I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Tales of Demons & Gods (妖神记) ตอนที่ 245 ผนึกวิญญาณ

| Tales of Demons & Gods (妖神记) | 18893 | 2530 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

‘เนี่ยหลี่’ ยิ้มมุมปากขณะที่มองกิเลนฟ้า กิเลนฟ้าตัวนี้น่าจะมีอายุราว ๆ 2-3 พันปีมันน่าจะฉลาดใช่มั๊ย?

“นี่ตาเฒ่า หลังจากแอบฟังมานาน เจ้าน่าจะเสนอความคิดเห็นอะไรบ้างนะ”

‘เนี่ยหลี่’พูดกับกิเลนฟ้าที่ถูกล่ามโซ่

หลังจากเนี่ยหลี่พูดทุกคนงงว่า’เนี่ยหลี่’พูดกับใครทันใดนั้นเสียงขรึมๆ เสียงหนึ่งดังขึ้นจากกิเลนฟ้า

“ เจ้าเด็กเหลือขอ แกมีแผนจะฆ่าข้าแล้วยึดเอาดวงจิตอสูรของข้า! ”

ทุกคนถึงกับตกใจและนิ่งกันไปหมดเมื่อได้ยินกิเลนฟ้าเปิดปากพูดออกมานี่เป็นครั้งแรกที่คนอื่น ๆ ได้ยินสัตว์อสูรพูดภาษามนุษย์

ท่ามกลางคนในกลุ่มของ’เนี่ยหลี่’มี”ยู่หยาน’คนเดียวที่มีท่าทีที่สงบ นางรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับสายพันธุ์ของกิเลนฟ้า อย่างไรก็ตามการครอบครองดวงจิตกิเลนฟ้าไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ถึงแม้ว่าพวกเขาร่วมมือกัน ถ้าสู้กันอย่างเท่าเทียมกันก็ยังคงไม่สามารถต่อกรได้อยู่ดี’เนี่ยหลี่’ก้าวไปข้างหน้าอย่างใจเย็น 2– 3 ก้าวแล้วมองไปที่กิเลนฟ้า

“ถูกขังอยู่ในหอคอยเพลิงทมิฬภายใต้คุกจารึกอักขระแบบนี้คงลำบากมากใช่มั๊ย?”

“สบายหรือไม่มันเกี่ยวอะไรเจ้าด้วย”

กิเลนฟ้าคำราม

 “ท่ามกลางเผ่าอสูร กิเลนฟ้าได้ชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดในหมู่ของพวกมันพวกมันมักอยู่อย่างโดดเดี่ยว ในร่างกายของพวกมันมีสิ่งล้ำค่าที่เหล่าสัตว์อสูรปรารถนาจะมีนั่นคือแกนกลางของมันเจ้าถูกขังอยู่ที่นี่เพราะว่าเจ้ายังไม่โตเต็มวัยแกนกลางของเจ้ายังไม่เป็นรูปเป็นร่างที่สมบูรณ์ข้าสงสัยว่าคนที่ล่ามเจ้าคงต้องการที่ฟูมฟักแกนกลางของเจ้าให้สมบูรณ์ใช่มั๊ย?”

‘เนี่ยหลี่’ยิ้มและมองไปที่กิเลนฟ้าประกายตาอันเย็นเยียบของกิเลนฟ้าจ้องมองไปยัง’เนี่ยหลี่’

“เจ้ามนุษย์ แกต้องการอะไร?”

กิเลนฟ้าคิดไม่ถึงว่า’เนี่ยหลี่’จะสามารถรู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับตัวมันและสงสัยถึงต้นกำเนิดของ’เนี่ยหลี่’

“ข้าสามารถปลดปล่อยเจ้าได้นะ”

‘เนี่ยหลี่’จ้องมองไปที่กิเลนฟ้าอย่างอดทน

“เจ้ายินดีที่จะถูกขังที่นี่งั้นเหรอ? ถูกฆ่าเหมือนสัตว์และถูกยึดครองดวงจิตอสูรเนี่ยนะ?”

“ไอ้เด็กเหลือขอแกเรียกใครว่าเป็นสัตว์นะ”

กิเลนฟ้าคำรามเสียงดัง สายฟ้าปะทุไปทั่วตัวของมัน

“ตอนนี้เจ้าแตกต่างกับสัตว์ยังไง? เจ้าจะถูกขังจนกว่าจะโตเต็มวัยจนกระทั่งแกนกลางของเจ้าก่อตัวเป็นรูปร่างที่สมบูรณ์จากนั้นเจ้าก็จะถูกเชือด”

‘เนี่ยหลี่’ยิ้มแล้วมองกิเลนฟ้าที่กำลังเกรี้ยวกราด

มันเป็นแผนที่’เนี่ยหลี่’กำลังยั่วโมโหกิเลนฟ้าตัวนั้นกิเลนฟ้าคำรามอย่างดุร้าย

“เจ้าเด็กเหลือข้ารู้ว่าเจ้ากำลังวางแผนอะไรอยู่เจ้าตั้งใจจะฆ่าข้าเพื่อเอาดวงจิตอสูร แล้วเจ้าแตกต่างกับคนพวกนั้นยังไง? ทำไมข้าถึงต้องฟังเจ้า?”

“ใช่ มันเป็นความจริงที่ข้าต้องการดวงจิตอสูรของเจ้า แต่ข้าไม่ต้องการฆ่าเจ้าข้ามีวิธีที่จะผนึกวิญญาณของเจ้าและผูกไว้กับเพื่อนของข้า
ร่างของเจ้าจะเปลี่ยนดวงจิตอสูรในขอบเขตวิญญาณของเพื่อนข้า”

‘เนี่ยหลี่’พูด

ฟังคำของ’เนี่ยหลี่’กิเลนฟ้าหัวเราะแล้วพูด

    “เปลี่ยนร่างของข้าให้เป็นดวงจิตอสูรมันจะต่างอะไรกับการฆ่าข้า? มนุษย์อย่างเจ้ามันฉลาดแกมโกงพยายามจะหลอกข้าเจ้าคิดว่าจะหลอกข้าได้ง่าย ๆ อย่างนั้นรึ?”

‘เนี่ยหลี่’พูด

“มันแตกต่างกันแน่นอนถ้าข้าฆ่าเจ้าแล้วยึดเอาดวงจิตอสูรของเจ้าไป หลังจากที่เจ้าของดวงจิตอสูรตายไปเจ้าก็จะตายไปด้วยแต่ถ้าข้าใช้วิธีผนึกวิญญาณเจ้าไว้แล้วเปลี่ยนร่างเจ้าเป็นดวงจิตอสูรเมื่อเจ้าของดวงจิตอสูรตายไปเจ้าก็จะเป็นอิสระ ช่วงชีวิตของมนุษย์อย่างมากก็แค่100 ปี เทียบกับช่วงชีวิตของกิเลนฟ้าอย่างเจ้าแล้วมันเทียบกันไม่ได้หรอก”

ฟังคำพูดของ’เนี้ยหลี่’แล้วกิเลนฟ้านิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะกลอกตามองไปที่’เนี่ยหลี่’สิ่งที่’เนี่ยหลี่’เพิ่งพูดไปมันค่อนข้างเป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับมันทีเดียว

‘ตู่ซื่อ’ขมวดคิ้วเขารู้สึกว่ามันจะมีวิธีแบบนี้ด้วยเหรอ แล้วถ้าหากว่าวันนึงกิเลนฟ้าเกิดตัดสินใจทรยศเขาเข้าล่ะ? ‘ตู่ซื่อ’มอง’เนี่ยหลี่’และเห็นท่าที่ที่เชื่อมั่นของเขา’เนี่ยหลี่’จะต้องมีไพ่อะไรซ่อนในแขนเสื้อของเขาแน่นอน ‘ตู่ซื่อ’ไม่รู้สึกกังวลอีก

“ดี ข้าตกลงกับข้อเสนอของเจ้า”

กิเลนฟ้าตอบทันที

“’งั้นก็เอาเลือดของเจ้ามาก่อน”

‘เนี่ยหลี่’พูด

กิเลนฟ้าขมวดคิ้วแล้วถาม

“เจ้าจะเอาเลือดของข้าไปเพื่ออะไร?”

‘เนี่ยหลี่’ยิ้มแล้วพูด

“ถ้าไม่มีเลือดเจ้าแล้วข้าจะผนึกวิญญาณของเจ้ายังไง?”

กิเลนฟ้าเดินถอยหลังไปพร้อมกับคำราม

“เจ้าจะข่มข้ารึไง?

ข้าไม่เคยได้ยินว่าต้องใช้เลือดในการผนึกวิญญาณเพื่อเปลี่ยนร่างไปเป็นดวงจิตอสูร!”

‘เนี่ยหลี่’ยักไหล่

“เจ้าไม่เคยได้ยินไม่ได้หมายความว่ามันไม่มีจริงมีวิธีลับเป็นพันวิธีในโลกที่เจ้ายังไม่รู้”

“อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ความจริงนะ เจ้าพยายามจะหลอกข้าข้าไม่มีวันจะให้เลือดข้าแก่เจ้าหรอก!”

กิเลนฟ้าคำราม

“เปล่าประโยชน์เจ้าหาวิธีอื่นเหอะ”

เลือดของกิเลนฟ้ามันของล้ำค่ามหาศาลที่สืบทอดกันมาปกติร่างกายของกิเลนฟ้าจะแข็งแกร่งมาก ๆ มันยากที่จะทำให้ร่างกายของกิเลนฟ้าเกิดบาดแผลดังนั้นคนธรรมดาจึงไม่มีทางจะได้ครอบครองเลือดของกิเลนฟ้า นอกจากนี้กิเลนฟ้าก็ไม่มีทางให้เลือดของตัวเองกับใคร

กิเลนฟ้าเป็นสัตว์อสูรที่ฉลาดแกมโกง’เนี่ยหลี่’รู้ถึงจุดนี้จึงได้รู้ว่าเจ้ากิเลนฟ้ากำลังเล่นลวดลาย ทั้ง ๆที่ก่อนหน้านี้เจ้ากิเลนฟ้าตอบตกลงอย่างรวดเร็วบางทีอาจเป็นเพราะมันตั้งใจจะทำอันตรายตู่ซื่อหลังจากผนึกวิญญาณไปแล้วเพื่อที่มันจะได้รับอิสระโดยเร็วที่สุด

อย่างไรก็ตาม’เนี่ยหลี่’มีวิธีแก้ไขอยู่แล้วหากสถานการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นเขาต้องการเลือดของกิเลนฟ้าก็เพื่อที่จะยับยั้งมันหากว่าเกิดเหตุจำเป็นขึ้นถึงอย่างนั้นกิเลนฟ้าก็เจ้าเล่ห์พอที่จะรู้ว่าเนี่ยอาจจะมีอะไรปิดบังซ่อนเร้นเอาไว้มันจึงไม่เต็มใจที่ให้เลือดของมันแก่’เนี่ยหลี่’

 “ถ้าเป็นอย่างนั้นเราก็ตกลงกันไม่ได้”

‘เนี่ยหลี่’มองกิเลนฟ้าด้วยท่าทีที่ลึกซึ้ง

“ตกลงกันไม่ได้แล้วยังไง ข้าจะไม่ให้เลือดของข้าแก่เจ้าเด็ดขาด!”

กิเลนฟ้าคำราม

“เจ้าจะทำอะไรข้าได้? ถ้าหากว่าข้ายังอยู่ที่นี่ เจ้าต้องการข้าไปเป็นดวงจิตอสูรของเจ้าใช่มั๊ยฝันไปเถอะ ถ้าหากข้าหลุดออกไปได้ล่ะก็ พวกเจ้าไม่มีทางรอดแน่ ๆข้าจะฉีกพวกเจ้าออกเป็นชิ้น ๆ”

กิเลนฟ้าเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งและพละกำลังของมัน มันไม่ได้มอง’เนี่ยหลี่’และพวกเป็นภัยคุกคามเลย สายฟ้าพุ่งออกมาจากจมูกของมันอย่างต่อเนื่อง ถ้ามันไม่ได้ถูกล่ามเอาไว้
แค่สายฟ้าของมันก็สามารถเผา’เนี่ยหลี่’และพวกให้เป็นกลายเป็นเถ้าถ่านได้แล้ว

“เนี่ยหลี่ยอมแพ้เถอะมันเป็นไปไม่ได้หรอก”

‘ตู่ซื่อ’พูดกับ’เนี่ยหลี่’เขารู้สึกได้ถึงออร่าที่น่ากลัวของกิเลนฟ้าได้

ลำพังระดับของพวกเขาในตอนนี้แค่เอานิ้วไปแตะต้องถูกตัวของกิเลนฟ้าตัวนั้นยังไม่สามารถทำได้เลย ‘เนี่ยหลี่’ส่ายหัวพร้อมกับพูด

“มันไม่ง่ายที่จะพบเจอตัวกิเลนฟ้านะ ไม่ว่ายังไงข้าก็จะช่วยเจ้าให้ครอบครองดวงจิตอสูรของมันให้ได้!”

‘เนี่ยหลี่’มองกิเลนฟ้าก่อนหรี่ตาลงแล้วพูด

“ถ้าอย่างนั้นอย่ากล่าวหาว่าข้าบังคับเจ้าให้ยอมรับข้อเสนอนะ!”

กิเลนฟ้ากระทืบเท้าอย่างรุนแรงและพูด

“ฮึ่มเจ้ามนุษย์สามหาวเจ้าจะใช้กำลังของเจ้าบังคับให้ข้ายอมรับข้อเสนอเรอะ? ในอดีตข้าฆ่าพวกนมุษย์อย่างเจ้ามาเป็นล้านศพหรืออย่างน้อยที่สุดก็เป็นแสน ถึงแม้ว่าข้าจะถูกขังที่นี่เจ้าจะมีปัญญาทำอะไรข้าได้”

“เจ้าพูดเองนะ”

‘เนี่ยหลี่’คำรามออกมาบ้าง

ตั้งแต่อดีตเป็นต้นมากิเลนฟ้าได้สังหารหมู่มนุษย์ไปมากมาย ‘เนี่ยหลี่’คิดว่ามันจะดื้อแพ่งต่อไปไม่ได้อีกแล้วเขามองไปที่’ต้วนเจี้ยน’แล้วพูด

“ต้วนเจี้ยนขอเลือดของเจ้าหน่อย”

“ครับ!”

‘ต้วนเจี้ยน’ไม่ลังเลเลยสักนิดเขากัดที่แขนตัวเองแล้วปล่อยให้เลือดไหลออกจากบาดแผล ถึงแม้ว่าร่างกายของ’ต้วนเจี้ยน’จะแข็งแกร่งจนยากที่จะหาโลหะชนิดใดมาเจาะผ่านได้แต่มันก็จะง่ายมากถ้าเขาใช้ฟันของเขาเองกัดเข้าไป เขารีบบรรจุเลือดลงในชามอ่าง’เนี่ยหลี่’รับเลือดของ’ต้วนเจี้ยน’มาแล้วเริ่มลงอักขระลึกลับลงบนพื้น มันเป็นลวดลายล้อมรอบตัวของกิเลนฟ้า

“อักขระพวกนี้มันเป็นอักขระประเภทไหนเนี่ย?”

‘ลู่เพียว’กับพวกถามด้วยความสงสัย

“เลือดของต้วนเจี้ยนมีพลังของเพลิงทมิฬมหาศาลบรรจุอยู่อักขระพวกนี้จะรวบรวมพลังของเพลิงทมิฬในหอคอยแห่งนี้มาไว้ที่นี่”

เมื่อ’เนี่ยหลี่’ลงอักขระตัวสุดท้ายเสร็จ เพลิงทมิฬที่น่ากลัวกำลังถูกรวมเข้ามาที่เขาอย่างรวดเร็ว

เพลิงทมิฬที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ รวมตัวเข้าด้วยกันก็เกิดแรงดันและความร้อนมหาศาล  กิเลนฟ้าก็เริ่มดิ้นฟาดปัดไปมามันกลัวเพลิงทมิฬในหอคอยแห่งนี้มากที่สุด
และนั่นก็คือเหตุผลที่ว่าทำไมมันถึงถูกมนุษย์จับล่ามไว้ในนี้

เปลวเพลิงทมิฬค่อยๆ เผาไหม้กิเลนฟ้าไปเรื่อย ๆ อุณหภูมิก็เริ่มเพิ่มสูงขึ้น สูงขึ้นเรื่อย ๆ มันคิดเจ้าเด็กเหลือขอคนนี้มันจัดการรวบรวมเพลิงทมิฬได้! คราวนี้เคราะห์ร้ายแน่ ๆอุณหภูมิในห้องเริ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งลมหายใจของกิเลนฟ้าก็ยังถูกเผาไหม้ถึงยังไงก็ตามการยอมรับข้อตกลงของเด็กนั่นมันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

เวลาเดียวกันนั้นชั้นที่ 9 ของ ดินแดนมรณะ 9 ชั้น กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งกำลังพูดคุยกัน พวกเขานั่งอยู่ในลานที่สร้างขึ้นอย่างประณีตวิจิตรบรรจง บนโต๊ะมีสระน้ำสะท้อนเหตุการณ์ที่อยู่ในหอคอยเพลิงทมิฬด้วยพวกเขารู้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในหอคอยแห่งนั้น

‘เสี่ยวหยู’ยืนอยู่ข้างหลังของชายในชุดผ้าคลุมสีดำเขาก้มหัวลงซุบซิบที่ข้างหูของชายผู้นั้น

“ท่านพ่อข้าเห็นว่าคนคนนี้รู้อักขระได้ลึกซึ้งเหนือกว่าพวกเราอีก ถ้าท่านไม่เชื่อ ดูนั่น”

“เด็กหนุ่มคนนี้รู้อักขระได้อย่างลึกซึ้งจนน่าประหลาดใจนอกจากนี้พรสวรรค์ของเขาก็ยังน่าตกใจอีกด้วย!”

ชายในชุดผ้าคลุมสีดำพยักหน้า เขามองดูคน 6 คนที่อยู้ข้างหน้าเขา คนทั้ง 6 นั้นกำลังชะโงกหน้าดูอ่างน้ำที่สะท้อนเหตุการณ์ในหอคอย อย่างตั้งอกตั้งใจ

“ท่านทูตทั้งหลาย ในอดีตที่ผ่านมาไม่มีพวกท่านคนใดตัดสินใจเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามในครั้งนี้ ข้าสงสัยว่าจะมีใครคนใดสนใจอัจฉริยะเหล่านี้บ้าง?ยังไงก็ตามพวกท่านก็อย่าได้ลืมข้อตกลงของพวกเราซะล่ะ สาวกคนแรกจะถูกเลือกโดยนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ของข้านิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ของข้าเคราะห์ร้ายมาตลอดดังนั้นข้าหวังว่าพวกท่านจะให้ข้าเลือกก่อน!”

คนทั้ง 6ที่อยู่ตรงหน้าของชายในเสื้อคลุมสีดำต่างก็มองตากันก่อนที่ผู้หญิงในชุดเสื้อคลุมสีขาวจะยิ้มและพูดว่า

“พวกเราตกลงกันแล้วและก็ยืนยันที่จะทำตามข้อตกลงพวกเราทั้งหมดนี่ได้ออกไปสู่โลกเล็ก ๆ โลกที่ซึ่งพวกเรากำเนิดมาแม้ว่าพวกเราจะถูกเลือกให้ไปอยู่นิกายที่ต่างกันพวกเราก็ไม่จำเป็นต้องทำตัวให้เป็นทางการและคอยระแวดระวังกันและกันนี่”

คนจากโลกภายนอกไม่สามารถจะเข้ามาในโลกเล็กๆ ใบนี้ได้ มีเพียงเขาเหล่านั้นผู้ซึ่งได้จากโลกเล็ก ๆ ใบนี้ไปและอาจจะหวนกลับมาอย่างไรก็ดีนิกายใหญ่ ๆแห่งอาณาจักรมังกรหายนะก็กำลังรับผู้ที่มีพรสวรรค์จากโลกเล็ก ๆ ใบนี้มานานแล้ว เช่นที่ทูตทั้ง6 คนนี้กำลังดำเนินการอยู่…

 

จบตอน…

 

แปลโดย

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments