I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Tales of Demons & Gods (妖神记) ตอนที่ 226 ศัตรูที่คาดไม่ถึง

| Tales of Demons & Gods (妖神记) | 21030 | 2529 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

มังกรซอมบี้เจียวหลงแข็งแกร่งขนาดนั้นเลยเหรอ?

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมทุกคนต่างตกใจกับการปรากฏตัวของมัน ทั้งเจ้ามังกรซอมบี้-เจียวหลงตัวตรงหน้านี้นั้น
ยังแตกต่างจากตัวอื่นๆอีก คือมันมีเม็ดมุกประหลาดสีชาดที่ล่อทุกสายตาให้จับจ้องอย่างช่วยไม่ได้

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

ร่างทั้งหกร่างทะยานขึ้นมาเหนือผิวน้ำแล้วเข้าโรมรันกับมังกรซอมบี้เจียวหลง

ยิ่งอยู่มานานเท่าไหร่ เจ้ามังกรซอมบี้เจียวหลงก็ยิ่งแข็งแกร่งมากเท่านั้น ขนาด’เนี่ยหลี’ยังบอกไม่ได้เลยว่าเจ้ามังกรตัวนี้อยู่มาเท่าไหร่แล้ว แต่เมื่อวิเคราะห์ดูจากพลังของมันแล้ว มันน่าจะยังไม่แข็งแกร่งถึงขั้นเซียน ไม่งั้นพวกคนทั้งหกคนนั้นได้ตายไปแล้วแน่ๆ

บุคคลทั้งหกที่กำลังสู้กับมังกรซอมบี้เจียวหลงตอนนี้นั้น ต่างก็เป็นสมาชิกรุ่นใหม่มากพรสวรรค์จากตระกูลใหญ่ๆทั้งนั้น พวกเขาต่างมั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเองและไม่กลัวเจ้ามังกรซอมบี้เจียวหลงเลยสักนิด

บู้ม! บู้ม! บู้ม!

ทั้งหกคนต่างพัวพันกับเจ้ามังกรซอมบี้ไม่ยอมปล่อยให้มันไปไหน แถมแต่ละคนยังรอจังหวะฉวยเอาเม็ดมุกบนหน้าผากเจ้ามังกรอยู่ทุกเวลา

‘เนี่ยหลี’อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียดายเจ้ามุกสีแดง ถึงเขาจะไม่แน่ใจว่ามันจะใช่มุกที่เกิดจากธรรมชาติไหม แต่เมื่อดูจากพลังอันบริสุทธิ์ที่มันปล่อยออกมา ‘เนี่ยหลี’ก็มันใจได้เลยว่ามันจะต้องเป็นสิ่งล้ำค่ามากแน่ๆ

“เนี่ยหลี เจ้ามุกเม็ดสีแดงนั่นมันคืออะไร”

‘เอียจื้ออวิ้น’ถามด้วยความสงสัย ในใจเธอตอนนี้อยากรู้มากว่ามันคืออะไร

“ข้าก็ไม่ทราบ”

‘เนี่ยหลี’ส่ายหน้ากล่าว

พอได้ยิน’เนี่ยหลี’ตอบ ตาของ’เอียจื้ออวิ้น’ก็ฉายแววตาประหลาดใจออกมา ยังมีสิ่งล่ำค่าที่แม้แต่’เนี่ยหลี’ก็ไม่รู้อยู่ด้วยงั้นเหรอ? ในความคิดของเธอนั้น เธอคิดว่า’เนี่ยหลี’นั้นรู้ไปหมดทุกอย่าง

เห็นอาการของ’เอียจื้ออวิ้น’ ‘เนี่ยหลี’ก็พอจะเดาออกว่าเธอกำลังคิดอะไร เขายืดแขนคลายกล้ามเนื้อพร้อมทั้งยิ้มเจื่อนๆให้อีกฝ่าย ก็นะ เขาไม่ใช่พระเจ้านี่ที่จะได้รู้ไปหมดทุกอย่าง ในโลกใบนี้ยังมีอีกหลายสิ่งที่เขายังไม่รู้

ทันใดนั้น เจ้ามังกรซอมบี้เจียวหลงก็ได้แผดเสียงคำรามขึ้นฟ้า พร้อมๆกับที่มีลูกพลังน้ำพุ่งออกจากปากมัน ลูกพลังก้อนนี้พุ่งใส่พื้นที่ๆหนึ่งก่อนจะระเบิดอย่างรุนแรง สะเก็ดน้ำขนาดใหญ่สาดกระเซ็นไปทั่ว ซึ่งหากสะเก็ดน้ำไปสัมผัสถูกผิวใครเข้า ผิวคนนั้นก็จะเปื่อยยุ่ยทันทีพร้อมกับมีควันเหม็นโชยออกมา

“อ๊ากกกกกกกก!”

คนที่ถูกสะเก็ดน้ำนี้ต่างกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด

และเมื่อสะเก็ดน้ำนี้กระเซ็นมาหา’เนี่ยหลี’และ’เอียจื้ออวิ้น’

“ระวัง!”

‘เนี่ยหลี’อุทานเตือนพร้อมกับผลัก’เอียจื้ออวิ้น’ให้พ้นทาง ส่วนมือซ้ายเขาก็หยิบหินบาเรียศักดิ์สิทธิ์มาเรียกใช้งาน

บู้มมม!

ลูกสะเก็ดน้ำกรดระเบิดใส่ทั้ง’เนี่ยหลี’และ’เอียจื้ออวิ้น’พื้นดินบริเวณที่ทั้งสองเคยอยู่ถูกละลายกลายเป็นหลุมด้วยพิษของสะเก็ดน้ำ
แต่เป็นเพราะ’เนี่ยหลี’ใช้หินบาเรียศักดิ์สิทธิ์และหลบออกมาได้ทันทำให้เขาไม่เป็นอะไร ทว่าหากใช้บาเรียจากหินศักดิ์สิทธิ์มารับตรงๆละก็ คาดว่าบาเรียคงจะต้านเอาไว้ไม่ได้

‘เนี่ยหลี’กับ’เอียจื้ออวิ้น’ร่วงลงมาในหลุมใกล้ๆ กลิ่นสาบสาวส่งกลิ่นหอมลอยออกมาให้’เนี่ยหลี’ดอมดมอย่างไม่ตั้งใจ มือของ’เนี่ยหลี’ตะปบเข้ากับอะไรบางอย่างที่นุ่มนิ่มชวนสัมผัสจนแม้แต่จิตใต้สำนึกของเนี่ยหลียังสั่งออกมาว่า ‘บีบซะ’ และผลที่ตอบรับกลับมาก็คือความรู้สึกที่นุ่มนิ่มและรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก

ทั้งกลิ่นผมของ’เอียจื้ออวิ้น’ก็ทำให้เนี่ยหลีรู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูก

และก่อนที่’เอียจื้ออวิ้น’จะได้ทันตกใจที่พวกตนตกลงมาในหลุม เธอก็ตกใจเข้ากับการที่มี’เนี่ยหลี’ทับอยู่บนร่างกายเสียก่อน น้ำหนักของอีกฝ่ายทำให้เธอหายใจไม่ค่อยออก และพอเธอรู้สึกถึงสัมผัสแปลกๆบนหน้าอก หน้าเนียนขาวของเธอก็แดงขึ้นมาทันที

“เจ้า…ลุกเลย!”

ก่อนหน้านี้ ครั้งหนึ่งเธอเคยคิดว่าสิ่งเดียวที่จะตอบแทน’เนี่ยหลี’จากการช่วยพ่อของเธอได้ก็คือร่างกายของเธอเอง แต่พอมาตอนนี้เธอจึงรู้แล้วว่า พอมันจะเกิดขึ้นจริงๆเธอกลับยังไม่พร้อมและยังรู้สึกแปลกๆอยู่ ผิดกับ’หนิงเอ๋อ’ ‘เนี่ยหลี’ชวนเข้าห้องนี่จะเขินนิดหน่อยแล้วเดินตามต้อยๆ 55

พอเห็นปฏิกิริยาของ’เอียจื้ออวิ้น’ ‘เนี่ยหลี’ก็รีบลุกขึ้นทันทีก่อนจะปีนกลับขึ้นไปพลางแก้ตัวว่า

“อุบัติเหตุ มันเป็นอุบัติเหตุ…”

‘เอียจื้ออวิ้น’ลุกขึ้นทั้งๆที่ยังหน้าแดงก่อนจะพูดเสียงค่อยว่า

“อะ..อือ!”

พอเห็นท่าทางขวยเขินของ’เอียจื้ออวิ้น’ ในใจของ’เนี่ยหลี’ก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจ เขายื่นมือออกไปช่วยรับ’เอียจื้ออวิ้น’ขึ้นมาแล้วเอ่ยว่า

“สะเก็ดน้ำจากมังกรซอมบี้เจียวหลงนั้นมีฤทธิ์เป็นกรด เจ้าต้องระวังตัวให้มากๆนะ”

‘เอียจื้ออวิ้น’ทอดสายตามองไปรอบๆ รอบข้างของเธอตอนนี้นั้นเต็มไปด้วยบ่อหลุมที่เกิดจากลูกสะเก็ดน้ำนั่น พอเห็นแบบนี้เธอก็อดไม่ได้ที่จะโล่งใจ

‘เนี่ยหลี’เดินนำ’เอียจื้ออวิ้น’กลับไปดูสถานการณ์ ตอนนี้การต่อสู้ของ’ชางหมิง’ ‘มู่เย่’ และอีกสี่คนกับเจ้ามังกรซอมบี้เจียวหลงนั้นยิ่งดุเดือดมากกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว

บู้ม!

‘ชางหมิง’ชกหมัดรัวใส่เจ้ามังกรด้วยหมัดเปล่าๆที่เปลื้อนเลือดเต็มไปหมด ทำให้เจ้ามังกรร้องด้วยความเจ็บปวด เจ้ามังกรสะบัดหางไปมาจนปะทะเข้ากับชายหนุ่มคนหนึ่งเข้า ร่างของชายหนุ่มถูกผลักกระเด็นไปไกลพร้อมกับกระอักเลือดออกมาคำโต

‘ชางหมิง’ทำเพียงแค่เหลือบมองเจ้าหนุ่มนั้นแวบนึง ถึงแม้พวกเขาจะร่วมมือกันจนถึงเมื่อครู่นี้ แต่ตามจริงพวกเขาก็ยังเป็นศัตรูกันอยู่
ซึ่งต่อให้เจ้าพวกนั้นตาย’ชางหมิง’ก็ไม่ได้สนใจอะไรมันอยู่แล้ว

พอได้ยินเสียงร้องของมังกรซอมบี้เจียวหลง ‘เนี่ยหลี’ก็คิดในใจว่า ‘ดูท่าว่าเจ้ามังกรซอมบี้เจียวหลงจะทนได้อีกไม่นานสินะ ถึงเจ้ามังกรตัวนี้จะแข็งแกร่งมากแต่ก็คงยังไม่ใช่คู่มือของนักสู้ระดับตำนานที่รวมมือกันสู้’

“ก๊าซซซซ ซซซ ซ!”

จู่ๆมุกสีชาดบนหน้าผากของเจ้ามังกรก็เรืองแสงออกมาอาบทั่วร่างเจ้ามังกรไว้ก่อนจะเผยให้เห็นร่างใหม่ของมัน หนวดคู่หนึ่งงอกยาวออกมาจากมุมปากของมัน เกล็ดเปลี่ยนกลายเป็นสีแดงชาด

ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ!

หางของมันสะบัดฟาดใส่นักสู้อีกสองคน  ส่งให้พวกนั้นกระเด็นหลุดออกมาจากวงต่อสู้

เจอแบบนี้ทั้ง’ชางหมิง’และ’มู่เย่’ก็ถอยออกมาตั้งหลักก่อน

“ใครจะไปรู้วะว่าเจ้ามุกสีแดงนั่นจะทำให้มังกรบ้านนั่นเลื่อนระดับขึ้นได้แบบนี้ ต่อจากนี้คงจะสู้ยากขึ้นล่ะนะ!”

‘เนี่ยหลี’นั้นทำเพียงแต่ยืนดูอยู่ห่างๆ ถึงแม้ว่ามุกสีชาดนั้นน่าจะมีมูลค่ามหาศาลก็เถอะ แต่หากเขาพลาดเขาต้องตกตายอย่างแน่นอน เพราะงั้นถ้าไม่เสี่ยงจะดีที่สุด

ทันใดนั้น ‘เนี่ยหลี’ก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสพลังที่คุ้นเคย ‘เนี่ยหลี’มองไปทางฝูงชนแล้วก็พบกับใครคนหนึ่งเข้า…เจ้านั่นคือ’เอียฮั่น’ใช่ไหม?

‘เอียฮั่น’กำลังยืนอยู่กับคนของตระกูลหวู่กุ้ยและกำลังชมการต่อสู้จากระยะไกล

เห็น’เนี่ยหลี’กำลังจ้องบางอย่างด้วยสายตาแปลกๆ ‘เอียจื้ออวิ้น’จึงมองตามทิศที่’เนี่ยหลี’ทอดไป และพอเธอเห็น’เอียฮั่น’ ในใจเธอก็ขุ่นเคืองขึ้นมาทันที …เป็นเพราะ’เอียฮั่น’ เธอจึงเกือบเสียพ่อไป กับ’เอียฮั่น’แล้ว สิ่งที่เธอมีให้มีแค่ความเกลียดชังและเดือดดาล

หลังจากรู้สึกว่ามีใครกำลังมองอยู่ ‘เอียฮั่น’จึงมองไปยังทิศนั้น และเมื่อเขาพบ’เนี่ยหลี’และ’เอียจื้ออวิ้น’ แววตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที พวกนั้นคือ’เนี่ยหลี’และ’เอียจื้ออวิ้น’จริงๆ… เป็นเพราะ’เนี่ยหลี’ ที่ทำให้เขาต้องเสียทุกสิ่งทุกอย่าง และต้องหนีหัวซุกหัวซุนอย่างหมาจนตรอก และยิ่งเห็นว่า’เอียจื้ออวิ้น’อยู่ด้วยกันกับ’เนี่ยหลี’ ในใจของ’เอียฮั่น’ก็เต็มไปด้วยไฟแค้น

“ถ้าพวกเจ้าคิดจะมาตายกันที่นี่เอง อย่าหาว่าข้าผิดล่ะ!”

‘เอียฮั่น’กำหมัดแน่นจนมีเสียงกระดูกกระทบกัน

ตอนนี้คนของตระกูลหหวู่กุ้ยที่ยืนกับ’เอียฮั่น’มีกันประมาณยี่สิบคน คนที่อยู่หน้าสุดเป็นชายหนุ่มหุ่นล่ำที่สวมเซตชุดเกราะสีเงินและแบกดาบใหญ่สีเงินวาวไว้อยู่ ออร่าอันตรายถูกแผ่ออกมาจากตัวเขาตลอดเวลา

‘เอียฮั่น’กระซิบข้างหูชายคนนั้นว่า

“นายน้อยหวู่หยูสองคนนั้นเป็นคนเมืองกลอรี่!”

‘หวู่หยู’เหลือบไปมอง’เนี่ยหลี’และ’เอียจื้ออวิ้น’ ก่อนจะหรี่ตามอง’เอียจื้ออวิ้น’ให้ชัดๆ จนเมื่อเห็นใบหน้าของ’เอียจื้ออวิ้น’ชัดๆแล้ว
ตาของเขาก็ฉายแววสนใจ ในทุกๆเผ่าพันธุ์ มนุษย์นั้นเป็นเผ่าที่เพศหญิงสวยที่สุดแล้ว ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะยังเด็กแต่หากโตกว่านี้อีกหน่อยจะต้องสวยจนหาใครเปรียบได้ยากแน่ๆ

“มาจากเมืองกลอรี่เหรอพวกมันแข็งแกร่งระดับไหน”

‘หวู่หยู’ถาม’เอียฮั่น’

“ตามที่ข้าจำได้ทั้งสองนั้นน่าจะยังอยู่เพียงแค่ระดับทองเท่านั้น”

‘เอียฮั่น’กล่าวหลังจากหยุดคิดชั่วครู่ในวันที่เขาหลบหนีจากเมืองกลอรี่นั้น ทั้ง’เนี่ยหลี’และ’เอียจื้ออวิ้น’ยังอยู่เพียงระดับทองเท่านั้น

“ไร้สาระ หากพวกมันยังอยู่เพียงระดับทอง คิดเหรอว่าพวกมันจะกล้าเข้ามาเหยียบดินแดนมรณะเก้าชั้น?”

‘หวู่หยู’เอ็ด

พอได้ฟังหวู่หยูกล่าว ‘เอียฮั่น’ก็หน้าเจื่อนทันที มันก็จริงล่ะนะที่คงไม่มีใครที่อยู่ระดับทองจะกล้าเข้ามาป้วนเปี้ยนในแดนมรณะเก้าชั้นนี้ เป็นไปได้ไหมว่าพวกนั้นจะเลยระดับทองมาแล้ว? …เป็นไปไม่ได้… ถึงจะมีอัตราการฝึกฝนที่รวดเร็วมากขนาดไหน แต่ก็ไม่น่าจะเร็วได้ขนาดนี้ อัตราการฝึกรวดเร็วขนาดนั้นไม่มีทางเกิดขึ้นได้แน่ๆ!

“เป็นไปได้ว่าทั้งสองถูกใครพามาด้วย แต่ภายหลังอาจจะหลงกันก็ได้…”

‘เอียฮั่น’ตอบกลับหลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาไม่เชื่อแน่ๆว่าทั้ง’เนี่ยหลี’และ’เอียจื้ออวิ้น’จะฝึกได้รวดเร็วจนเขาตามไม่ทันแม้แต่ฝุ่น

‘หวู่หยู’ฟังแล้วคิดตาม ก่อนจะส่งคนไปหา’เนี่ยหลี’และ’เอียจื้ออวิ้น’

“เนี่ยหลี พวกนั้นมาแล้ว”

‘เอียจื้ออวิ้น’เพ่งมองพวกนั้นอย่างใจจดใจจ่อ มือขวาของเธอกำอัญมณีจิตวิญญาณน้ำแข็งไว้แน่น เตรียมพร้อมที่จะต่อสู้ ด้วยระดับขั้นของเธอ เธอสามารถใช้พลังของอัญมณีจิตวิญญาณน้ำแข็งได้อย่างเต็มที่ และนั่นทำให้ความสามารถของเธอเพิ่มขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว

ตรงกันข้ามกับ’เอียจื้ออวิ้น’ ตัว’เนี่ยหลี’นั้นยังคงสงบและก้าวเท้าเดินไปหานักสู้จากตระกูลหหวู่กุ้ย เขาไม่กลัวเจ้า’เอียฮั่น’นั่นหรอก จะกลัวก็แต่ว่ามันจะวิ่งหนีหางจุกตูดเสียมากกว่า ถ้าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น เขาคงจะหัวเสียมากแน่ๆ

พอเห็นท่าทางของ’เนี่ยหลี’ ตาของ’หวู่หยู’ก็หรี่ลงเล็กน้อย เขาสัมผัสได้ว่า’เนี่ยหลี’นั้นอยู่เพียงระดับแบล็คโกลด์เท่านั้น แล้วเจ้าแบล็คโกลด์นั่นจะทำอะไรพวกตนที่มีพวกมากกว่าได้?  มันไปเอาความมั่นใจผิดๆแบบนี้มาจากไหน?

“เอียฮั่น ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะกล้ามายืนโชวหราให้ข้าเห็นตัวแบบนี้ วันนี้ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปแน่จนกว่าข้าจะได้คิดบัญชีกับเจ้า!” เนี่ยหลีจ้องเขม็งไปที่เอียฮั่น ไอ้คนทรยศ! คนที่กล้ากบฏเมืองกลอรี่ที่เขารัก มันต้องถูกเขาสั่งสอนด้วยตัวเอง!!!

“เนี่ยหลี แกมันโอหังเกินไปแล้ว นี่แกคิดว่าตัวเองเป็นใครกันห้ะ? ที่นี่คือดินแดนใต้พิภพนะไม่ใช่เมืองกลอรี่! แล้วเมื่อกี้แกพูดว่าจะสั่งสอนใครกัน…หา!”

‘เอียฮั่น’แค่นเสียงใส่’เนี่ยหลี’ด้วยความเดือดดาล

‘หวู่หยู’ยืนกอดอกจ้องไปทาง’เนี่ยหลี’

“เจ้าหนู เจ้าช่างกล้ายิ่งนัก! ต่อหน้าข้า ‘หวู่หยู’ เจ้ายังกล้าทำตัวโอหังอีก หากเจ้ายอมก้มหัวให้ข้า ข้าอาจจะใจดีปล่อยเจ้าไป แต่หากเจ้ายังทำตัวกร่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูงแบบนี้ต่อไป อย่ามาตำหนิทีหลังว่าข้าโหดเกินไปล่ะ!”

‘เนี่ยหลี’เหลือบสายตาไปมอง’หวู่หยู’และพรรคพวก เขาระบายยิ้มแล้วกล่าวว่า

“ถ้าพวกเจ้ายอมปล่อยเอียฮั่นมาให้ข้า เรื่องนี้ก็จะจบกันไป แต่หากปฏิเสธ…ถ้าข้าทำอะไรลงไปอย่ามาว่าข้าทีหลังล่ะ! ”

พอเห็นสายตาและคำพูด’เนี่ยหลี’ ‘หวู่หยู’ก็รู้สึกรำคาญขึ้นมาตะหงิดๆ เจ้าบ้านี่มันไปกินอะไรผิดสำแดงมารึเปล่าถึงได้หาญกล้ามาทำตัวกร่างแบบนี้

ในกลุ่มของ’หวู่หยู’นั้นทุกคนต่างอยู่ระดับแบล็คโกลด์กันหมดแล้ว แถมยังมีอีกสองคนที่อยู่ระดับตำนานแล้วเจ้าเด็กบ้านี่มีดีอะไรถึงได้กล้ามาทำตัวกร่างแบบนี้?…

 

จบตอน

แปลโดย

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments