I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Tales of Demons & Gods (妖神记) ตอนที่ 236 ปีกแห่งสัจธรรม

| Tales of Demons & Gods (妖神记) | 20739 | 2530 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

‘เซี่ยวยู่’ถึงกับเกิดอาการพูดไม่ออก แต่ว่ามันก็เป็นความจริง ที่การเข้าร่วมเป็นศิษย์ของ จ้าวนรกานต์ มันก็เป็นการตัดสินใจของเนี่ยลี่เอง ว่าเขาต้องการที่จะลองมันหรือไม่

‘เนี่ยลี่’เพียงแค่ต้องการให้’เซี่ยวยู่’ยิ้มเท่านั้น เขาจึงได้ทำการแกล้ง’เซี่ยวยู่’ สำหรับ’เนี่ยลี่’แล้วแรงจูงใจในการที่เขาได้มายัง โลกนรกานต์ ก็เพื่อให้ตัวเขา หรือใครสักคนในกลุ่มของเขาได้เป็นศิษย์ของ จ้าวโลกนรกานต์ ซึ่งถ้าหากว่าสามารถทำสำเร็จแล้ว พวกเขาก็สามารถรับประกันได้เมืองกลอรี่จะต้องอยู่รอดปลอดภัยอย่างแน่นอน

เมื่อเวลานั้นมาถึง ‘เนี่ยลี่’ก็จะสามารถทำการฝึกฝน ภายใต้การคุ้มครองด้วยปีกแห่งพาลานุภาพของ ‘จ้าวนรกานต์’ และสามารถบ่มเพาะพลังได้อย่างสงบ อาจจะเป็นไปได้ที่เขาจะสามารถเข้าไปยัง อนาจักรมังกรหายนะได้อีกด้วย

ในความจริงแล้ว นิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ ยังไม่สามารถนับได้ว่ามีพลังอำนาจมากที่สุดใน อนาจักรมังกรหายนะ

ถ้าหากว่าพวกเขาสามารถทำการก้าวข้าม เหล่าศัตรูจากเมื่อชาติภพที่แล้วของพวกเขา จะมีอะไรบ้างที่เขาสามารถทำได้? พวกเขาจะใช้ชีวิตอยู่ต่อไปได้หรือไม่?

ในปัจจุบัน นิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ จะยังมีการปกครองโดยตระกูลต่างๆ ที่ทรงอิทธิพล แม้ว่าจะยังคงความสมดุลอยู่ได้

อย่างไรก็ตาม ในอนาคตย่อมเกิดความขัดแย้งภายในกัน และทำให้แตกออกเป็นหลายฝ่าย บางฝ่ายก็ถูกกลืนกินโดยการเข้าร่วมกับนิกายอื่นๆ

ในขณะที่ฝ่ายที่เหลืออื่นๆ ไม่เหลือความแข็งแกร่งพอ ที่จะคงอยู่ต่อไป แต่เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ มันจะมีแนวโน้มเกิดขึ้นในอีกร้อยปีข้างหน้า ตามเหตุการณ์ในชาติภพที่แล้ว

ทันใดนั้น ผนังสองด้านที่อยู่ติดกับทั้ง’เนี่ยลี่’และ ‘เซี่ยวยู่’ ได้แปรสภาพเป็นมือหินขนาดใหญ่ และพยายามที่จะจับตัวพวกเขา

 “ท่าจะไม่ดีแล้ว”

‘เซี่ยวยู่’หน้าซีดในทันที เขารีบทำการประสานมือของเขาเข้าด้วยกัน และก็มีออร่าสีขาวสองเส้นปรากฏรอบๆ ตัวของเขาในทันใด

* บูม! *

มือหินพุ่งเข้าปะทะกับ ออร่าสีขาว จากการแก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้าของ’เซี่ยวยู่’ แต่อย่างไรก็ตาม มือหินคู่นั้นไม่ได้รับความเสียหายใดๆ และยังคงพยายามที่จะจับพวกเขาอีกครั้ง โดยพยายามจะทำลายเกราะออร่าของ’เซี่ยวยู่’ให้ได้

‘เซี่ยวยู่’เองก็รู้ดีว่า เขาไม่อาจจะป้องกันการโจมตีได้นาน ทำให้เขาร้องตะโกนออกมาว่า

“ข้าไม่สามารถทำการถ่วงเวลาได้นาน! พวกเราต้องหนีออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด”

‘เซี่ยวยู่’ กระโจนไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว โดยมีเนี่ยลี่ตามมาที่ด้านหลัง

* บูม! * * บูม! * * บูม! *

‘เนี่ยลี่’ได้ยินเสียงการต่อสู้ที่ดังออกมาจากส่วนที่ลึกเข้าไปของสุสานโบราณ หรือว่ายังมีผู้เยี่ยมยุทธระดับ เซียน กำลังต่อสู้กับบางสิ่งบางอย่างอยู่ในสุสานแห่งนี้?

‘เนี่ยลี่’ และ’เซี่ยวยู่’ยังคง ปัดป้อง และหลบหลีกการจู่โจมของ มือหินอันน่ากลัวนี้ ในระหว่างที่พวกเขากำลังหลบหนี

เสียงที่น่าสะพรึงกลัว ดังก้องออกด้านลึกสุดของสุสาน

 “แคร๊ก แคร๊ก แคร๊ก ข้าไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า พวกเจ้าทั้งหลาย จะมีความสามารถที่จะเข้ามายังสถานที่แห่งนี้ พวกเจ้าคิดว่าสุสานแห่งนี้ มีสมบัติที่ข้าซ่อนไว้เช่นนั้นหรือ? อันที่จริงแล้วสุสานโบราณแห่งนี้ ก็คือร่างกายของข้าเอง! ด้วยการดูดกลืนพวกเจ้าทั้งหมด ข้าจะสามารถฟื้น พลังศักดิ์สิทธิ์ ได้เร็วขึ้น หมิงเฟย เจ้าไม่สามารถทำการยับยั้งข้าได้อีกครั้งเป็นแน่ และมันเป็นไปไม่ได้เนื่องจาก พลังสัจธรรมแห่งความตายของข้า จะมีอานุภาพสูงส่งยิ่งกว่าพลังแห่งสัจธรรมชั้นต่ำของเจ้า!”

เมื่อได้ยินเสียงดังมาจากด้านในของสุสานเช่นนี้ ทำให้’เนี่ยลี่’ถึงกับหน้าซีด เนื่องจากเสียงที่ได้ยินนั้น เป็นเสียงของมัจจุราชแห่งความตายโดยแท้ ตั้งแต่ ‘จ้าวนรกานต์’ ได้ไปเยือนอนาจักรมังกรหายนะมาก่อน เพื่อให้สามารถบรรลุพลังขั้นสูงสุด

ในขณะเดียวกัน มัจจุราชแห่งความตายกลับยังอยู่ที่จุดนี้ และเป็นคำถามว่า สัจธรรมแห่งความตายนี้จะแข็งแกร่งเพียงใด

พลังงานอันแข็งแกร่งที่แท้จริงนั้นน่าจะเป็นพลังแห่งสวรรค์ เหนือสิ่งใดทั้งหมด ที่พลังสัจธรรมใดๆ ก็ตามไม่ได้มีความบริสุทธิ์ของพลังวิญญาณเทียบเท่าได้เลย

ในขณะเดียวกัน การดำรงอยู่ของมัจจุราชแห่งความตายนั้น ก็ไม่มีสิ่งใดที่จะมีพลังมากกว่าสัจธรรมแห่งวิญญาณในโลกเล็กๆแห่งนี้

ด้วยเหตุที่ว่ายังคงมีมือหินจำนวนมาก พยายามที่จะคว้าตัวของ ‘เนี่ยลี่’ และ’เซี่ยวยู่’โดยมีเป้าหมายที่จะฉีกร่างพวกเขาเป็นชิ้นๆ

‘เซี่ยวยู่’หน้าบึ้งและขมวดคิ้วของเขาในทันที และคำรามออกมา

“เจ้าค้างคาวเฒ่านี้คือ มัจจุราชแห่งความตาย มันยังไม่ตายจริงๆ หรือเนี่ย!”

* บูม! * * บูม! * * บูม! *

‘เซี่ยวยู่’ทำการปล่อยพลังจากฝ่ามือของเขา ซึ่งทำให้มือหินแตกออกเป็นชิ้นเล็กๆ และร่วงหล่นลงพื้นดังกับสายฝน อย่างไรก็ตาม
ในขณะที่’เซี่ยวยู่’กำลังจัดการมือหินอยู่นั้น ได้มีมือหินอีกข้างหนึ่งที่หลุดรอดจากการโจมตีของเขาเข้ามาจู่โจม

และส่งผลให้ตัวเขาต้องกระเด็นไปไกลหลายสิบฟุต ในตอนนี้ใบหน้าของ’เซี่ยวยู่’ก็ซีดลงทั้งใบหน้า

มือหินพวกนี้ แฝงด้วยพลังบางชนิดที่มาจากสัจธรรมแห่งความตายอยู่ด้วย ซึ่งมันกำลังพยายามที่จะจู่โจมร่างของเขา ซึ่งตัวเขานั้นประเมินพลังนี้ต่ำเกินไปมาก

ถ้าหากว่าสุสานโบราณแห่งนี้คือ ร่างของมัจจุราชแห่งความตายจริงๆ? ถ้าเป็นเช่นนี้’เนี่ยลี่’จะจัดการปัญหาที่ยุ่งยากนี้เช่นไร?

‘เนี่ยลี่’ทำการผสานพลังวิญาณกับ แพนด้าเขี้ยวอสูร อย่างรวดเร็ว และทำการปล่อยลูกพลังสีขาวและดำ ออกจากปากของเขา และพ่นลูกบอลพลังนี้ และลอยไปยังสุดทางของสุสาน

* บูม! *

เสียงการระเบิดนี้ดังก้องไปยังส่วนอื่นๆ ของสุสานโบราณ ทำให้ดูเป็นที่หวาดผวา และเศษหินก็กระเด็นไปทั่วจากแรงระเบิด

เสียงการระเบิดอันน่าหวาดผวานี้ ส่งผลให้’เซี่ยวยู่’ตกใจ จากการที่เขาได้เห็น ลูกบอลระเบิดหยินหยางของ’เนี่ยลี่’ ที่ใช้โจมตีออกมานั้น ไม่มันน่าจะใช่มาจากระดับแบล็คโกลด์แน่ๆ!

พลังการโจมตีเช่นนี้สามารถเทียบเท่ากับการโจมตีของระดับตำนานเลยทีเดียว!

เมื่อผ่านไปชั่วครู่ ‘เซี่ยวยู่’ก็หายจากการตกตะลึง หลังจากที่เขาเห็นระเบิดหยินหยางไปครั้งหนึ่ง แต่ว่านั้นไม่ใช่ทั้งหมดที่’เนี่ยลี่’ โจมตีออกมา ดูเหมือนว่าเขาจะบ้าไปแล้ว

ลูกบอลระเบิดหยินหยางสีดำ ขาว จำนวนมาก ได้บินผ่านไป

* บูม! * * บูม! * * บูม! *

การระเบิดอันน่ากลัวนี้ ได้กระจายไปทั่วพื้นที่

ภายใต้พลังอำนาจการทำลายของลูกบอลระเบิดหยินหยางนั้น ทำให้กำแพงหินร่วงหล่นลงมาอย่างรวดเร็ว ราวกับว่า พวกมันเป็นเศษวัชพืชที่เหี่ยวเฉา

ระเบิดหยินหยางสิบเท่า!

‘เนี่ยลี่’ไม่รีรอและยังคงปล่อยลูกบอลระเบิดหยินหยางขนาดใหญ่พลังงานแห่งสัจธรรมในจิตวิญญาณของเขาเองก็ ถูกดึงไปใช้จนเกือบจะหมด ภายใต้การระเบิดของ ลูกบอลระเบิดหยินหยางขนาดใหญ่ ทำให้กำแพงพังทลายลงในทันที

‘เนี่ยลี่’ และ’เซี่ยวยู่’ รีบพุ่งเข้าไปในช่องว่างของกำแพง

ภายในเป็นพื้นที่ที่กว้างใหญ่ มีผู้เยี่ยมยุทธระดับ เซียน จำนวนมากจากทุกแห่งหน ปราสัจธรรมอยู่ในสายตาของ’เนี่ยลี่’

ซึ่งแต่ละคนได้ถูกพันธนาการอย่างหนาแน่น โดยเชือกที่ดูเหมือนว่ามันจะสามารถดูดเอาพลังวิญญาณออกไปจากร่างของพวกเขา และส่งผ่านพลังงานเหล่านั้นไปยังอ่างโลหิต

ผู้เยี่ยมยุทธระดับเซียน ทั้งหมดล้วนร่างกายแห้งเหี่ยว จนมาถึงในจุดที่หากว่าพวกเขา ฟื้นคืนสติขึ้นมาก็ยากที่จะทำการต่อสู้ได้

ณ ใจกลางของลานกว้างนี้ ยังมีหัวใจสีดำขนาดมหึมา สูบฉีดอยู่

 “ฮ่า ฮ่า ฮ่า ในเมื่อมีคนที่อยากจะเข้ามาตายเพิ่มขึ้น ข้าคนนี้จะตอบสนองให้เอง”

เชือกโลหิตจำนวนมาก พุ่งเข้าโจมตี’เนี่ยลี่’และ’เซี่ยวยู่’ และดูเหมือนว่าจะแฝงไว้ด้วยคลื่นพลังแห่งความตาย ที่มาพร้อมกับการโจมตีนี้

จากประสาทการรับรู้ถึง คลื่นแห่งความตาย ‘เซี่ยวยู่’รีบแสดงท่าทีในการตื่นตัว และเขารีบเตือนด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

“ระวัง การโจมตีนี้ แฝงด้วยพลังจากสัจธรรมแห่งความตาย”

สัจธรรมแห่งความตายนั้น ถือได้ว่ามีระดับที่สูงกว่า สัจธรรมอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นสัจธรรมแห่งนรก สัจธรรมแห่งความมืด สัจธรรมแห่งแสงสว่าง

อย่างไรก็ตามในบางครั้งสัจธรรมแห่งความตายยังเรียกได้ว่าเป็น สัจธรรมที่ทรงพลังอย่างไม่สามารถเปรียบเทียบได้ในหมู่ของพลังแห่งสัจธรรมทั้งหมด

“เซี่ยวยู่ เจ้ารีบไป และทำการช่วยผู้เยี่ยมยุทธ ระดับ เซียน ทั้งหลายนี้โดยเร็ว ข้าจะถ่วงเวลามันให้”

‘เนี่ยลี่’กล่าวขึ้น ถ้าหากว่าสุสานโบราณแห่งนี้เป็นร่างกายของมัจจุราชแห่งความตายจริง การที่พวกเขาจะทำการบุกฝ่าเพื่อหลบหนีออกไปนั้น เป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นในตอนนี้เขาจำเป็นที่จะต้องได้รับการช่วยเหลือจากผู้เยี่ยมยุทธ ระดับ เซียน เหล่านี้ด้วย

หลังจากที่ได้ยินคำพูดของ’เนี่ยลี่’ ‘เซี่ยวยู่’ไม่รอช้า เขารีบพุ่งเข้าไป และใช้ดาบยาวทำการตัดเชือกโลหิตที่กำลังดูดพลังงานวิญญาณจาก ผู้เยี่ยมยุทธ ระดับ เซียนอยู่

 “ฮ่า ฮ่า ฮ่า! เพียงแค่พวกเจ้าสองคน คิดว่าจะทำการตัดเชือกโลหิตของข้าที่เคลือบด้วยคลื่นพลังแห่งความตายของข้าได้เช่นนั้นหรือ?”

ในขณะนั้นที่เสียงดังขึ้น ดาบยาวของ’เซี่ยวยู่’ก็ได้ทำการตัดเชือกโลหิตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และผู้เยี่ยมยุทธ ระดับ เซียน คนแรกก็หลุดพ้นจากพันธนาการ

 “เป็นไปไม่ได้! เจ้าสามารถทำการตัดเชือกโลหิตได้อย่างไร?”

มัจจุราชแห่งความตายตะโกนด้วยน้ำเสียงที่ดูเหมือนกำลังประหลาดใจ

เนื่องจากดาบในมือของ’เซี่ยวยู่’นั้นไม่ใช่อาวุธธรรมดา มันคืออาวุธที่มาจาก อณาจักรมังกรหายนะ และดาบยังแฝงด้วยพลังแห่งสวรรค์ ดังนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะสามารถทำการตัดเชือกโลหิตได้

คลื่นพลังแห่งความตายได้เปลี่ยนเป้าหมายไปยัง’เซี่ยวยู่’ ดูเหมือนว่ามัจจุราชแห่งความตายต้องการที่จะหยุดเขา

อย่างไรก็ตาม’เนี่ยลี่’ก็ได้ทำการเข้ามาขัดขวางระหว่างคลื่นแห่งความตายและ’เซี่ยวยู่’

จากการรับรู้ถึงการโจมตีด้วยที่แฝงด้วยสัจธรรมแห่งความตายที่กำลังคืบคลานเข้ามา

‘เนี่ยลี่คำราม’ และทำการปล่อยพลังงานสัจธรรมแห่งความมืด และสัจธรรมแห่งแสงสว่างออกมาที่มือของเขา ทำให้คลื่นแห่งความตายที่กำลังคืบคลานเข้ามานั้น ต้องเผชิญกับพลังงานแห่งสัจธรรมทั้งสองที่ไหลเวียนรอบตัว’เนี่ยลี่’ดั่งเกราะที่ห่อหุ้มร่างกาย

* บูม! * * บูม! * * บูม! *

จากการที่สัจธรรมแห่งความมืด และสัจธรรมแห่งแสงสว่างยังคงเข้าปะทะกับสัจธรรมแห่งความตายที่ได้แทรกซึมผ่านเข้ามา
จนสลายไป เสียงของระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวอย่างต่อเนื่อง

 “มันเป็นไปได้อย่างไรกัน?”

เสียงของมัจจุราชแห่งความตายสบถออกมา

“สัจธรรมแห่งความมืด และแสงสว่างแค่สองสิ่งจะไปปรากฏในร่างของคนๆ เดียวได้อย่างไรกัน?”

ในสิ่งที่มัจจุราชแห่งความตายได้รับรู้มา มันช่างเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ สำหรับการที่คนๆ หนึ่งจะมีความรู้จนสามารถทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เยี่ยงนี้

“อย่างไรก็ตามเจ้ายังไม่สามารถเข้าถึงระดับ เซียน ได้ดังนั้นยังเร็วไปที่เจ้าจะสามารถท้าทายข้าได้!”

มัจจุราชแห่งความตาย คำรามด้วยเสียงอันเกรี้ยวกราด ในขณะที่เขาได้กระหน่ำยิงพลังสัจธรรมแห่งความตายไปยัง’เนี่ยลี่’

“ข้าอยากจะเห็นนักว่า เจ้าจะสามารถรับมือได้เป็นครั้งที่สองหรือไม่!”

‘เนี่ยลี่’พยายามส่งพลังของสัจธรรมแห่งแสงสว่างและความมืดเข้าปะทะ แต่ว่าด้วยจำนวนของลูกพลังจากสัจธรรมแห่งความตายที่มัจจุราชแห่งความตายโจมตีเข้ามามีมากกว่าหนึ่งโหล จะให้เนี่ยลี่จะรับการโจมตีนี้ได้อย่างไร

คลื่นพลังแห่งความตายเริ่มกัดกินร่างของ’เนี่ยลี่’อย่างรวดเร็ว

โดยคลื่นแห่งความตายนี้ยังสามารถทะลุเข้าไปยังจิตวิญญาณของเขาได้ด้วย

เนี่ยลี่เริ่มขมวดคิ้วของเขา จากการที่เขาได้รับความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส และความเจ็บปวดนี้ยังแทรกซึมไปในจิตใจของเขาด้วย
ช่างเป็นความเจ็บปวดที่ไม่มีมนุษย์คนใดจะสามารถจินตนาการได้เลย

แต่อย่างไรก็ตาม ‘เนี่ยลี่’ยังคงพยายามรักษาสติของเขาไว้ได้อยู่

พลังของสัจธรรมแห่งความตายช่างมีอานุภาพมากเสียจริงๆ เนี่ยลี่ยังคงตั้งหน้าตั้งตาปล่อยพลังของสัจธรรมแห่งความมืดและแสงสว่าง เพื่อขับไล่คลื่นพลังของสัจธรรมแห่งความตายตามร่างของเขา

แย่แล้ว! พลังของสัจธรรมแห่งความตายมันมีมากเกินไป!

‘เนี่ยลี่’พลันรู้สึกได้ถึงการที่เถาวัลย์ในร่างกายของเขา กำลังดูดซึมพลังของสัจธรรมแห่งความตายอย่างรวดเร็ว ทำให้เขามองในมุมกลับกัน คือ แทนที่เขาจะทำการกำจัดพลังของสัจธรรมแห่งความตายออกจากร่าง และตัดสินใจที่จะใช้เถาวัลย์ในร่างของเขา ทำการดูดซึมสัจธรรมแห่งความตายนี้เข้าสู่ร่างกายของเขาผ่านแทน

ทันใดนั้นดูเหมือนว่าคลื่นพลังของสัจธรรมแห่งความตาย กำลังถูกดูดกลืนเข้าไปราวกับ โดนกระแสน้ำวนอันเชี่ยวกราดดูดกลืนไปในทีเดียว

 “มันเกิดเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร?”

เสียงดังออกมาอย่างดูวิตกอีกครั้งหนึ่ง การที่พลังของสัจธรรมแห่งความตายของมัจจุราชแห่งความตาย กำลังถูกดูดกลืนเข้าไป มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ และไม่อาจจะยอมรับได้จริงๆ

การที่มนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งจะสามารถควบคุมได้ทั้งสัจธรรมแห่งความมืด และแสงสว่าง ก็เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมากเพียงพอแล้ว

แต่ในเวลานี้มนุษย์ผู้นั้นกำลังทำการดูดกลืนพลังของสัจธรรมแห่งความตายด้วยแล้ว ข้อเท็จจริงนี้ สร้างความหวั่นวิตกแก่มัจจุราชแห่งความตายยิ่งนัก

เดิมทีจิตวิญญาณแห่งเทพเจ้าแต่ละคนจะสามารถทำการควบคุมพลังแห่งสัจธรรมต่างๆ ที่มีลักษณะคล้ายกับตนเอง แต่ว่าในเวลานี้เนี่ยลี่ได้ทำการฉีกสัจธรรมทั้งหมดที่เคยมีมา เนื่องจากในตอนนี้’เนี่ยลี่’กำลังดูดพลังของสัจธรรมแห่งความตายไปจากเขา

หลังจากที่ได้เริ่มทำการดูดกลืนสัจธรรมแห่งความตาย ความเข้าใจในรูปแบบของพลังแห่งสัจธรรมของ’เนี่ยลี่’ได้เพิ่มขึ้น ซึ่งได้แสดงออกมาทางสีหน้าของเขาอย่างชัดเจน

ทันใดนั้น อาการเจ็บปวดอย่างรุนแรงได้แทรกซึมผ่านทุกอณูขุมขนภายในร่างกายของเขา และ’เนี่ยลี่’ได้ร้องลั่นออกมาด้วยความรู้สึกเจ็บปวด

ราวกับว่าร่างกายของเขากำลังจะถูกฉีกออกจากกัน ในเวลานั้นพลันปรากฏปีกสีขาวงอกออกมาจากไหล่ด้านขวา
และต่อจากนั้นปีกสีดำก็งอกออกมาจากอีกข้าง

ปีกทั้งสอง หนึ่งสีดำ และอีกหนึ่งสีขาว ด้านหนึ่งคือสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ราวกับหิมะ และอีกหนึ่งคือสีดำทมิฬ ซึ่งปีกทั้งสองข้างนั้นมีสีที่ตัดกันอย่างชัดเจน

อีกทั้งยังมีขนาดที่ใหญ่ถึงสามหรือสี่เมตรเลยทีเดียว และที่สำคัญยังมีพลังของสัจธรรมแห่งความมืดและแสงสว่างไหลเวียนอยู่รอบๆ
ร่างของ’เนี่ยลี่’

* ปัง! * * ปัง! * * ปัง! *

พลังงานแห่งสัจธรรมได้ไหลเวียนไปรอบๆ บริเวณโดยที่มี’เนี่ยลี่’เป็นศูนย์กลาง

‘เนี่ยลี่’เองก็ยังไม่เคยคิดมาก่อนว่า เขาจะสามารถทำการควบคุมพลังงานแห่งสวรรค์ได้ มิเช่นนั้นแล้ว เขาอาจจะทำการควบคุมพลังแห่งสัจธรรมได้ในระดับนี้ตั้งแต่แรกแล้ว โดยเวลานี้อานุภาพของพลังแห่งสัจธรรมทั้งสองได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในร่างของเขา ในจุดนี้แทบไม่มีใครในบริเวณนั้นที่ไม่รู้สึกถึงพลังอำนาจนี้ที่ไหลพรั่งพรูออกมา

‘เนี่ยลี่’ค่อยๆ ลืมตาขึ้น และคลื่นพลังศักดิ์สิทธิ์ก็แผ่ออกมารอบๆกายเขา

แปลโดย 0202

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments