ตอนที่แล้วตอนต่อไป“จุ๊จุ๊ ข้าไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่ากายทิพย์ของเจ้านั้นจะถูกรวบรวมแล้วจะเล็กได้ถึงเพียงนี้ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ดีเหมือนกัน เพราะร่างเล็กๆแบบนี้ รสชาติมันต้องล้ำเลิศหาใดเปรียบแน่นอนเมื่อพวกเราได้ลิ้มลองมัน!”
คนร่างผอมได้พูดจาที่น่าอัปรีย์ต่อหน้าทุกคน ในใจเขาพลันนึกถึงตอนที่เขาจับร่างเล็กๆของ ‘ยู่หยาน’ไว้ในมือแล้วกำลังเล่นสนุกอยู่
สีหน้าของ’ยู่หยาน’ที่แสดงออกมาเต็มไปด้วยความเย็นชา
สิ่งที่พวกนั้นพูดมันไม่ได้มีผลต่อสภาพจิตใจของนางอีกต่อไปแล้ว แต่เจ้าคนเล่ห์สองคนนี้ก็ยังคงพยายามที่จะยั่วโทสะของนางต่อไปจนกว่าจะสำเร็จ
“ลู่เหยียนชา ลู่เหยียนมัว หลังจากที่พวกเจ้าทั้งสองไล่ล่าข้ามาตั้งแต่บึงทมิฬในขณะที่ข้ากำลังหลอมรวมผลึกสววรค์และยังยึดครองบึงทมิฬมาหลายปี ข้าไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าพวกเจ้ายังมีชีวิตอยู่ได้ แต่ถึงยังไงวันนี้ต่อให้ข้าต้องตายข้าก็จะฆ่าเจ้าทั้งสองให้ได้”
‘ยู่หยาน’มองไปที่’ลู่เหยียนชา’กับ’ลู่เหยียนมัว’อย่างเย็นชา
หลังจากที่นางพูด นางก็ได้สื่อสารทางจิตกับ’เนี่ยหลี่’
“เนี่ยหลี่ แม้ว่าพวกมันจะเป็นเพียงระดับตำนานขั้นสูงสุด แต่ร่างกายของพวกมันก็ยังมีผลจากคำสาปและไม่อาจจะทำลายได้ง่ายๆ หนึ่งในนั้นร่างที่จริงของมันก็คือฉลามขาวโลหิต ส่วนอีกหนึ่งนั้นก็คือปีศาจกึ่งมังกร แปลออกมามันไหงกลายเป็น ลิซาโด้ ก็ไม่รู้ นึกภาพ ลิซาโด้ร่างมาร เข้าไว้ละกันนะครับ ข้าเองก็ไม่แน่ใจว่าวิชาที่พวกนั้นฝึกนั้นมันเป็นยังไง ดังนั้นเจ้าระวังตัวเอาไว้ด้วย หากข้าสู้มันไม่ได้ ข้าจะใช้พลังชีวิตข้าหยุดพวกมันเอาไว้ จนกว่าพวกเจ้าทุกคนจะหนีออกไปได้!”
กายทิพย์ของ’ยู่หยาน’ยังอยู่ในระหว่างการฟื้นฟูให้กลับสู่สภาพเดิม หากนางใช้พลังชีวิตของนางเข้าจู่โจม นางอาจต้องใช้เวลาอีกนานแสนนานกว่าที่นางจะรวบรวมพลังเซียนกลับมาได้
‘เนี่ยหลี่’เข้าใจสิ่งที่ยู่หยานต้องการจะสื่อออกมาจากประโยคที่นางพูด ถึงอย่างนั้นเขาก็รู้ว่านางนั้นแข็งแกร่งเพียงใด หากแม้กระทั้งนางยังไม่อาจจะเอาชนะเจ้าปีศาจสองตนนี้ มีหรือที่พวกเขาจะหนีพ้น
“นี่เจ้าคิดว่าจะสามารถต่อกรกับพวกเราได้งั้นรึ? ฮี่ๆ หยุดพูดเรื่องไร้ประโยชน์ได้แล้ว!”
‘ลู่เหยียนชา’ยิ้มเหมือนดั่งฆาตกรโรคจิตที่โหดร้ายออกมาบนใบหน้าของเขาขณะที่กำลังเดินเข้าไปหาพวก’เนี่ยหลี่’ เขาต่างจาก’ลู่เหยียนมัว’ที่ไม่มีท่าทางที่จะสนใจสตรีผู้งดงามและสนุกที่ได้ฉีกร่างคนออกเป็นชิ้นๆ
‘เอี้ยจื่ออวิ้น’ ‘ต้วนเจี้ยน’และคนอื่นๆเตรียมพร้อมที่จะสู้
หลังจากที่ได้สัมผัสถึงพลังที่แข็งแกร่งที่มาจากตัวของฝ่ายตรงข้าม ‘เนี่ยหลี่’คำรามออกมาเบาๆและพูดว่า
“ทุกคนทำตามที่ข้าบอก ต้วนเจี้ยนและลั่วหมิงจัดการเจ้าตัวผอม ส่วนคนที่เหลือคอยระวังตัวเองเอาไว้!”
ถึงแม้ว่า ‘เอี้ยจื่ออวิ้น’ ‘เซี่ยวหนิงเอ๋อ’และคนอื่นๆจะมีพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งแล้วก็ตาม แต่พวกเขาก็ยังไม่ได้เข้าถึงระดับตำนาน
ด้วยเหตุนี้หากพวกเขาเข้ามาร่วมต่อสู้ด้วยก็จะยิ่งอันตราย อย่างไรก็ตามในการต่อสู้ครั้งนี้พวกของ’เนี่ยหลี่’ก็มียอดฝีมือระดับตำนานอยู่ถึง 5 คน“ครับ”
‘ต้วนเจี้ยน’ไม่ได้ลังเลเลยแม้แต่น้อย เขาตอบรับทันทีและชักเอาดาบเพลิงทมิฬออกสู้กับปีศาจผอม
‘ลั่วหมิง’ก็ก้าวออกมาและอยู่หลัง’ต้วนเจี้ยน’
‘เนี่ยหลี่’หันไปหา’ยู่หยาน’และพูดว่า
“พี่นางฟ้า เรามาเก็บไอ้เจ้าอ้วนนี้กันก่อนเลย!”
“ตกลง”
‘ยู่หยาน’ตอบรับ
ได้ยินคำพูดของ’เนี่ยหลี่’ ‘ลู่เหยียนชา’ก็เดือดดาลทันที ‘เนี่ยหลี่’ไม่มีเขาอยู่ในสายตาเลย
“พวกเจ้าจะทำอะไรข้าได้..หะ? มาดูสิว่าพวกเจ้าจะทำอะไรได้!”
กล้ามของเขาก็ใหญ่ขึ้นและซัดฝ่ามือไปที่’เนี่ยหลี่’ทันที เสียงระเบิดดังออกมาจากกล้ามทุกส่วนที่ของเขาใช้ น่าจะทั้งแขน…เกียร์สามแน่นอน…แม่งไปเรียนวิชากะลูฟี่มาแน่ๆ
‘ยู่หยาน’ยกมือขวาของนางขึ้นมาเพื่อใช้กำแพงไฟมากันที่ด้านหน้า’เนี่ยหลี่’เอาไว้
อาคาอินุชัดๆ
“นี่คือสุดกำลังของเจ้าแล้วอย่างนั้นรึ ถึงข้าจะกลัวพลังแห่งสัจธรรมธาตุไฟของเจ้า แต่ตอนนี้ ข้าจะฉีกเจ้าให้เป็นชิ้นๆ!”
‘ลู่เหยียนชา’ ตะโกนออกมาด้วยความโกรธแค้นและแขนของเขาก็พุ่งทะลุผ่านกำแพงไฟ จากนั้นก็มีมังกรวารีสองตัวโผล่ออกมาและพุ่งเข้าไปหา’เนี่ยหลี่’
ร่างของ’เนี่ยหลี่’ก็เข้าทรงรวมร่างเป็นแพนด้าเขี้ยวอสูรทันที ในตอนนี้แพนด้าเขี้ยวอสูรได้เปลี่ยนรูปลักษณ์ไปจากเดิมแล้วในแบบที่ไม่เคยได้เห็นมาก่อน เพราะบนร่างกายนั้นมีพลังแห่งสัจธรรมของธาตุความมืดและแสงสว่างไหลเวียนอยู่ทำให้ร่างกายของมันนั้นมีขนาดใหญ่ขึ้น เมื่อมังกรวารีกำลังจะจู่โจมใส่เขา แพนด้าเขี้ยวอสูรก็อ้าปากออกและปล่อยระเบิดหยินหยางออกมา
ด้วยพลังของแสงสว่างและความมืดที่หมุนวนนั้นได้ลอยขึ้นมา จากนั้นก็ระเบิดออกมาทำให้มังกรวารีถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆแทน
ภาพอันสยดสยองนี้ได้เกิดขึ้นต่อหน้าเขา ‘ลู่เหยียนชา’ถึงกับตะลึง เขาสัมผัสได้ถึงพลังแห่งสัจธรรมธาตุความมืดและแสงสว่างจากตัวของเด็กมนุษย์ตัวน้อยคนนี้! ทำไมพลังแห่งสัจธรรมสองธาตุที่ทรงพลังถึงได้มีอยู่ในร่างของมนุษย์เพียงคนเดียวได้?
ตั้งแต่ครั้นเกิดศึกเทพอสูร ‘ลู่เหยียนชา’และพรรคพวกก็เข้าสู่การบำเพ็ญตบะเพื่อฝึกฝนวิชา โดยพยายามที่จะสัมผัสการเข้าถึงพลังแห่งสัจธรรมอีกทั้งการพยายามที่จะดึงเอาพลังแห่งสัจธรรมมาจากเทพของเหล่ามนุษย์
หากพวกเขามัวแต่หมกมุ่นกับการฝึกฝน พวกเขาก็คงจะไม่ประมาทปล่อยให้’ยู่หยาน’หลบหนีออกมาได้
ถึงอย่างนั้น ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามสักเท่าไหร่ ก็ยังยากที่จะได้พลังแห่งสัจธรรมมาครอบครอง แม้ว่าจะตั้งใจฝึกฝนมาอย่างยาวนานหลายปี พวกเขาก็ทำได้เพียงแค่ถึงหน้าประตูสู่พลังแห่งสัจธรรมเท่านั้น
เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่ามนุษย์อย่าง’เนี่ยหลี่’จะสามารถเอาพลังแห่งสัจธรรมทั้งสองมาไว้ในมือได้แถมยังเป็นเด็กอีกต่างหาก
ทั้งๆที่พลังแห่งสัจธรรมธาตุแสงสว่างและความมืดทั้งสองพลังนั้น เป็นสิ่งที่พวกเขาต่างก็เฝ้าปรารถนาที่จะได้มันมาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน!
สิ่งที่พวกเขาไม่อาจจะได้มาแต่เจ้าเด็กคนนี้กลับได้มันไป ไม่ใช่เพียงธาตุเดียวแต่เป็นถึงสองธาตุ มันเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้เด็ดขาด!
อ๊ากกกกกก!
นัยน์ตาทั้งสองข้างของเขากลายเป็นสีแดงด้วยความโกรธขณะที่ปล่อยหมัดไปที่’เนี่ยหลี่’
แต่หลังจาก’เนี่ยหลี่’รวมร่างเพื่อกลายเป็นแพนด้าเขี้ยวอสูร ร่างกายของเขาก็แข็งแกร่งและมีขนาดใหญ่ขึ้นบัดนี้เขาไม่ได้ดูงุ่มง่ามหรืองี่เง่าอีกแล้ว เขาสร้างสนามพลังแรงโน้มถ่วงที่’ลู่เหยียนชา’และหลบการโจมตี
“ตูมม!”
หมัดของ’ลู่เหยียนชา’ก็พลาดเป้าและทรุดลงไปกองที่พื้น เหตุการณ์นี้ทำให้บริเวณนี้เต็มไปด้วยฝุ่นและเป็นหลุมลึกลงไป
เมื่อ’ลู่เหยียนชา’พลาด เขายังไม่ทันที่จะได้ขยับตัวเสียด้วยซ้ำ ‘เนี่ยหลี่’ก็อ้าปากและปล่อยระเบิดหยินหยางไปที่เขาทันที ในเวลานั้น
‘ยู่หยาน’เองก็ไม่ลังเลที่จะลงมือนางสร้างลูกไฟขึ้นมาและซัดเข้าไปที่’ลู่เหยียนชา’ อีกทั้งเพื่อปิดทางหนีของเขาเองไว้เมื่อระเบิดหยินหยางและเพลิงสังหารของยู่หยานโดนตัวของเขา แต่นั่นเป็นร่างเงาที่เป็นภาพติดตาของเขาและพุ่งทะลุผ่านระเบิดหยินหยางออกมา เขาหลบออกมาและพุ่งไปหา’เนี่ยหลี่’ทันที
ดูท่า ‘ลู่เหยียนชา’ จะไม่มีท่าลับที่ทรงพลังโดยใช้จากระยะไกลอยู่เลย แต่ถึงอย่างนั้น ร่างกายของเขามีสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่มากมายและความเร็วของเขาก็ดุจดั่งสายฟ้า
ตูม!..ตูม!..ตูม!
‘เนี่ยหลี่’ ‘ยู่หยาน’และ’ลู่เหยียนชา’กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด แม้ว่าระดับพลังของ’เนี่ยหลี่’จะเป็นรอง แต่เขาก็ยังมีประสบการณ์การต่อสู้ที่มากมายนับไม่ถ้วนและความฉลาดหลักแหลมของเขา สิ่งเหล่านี้ทำให้’เนี่ยหลี่’มีทักษะการต่อสู้และวิธีรับมือกับการต่อสู้แม้ว่าคู่ต่อสู้จะมีระดับต่างกันมากก็ตาม
‘เอี้ยจื่ออวิ้น’ ‘เซี่ยวหนิงเอ๋อ’และคนอื่นๆได้แต่อยู่อยู่ห่างๆ พวกเขาต่างก็รู้ตัวว่าพวกเขานั้นไม่อาจจะที่จะเข้าไปร่วมต่อสู้ที่ดุเดือดเช่นนี้ได้
แม้กระทั้งยอดฝีมือระดับตำนาน 1 ดาวทั้งสองคนที่เป็นรอง’ลั่วหมิง’นั้นก็ไม่สามารถที่จะเข้าไปในการประมือครั้งนี้ได้เลย อย่าว่าแต่พวกของ’เนี่ยหลี่’เลย กระทั่งระดับตำนานสองคนนั้นก็รู้สึกอิจฉา’เนี่ยหลี่’อยู่ในใจ พวกเขาก็ได้แต่ช่วยส่งผ่านพลังวิญญาณให้กับ’เนี่ยหลี่’ผ่านการผสานจิต
ขอบเขตวิญญาณของ’เนี่ยหลี่’ก็เพิ่มขึ้นมาหลายเท่าตัว ซึ่งนั้นก็ทำให้เขาไม่อาจที่จะทนเก็บมันเอาไว้ได้นาน
แต่กระนั้น ‘ลู่เหยียนชา’เองก็เป็นถึงขั้นสุดยอดของระดับตำนาน!
ทั้งความเร็วและร่างกายที่แข็งแกร่งของของ’ลู่เหยียนชา’นั้นก็ทำ’เนี่ยหลี่’ถึงกับตกตะลึงเลยทีเดียว
การจู่โจมของเขาโดนร่างของ’ลู่เหยียนชา’หลายต่อหลายครั้งแต่มันไม่ได้มีรอยขีดข่วนเลยจากการโจมตีมาปรากฎบนร่างกายของเขายิ่งไปกว่านั้น ‘ลู่เหยียนชา’ไม่หวั่นแม้จะต้องเจอกับระเบิดพลังหยินหยางเลยสักนิด แม้ว่ามันจะเต็มไปด้วยพลังจากธาตุแห่งความมืดและแสงอยู่ด้วยทั้งสองพลังก็ตาม
นั่นก็เพราะการหมุนของพลังหยินหยางนั้นอ่านทางได้ง่าย ซึ่งนั่นทำให้ที่จะโดนตัวของ’ลู่เหยียนชา’ได้นั้นไม่ง่ายเลยสักนิด
“ยู่หยาน นางแพศยา ดูซิว่าเจ้าจะหนีไปไหนพ้น!”
‘ลู่เหยียนชา’ใช้มืออันใหญ่โตซัดไปที่ยู่หยาน
ตูม!…ตูม!…ตูม!
‘ยู่หยาน’พ่นลมหายใจออกมาและขมวดคิ้วเข้าหากัน โดยขณะนั้นนางก็สร้างดาบเปลวอัคคีและโจมตีใส่’ลู่เหยียนชา’ ทำให้เขาต้องถอยกรูดออกมาจากดาบเปลวอัคคีและมันก็ได้สร้างบาดแผลบนร่างกายของเขาได้ด้วย
‘ลู่เหยียนชา’ถึงกับคำรามออกมาอย่างบ้าคลั่งแล้วร่างของเขาก็ค่อยๆเปลี่ยนไปจนได้กลายเป็นสัตว์ขนาดยักษ์ ที่ผิวของมันหนาและปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง เหมือนกับสัตว์น้ำขนาดใหญ่ที่มีแขนขางอกออกมา ทันใดนั้นมือซ้ายของมันก็สร้างพลังไร้ลักษณ์ออกมาแล้วพุ่งไปที่’ยู่หยาน’
ฟุบ!…ฟุบ!…ฟุบ!
พลังที่ล่องหนนั่นก็รัดร่างของ’ยู่หยาน’เอาไว้ นั่นทำให้ร่างของนางเกิดบาดแผลขึ้นมากมาย
สีหน้าของ’ยู่หยาน’เต็มไปด้วยความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้นางกรีดร้องออกมา นางพยายามที่จะดิ้นรนหาทางทำลายพลังนี้ออกมา แต่นางก็ไม่สามารถทำได้ด้วยตัวคนเดียว นั่นเพราะนางเพิ่งจะฟื้นฟูพลังของนางมาได้เพียงระดับตำนาน 3 ดาวเท่านั้น เมื่อเปรียบเทียบกับพลังของ’ลู่เหยียน’ชาแล้ว มันช่างต่างกันราวฟ้ากับเหว
“ฮือ…เจ้าพยายามที่จะหนีออกมางั้นเรอะ? ฝันไปเถอะ! ยู่หยาน ถ้าเจ้ายอมจำนนเสียแต่โดยดี ข้าไม่ทำให้ร่างของเจ้าเสียหาย ไม่อย่างงั้น ข้าจะทำให้ผลึกเซียนของเจ้าแตกออกเป็นเสี่ยงๆอีกครั้ง!”
‘ลู่เหยียนชา’หัวเราะออกมาอย่างโหดหี้ยม ยิ่งเขาควบคุมมากเท่าไหร่พลังไร้ลักษณ์นี้ก็ยิ่งรัดยู่หยานแน่มากยิ่งขึ้น
จนกระทั่งเขาบีบนางจนเกือบจะตายอยู่แล้ว
“เนี่ยหลี่ หนีไป เร็วเข้า!”
‘ยู่หยาน’พูดออกมาอย่างกระวนกระวายและเตรียมที่จะปลดปล่อยพลังชีวิตของนางออกมา
“ไอ้ชั่ว เอาอาวุธลับของข้าไปกินซะ!”
‘เนี่ยหลี่’โบกมือออกมาเล็กน้อยแล้วระเบิดมังกรสังหารสองลูกก็ถูกยิงไปที่หัวและท้องของลู่เหยียนชา
เมื่อได้เห็นลูกบอลกลมสองลูกยิงมาที่เขา ‘ลู่เหยียนชา’ก็ถึงกับหัวเราะออกมาอย่างใจเย็นแล้วคว้าทั้งสองลูกนั้นเอาไว้ ระเบิดมังกรสังหารทั้งสองลูกตอนนี้ได้ไปอยู่ในมือขวาของเขาแล้ว
“ฮ่าๆ แค่ลูกเหล็กกลมๆสองลูกที่เจ้ายิงออกมานี่มันคงจะไม่ใช่ของเด็กเล่นหรอกนะ..ใช่มั้ย? เจ้าจะทำร้ายข้าด้วยของพรรคนี้เนี่ยนะ? ช่างน่าขันสิ้นดี!”
‘ลู่เหยียนชา’หวเราะออกมาดังลั่นเพื่อเยาะเย้ย’เนี่ยหลี่’
‘เนี่ยหลี่’ยิ้มออกมาอย่างใจเย็น ระเบิดมังกรสังหารนั้นมันไม่ได้เป็นเพียงลูกบอลเหล็กธรรมดาเท่านั้น ในนั้นมีผลึกวิญญาณมังกรและมีพลังแห่งสัจธรรมแห่งความมืดและแสงอัดแน่นอยู่ในนั้น! ก่อนที่’ลู่เหยียนชา’จะได้หยุดหัวเราะ ก็เกิดการระเบิดที่น่ากลัวขึ้นที่มือของเขา
พลังอันน่ากลัวนี้ได้ดูดกลืนและเผาทำลายมือขวาของ’ลู่เหยียนชา’ไปด้วย
“อ๊ากกกกกกก!”
‘ลู่เหยียนชา’ได้กรีดร้องโหยหวนออกมาเพราะมือขวาของเขานั้นแทบไม่เหลือชิ้นดีอยู่เลยจากพลังอันน่าเกรงขามซึ่งเป็นผลมาจากระเบิดมังกรสังหารนั่นเอง เขาถึงกลับกระเด็นไปด้านหลังเพราะแรงระเบิดและร่างอันใหญ่โตของเขาก็ล้มลง
ขณะที่เกิดการระเบิด ‘ยู่หยาน’ก็หนีออกมาได้สำเร็จและได้โล่เพลิงมาป้องกันตัวเองเอาไว้ทันที
เมื่อนางได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น นางก็ถึงกับอึ้งไปเลยทีเดียว นางจำได้ว่า’เนี่ยหลี่’เคยพูดถึงระเบิดมังกรสังหาร แต่ตอนนั้นนางก็ไม่ได้ใส่ใจมันสักเท่าไหร่
แต่หลังจากเหตุการณ์ที่น่าสะพรึงกลัวในวันนี้ นางไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าระเบิดมังกรสังหารนี้จะน่ากลัวและน่าสยดสยองโดยที่มีพลังทำรายล้างมากถึงขนาดนี้!
ผู้แปล
ที่มา: