I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Tales of Demons & Gods (妖神记) ตอนที่ 213 เข้าสู่กับดัก

| Tales of Demons & Gods (妖神记) | 28429 | 2528 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

เกิดเสียงระเบิดดังขึ้น !! กำปั้นของ’หวู่หมั่น’นั้นห่างจากลอร์ด’เอียมัว’เพียงแค่นิ้วเท่านั้น

แต่หากได้ไปได้มากไปกว่านั้นไม่ เมื่อหวู่หมั่นมองไปยังลอร์ดเอียมัวได้เห็นเหมือนโล่โปร่งแสงห้อมล้อมลอร์ดเอียมัวอยู่

ขณะนั้นเองลอร์ด’เอียมัว’ก็ยิ้มที่มุมปาก ทันใดก็มีน้ำแข็งรายล้อมร่างของ’หวู่หมั่น’และตรึงร่างหวู่หมั่นในทันที

“ใครก็ตามแต่ที่หมายประทุษร้ายเมืองกลอรี่ จักต้องตาย”

ลอร์ด’เอียมัว’ตะคอกอย่างเฉยเมยพร้อมประเคนกำปั้นไปยังร่างของ’หวู่หมั่น’ ทำให้น้ำแข็งที่ตรึงร่างนั้นแตกกระจายออกพร้อมร่าง’หวูหมั่น’เองกระเด็นออกไปทั้งกับเลือดเต็มปาก

‘หวู่หมั่น’ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าลอร์ด’เอียมัว’นั้นจะใช้เคล็คลับเช่นนี้ได้ ทำให้เขาไร้การป้องกันได้อย่างง่ายๆทั้งยังทำให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสเลยทีเดียว

ถ้าต้องได้ประสบพบกับการโจมตีเช่นนี้ แม้น’หวู่หมั่น’จะไม่ถึงกับชีวิตก็คงได้รับบาดเจ็บสาหัส (ไม่ตายก็คางเหลือง)

หลังจากที่ได้เห็นภาพนั้น นักสู้ระดับตำนานนับหลายสิบจากตระกูลสหวู่กุ้ยก็พุ่งตรงไปทางทิศของลอร์ด’เอียมัว’ ลอร์ด’เอียมัว’ก็ไม่ได้ทำการไล่ล่าหวูม่านต่อ ทั้งยังถอยกลับโดยที่ไม่ได้เหลียวหลังกลับไปมองคนที่มาไล่ล่าตามเขาเลย

“ เจ้าจะไปไหนได้ ”

เหล่านักสู่ระดับตำนานเหล่านั้นจากตระกูลหวู่กุ้ยกล่าวพร้อมไล่ตามหลังลอร์ด’เอียมัว’

ลอร์ด’เอียมัว’ได้ทำร้าย’หวู่หมั่น’บาดเจ็บ พวกเขาจะปล่อยไปได้โดยมิทำสิ่งใดเลยหรือ?

อย่างไรก็ตาม ด้วยอัตราความเร็วของลอร์ด’เอียมัว’นั้น ลอร์ด’เอียมัว’จึงเข้ามาสู่อาณาเขตค่ายกลหมื่นอสูรด้วยความรวดเร็ว

เมื่อตระกูลหวู่กุ้ยนั้นเริ่มทำการโจมตีเมืองกลอรี่ พลเมืองชาวกลอรี่ทั้งหมดได้หลบหนีไปยังที่หลบภัยใต้ดิน ทั้งยังอยู่ในอาณาเขตของค่ายกลหมื่นอสูรด้วย

ค่ายกลหมื่นอสูรนี้ประดุษดั่งกับเกราะป้องกันภัยที่แข็งแกร่งซึ่งจะสามารถปกป้องทุกคนที่อยู่ภายในนี้

เหล่านักสู้หลาบสิบคนนั้นหยุดเพียงภายนอกค่ายกลและไม่ได้ย่างกรายเข้ามา

” มีบางสิ่งไม่ชอบมาพาลเกี่ยวกับค่ายกลนี้ พวกเราต้องระวังให้มาก เจ้าเอียฮั่นนั้นบอกมาว่าค่ายกลหมื่นอสูรนี้อาจสามารถสังหารได้แม้กระทั้งนักสู้ระดับตำนานเลยทีเดียว “

“เหตไฉนใยพวกเราต้องจักเกรงค่ายกลเช่นนี้ด้วยเล่า พวกเราจะเข้าไปพร้อมกัน”

นักสู่ระดับตำนานของตระกูลหวู่กุ้ยนั้นถกเถียงกัน แม้นว่าว่าค่ายกลหมื่นอสูรนี้อาจสังหารได้แม้กระทั้งนักสู้ระดับตำนานได้จริง แต่ด้วยจำนวนของนักสู้ระดับตำนานมากมายของพวกเขา จึงมิได้ครั่นคร้ามต่อสิ่งใด

นักสู้ระดับตำนานคนนึงจึงได้นำเข้าไปในอาณาเขตของค่ายกลหมื่นอสูรก่อน

เมื่อเห็นอย่างนั้นนักสู้ระดับตำนานคนอื่นๆก็ทยอยตามเข้ามาในอาณาเขตของค่ายกล นักสู้ระดับตำนานของตระกูลหวู่กุ้ยนั้นมีความคิดที่ตื้นเขินยิ่งนักโดยเฉพาะเกี่ยวกับ ความแข็งแกร่งของเมืองกลอรี่จากคำบอกเล่าของ’เอียฮั่น’ ดังนั้นเป็นธรรมดาที่พวกเขาปรามาสเมืองกลอรี่

แม้’เอียฮั่น’จะรู้จักค่ายกลหมื่นอสูรแต่ก็หาได้รู้ซึ้งถึงพลังที่แท้จริงของค่ายกลหมื่นอสูรไม่ !!

นักสู้ระดับตำนานของตระกูลหวู่กุ้ยคนแล้วคนเล่า ที่รุกเข้ามาในเขตของค่ายกล ณ ใจกลางอาณาเขตของค่ายกลหมื่นอสูร ‘เอี่ยเซิ่ง’ตะคอกอย่างเฉยเมยพร้อมดำเนินการใช้งานค่ายกลหมื่นอสูรอย่างรวดเร็ว สัตว์อสูรระดับแบล็คโกลด์นับหมื่นตัวปรากฎขึ้น

ท่ามกลางฟากฟ้า และในทันใดนั้นท้องฟ้าทั้งหมดก็มืดดำครึ้มสนิท ในบัดดลดั่งการต่อสู่ที่เข้มข้นเริ่มขึ้น

แม้ว่าคนของตระกุลหวู่กุ้ยจะเป็นนักสู้ในระดับตำนาน แต่เมื่อมาอยู่ในค่ายกลหมื่นอสูรนี้แล้ว พวกเขารู้สึกเหมือนโดนกักและกดดันด้วยพลัง ถ้าหากเป็นแค่เป็นเพียงสัตว์อสูรระดับแบล็คโกลด์ ธรรมดาๆทั่วไป พวกเขาสามารถฆ่ามันได้มากมายเท่าไหร่ที่ต้องการก็ย่อมได้ แต่เมื่อสัตว์อสูรเหล่านี้หากอยู่ภายใต้อาณัติ์การควบคุมของค่ายกลหมื่นอสูรแล้วไซร้ จะผสมผสานจุดเด่นตลอดจนจุดด้อยรวมกันได้อย่างลงตัวสมบูรณ์ จึงไม่ง่ายนักที่จะทำลายค่ายกลนี้ได้

ไม่ว่าสิ่งใดก็ตาม ที่เหล่านักจากตระกูลหวู่กุ้ย(อสูรสาบ)จะพยายามอย่างไรก็ตามแต่ ก็มิอาจทำลายค่ายกลหมื่นอสูรนี้ได้เลย แม้ว่าจะต้องพึ่งหาทุกวิถีทางการทุกอย่างในช่วงเวลานี้ก็ตามแต่ก็ต้องทำ ด้วยเช่นนั้นค่ายกลนี้ยังไม่สามารถทำอะไรพวกเค้าได้ แต่หากจะหนีก็ยังเป็นเพียงแค่ฝันกลางวันเท่านั้นเอง

“ชั่วช้าจริง ไอ้ค่ายกลนี้ช่างร้ายอะไรเยี่ยงนี้”

“ข้าบอกแล้วไง ว่าให้รอบคอบกว่านี้ แต่กระนั้นพวกเจ้าก็ยังคงเข้าปะทะมาในนี้โดยที่ไม่ได้คิดก่อน”

เหล่านักสู้ระดับตำนานของตระกูลหวู่กุ้ยรู้สึกกดดันภายในใจ นับตั้งแต่เกิดมาและอาศัยอยู่ในโลกใต้พิภพ(โลกนรกานต์)นั้น พวกเขายังไม่เคยได้เห็นค่ายกลแบบนี้มาก่อนในชีวิต แม้ว่า’เอียฮั่น’จะเอ่ยถึงค่ายกลนี้มาก่อน

แต่ก็เพียงบอกว่าค่ายกลนี้สามารถที่จะต่อกรกับหนึ่งในศิษย์ของจอมมารจากสมาคมทมิฬมาแล้ว แต่พวกเหล่านักสู้นี้ก็ไม่เคยจะคาดคิดเลยว่าค่ายกลหมื่นอสูรจะสามารถจัดการกับพวกเค้าให้ติดอยู่ในกับดักค่ายกลนี้ทั้งหมดได้ในคราเดียว

ในขณะเดียวกันนั้นเอง กองทัพใหญ่ของตระกูลหวู่กุ้ยนั้นก็มาถึงจึงบุกเข้าโจมตีเมืองกลอรี่และเริ่มทำสงครามกับทหารประจำที่ป้องกันเมือง ก่อให้เกิดการต่อสู่ที่วุ่นวาย ขึ้น ลอร์ด’เอียมัวร์’ เงยหน้าขึ้น มองเห็นเหล่าสัตว์อสูรระดับแบล็คโกลด์ จำนวนหลายหมื่นอยู่รายล้อมรอบเหล่านักสู้ระดับตำนานของตระกูลสาบอสูรไว้นั้น

ลอร์ด’เอียมัวร์’ ก็รู้สึกตกใจอย่างมากในจิต แม้นลอร์ด’เอียมัวร์’ยังมิเคยคาดคิดเลยว่า ค่ายกลหมื่นอสูรนั้นจะให้นักสู้ระดับตำนานเข้ามาติดกับได้ พลังของค่ายกลหมื่นอสูรนี้มากเกินกว่าที่ลอร์ด’เอียมัวร์’จะจินตนาการไว้เสียอีก

ลอร์ด’เอียมัวร์’ได้ยินจาก’เอี่ยเซิ่ง’มาว่า ค่ายกลหมื่นอสูรนั้นถูกวางตามแบบแผนโบราณที่เขียนขึ้น และก็เป็น’เนี่ยหลี่’สามารถเข้าใจแบบแผนอันเป็นปริศนาเหล่านี้ได้นั้นเอง

( ขนาดลอร์ดเอียมัวร์พบ ยังอ่านไม่ออกแต่เนี่ยลี่อ่านได้ เข้าใจและสามารถนำมาใช้จริงได้ไงครับ)

เพียงแค่เรื่องนี้เรื่องเดียว ‘เนี่ยหลี่’ก็จักสร้างความดีความชอบต่อเมืองกลอรี่ได้อย่างมากมายแล้วนัก ถ้า’เนี่ยลี่’อาจจะกลายเป็นบุตรเขยของตระกูลวายุเหมันตร์แล้วละก็ไร้ซึ่งปัญหาใดๆเกิดขึ้นแน่นอน

ขณะที่คิดไปถึงความอัศจรรย์ของ’เนี่ยหลี่’นั้น หลอด’เอียมัวร์’ก็ยิ้มเล็กน้อย เขาก็ไม่ได้หยุดอยู่กับที่และทันใดนั้นเริ่มลงมือสังหารนักต่อสู้ระดับธรรมดาก่อน

ดังนั้นการสังหารหมู่ ก็ได้เริ่มขึ้น ถึงแม้ว่าพวกนั้นจะอยู่ในระดับแบล็คโกลด์ แต่จะสามารถรับมือการปะทะจากนักสู้พลังระดับตำนานได้เช่นไรกัน?

ทัพทหารของตระกูลหวู่กุ้ยก็เกิดโกลาหลอย่างรวดเร็วด้วยฝีมือของลอร์ด’เอียมัวร์’เพียงผู้เดียว

ภายในอาณาเขตของพายุหิมะของลอร์ด’เอียมัวร์’นั้น ไม่มีนักสู้ระดับธรรมดาคนไหนของตระกูลหวู่กุ้ยนั้นรอดชีวิตแม้แต่ผู้เดียว

ร่างของลอร์ด’เอียมัวร์’เป็นดั่งเสมือนร่างของเทพแห่งสงครามของเมืองกลอรี่ ที่จะระเบิดเสียงเชียร์ทั้งยังเพิ่มขวัญกำลังใจให้อย่างมากมาย

จากฉากภาพที่เห็นนั้น ดวงตาของเหล่านักสู้ระดับตำนานที่ติดอยู่ในค่ายกลหมื่นอสูรก็กลายเป็นสีแดงด้วยจากความโกรธ

“ถ้าเราไม่หลบหนีออกจากค่ายกลนี้ได้นั้น กองทัพของพวกเราจะย่อยยับเป็นแน่ ! แล้วพวกเราจะกลับไปอธิบายกับเหล่าผู้อาวุโสได้เช่นไรกันหา “

” ไอ้ค่ายกลชั่วช้าที่น่ารังเกียจนี้ ! “

นักสู่ระดับตำนานเหล่านั้นได้รวมพลังปะทะโจมตีไปที่ ณ อาณาเขตพลังของค่ายกลแต่หาได้ทำสิ่งใดกับค่ายกลหมื่นอสูรนี้ได้ไม่ ทั้งยังยิ่งทำให้ใบหน้าของเหล่านักสู้นั้นเต็มไปด้วยร่องรอยสกปรกแทน

โชคดีจริงๆ ที่’เนี่ยหลี่’ได้เป็นคนวางค่ายกลหมื่นอสูรเอาไว้ มิเช่นนั้นพวกเขา(ฝั่งเมืองกลอรี่) ก็ไม่รู้จะหาทางวิธีการใดมารับมือกับนักสู้ระดับตำนานจำนวนมากมายขนาดนี้ได้ในคราเดียว

‘เอี่ยเซิ่ง’ที่ยืนอยู่ใจกลางของค่ายกลหมื่นอสูร เรียกความจำในจิตได้ว่า ‘เนี่ยหลี่’ได้เคยกล่าวไว้ ว่าต่อให้มีนักสู้ระดับตำนานมาเป็นโหลๆเข้ามาอยู่ในเขตแดนค่ายกลหมื่นอสูรนี้ จักไร้ซึ่งผู้ใดออกไปได้ซักราย

ตั้งแต่แรก ‘เอี่ยเซิ่ง’นั้นก็ไม่เชื่อ’เนี่ยลี่’ แต่หลังจากได้เห็นอนุภาพของค่ายกลนี้ด้วยสายตาของตนเองแล้ว ก็รู้สึกช่วยไม่ได้และได้แต่ถอนหายใจไปเรื่อยๆ (กว่าจะยอมรับฝีมือของเนี่ยลี่ได้ต้องเห็นว่าเป็นของจริง)

หากมิใช่เพราะ’เนี่ยหลี่’แล้ว ใครจะรู้ล่ะว่าเมืองกลอรี่อาจจะล่มสลายจบลงก็เป็นได้ ‘เอี่ยเซิ่ง’ได้จ้องมองลงไปยังเหล่านักสู้ที่อยู่ภายในค่ายกลหมื่นอสูรนั้น นับตั้งแต่พวกนักสู้เหล่านี้ได้เข้ามานั้น จะออกไปคงได้แค่ฝันเท่านั้น ‘เอี้ยเซิ่ง’ต้องแสดงให้ตระกูลหวู่กุ้ยนั้นต้องได้รับความเจ็บปวด เพื่อจะได้ไม่อาจหาญกล้าทำการใดๆกับเมือกลอรี่อีก

ภายใต้การควบคุมของ’เอียเซิ่ง’ อสูรระดับแบล็คโกลด์ ในค่ายกลหมื่นอสูรนั้นได้แสดงพลังอย่างบ้าคลั่งพุ่งกระโจนเข้าใส่เหล่านักสู้ระดับตำนานของตระกูลหวู่กุ้ย

ณ สวนภายในตำหนักเจ้าเมือง

“หลู่หมิง การต่อสู้นั้นรุนแรงยิ่งนัก พวกเราจะมิทำการสิ่งใดเลยหรือ? “

นักสู้ระดับตำนานคนหนึ่งจากจากตระกูลตราหยกถามขึ้นมา

‘หลู่หมิง’ส่ายหน้าและกล่าวว่า

“ตระกูลตราหยก เราไม่สามารถที่จะเปิดเผยโฉมหน้าของพวกเราได้ หากไม่เช่นนั้นแล้วจะนำความยุ่งยากปัญหาต่างๆมาเพิ่มให้กับเมืองกลอรี่ เป็นล้นพ้น เมื่อเวลามาถึง ตระกูลหวู่กุ้ยจักเข้าใจได้ว่าแค่ตระกูลมันตระกูลเดียวนั้นไม่อาจจะที่ยึดครองเมืองกลอรี่ได้ ตระกูลหวู่กุ้ยอาจจะต้องยอมรวบรวมหาพันธมิตรเพื่อที่จะได้มาโจมตีเมืองกลอรี่อีก”

สองนักสู้ระดับตำนานนั้นก็พยักหน้ารับจากการที่พวกเขา(หลู่หมิงและพวก)ได้มายังเมืองกลอรี่ พวกเขาก็ตกหลุมรักเมืองนี้ขึ้นมาทันที

เมืองกลอรี่แห่งนี้หากเมื่อเปรียบกับโลกใต้พิภพ(โลกนรกานต์แล้ว)นั้นแล้วที่นี่เหมาะที่จะเป็นที่อยู่ของชาติพันธุ์มนุษย์มากกว่าเสียอีก และซ้ำยังมีทรัพยากรมากมายอย่างล้นพ้นในการบ่มเพาะพลังวิญญาณอีกด้วย

หากว่าตระกูลตราหยกจะเข้ามาที่นี่แล้วละก็ เมืองกลอรี่นี้คงจะอ้าแขนยินดีต้อนรับพวกเขาเป็นแน่ โดยปราศจากการใช้กำลัง ทั้งพวกเขาและเมืองกลอรี่ต่างก็เป็นชาติมนุษย์ด้วยกันทั้งสิ้น และที่เมืองกลอรี่นี้ ยังมีที่ให้อย่างเพียงพอเลยทีเดียว !

ดังนั้น’หลู่หมิง’และอีกสองคนจึงไม่ปราถนาที่จะเห็นเมืองกลอรี่ถูกยืดครองโดยตระกูลหวู่กุ้ย

‘เนี่ยหลี่’ซึ่งขณะนี้ที่อยู่ ณ ใจกลางเขตอาคมดูดกลืนจิตอสูรและกำลังบ่มเพาะพลังวิญญาณอยู่นั้น ก็ได้ลืมตาขึ้นและกวาดสายตาไปยังโดยรอบ ‘เอี่ยจืออวิน’ ‘เซียวหนิงเอ๋อ’ และทุกคนยังอยู่ในการดูดซับพลังในการบ่มเพาะอยู่ ทุกๆสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นภายนอกนั้นยังมิได้รบกวนการฝึกพลังแต่อย่างใด

‘เนี่ยหลี่’มองไปในท้องฟ้าที่ห่างออกและเห็นนักสู้ระดับตำนานจากตระกูลหวู่กุ้ยนั้นติดกับอยู่ในค่ายกลหมื่นอสูร ด้วยพลังฤทธิ์เดชอำนาจของค่ายกลนี้ คงจะมหาหฤโหดสำหรับนักสู้ระดับตำนานเหล่านั้นที่จะทำลายออกมาได้

เหล่ากลุ่มนักสู้ระดับตำนานจากตระกูลหวู่กุ้ยยังคงมิสามารถที่จะทำสิ่งใดต่อเมืองกลอรี่ได้เลย ตอนนี้พวกเขาอาจจะต้องประสบกับความพ่ายแพ้อย่างย่อยยับ

‘เนี่ยหลี่’และผองเพื่อน อาจจะมิต้องทำการใดทั้งสิ้น

ซึ่งบ่งบอกได้ว่า’เนี่ยลี่’และพวกสามารถปกปิดพลังความแข็งแกร่งได้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตามแต่ ก็ยังมีความรู้สึกสัมผัสอย่างหนึ่งที่เข้ามาในจิต’เนี่ยลี่’ หากเมืองกลอรี่กำจัดเหล่านักสู้เหล่านี้ให้เสียสิ้น ตระกูลหวู่กุ้ยคงจะไม่ยอมให้ผลลัพท์ออกมาเป็นเช่นนั้นโดยง่ายแน่ และอีกไม่ช้าไม่นาน ก็จะมีหมู่เหล่านักสู้ระลอกต่อมายังเมืองกลอรี่เป็นแน่แท้

จบตอนครับ

ที่มา : 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments