป็นหลัก รวมถึงการที่เขาได้รับความร่วมมือจากตระกูลตราประทับหยก และยังมี’ลั่วหมิง’กับผู้ติดตามของเขาที่เป็นผู้ฝึกตนระดับตำนานอีกสองคนก็น่าจะคุณสมบัติเพียงพอให้พูดคุยกับตระกูลวายุเหมันต์ได้

“เมื่อก่อนหน้านี้ เอียฮั่นเคยพยายามลอบสังหารท่านพ่อตาด้วยพิษสมุนไพรลิ้นมังกรของเขาด้วยนะขอรับ โชคยังดีที่ตอนนั้นข้าอยู่ด้วยจึงสามารถถอนพิษออกมาได้ แต่ข้านึกไม่ถึงเลยว่าหลังจากเอียฮั่นทรยศเมืองกลอรี่แล้วเขายังขายข้อมูลเมืองกลอรี่ให้กับตระกูลหวู่กุ้ยอีก นี่ยกโทษให้ไม่ได้!”

ดวงตาของ’เนี้ยหลี่’เปล่งประกายด้วยความต้องการฆ่าอย่างแจ่มชัด

“หลังจากนั้นตระกูลเพลิงศักดิ์สิทธิ์ก็สมรู้ร่วมคิดกับสมาคมทมิฬทำการหักหลังเมืองกลอรี่ เคราะห์ยังดีที่เสิ่นฮ่องถูกสังหารโดยท่านพ่อตา เหลือพวกมันเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่หนีรอดไปได้”

‘เอียมัว’ขมวดคิ้วของเขาเพียงแวบหนึ่ง ชั่วเวลาที่เขาไม่อยู่ในเมืองกลอรี่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมายถึงเพียงนี้เชียวรึ

“เอียฮั่นนั้นเป็นความอัปยศอย่างแท้จริง! มันเป็นเพราะเจ้าเอียเซิ่งที่ทำให้เขาเสียคน เจ้าเอียเซิ่งมองไม่เห็นตัวตนที่แท้จริงของมัน และยังตั้งใจจะส่งผ่านตำแหน่งเจ้าเมืองไปให้กับมันเสียอีก การที่ไม่สังหารเอียฮั่นในเวลานั้นทำให้เมืองกลอรี่ตกอยู่ในอันตรายเช่นนี้ มันเป็นความผิดของเขา เมื่อข้ากลับไป คงจะต้องทำการสั่งสอนเขาเสียแล้ว!”

‘เอียมัว’พ่นลมหายใจอย่างเย็นชา ถ้าไม่ได้’เนี้ยหลี่’ ‘เอียเซิ่ง’คงถูกสมุนไพรลิ้นมังกรเอาชีวิตไปเป็นแน่แท้ แม้กระทั่งเขาเองก็ยังไม่มีวิธีการรักษาพิษจากสมุนไพรลิ้นมังกรนี้ แต่ทว่า’เนี้ยหลี่’สามารถช่วย’เอียเซิ่ง’เอาไว้ได้ ไม่แปลกใจเลยที่เขาได้หมั้นหมายกับ’จืออวิ้น’ของเขา

สมาชิกของตระกูลวายุเหมันต์นั้นรู้จักวิธีการตอบแทนบุญคุณและรักษาคำพูดเสมอ เนื่องจาก’เอียเซิ่ง’ได้หมั้นหมาย’จืออวิ้น’กับ’เนี้ยหลี่’แล้ว ดังนั้นเขาเองก็ควรจะยอมรับการแต่งงานนี้อย่างเต็มใจ

ด้วยการเคลื่อนที่รวดเร็วประดุจสายฟ้ามุ่งหน้าไปยังเมืองกลอรี่ ‘เนี้ยหลี่’กับ’เอียมัว’ยังคงนำอยู่ด้านหน้า ทางด้านหลังยังมีผู้ที่เคลื่อนตัวตามมาก็คือ’ลั่วหมิง’กับอีกสองคน ‘เนี้ยหลี่’ก็เริ่มต้นการสนทนากับ’เอียมัว’ต่อ

“ท่านปู่เอียมัวท่านได้เข้าถึงสัจธรรมแห่งวายุเหมันต์แล้วหรือขอรับ?”

‘เนี้ยหลี่’ถามขึ้นขณะมองไปยัง’เอียมัว’ ก่อนหน้านี้เขาสัมผัสได้ถึงสัจธรรมแห่งวายุเหมันต์ที่แผ่ออกมาจาก’เอียมัว’

“ถูกแล้ว แต่ข้าก็ยังไม่ถึงขั้นเข้าใจอย่างถ่องแท้ ข้าแค่เพียงสัมผัสในแง่มุมหนึ่งของมันเท่านั้น ข้าคาดว่ายังคงอีกนานกว่าจะไปถึงขั้นเซียน (เดมิก๊อด)”

‘เอียมัว’กล่าวขณะที่เขาส่ายหัว

“นอกจากนี้ข้ายังสัมผัสได้ถึงสองกลิ่นอายที่ค่อนข้างทรงพลังแผ่ออกมาจากท่านปู่เอียมัว ถ้าท่านปู่เอียมัวสามารถเข้าใจในอำนาจแห่งสัจธรรมแล้วล่ะก็ ความแข็งแกร่งของท่านคงเพิ่มพูนขึ้นอย่างมากมายเป็นแน่”

‘เนี้ยหลี่’ยิ้ม

ร่องรอยแปลกใจสะท้อนอยู่ภายในดวงตาของ’เอียมัว’ เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่า’เนี้ยหลี่’นั้นมีสติปัญญาหลักแหลมเช่นนี้ นอกเหนือไปจากการสัมผัสได้ถึงพลังแห่งสัจธรรมจากร่างของเขา เขายังสามารถสัมผัสได้ถึงสองกลิ่นอาย ช่างน่าตกใจนัก

ด้วยใบหน้าของ’เนี้ยหลี่’เขาเป็นเพียงแค่เด็กที่มีอายุสิบสี่ปีเท่านั้น! เป็นไปได้ว่าเขาอาจจะเป็นบางคนที่ใช้ [เคล็ดดวงจิตกลืนดารา] เหมือนจอมมารรึไม่?

‘เอียมัว’ตรวจสอบ’เนี้ยหลี่’ แต่ทว่าเขาไม่รู้สึกถึงกลิ่นอายจากดวงจิตกลืนดาราจากร่างกายของเขาเลย

จากการมองของ’เอียมัว’ส่งผลให้’เนี้ยหลี่’รู้สึกอึดอัดเล็กน้อยเขาจึงกล่าวว่า

“ท่านปู่เอียมัว ข้าไม่ใช่ใครบางคนที่ใช้เคล็ดดวงจิตกลืนดารา ในเหล่าบรรดาผู้ที่ใช้เคล็ดดวงจิตกลืนดารานั้นใบหน้าของพวกเขาจะซีดจาง เลือดในกายจะถูกต้มจนเดือดอยู่เสมอและดวงจิตพวกเขาก็ประดุจกระแสน้ำที่เอ่อล้น ข้าล้วนหาได้มีอาการใดๆเหล่านั้น”

เมื่อได้ยินคำพูดของ’เนี้ยหลี่’ ‘เอียมัว’เผยรอยยิ้มฝืนๆออกมา เขาคาดไม่ถึงว่าความคิดของเขาจะถูกมองออกโดย’เนี้ยหลี่’

‘เนี้ยหลี่’รู้สึกระอายใจเล็กน้อย ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้เชี่ยวชาญในเรื่องเคล็ดดวงจิตกลืนดารา แต่วิญญาณของเขาได้รับการกำเนิดใหม่ เขาคิดว่าสิ่งที่ลึกซึ้งที่สุดในโลกใบนี้อาจจะเป็นจิตวิญญาณก็เป็นได้

“ข้ามีความรู้แจ้งในสัจธรรมแห่งแสงสว่างและความมืด ดังนั้นจิตวิญญาณของข้าจึงแข็งแกร่งกว่าของคนธรรมดา”

‘เนี้ยหลี่’คิดถึงข้ออ้าง ไปพร้อมกับเคลื่อนไหวมือขวาของเขา สัจธรรมแสงสว่างกับความมืดก็เปล่งประกายพาดผ่านปลายนิ้วของเขา

‘เอียมัว’รู้สึกถึงสัจธรรมแห่งแสงสว่างและความมืด ด้วยความประหลาดใจเขาได้หันไปมองทาง’เนี้ยหลี่’ทันที ก่อนอื่นควรจะรู้ว่าตัวเขานั้นต้องผ่านการฝึกฝนนานับประการมาเป็นเวลานับทศวรรษก่อนที่เขาจะสามารถตีความถึงร่องรอยพลังแห่งสัจธรรม นอกจากนี้ยังมีหนทางอีกไกลก่อนที่เขาจะควบคุมพวกมันได้ตามปรารถนา

อย่างไรก็ตาม’เนี้ยหลี่’เข้าใจในพลังแห่งสัจธรรมและสามารถควบคุมมันได้อย่างอิสระ

เรื่องแท้จริงที่ก็คือเขาไม่ได้ฉลาดขนาดนี้เมื่อตอนที่เขาเท่า’เนี้ยหลี่’ ‘เอียมัว’ได้สลักชื่อของ’เนี้ยหลี่’ลงในจิตใจว่าเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง!

ด้วยการที่เข้าใจถึงสองพลังแห่งสัจธรรม เป็นที่แน่นอนแล้วว่าเขาจะต้องยืนอยู่บนจุดสูงสุดในอนาคต แม้แต่ในโลกใต้พิภพ เจ้าเมืองใต้พิภพเองยังไม่สามารถที่จะควบคุมสองพลังแห่งสัจธรรมในเวลาเดียวกันได้เลย ใช่ไหม?

‘เนี้ยหลี่’มีความเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมากในหัวใจของ’เอียมัว’ ในเรื่องการหมั้นหมายระหว่าง’จืออวิ้น’กับ’เนี้ยหลี่’ ‘เอียเซิ่ง’ยังนับได้ว่ามองการไกล ‘เนี้ยหลี่’นั้นมีความสามารถที่พิเศษ และลักษณะนิสัยที่ไม่หยิ่งผยอง เกี่ยวกับเรื่องนี้เขาก็ไม่มีปัญหาอะไรกับนิสัยของเขา

“เนี้ยหลี่บนตัวของเอียมัวมีเศษเสี้ยวของดวงแสงศักดิ์สิทธิ์จากจิตวิญญาณเทพวายุเหมันต์อยู่ เว้นเสียแต่ว่าจิตวิญญาณเทพวายุเหมันต์จะสูญสิ้นไปแล้ว ถึงอย่างนั้นเพียงพลังอำนาจของเศษเสี้ยวนี้ แม้ไม่อาจเทียบได้กับตอนที่ยังสมบูรณ์แต่พลังนี้ยังคงยิ่งใหญ่มากนัก ยิ่งไปกว่านั้นยังมีกลิ่นอายลึกลับแผ่ออกมาจากตัวของเขา ทว่าข้าไม่สามารถตรวจสอบมันได้”

‘ยู่หยาน’ถ่ายทอดเสียงไปยัง’เนี้ยหลี่’ด้วยน้ำเสียงที่มีความเศร้าเจือปนเล็กน้อย

ดวงแสงศักดิ์สิทธิ์แห่งจิตวิญญาณเทพวายุเหมันต์? ไม่แปลกเลยที่’เนี้ยหลี่’จะรู้สึกตกใจ ที่มีเศษชิ้นส่วนแห่งจิตวิญญาณเทพวายุเหมันต์อยู่ภายในร่างกายของเอียมัว สำหรับกลิ่นอายอื่นๆนั้น ‘ยู่หยาน’ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ามันคืออะไร มันเหมือนกับว่ามันมาจากโลกอื่น

“ความจริงแล้วพื้นฐานของอำนาจแห่งเป็นเพียงรูปแบบจารึก ทุกประเภทของพลังสัจธรรมจะมีโครงสร้างพิเศษเป็นของตัวเอง รูปแบบของวายุเหมันต์ก็ควรจะเป็นอะไรเช่นนี้”

รูปแบบจารึกก่อตัวขึ้นบนฝ่ามือของ’เนี้ยหลี่’ นี่เป็นโครงสร้างของพลังแห่งสัจธรรมที่’เนี้ยหลี่’มี

เมื่อเห็นรูปแบบจารึกขนาดเล็กเคลื่อนไหวบนฝ่ามือของ’เนี้ยหลี่’ ‘เอียมัว’พูดอย่างประหลาดใจว่า

“ถ้างั้นพลังแห่งสัจธรรมแท้จริงแล้วก็คือ รูปแบบจารึกบางอย่างงั้นรึ!”

เมื่อได้เห็นโครงสร้างรูปแบบจารึกเหล่านี้ ‘เอียมัว’ก็เข้าใจในทันทีหลังจากทั้งหมด ‘เอียมัว’เป็นบุคคลที่ปราชญเปรื่องและเขาได้ศึกษาในพลังแห่งสัจธรรมมาอย่างยาวนาน เขาควรจะมีองค์ความรู้ในพลังแห่งสัจธรรมอยู่บ้าง ด้วยคำพูดของ’เนี้ยหลี่’ทำให้เขาเหมือนคนที่ตื่นจากฝัน เดินสู่ทางรู้แจ้ง

ดังนั้นในกรณีนี้….

‘เอียมัว’เหลือบมองไปยัง’เนี้ยหลี่’อย่างลึกซึ้ง เพียงคำพูดไม่กี่คำจาก’เนี้ยหลี่’ มันก็อาจจะช่วยให้เขาเข้าถึงระดับขั้นเซียน (เดมิก๊อด)ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาปรารถนาก็เป็นได้!

‘เอียมัว’รู้ว่า’เนี้ยหลี่’จงใจบอกทั้งหมดนี้แก่เขา ดวงตาของเขาก็มีประกายแห่งความขอบคุณ หลังจากการฝึกฝนมาหลายปี ร่างกายของเขาก็ทรุดโทรมลงไปตามอายุ เขาคิดว่าคงจะไม่สามารถเข้าสู่ระดับที่สูงกว่าได้อีกแล้ว

‘เอียมัว’เป็นห่วงว่าหลังจากเขาจากไปจะไม่มีใครปกป้องเมืองกลอรี่ ‘เอียเซิ่ง’เองก็ยังไม่เข้าถึงระดับตำนานถึงแม้ตลอดเวลาที่ผ่านมาถ้าเขาเข้าถึงระดับตำนานแล้ว เขาก็ยังคงไม่อาจต่อกรกับจอมมารได้

จอมมารนั้นมีชีวิตไร้ขีดจำกัด อย่างไรก็ตามชีวิตของเขานั้นอยู่ได้เพียงหนึ่งร้อยปีเท่านั้น ไม่ต้องพูดถึงที่ตอนนี้เมืองกลอรี่ถูกหมายตาจากตระกูลหวู่กุ้ย อย่างไรก็ตามถ้าหากเขาดำเนินการเข้าสู่ระดับเซียน (เดมิก๊อด)ได้ล่ะก็ อายุของ’เอียมัว’ก็จะเพิ่มขึ้นไปอีกเป็นร้อยกว่าปีหรือมากกว่านั้น

นอกจากนี้พวกเขายังมีต้นทุนที่จะต่อกรกับตระกูลหวู่กุ้ย แต่มันยังคงยากถ้าหากตระกูลหวู่กุ้ยส่งผู้เชี่ยวชาญระดับเซียน สองคนมาจัดการเมืองกลอรี่ จนกว่าพวกเขาละทิ้งรากฐานและทำลายพวกเขากระทั่งพวกเขาหนีไป

‘เอียมัว’รู้สึกพึงพอใจที่ยังมีรุ่นหลังเช่น’เนี้ยหลี่’ อีกทั้ง’เนี้ยหลี่’ยังเป็นหลานเขยของเขา ความพึงพอใจของ’เอียมัว’ที่มีต่อ’เนี้ยหลี่’ค่อยๆเพิ่มขึ้นๆ อย่างต่อเนื่อง

‘เนี้ยหลี่’ยังคงบอกเล่าถึงรายละเอียดเคล็ดลับในการทำความเข้าใจพลังแห่งสัจธรรมแก่’เอียมัว’

ด้วยความสติปัญญาความฉลาดของ’เอียมัว’หลังจากทำความเข้าใจในสาระสำคัญของพลังแห่งสัจธรรมขอบเขตการฝึกฝนของเขาก็พุ่งทยานขึ้นทันที พลังแห่งสัจธรรมแห่งวายุเหมันต์เองก็ค่อยๆก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างในร่างของเขาด้วยเช่นกัน

มันกลับกลายเป็นว่าการเข้าใจในพลังแห่งสัจธรรมแท้จริงแล้วเป็นเรื่องง่ายอย่างยิ่ง!

ในหลายสิ่งหลายอย่างก่อนที่จะเข้าใจมัน การหาหนทางให้เจอมันเป็นไปไม่ได้ อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาทำความเข้าใจต่อมัน พวกเขาก็จะค้นพบความจริงที่ว่ามันง่ายมากที่จะเข้าใจในพลังแห่งสัจธรรม

‘ลั่วหมิง’กับอีกสองคนที่ติดตามมาทางด้านหลังรู้สึกสงสัยเกี่ยวกับบทสนทนาระหว่าง’เนี้ยหลี่’กับ’เอียมัว’ ถ้าหากพวกเขารู้ว่า’เนี้ยหลี่’พูดถึงความลับการฝึกฝนเพื่อเข้าสู่การเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับเซียน (เดมิก๊อด)แล้วล่ะก็ ลำไส้ของพวกเขาคงจะบิดเกลี้ยวจากการที่ไม่ได้ขึ้นไปและแอบฟังการสนทนาของพวกเขาเป็นแน่

จบตอน

ที่มา : 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments