ตอนที่แล้วตอนต่อไป‘หวู่หยู’แค่นเสียงเย็นชาใส่กับการกระทำที่ดูไร้สติของ’เนี่ยหลี’ เขาค่อยๆวาดมือสั่งลูกน้องสามคนให้ไปจัดการ’เนี่ยหลี’
‘เนี่ยหลี’คำรามลั่นพร้อมประสานร่างกับแพนด้าเขี้ยวอสูร
ทางด้าน’เอียจื้ออวิ้น’เธอก็ใช้อัญมณีจิตวิญญาณพายุหิมะในมือและทำการประสานร่างกับราชินีน้ำแข็งทันที
หลังทำการประสานร่าง ตัวเธอนั้นก็ดูราวกับเป็นเทพธิดาที่ลงมาจากสรวงสวรรค์ก็มิปาน ลิ่มน้ำแข็งจำนวนมากผุดขึ้นล้อมรอบกาย ทำให้เธอยิ่งดูน่าเกรงขามและสูงส่งมากขึ้น
หลังจาก’เนี่ยหลี’และ’เอียจื้ออวิ้น’ประสานร่างจิตอสูร ทั้ง’หวู่หยู’และลูกน้องก็แสดงสีหน้าตกใจออกมา ตอนแรกพวกเขาคิดว่าทั้งสองคนนี้อย่างมากก็อยู่เพียงแค่ระดับหนึ่งถึงสองดาวแบล็คโกลด์เท่านั้น ทว่าเมื่อทั้งสองประสานร่างกับจิตอสูร คลื่นพลังที่ทั้งสองแผ่ออกมานั้นกลับมากถึงระดับสี่ถึงห้าดาวแบล็คโกลด์
“เป็นพวกที่มีจิตอสูรไว้ผสานร่างจริงๆสินะ…”
‘หวู่หยู’บ่น แต่มันจะมีความหมายอะไร? ในเมื่อทั้งสองคนนั้นยังอยู่เพียงระดับสี่ระดับห้าแบล็คโกลด์เท่านั้น เพราะพวกเขามีถึงระดับตำนานตั้งสองคน!
“ย๊าก!”
เนี่ยหลีสะบัดมือฟาดกำปั้นใส่หนึ่งในนักสู้ระดับแบล็คโกลด์ที่ถูก’หวู่หยู’อยู่ส่งมา กำปั้นของ’เนี่ยหลี’อาบไปด้วยพลังที่ยากจะคาดเดา
“ฮึ่ม!”
นักสู้ระดับแบล็คโกลด์ระเบิดพลังออกมาพร้อมทั้งคิดว่าจะถอยออกมาตั้งหลักก่อนและค่อยสวนกลับไปใหม่
ทว่ายังไม่ทันที่จะได้ทำตามความคิดของตน จู่ๆร่างของนักสู้คนนั้นก็รู้สึกหนักขึ้น การเคลื่อนไหวของเขาดูหน่วงๆไม่รวดเร็วเหมือนปกติ และจู่ๆก็มีน้ำแข็งโผล่ออกมาแช่ขาเขาไว้ทำให้เขาขยับไม่ได้
ตู้ม!
หมัดของ’เนี่ยหลี’ชกเข้าเต็มๆหน้าของนักสู้คนนั้นส่งผลให้มันตัวปลิวกระเด็นไปไกล
ตุบ! ตุบ! ตุบ!
นักสู้ระดับแบ็คโกลด์คนนั้นกระเด็นตกไปไกลก่อนจะเกลือกกลิ้งไปตามดินและนอนสลบแน่นิ่งไป
‘เนี่ยหลี’เหลือบไปมอง’เอียจื้ออวิ้น’ที่อยู่ทางด้านหลัง เห็นแบบนี้แล้วเขาก็อดยิ้มไม่ได้ ‘เอียจื้ออวิ้น’นั้นเป็นคนฉลาด เพียงแค่เธอเห็นสไตล์การต่อสู้ของเขาตอนประสานร่างกับแพนด้าเขี้ยวอสูร เธอก็สามารถร่วมสู้กับ’เนี่ยหลี’ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เห็นเช่นนั้นนักสู้ระดับแบล็คโกลด์อีกคนก็พุ่งเข้ามาหา’เนี่ยหลี’พร้อมกับง้างดาบขึ้นหวังจะฟาดฟัน แต่ทว่าดาบของมันกลับถูกกำแพงน้ำแข็งที่จู่ๆก็โผล่ขึ้นมาป้องกันไว้ได้ จังหวะนี้’เนี่ยหลี’ก็หมุนตัวกลับพร้อมทั้งอ้าปากปล่อยลูกพลังหยินหยางออกมา ส่งผลให้นักสู้ระดับแบล็คโกลด์คนนั้นปลิวละล่องลอยไปตามแรงระเบิด
เพียงไม่นาน นักสู้ระดับแบล็คโกลด์สองในสามก็ถูกกำจัด ตอนนี้จึงเหลือนักสู้อีกเพียงคนเดียวเท่านั้น ‘เอียจื้ออวิ้น’เห็นแบบนี้ก็ไม่รีรอเรียกลิ่มน้ำแข็งออกไปฝังร่างของมันผู้นั้นทันที
“เก็บยัยผู้หญิงนั่นก่อนเลย!”
‘หวู่หยู’ที่หน้าเริ่มซีดออกคำสั่งกำลูกน้อง ตอนแรกเขากะว่าจะส่งลูกน้องทั้งสามไปลองเชิงดูเท่านั้น เขาไม่คาดคิดเลยว่าทั้ง’เนี่ยหลี’และ’เอียจื้ออวิ้น’จะใจแข็งพอลงมือฆ่าคนพวกนั้นได้ การเคลื่อนไหวของพวกนั้นดูเรียบง่ายและกระชับ ทว่ามันกลับดูน่ากลัวอย่างน่าประหลาด
เดิมที’เนี่ยหลี’นั้นเป็นคนที่มากประสบการณ์ด้านการต่อสู้อยู่แล้ว และพอมี’เอียจื้ออวิ้น’มาร่วมสู้ด้วยแบบเมื่อครู่นี้ ทั้งพวกเขาต่างก็สื่อใจถึงกันได้โดยไม่ต้องปริปาก ทำให้การร่วมมือของพวกเขานั้นแข็งแกร่งกว่าการสู้คนเดียวมากขึ้นหลายเท่าตัว
พอรู้สถานการณ์ เหล่านักสู้ที่อยู่ข้างหลัง’หวู่หยู’ก็พุ่งเข้าจู่โจม’เนี่ยหลี’และ’เอียจื้ออวิ้น’ด้วยจิตอาฆาต
เห็นแบบนี้’เนี่ยหลี’จึงเรียกกาตาร์แฝงวิญญาณขึ้นมาและชูขึ้นตั้งท่ากัน’เอียจื้ออวิ้น’ไว้ ผสานร่างอสูรของ’เนี่ยหลี’นั้นเป็นประเภทนักสู้ตรงๆ
ในขณะที่ของ’เอียจื้ออวิ้น’นั้นเป็นประเภทลมน้ำแข็งที่คอยช่วยจากทางด้านหลังได้ ทำให้เมื่อทั้งสองร่วมมือกันต่อสู้จึงเข้าขากันได้ง่าย และในเมื่อตอนนี้’เนี่ยหลี’ไม่ยอมให้ใครผ่านมาถึงตัว’เอียจื้ออวิ้น’ได้ ทำให้’เอียจื้ออวิ้น’สามารถใช้พลังของเธอได้สะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว
อัญมณีจิตวิญญาณพายุหิมะในมือ’เอียจื้ออวิ้น’ทอแสงประกายขึ้นพร้อมๆกับที่เธอเรียกพายุหิมะที่ร้ายกาจออกมา โดยมี’เนี่ยหลี’ยืนอยู่ใจกลางตาพายุที่ล้อมรอบไปด้วยลมพายุมรณะ
ถึงพายุน้ำแข็งนั้นจะไม่เพียงพอในการขับไล่เหล่านักสู้จากตระกูลหหวู่กุ้ย แต่ก็ทำให้พวกนั้นเคลื่อนไหวได้ยากเย็นยิ่งขึ้น
และเมื่อรวมทั้งพายุน้ำแข็งและพื้นที่แรงโน้มถ่วงของ’เนี่ยหลี’แล้ว ก็สามารถทำให้ประสิทธิภาพในการต่อสู้ของอีกฝ่ายลดลงได้ราวๆยี่สิบเปอร์เซนต์
ฟุบ!
นักสู้สามคนของพวก’วุ่ยกู๋’พุ่งเข้าโจมตีใส่เนี่ยหลีที่อยู่ใจกลางพายุหิมะ ‘เนี่ยหลี’กวัดแกว่งกาตาร์ขึ้นมาและปัดป้องการโจมตีของพวกนั้นทันที
การต่อสู้อันเข้มข้นได้เริ่มต้นขึ้น! แต่ถึงแม้’เนี่ยหลี’จะถูกรุมโจมตีจากรอบด้าน เขาก็ยังคงรักษาความเยือกเย็นไว้ได้ และด้วยประสบการณ์ต่อสู้ที่มากมาย ทำให้เขาสามารถคาดเดาการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย
ในขณะเดียวกัน เหล่านักสู้ของตระกูลห’หวู่กุ้ย’ก็รู้สึกเสียขวัญมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่พวกเขาโจมตีใส่’เนี่ยหลี’ ‘เนี่ยหลี’ก็สามารถดักการเคลื่อนไหวของพวกเขาได้อย่างไม่ยากเย็นทั้งยังอ่านการโจมตีออกอีกด้วยราวกับรู้อนาคต
การเคลื่อนไหวของเขาก็สมบูรณ์แบบเกินไป!
‘เนี่ยหลี’ปัดป้องพวกนักสู้จากตระกูลวุ่ยกู๋ไปเรื่อยๆ ไม่ยอมปล่อยให้ใครเข้าใกล้’เอียจื้ออวิ้น’ได้ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้’เอียจื้ออวิ้น’ที่ยืนอยู่เบื้องหลังของ’เนี่ยหลี’เรียกใช้ลิ่มน้ำแข็งได้อยู่เรื่อยๆ
ตามจริงการโจมตีที่รุนแรงและถี่ขนาดนี้ควรจะสูบพลังผู้ใช้จนแทบไม่เหลือแล้ว แต่ด้วยพลังจากอัญมณีจิตวิญญาณพายุหิมะ ทำให้’เอียจื้ออวิ้น’ดูเหมือนว่าสามารถใช้พลังได้อย่างไร้ที่สิ้นสุด
ภายใต้การโจมตีที่รุนแรงและรวดเร็วราวกับพายุของลิ่มน้ำแข็ง ทุกทิศทางก็เปรอะเปรื้อนไปด้วยเลือดที่สาดกระเซ็น
ถึงแม้จะมีคนตายเพียงสองคน แต่ที่เหลือก็เจ็บหนักเหมือนกัน
“อย่าคิดว่าพวกเจ้าจะเหิมเกริมต่อไปได้นะ พวกเจ้ามันรนหาที่ตาย!”
สองนักสู้ระดับตำนานแห่งตระกูลหหวู่กุ้ยมองหน้ากันก่อนจะพุ่งตัวลงมาจากฟากฟ้าพร้อมกับตวัดดาบในมือที่เต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟัน
“เพลงดาบตาข่ายสวรรค์!”
ดาบนับพันในรูปคลื่นพลังปรากฏขึ้นทั่วฟ้า ในดาบแต่ละเล่มเต็มไปด้วยพลังที่บ้าคลั่งพร้อมจะปลิดชีพผู้คน
นี่สินะพลังของระดับตำนาน! ในที่สุดนักสู้ระดับตำนานทั้งสองของตระกูลวุ่ยกู๋ก็เคลื่อนไหวแล้ว!
ในที่สุดเวลาที่’เนี่ยหลี’รอก็มาถึงแล้ว!
ในจังหวะที่เพลงดาบตาข่ายสวรรค์ถูกเรียกใช้ ‘เนี่ยหลี’ก็เรียกเอาม้วนคัมภีร์ทักษะระดับตำนานขึ้นมาใช้ ทันใดนั้นโล่บาเรียสีทองก็ครอบคลุมร่างของ’เนี่ยหลี’และ’เอียจื้ออวิ้น’ทันที
บู้ม! บู้ม! บู้ม!
ดาบจำนวนมหาศาลร่วงลงมาจากฟากฟ้าพุ่งโจมตีใส่จุดๆที่’เนี่ยหลี’และ’เอียจื้ออวิ้น’ยืนอยู่ เสียงระเบิดจากการปะทะระหว่างเพลงดาบกับโล่แสงดังก้องไปทั่ว
หากเทียบกับโล่บาเรียอื่นๆในโลกใบนี้ โล่บาเรียที่มีสีทองนั้นมีพลังป้องกันมากที่สุด ทั้งคนที่หลบอยู่ข้างในยังสามารถโจมตีสวนกลับได้อีกด้วย
ภายใต้โล่บาเรียสีทอง ‘เนี่ยหลี’ก็ได้อ้าปากรวบรวมพลังจำนวนมหาศาลเข้าไป หน้าอก’เนี่ยหหลี’ขยายใหญ่ขึ้นตามพลังที่ถูกสะสมไว้ ลูกพลังสีขาวและดำเริ่มรวมกันและค่อยๆขยายใหญ่ขึ้น
ระเบิดหยินหยาง 4 ระเบิดหยินหยาง 6 ระเบิดหยินหยาง 10…
ลูกพลังสีขาวดำขยายใหญ่มากกว่าเดิมสิบเท่าเมื่อเทียบกับลูกพลังหยินหยางขนาดปกติ
ซึ่งด้วยพลังที่น่ากลัวนี้ก็ต้องแลกกับพลังของ’เนี่ยหลี’ที่ถูกสูบออกไปจนแทบจะหมดลูกพลังสีขาวและดำต่างหมุนวนซึ่งกันและกันก่อนจะพุ่งออกจากโล่บาเรียสีทองไปหานักสู้ระดับตำนานทั้งสองของตระกูลหหวู่กุ้ย
นักสู้ระดับตำนานทั้งสองยืนกลางอากาศมองดูผลงานของตัวเองอย่างพอใจ
พลังโจมตีของเพลงดาบตาข่ายสวรรค์นั้นรุนแรงจนทำให้พื้นดินกลายเป็นหลุมบ่อขนาดใหญ่ได้ ฝุ่นควันตลบอบอวลกลบพื้นดินไปหมด เห็นเช่นนั้นพวกมันก็แสยะยิ้มขึ้นมาพลางคิดว่าพวก’เนี่ยหลี’คงไม่มีทางรอดไปได้อย่างแน่นอน
แต่เมื่อฝุ่นควันสลายหายไปหมดแล้ว พวกมันกลับพบว่าการโจมตีของพวกมันนั้นถูกป้องกันไว้โดยโล่บาเรียสีทอง
“เกิดอะไรขึ้น?”
“มันคือโล่สีทอง!”
“เป็นไปได้ยังไง โล่นั้นใช้ได้เฉพาะนักสู้ระดับตำนานที่ฝึกฝนเทคนิคกายาทองนี่!”
พวกมันไม่คาดคิดเลยว่า’เนี่ยหลี’จะสามารถใช้โล่บาเรียสีทองป้องกันการโจมตีของพวกมันได้ แต่ทว่าก่อนที่มันจะได้แสดงท่าทางอะไร ลูกพลังสีดำขาวก็พุ่งเข้ามาหาพวกมัน
เห็นแบบนี้พวกมันก็เรียกใช้โล่บาเรียทันที โล่สีดำสองโล่ถูกเรียกขึ้นมาล้อมรอบตัวพวกมัน ทักษะโล่นี้นั้นเป็นทักษะลับของตระกูลหหวู่กุ้ยที่ถูกเรียกว่า โล่ตาข่ายสวรรค์ ซึ่งมันสามารถทนรับการโจมตีของนักสู้ระดับตำนานได้
พวกมันคิดว่าเพียงแค่โล่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับรับการโจมตีของ’เนี่ยหลี’ ดังนั้นพวกมันจึงกระชับดาบในมือแน่นเตรียมพร้อมที่จะสวนกลับ
เห็นท่าทางของสองนักสู้ระดับตำนาน ‘เนี่ยหลี’ก็ระบายยิ้ม ดูท่าว่าทักษะในการอ่านพลังของพวกนี้จะแย่เอาเรื่อง ถึงแม้ว่าพวกมันจะเป็นนักสู้ระดับตำนาน แต่หากเป็นเรื่องการใช้และคุมพลังแล้วนั้น พวกนี้ยังต่ำต้อยยิ่งนักในสายตาของ’เนี่ยหลี’
และระเบิดหยินหยาง 10 ลูกนี้นั้นก็ไม่ใช่อะไรที่จะมารับมือได้ง่ายๆ!
ในขณะที่ลูกพลังพุ่งใกล้ถึงพวกนั้น มันก็รวมตัวเป็นเนื้อเดียวกันแล้วระเบิดออกอย่างรุนแรง
ตามจริงแล้ว ในแต่ละด้านของระเบิดหยินหยางนั้นจะมีพลังรุนแรงกว่าพลังที่จุเข้าไปสิบเท่า แต่ถ้าหากพวกมันทั้งสองด้านระเบิดรวมกันแล้วล่ะก็ พลังมันจะรุนแรงกว่าเดิมขึ้นถึงร้อยเท่า! ที่รุนแรงขนาดนั้นได้คงเป็นเพราะลูกพลังหยินหยางของ’เนี่ยหลี’นั้นเกิดจากการรวมกันของพลังแห่งแสงและความมืด!
คลื่นพลังจากแรงระเบิดได้กลืนเอาร่างของนักสู้ระดับตำนานทั้งสองเข้าไป โล่บาเรียที่พวกนั้นกางมาป้องกันไว้นั้นค่อยๆสลายหายไป และเมื่อไม่มีอะไรมาป้องกัน พวกมันก็ค่อยๆถูกคลื่นพลังที่รุนแรงโหมกระหน่ำโจมตีใส่อย่างบ้าคลั่ง
เห็นผลที่เกิดขึ้นแล้ว พวกมันก็ไม่อยากจะเชื่อว่าลูกพลังที่’เนี่ยหลี’ปล่อยออกมานั้นจะมีพลังที่ลึกลับและน่ากลัวขนาดนี้ ขนาดพวกมันมีโล่บาเรียข่ายสวรรค์ยังรับการโจมตีไม่อยู่ ดูเหมือนว่าพวกมันจะพลาดที่ประเมินพลังของลูกพลังลูกนั้นต่ำไปและผลของความผิดพลาดก็กำลังประจักษ์อยู่
ณ ตอนนี้
และถึงพวกมันทั้งสองอย่างจะหนีขนาดไหนก็ตามแต่ทว่ามันก็สายเกินไปแล้ว!
แรงระเบิดจากลูกพลังหยินหยางส่งพวกมันปลิวกระเด็นไปไกลหลายร้อยเมตร
ทั่วทั้งร่างของทั้งสองถูกเผาดำเป็นตอตะโกจนจำสภาพไม่ได้แรงระเบิดจากลูกพลังหยินหยางสร้างหลุมใหญ่กินรัศมีกว่าร้อยเมตร ผลกระทบจากแรงระเบิดยังแผ่ขยายไปทั่ว นักสู้จากตระกูลหหวู่กุ้ยต่างเจ็บหนักจากแรงระเบิดครั้งนี้ เลือดสดๆไหลออกมาจากปากพวกมันกันถ้วนหน้า
ขนาดทักษะโล่บาเรียข่ายสวรรค์ยังรับพลังนี้ไม่ได้และสลายไปอย่างง่ายดาย แล้วคนพวกนี้จะเหลือเหรอ! อย่างไรก็ตามทั้งเนี่ยหลีและเอียจื้ออวิ้นนั้นยังคงอยู่ข้างในโล่บาเรียสีทองอยู่จึงไม่ได้รับผลกระทบนี้ ขนาดพื้นดินและต้นหญ้าที่อยู่ใต้เท้าพวกเขายังไม่เป็นอะไรเลย!
“เรียบร้อย”
‘เนี่ยหลี’ปัดมือแปะๆก่อนจะกลับคืนร่างเดิมด้วยรอยยิ้มเย็นยะเยือก
แปลโดย
ที่มา: