I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Tales of Demons & Gods (妖神记) ตอนที่ 258 ตัวประกัน

| Tales of Demons & Gods (妖神记) | 18228 | 2532 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

การที่จะมองผ่านท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยฝุ่นธุลีคงมองเห็นได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ผงธุลีค่อยๆร่วงหล่นลงบนพื้นดิน เหลือเพียงสองร่างที่ลอยสูงอยู่บนท้องฟ้า หนึ่งในนั้นคือชายแก่ที่มีผมและเคราสีขาว ชาวเมืองทุกต่างต่างรู้จักเขาดี

ในนามของ เทพแห่งสงคราม ‘เอียมัว’ ส่วนอีกคนนั้นสวมเสื้อคลุมสีขาว ปกคลุมด้วยพายุอันน่ากลัว เขาเป็นคนหนึ่งที่’เนี่ยลี่’เคยประมือมาก่อน เขาคือ ‘จอมมาร’

‘จอมมาร’ยืนอย่างอวดดีอยู่บนท้องฟ้า พร้อมกับพายุที่น่ากลัว มันประกอบไปด้วยพลังสัจธรรมแห่งนรกหมุนวนอยู่รอบๆตัวของเขา  เป็นรูปแบบพลังงานที่พวกอสูรมักจะใช้กัน

“เอียมัว นี่ก็นานแล้วนะหลังจากที่เราได้เจอกันเมื่อครั้งก่อน ข้าไม่เคยคิดเลยว่าเจ้าจะหาข้าเจอได้ ทั้งๆที่ผ่านมา ข้าได้ปกปิดตัวเองอยู่ตลอดเวลา ”

‘จอมมาร’ยิ้มอย่างเย็นยะเยือก แม้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับคนทั้งเมืองเพียงลำพัง แต่เขาก็ยังคงสงบเยือกเย็น

“หลังจากที่เวลาผ่านมาเนิ่นนาน ข้าไม่เคยคิดเลยว่าจอมมารอย่างเจ้า จะกล้าปรากฏตัวอีกครั้งในเมืองกลอรี่ ข้าอยากรู้จริงว่า ใครกันที่บอกให้จอมมารเช่นเจ้ากลับมา? “

‘เอียมัว’ลอยอยู่ในสายลมด้วยพลังสัจธรรมแห่งวายุเหมันต์ที่อยู่รอบๆตัวของเขา  และในบางครั้งอากาศก็ควบแน่นจนเป็นเสาน้ำแข็ง

“ราวกับว่าเมืองกลอรี่ไม่ได้ยินดีต้องรับข้าเลยนะ ทั้งๆที่ข้าเองก็เกิดมาในเมืองกลอรี่นี่แท้ๆ”

‘จอมมาร’ยิ้มอย่างไม่แยแส แล้วส่งคลื่นพลังกดดันไปยังเอียมัว

“เจ้าทรยศเมืองกลอรี่และถูกเนรเทศไปตั้งนานแล้ว”

‘เอียมัว’ขมวดคิ้วเข้าหากันครู่หนึ่ง เขาสัมผัสได้ว่าพลังสัจธรรมแห่งนรกของจอมมาร นั้นแข็งแกร่งกว่าที่ผ่านมามากนัก ไปจนถึงจุดที่’เอียมัว’ไม่สามารถที่จะจัดการเขาได้แล้วความกดดันเข้ามาคุกคาม’เอียมัว’ ทำให้เขารู้สึกราวกับว่ากระดูกทั่วร่างกำลังถูกบดขยี้

‘จอมมาร’หัวเราะพร้อมกับมองไปด้วยสายตาที่เย็นชา

“นี่เป็นผลจากการดื้อดึงของเจ้า มันจริงเหรอที่ข้านั้นทรยศเมืองกลอรี่? หรือว่า เมืองกลอรี่นั้นทรยศข้ากันแน่ ? แต่ไม่ว่าจะเป็นเพราะข้อไหน เจ้าก็ควรจะดีใจ เพราะข้าไม่คิดจะติดใจเอาความกับเรื่องในอดีตหรอกนะ”

“ในเมื่อเจ้าบอกว่า ไม่ได้ติดใจเรื่องในอดีต แล้วเจ้ากลับมาที่เมืองกลอรี่นี้ทำไม?”

‘เอียมัว’พูดอย่างเย็นชาพร้อมกับมองไปยังจอมมาร

“มีบางสิ่งที่ข้าต้องการอยู่ในเมืองกลอรี่นี้  ถ้าหากเจ้าส่งมันมาให้กับข้า เรื่องทุกอย่างก็จบ ถ้าไม่อย่างนั้น ข้าก็จะทำให้ที่นี่เกิดหายนะ”

‘จอมมาร’ แสดงออกมาให้เห็นถึงความบ้าคลั่งของเขา

‘เอียมัว’ขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่ในใจ

“สิ่งใดกันที่เจ้าต้องการ?”

‘จอมมาร’พ่นลมหายใจอย่างเย็นชา

“เจ้าจะถามทำไม ในเมื่อเจ้าก็รู้คำตอบดีอยู่แล้ว ถ้าเจ้าส่งศิลาวิญญาณอสูร ที่มีจิตวิญญาณอสูรอยู่ข้างใน มาให้กับข้า ข้าก็จะอภัยให้ในทุกเรื่อง แต่ถ้าไม่อย่างนั้น ข้าจะเริ่มด้วยการสังหารหมู่พวกเจ้า”

คิ้วของ’เนี่ยลี่’ขมวดหากัน ศิลาวิญญาณอสูร ที่บรรจุวิญญาณอสูรเอาไว้งั้นเหรอ นี่พวกเขาพูดถึงอะไรกัน?

ถ้าหากจอมมารมาตามหาจิตอสูรนั้น ‘เนี่ยลี่’ก็คงจะไม่คิดอะไร เพราะบางทีสัตว์อสูรนั้นอาจจะต้องตาต้องใจของจอมมารเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าจริงๆแล้วเขาจะมีอสูรนรกทมิฬแปดกรอยู่แล้วก็ตาม

จิตสังหารที่ออกมาจากจอมมารนั้นเพิ่มขึ้นเรื่องๆ จนกลายเป็นพลังที่แข็งแกร่งจนสามารถกดดันเอียมัวได้มากยิ่งขึ้น ‘เนี่ยลี่’คำรามพร้อมกับพุ่งขึ้นไปบนฟ้าและไปอยู่ข้างๆเอียมัว เขามองจอมมารด้วยสายตาอันเย็นยะเยือกพร้อมกับจู่โจมออกไปด้วยพลังสัจธรรมทั้งสาม

‘จอมมาร’หรี่ตาและชำเลืองมองไปยัง’เนี่ยลี่’

“เจ้าอีกแล้วงั้นเหรอ!”

เขาพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ

“ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้า เมืองกลอรี่ก็กลายเป็นของข้าไปนานแล้ว ถ้าเจ้ายังคิดจะขัดขวางข้าอีก อย่าได้มาตำหนิข้าที่ฆ่าเจ้าก็แล้วกัน ”

“จอมมาร เจ้าพูดราวกับว่าเราไม่เคยประมือกันมาก่อน ถ้าหากว่าเจ้ามีความสามารถมากพอที่จะฆ่าข้าได้ เจ้าก็คงจะลงมือไปแล้ว เข้ามาเลย!”

แรงกดดันที่รุนแรงออกมาจากตัวของ’เนี่ยลี่’

*ฟุ่บ!* *ฟุ่บ!* *ฟุ่บ!*

‘ยู่หยาน’ ‘ต้วนเจี้ยน’ ‘ตู่ซื่อ’ ‘ลู่เพียว’ ‘เอียจื้ออวิ้น’ ‘เซี่ยวหนิงเอ๋อ’ ‘เอียเซิ่ง’ และคนอื่นๆที่เหลือ บินขึ้นไปบนอากาศเพื่อทำการห้อมล้อมจอมมาร พลังสัจธรรมนับสิบพุ่งเข้าหาจอมมารทันที

*ตูม!* *ตูม!* *ตูม!*

เกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงหลังจากที่พลังสัจธรรมได้ถูกปล่อยออกมาจากท้องฟ้า

แม้ว่าพลังสัจธรรมแห่งนรกของจอมมารจะแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก มันก็ยังไม่สามารถทนต่อทุกการโจมตีของพวกเขาได้ ‘จอมมาร’โกรธจนแทบลุกเป็นไฟพร้อมกับคำรามออกมา จากนั้นก็ผสานเข้ากับอสูรนรกทมิฬแปดกรอย่างรวดเร็ว

อสูรนรกทมิฬแปดกรที่ทั้งตัวมีสีแดงชาด เปร่งเสียงคำรามพร้อมกับโบกแขนของมัน แล้วกระหน่ำโจมตีไปทางพวกเขา

‘เนี่ยลี่’ ร้องคำรามขณะที่รวบรวมพลังวิญญาณและผสานเข้ากับแพนด้าเขี้ยวอสูร เขาอ้าปากกว้างพร้อมกับพ่นระเบิดหยินหยางไปยังอสูรนรกทมิฬแปดกรทันที

การต่อสู้ที่รุนแรงปรากฏอยู่บนท้องฟ้า ทุกคนในกลุ่มรวมพลังเข้าต่อสู้กับจอมมาร อสูรนรกทมิฬแปดกร ถือดาบที่คมกริบเป็นอาวุธอยู่หนึ่งเล่มขณะที่กำลังต่อสู้กับพวกเขา

‘เนี่ยลี่’คิ้วขมวดเข้าหากัน แม้ว่าร่างกายของของเขาจะแข็งแกร่งขนาดไหน การที่ประจันหน้ากันในขณะนี้ เขาไม่อาจที่จะบอกได้ว่า’จอมมาร’ นั้นแข็งแกร่งขึ้นไปจนถึงระดับไหนแล้ว ‘จอมมาร’อาจจะบรรลุถึงขั้นชะตาสวรรค์ขั้นที่หนึ่งในอีกไม่ช้า

ภายในโลกเล็กๆใบนี้ ไม่มีผู้เยี่ยมยุทธคนใด ที่ไปถึงขั้นสร้าง ชะตาวิญญาณได้ ซึ่งมันมีความสามารถที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก
แม้ว่าผู้เยี่ยมยุทธระดับเซียนกี่คนจะโจมตีใส่เขา ก็ไม่อาจที่จะสู้ได้อย่างสูสีแม้แต่น้อย

แม้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับคนจำนวนมาก ที่จู่โจมเข้ามาพร้อมกันทุกด้าน ‘จอมมาร’ก็มิได้ตกเป็นรองแต่อย่างใด เนื่องจากร่างกายของเขานั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองจะพ่ายแพ้ในศึกครั้งนี้แต่อย่างใด

ดูเหมือนว่า’เนี่ยลี่’จะต้องใช้เคล็ดวิชาลับบางอย่าง ถ้าหากเขาต้องการที่จะเอาชนะ’จอมมาร’ ในตอนนั้น’เนี่ยลี่’ก็นำดาบเทพอัสนีดาวตกออกมาทันที สายฟ้าควบแน่นรวมเข้ากับดาบของเขา

‘จอมมาร’หรี่ตาลง เมื่อเขารับรู้ได้ว่าอาวุธในมือของ’เนี่ยลี่’นั้นร้ายกาจเพียงใด อันที่จริง’เนี่ยลี่’ยังคงมีบางสิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ในแขนเสื้อของเขา จอมมารรับรู้ได้ถึงอำนาจการทำลายล้างของดาบเทพอัสนีดาวตก

ดาบเทพอัสนีดาวตกเป็นอาวุธที่น่ากลัวมาก ในตอนที่’เนี่ยลี่’อยู่ในระดับโกลด์ มันไม่สามารถปลดปล่อยพลังที่แท้จริงอันน่ากลัวออกมาได้ แต่ในตอนนี้เขาบรรลุถึงระดับตำนานแล้ว พลังอันแข็งแกร่งได้ถูกปลดปล่อยออกมาแข็งแกร่งจนน่าตื่นตะลึง สายฟ้าที่มีจำนวนแทบนับไม่ถ้วนยังคงไหลพุ่งเข้าไปรวมอยู่ในดาบเทพอัสนีดาวตก ‘เนี่ยลี่’ร้องคำรามกู่ก้องพร้อมกับฟันไปทาง’จอมมาร’ทันที

สายฟ้าขนาดใหญ่หลายร้อยเมตรพุ่งตรงไปยัง’จอมมาร’

สายฟ้าที่เต็มไปด้วยพลังทำลายล้างที่สูงมาก จนทำให้พวกของเขาที่อยู่มใกล้ๆ ต้องถูกบังคับให้ถอยออกไป

ขณะที่เห็นว่าสายฟ้าที่น่ากลัวกำลังพุ่งเข้ามาหาเขา แม้แต่’จอมมาร’ถึงกับแสดงท่าทีแปลกไปจากเดิม เขาหยิบกระบองคู่แห่งความโกรธแค้นออกมา มันปรากฏขึ้นในมือทั้งสองข้างของเขา เขาได้ฟาดมันออกไป เพื่อป้องกันพลังของสายฟ้าที่ไม่มีที่สิ้นสุด ที่’เนี่ยลี่’ได้ปล่อยออกมา

*ตูม!*

พลังงานทั้งสองเข้าปะทะกันราวกับว่าพวกเขาพยายามที่จะจะแยกฟ้าออกจากกัน  พลังที่ปล่อยออกมาปะทะกัน ทำให้ทำให้บ้านเรือนบางแห่งเหลือแค่เพียงกองขี้เถ้า

พลังงานสายฟ้าค่อยๆเกาะติดเข้ากับตัวของ’เนี่ยลี่’ และถูกปล่อยออกมาอีกเป็นครั้งที่สองพุ่งตรงเข้าหา’จอมมาร’ทันที

‘จอมมาร’ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่า ดาบเทพอัสนีดาวตก จะน่ากลัวถึงเพียงนี้

เมื่อรับรู้ได้ว่าสายฟ้ากำลังจะพุ่งมายังตัวของเขา ‘จอมมาร’ ยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย พร้อมกับหายตัวไปจากตรงนั้นและปรากฏตัวในที่ห่างไปประมาณ 100 เมตร เขาเปลี่ยนทิศทางโจมตีไปทางอื่นทันที

สายฟ้านั้นพลาดเป้าไป ขณะที่เนี่ยลี่มองดูจอมมารพุ่งไปหาพวกของเขา เขารู้สึกลางสังหรณ์ไม่ดีและฟันเทพอัสนีดาวตก
ไปทางโจมมารอีกครั้งทันที เอียมัวและคนอื่น ๆ ก็ส่งพลังเข้าโจมตีจอมมารพร้อมกัน

*ตูม!* *ตูม!* *ตูม!*

‘จอมมาร’พุ่งหลบไปยังกลุ่มที่พวกเขายืนอยู่ แล้วส่ง’ตู่ซื่อ’ลอยไปด้วยกำปั้น มันเป็นพลังที่น่ากลัวมาก มันทำให้’ตู่ซื่อ’ลอยไปไกลหลายสิบเมตรพร้อมกับกระอักเลือดออกมา

‘จอมมาร’หลบหลีกการจู่โจมทั้งหมดที่อยู่ตรงหน้าของเขา แม้แต่’เนี่ยลี่’เองก็ยังไม่อาจที่จะรับการโจมตีได้ทั้งหมด สำหรับคนอื่นๆแล้วยิ่งเป็นไปไม่ได้ ‘เอียจื้ออวิ้น’ และ’เซี่ยวหนิงเอ๋อ’ ก็ถูกซัดปลิวออกไป ‘ต้วนเจี้ยน’และ’ยู่หยาน’ก็เช่นกัน จิตสังหารของ’จอมมาร’ระเบิดออกมาอย่างรุนแรง ราวกับอสูรกายอาละวาด

ขณะที่เขาเห็นพวกของเขาถูก’จอมมาร’เข้าโจมตี  ‘เอียเซิ่ง’ พ่นลมหายใจอย่างเย็นชาพร้อมกับผสานร่างเข้ากับวานรวายุเหมันต์ แสงประกายสีทองเปร่งออกมาจากร่างกายของเขา ในขณะที่เขากำลังฟันดาบเข้าใส่จอมมาร

ในเวลาเดียวกัน ‘เนี่ยลี่’ ก็ฟันดาบของเขาใส่’จอมมาร’ด้วยเช่นกัน

‘จอมมาร’พ่นลมหายใจแล้วก็หายตัวไปอีกครั้ง ในตอนนี้เขากลับมาโผล่อยู่ที่ข้างหลัง’เอียเซิ่ง’ แล้วส่งดาบของ’เอียเซิ่ง’ลอยหลุดมือไป จากนั้นก็จับคอของเขาด้วยแขนข้างหนึ่ง

พลังสัจธรรมแห่งนรกไม่เพียงแค่จับ’เอียเซิ่ง’ไว้แต่มันยังทำลายชุดเกราะของเขาด้วย ด้วยพลังสัจธรรมแห่งนรก ทำให้’เอียเซิ่ง’คลายการผสานกับจิตอสูรของเขาอย่างรวดเร็ว ทำให้กลับมาอยู่ในร่างปกติอีกครั้ง ภายใต้พลังที่กดดันอยู่นี้ ทำให้’เอียเซิ่ง’ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เช่นเดียวกันกับดาบของ’เนี่ย’หยุดการโจมตีและค้างอยู่กลางอากาศ

“เอียเซิ่ง”

‘เอียมัว’ เตรียมที่จะพุ่งเข้าหา แต่เขาเกรงว่าจอมมารจะทำร้าย’เอียเซิ่ง’ จึงหยุดอยู่กลางอากาศ

“ท่านพ่อ!”

เมื่อเห็นภาพตรงหน้า ‘เอียจื้ออวิ้น’ รู้สึกวิตกกังวลจนเห็นได้ชัดจากใบหน้าของนาง

‘จอมมาร’จ้องไปทาง’เนี่ยลี่’พร้อมกับหัวเราะอย่างเย็นชา

“ดาบในมือของเจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก! ถ้าเราต่อสู้กัน ข้าก็คงจะไม่อาจทำอะไรเจ้าได้ แต่เจ้ามีจุดอ่อนมาเกินไป ทุกคนที่อยู่ที่นี่ล้วนเป็นจุดอ่อนของเจ้า นอกจากตัวเจ้าแล้ว ข้าสามารถฆ่าใครก็ได้ที่อยู่ตรงนี้!”

‘เนี่ยลี่’กำดาบเทพอัสนีดาวตกแน่นเสียจนเส้นเลือดที่แขนปูดขึ้นมา สิ่งที่’จอมมาร’พูดมานั้นไม่ผิดเลย ทุกคนที่อยู่ตอนนี้คือจุดอ่อนของเขา เพราะพวกเขาทุกคน ต่างก็เป็นคนที่มีความสำคัญในชีวิตของเขา!

เขาจ้องไปยังจอมมารพร้อมกับพูดอย่างเยือกเย็นว่า

“เจ้าปล่อยเขา แล้วข้าจะยอมให้เจ้าออกไป พวกเราจะไม่ติดใจเอาความในเรื่องนี้ แต่ถ้าเจ้าทำร้ายเขาที่นี่ แม้ว่าข้าจะต้องตามล่าเจ้าไปถึงอาณาจักรมังกรพ่าย ข้าก็จะตามฆ่าเจ้าให้ได้”

หลังจากได้ยินคำพูดของ’เนี่ยลี่’ ‘จอมมาร’ก็หัวเราะอย่างป่าเถื่อน

“เจ้าขู่ข้างั้นเหรอ? ในชีวิตหลายร้อยปีของข้า มีเพียงแต่ข้าเท่านั้นที่ข่มขู่ผู้อื่น ไม่เคยมีผู้ใดข่มขู่ข้ามาก่อน”

ตอนนี้’เอียเซิ่ง’ยังอยู่ในกำมือของจอมมาร ดังนั้น’เนี่ยลี่’จึงไม่กล้าทำให้การเคลื่อนไหวใดๆ ที่ไม่จำเป็น

คอของ’เอียเซิ่ง’ยังคงถูกจับด้วยมือขนาดใหญ่ที่มีพลังสัจธรรมแห่งนรก มันค่อยๆซึมเข้าสู่ร่างกายของเขา มันทำให้พลังสัจธรรมของเขานั้นกระจัดกระจาย มันทำให้เขาอึดอัดจนแทบพูดอะไรไม่ได้ ความแข็งแกร่งของ’เอียเซิ่ง’นั้น ยังห่างไกลจาก’จอมมาร’อีกมากนัก

“ไม่ต้องห่วงข้า จงฆ่ามันซะ!”

‘เอียเซิ่ง’ตะโกนออกมาด้วยความเจ็บปวด เขารวบรวมพลังสัจธรรมที่เหลืออยู่โจมตีเข้าใส่จอมมาร

 “ดิ้นรนราวกับเป็นมดปลวกงั้นเรหอ?”

‘จอมมาร’หัวเราะอย่างเย็นชา พร้อมกับคว้าแขนของ’เอียเซิ่ง’แล้วกระชากออกมา  เลือดของเขาพุ่งกระจายไปทั่ว ‘เอียเซิ่ง’ร้องด้วยความเจ็บปวด จากนั้นเขาก็อดกลั้นไม่ยอมร้องออกมา แต่สีหน้ายังคงบูดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก

“ท่านพ่อ!”

สายตาที่มองเห็นความเจ็บปวดและทรมานของ’เอียเซิ่ง’ ‘เอียจื้ออวิ้น’ถึงกับร้องตะโกนออกมา นางสร้างเสาน้ำแข็งขึ้นมา ขณะที่นางกำลังจะกระโจนออกไป ‘เอียมัว’ก็ได้หยุดนางเอาไว้

ถ้าหากปล่อยนางไปตอนนี้ นอกจากว่านางจะไม่อาจช่วย’เอียเซิ่ง’ได้ แต่นางจะทำให้ตัวเองตกอยู่ในอันตรายด้วย ‘เอียมัว’ก้าวออกมาข้างหน้าพพร้อมกับปล่อยพลังสัจธรรมแห่งวายุเหมันต์ไปยังจอมมาร

“จอมมาร ปล่อยเอียเซิ่งไปซะ ไม่อย่างนั้นอย่าฝันว่าวันนี้เจ้าจะได้กลับออกไปจากเมืองกลอรี่แบบเป็นๆได้ แม้ว่าจะต้องแลกด้วยชีวิตของข้า ข้าก็จะต้องเห็นเจ้ากลายเป็นศพ ”

“เอียมัว เจ้าคิดหรือว่าคำขู่ของเจ้าจะมีความหมายอะไรต่อข้า? ถ้าข้าอยากจะออกไปนะเหรอ? น่าขันยิ่งนัก เมื่อไม่นานมานี้ข้าได้ถึงขั้นสร้าง ชะตาวิญญาณ เจ้ามันก็เป็นได้แค่มดปลวกในสายตาของข้า”

จิตสังหารถูกปล่อยออกมาอย่างรุนแรง จากร่างของ’จอมมาร’ และพลังสัจธรรมแห่งนรกก็เพิ่มสูงขึ้นราวกับคลื่นยักษ์

“นี่เจ้าคิดจริงๆเหรอว่า พวกเจ้าจะสามารถแตะต้องตัวข้าได้หน่ะ?”

….จบตอน

แปลโดย นายมะพร้าว

คลิกเพื่อไปหน้าโฆษณาสนับสนุนเพจ

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments