I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Tales of Demons & Gods (妖神记) ตอนที่ 259 ความโกรธ

| Tales of Demons & Gods (妖神记) | 18799 | 2532 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

‘เนี่ยลี่’กำดาบเทพอัสนีดาวตกแน่น เมื่อเขาเห็นความเจ็บปวดของ’เอียซ่ง’ ในใจของเขารู้สึกเจ็บปวดยิ่งนัก ความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้สามารถรับมือจอมมารได้อย่างสูสี แต่การที่จะกำจัดเขานั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายดาย หลังจากที่ได้ใช้เวลาร่วมกันมา ในใจของ’เนี่ยลี่’นั้นนับถือ’เอียเซิ่ง’เป็นดั่งบิดาคนที่สองเลยทีเดียว

‘เอียเซิ่ง’กัดฟันสู้กับความเจ็บปวด แม้ว่าแขนของเขาข้างหนึ่งจะถูกฉีกออกไป แต่เขาก็ยังมีชีวิตอยู่ถึงแม้จะหายใจแทบไม่ออกก็ตาม
เขานิ่งสงบอยู่กลางอากาศ ด้วยทิฐิมานะที่ไม่ยอมแพ้

‘เอียเซิ่ง’พูดอย่างจริงจังว่า

“เนี่ยลี่ ไม่ต้องห่วงข้า จงรวมพลังของทุกคนสังหารมันซะ แม้ว่าข้าจะต้องลงนรก ข้าก็ไปอย่างมีความสุข”

สายตาของเขาจ้องมองไปยัง’เอียจื้ออวิ้น’ เขาใช้เวลาทั้งชีวิตของเขาในการปกป้องเมืองกลอรี่ ตราบจนลมหายใจสุดท้าย สิ่งเดียวที่เขาเสียใจคือการที่ต้องจาก’เอียจื้ออวิ้น’ไปเท่านั้น

เมื่อนางได้เห็น’เอียเซิ่ง’กำลังเจ็บปวดและทรมาน น้ำตาได้ไหลรินลงบนแก้มของ’เอียจื้ออวิ้น’ นางได้ถึงตอนที่ยังเป็นเด็ก เมื่อพ่อจับมือของนาง และพานางไปตามที่ต่างๆ พวกเขาเฝ้ามองดูเมฆสีแดงชาดที่ลอยอยู่ห่างไกล ตอนนั้น’เอียเซิ่ง’พูดกับนางว่า

“ลูกอวิ้น เจ้ารู้ไหม? เมืองกลอรี่เป็นสถานที่เดียวที่เราเรียกได้ว่าบ้าน บรรพบุรุษนับไม่ถ้วนที่สละชีวิตเพื่อปกป้องบ้านหลังนี้ เลือดทุกหยดที่รินไหลของพวกเขาคือส่วนหนึ่ง ของความทรงเกียรติของตระกูลวายุเหมันต์ เจ้าจะต้องภูมิใจในบรรพบุรุษทุกคน ถ้าหากวันหนึ่งเมืองกลอรี่ต้องพบกับอันตราย ข้าก็พร้อมที่จะสละชีวิตของข้าโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย”

ในตอนนั้น ‘เอียจื้ออวิ้น’ ไม่สามารถที่จะเข้าใจคำพูดของบิดา แต่ในขณะที่นางเติบโตขึ้นมาและเริ่มที่จะเข้าใจ นางพยายามอย่างที่สุด เพื่อที่จะได้แข็งแกร่งพอที่จะคอยช่วยเหลือบิดา จนในที่สุดนางก็ก้าวเข้าสู่ระดับตำนาน แต่ตอนนี้ นางทำได้เพียงมองดู’เอียเซิ่ง’ที่กำลังลำบาก

‘จอมมาร’หัวเราะแล้วพูดว่า

“เอียเซิ่ง เจ้าคิดเหรอว่าแค่มีจำนวนมากกว่าแล้วร่วมมือกัน จะสามารถกำจัดข้าได้งั้นเหรอ?  ส่งศิลาวิญญาณอสูรมาให้ข้า ถ้าไม่เช่นนั้นไม่ใช่เพียงแค่เจ้า แต่ทุกคนที่อยู่ที่นี่ต้องตายทั้งหมด ”

หลังจากที่พูดจบจอมมารคว้าแขนที่เหลือของ’เอียเซิ่ง’แล้วกระชากมันออก เมื่อแขนของเขาถูกฉีกออก ใบหน้าของ’เอียเซิ่ง’ก็บิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด

ในทางตรงกันข้ามกับความทุกข์ทรมานของเขา ‘จอมมาร’กลับรู้สึกมีความสุข เขาจับลงบนคอของ’เอียเซิ่ง’ แล้วบีบอย่างรุนแรง เขาสามารถที่ฆ่า’เอียเซิ่ง’เมื่อไหร่ก็ได้ตามต้องการ เพียงแค่เขาใช้แรงเพิ่มอีกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

เมื่อเห็นว่าชีวิตของ’เอียเซิ่ง’กำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย ‘เอียมัว’จึงรีบตะโกนออกไป

“รอก่อน ถ้าหากเจ้าปล่อยเอียเซิ่ง ข้าจะมอบศิลาวิญญาณอสูรให้กับเจ้า ”

‘เอียมัว’หยิบศิลาวิญญาณอสูรออกมา

‘จอมมาร’พูดอย่างเย็นชาว่า

“โยนศิลาวิญญาณอสูรมาให้ข้า”

“เจ้าต้องปล่อยเขาก่อน”

‘เอียมัว’พูดด้วยน้ำเสียงขึงขัง

‘จอมมาร’ยิ้มอย่างเลือดเย็นแล้วพูดว่า

“เอียมัว ดูเหมือนว่าเจ้าจะยังไม่เข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้นะ พวกเจ้าไม่มีทางเลือกอื่น ถ้าเจ้าไม่ส่งศิลาวิญญาณอสูรมาตอนนี้ เข้าจะฆ่าเอียเซิ่งก่อนเป็นอันดับแรก แล้วไปเอามันมาจากมือของเจ้าเอง ดังนั้นสิ่งที่เจ้าควรจะทำให้ข้ามันคืออะไรคิดดูซิ”

‘จอมมาร’ยังคงออกแรงบีบคอ’เอียเซิ่ง’ ร่างกายของเขาอาบไปด้วยเลือด ถ้าหากไม่ได้รับการช่วยเหลือในทันที มันอาจจะสายเกินไป

ดวงตาของ’เอียมัว’ เบิกโพลง แท้ว่าเขามักจะเข้มงวดกับ’เอียเซิ่ง’ แต่ตัวเซิ่งก็ทำให้เขาภาคภูมิใจอยู่เสมอ ในขณะที่เขามองดูลูกชายของเขาเองต้องทนทุกข์ทรมาน เขาอยากจะให้เป็นตัวของเขาเองเสียมากกว่าที่ต้องรับความเจ็บปวดนั้นแทน

“นี่คือศิลาวิญญาณอสูรที่เจ้าต้องการ!”

‘เอียมัว’โยนศิลาออกไป

*หมับ!*

‘จอมมาร’จับศิลาวิญญาณอสูรในมือข้างหนึ่งพร้อมกับตรวจสอบมัน

“ตอนนี้เจ้าก็ปล่อยเอียเซิ่งได้แล้ว!”

‘เอียมัว’กำหมัดแน่นพร้อมกับทวงสัญญา

“แน่นอน ข้าจะคืนตัวเขาให้กับพวกเขา!”

รอยยิ้มที่โหดร้ายและน่ากลัวเคลือบอยู่บนใบหน้า’จอมมาร’ แขนข้างหนึ่งของเขาแทงหน้าอก’เอียเซิ่ง’เลือดพุ่งสาดกระเซ็นไปทั่วและพ่นเลือดทุกที่ ‘จอมมาร’เลียเลือดที่เลอะบนใบหน้าของเขา

“ฮ่าฮ่า รสชาดช่างหอมหวนอะไรเช่นนี้ เอียมัว การต่อสู้ของเรายาวนานนับสิบปี และในวันนี้ ลูกชายของเจ้ากำลังจะตายด้วยน้ำมือของข้า แต่ไม่ต้องห่วง ข้าจะปล่อยให้เขาตายเพียงลำพัง ข้าจะจัดการกับเจ้าเป็นรายต่อไป เจ้าทั้งคู่จะได้ไปสังสรรค์กันในนรกยังไงหล่ะ”

ขณะที่’จอมมาร’กำลังแทงหน้าอก’เอียเซิ่ง’อยู่นั้น ความมุ่งมั่นยังคงแสดงออกมาบนใบหน้าของ’เอียเซิ่ง’ ตัวเขาที่ถูกแทงอยู่นั้นมีพลังงานแผ่กระจายออกไปทั่วบริเวณ ไหลออกมาจากร่างกายของเขากระดูกของเขากลายเป็นน้ำแข็ง และค่อยๆกระจายความเย็นออกไปรอบๆ

ปรากฏรอยยิ้มบนใบหน้าของ’เอียเซิ่ง’

“เนี่ยลี่ ดูแลลูกอวิ้นของข้าให้ดีนะ”

ในใจของเขา เขานึ้พึงพอใจมากแล้ว ที่สามารถฝากฝังลูกสาวของเขาให้กับคนอย่าง’เนี่ยลี่’ได้ดูแล เขาสามารถที่จะจากไปอย่างสงบ ร่างกายของ’เอียเซิ่ง’กลายเป็นน้ำแข็ง และมีความเย็นจัดค่อยๆแทรกซึมเข้าไปในตัวของจอมมาร

*ตูม!*

แขนทั้งสองข้างของจอมมารระเบิดออกมา เขากรีดร้องออกมาอย่างน่าสมเพช

“เจ้ามดปลวก แม้กระทั่งตายไปแล้ว เจ้าก็ยังบังอาจทำร้ายข้างั้นเรอะ! “

‘จอมมาร’คำรามกึกก้อง วิชาลับของ’เอียเซิ่ง’ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส

“ท่านพ่อ!”

‘เอียจื้ออวิ้น’ ร่ำไห้ด้วยความเจ็บปวด

“เอียเซิ่ง”

‘เอียมัว’ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ในตอนนั้นเขาสะเทือนใจเป็นอย่างมาก เขาไม่คิดเลยว่า’เอียเซิ่ง’กำลังจะตาย

คนอื่นๆที่ยืนอยู่ก็ตกละลึงไม่แพ้กัน พวกเขาไม่คิดว่า’จอมมาร’จะสังหาร’เอียเซิ่ง’หลังจากที่ได้รับศิลาวิญญาณอสูรไป

‘จอมมาร’นั้นได้ตัดสินใจไว้แต่แรกอยู่แล้ว ไม่ว่า’เอียมัว’จะส่งศิลาวิญญาณอสูร มาหรือไม่ เขาก็จะกำจัด’เอียเซิ่ง’อยู่ดี

‘เอียเซิ่ง’ได้ใช้เคล็ดสละชีพ ซึ่งเป็นเคล็ดวิชาลับของตระกูลวายุเหมันต์ เมื่อเขาใช้เคล็ควิชานี้แล้วจิตวิญญาณของเขาจะถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง ขณะที่เขามองดูร่างกายของ’เอียเซิ่ง’กลายเป็นน้ำแข็ง ตาของ’เนี่ยลี่’แดงก่ำ ความโกรธอัดแน่นอยู่ในหน้าอกของเขา เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่า’จอมมาร’จะฆ่า’เอียเซิ่ง’โดยไร้เหตุผลเช่นนี้

ความหนาวเหน็บค่อยๆปกคลุมใบหน้าของ’เนี่ยลี่’  ทำให้เขาดูน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก จิตสังหารแผ่กระจายอยู่รอบตัวของเขา ดาบเทพอัสนีดาวตกในมือของเขาเปร่งประกายอย่างเห็นได้ชัด และในท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยสายฟ้า แสงสะท้อนบนใบหน้าของ’เนี่ยลี่’ ระยิบระยับไปทั่วตัวของเขา

ความทรงจำนับไม่ถ้วนในช่วงเวลาที่เขาอยู่กับ’เอียเซิ่ง’เข้ามาอยู่ในหัวของเขา ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบกันและได้ต่อสู้กับ’เอียเซิ่ง’ ทัศนคติของเขาก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปอย่างช้า ๆ และค่อยๆยอมรับความสัมพันธ์ของเขากับ’เอียจื้ออวิ้น’

ในใจของ’เนี่ยลี่’นั้น แม้ว่า’เอียเซิ่ง’จะเป็นคนที่หัวแข็ง แต่’เอียเซิ่ง’ก็เป็นพ่อที่ใจดี

ภาพเหล่านั้นของ’เอียเซิ่ง’ยังคงอยู่ในความทรงจำของเขา

ทันที่ที่’เอียเซิ่ง’ตาย ดวงตาของทุกคนแดงก่ำ และพร้อมที่จะสู้กับ’จอมมาร’  แต่พวกเขาก็รับรู้ถึงจิตสังหารที่น่ากลัว นั่นทำให้ร่างกายของพวกเขาถึงกับหยุดนิ่ง

พวกเขาหันไปมองทาง’เนี่ยลี่’ เสื้อผ้าของเขาปลิวโบกสะบัด ในขณะที่ร่างกายของเขาถูกห่อหุ้มไปด้วยพลังสัจธรรมทั้งสาม ดาบเทพอัสนีดาวตกในมือของเขาก็ปลดปล่อยพลังขนาดที่ไม่อาจจะจินตนาการได้ออกมา

*ตูม!* *ตูม!* *ตูม!*

จิตสังหารของ’เนี่ยลี่’เพิ่มมากขึ้น ในตอนนี้ เขาดูราวกับเทพอสูรที่ขึ้นมาจากนรก

เมื่อเขาได้กลับมาในเวลานี้ ในชีวิตนี้ ‘เนี่ยลี่’ตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของทุกคน รวมไปถึง’เอียเซิ่ง’ แต่ตอนนี้เขารู้ว่าเขาไม่สามารถที่จะควบคุมชะตากรรมของทุกคนได้

ก่อนหน้านี้ ‘เนี่ยลี่’ก็มีความรู้สึกเห็นใจ’จอมมาร’อยู่บ้าง หลังจากที่พ่อบุญธรรมของเขาถูกฆ่า ดังนั้นเขาจึงทรยศหลังเมืองกลอรี่ แต่ถึงอย่างนั้น ‘เนี่ยลี่’ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเขาจะบ้าคลั่งถึงขนาดนี้  เมื่อเขาคิดถึงการตายของ’เอียเซิ่ง’ ในใจของ’เนี่ยลี่’ถูกแผดเผาไปด้วยความโกรธที่ไม่รู้จักจบสิ้น

“ตายซะ!”

พร้อมกับทะยานไปด้วยเจตจำนงแห่งการสังหาร ‘เนี่ยลี่’กลายเป็นปิศาจกระหายเลือดไปแล้ว และพุ่งเป้าไปที่จอมมาร แท่งสายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าหา’จอมมาร’ มองราวกับว่าท้องฟ้าถูกฉีกออกด้วยความโกรธของเขา

‘จอมมาร’ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการลงมือของ’เอียเซิ่ง’ ทำให้แขนทั้งสองข้างของเขาหายไป ก่อนที่เขาจะคืนสภาพ เขาก็รับรู้ถึงจิตสังหารที่พุ่งมาที่เขาราวกับคลื่นทะเลที่ไม่มีที่สิ้นสุด เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า ‘เนี่ยลี่’จะสามารถระเบิดพลังที่แข็งแกร่งขนาดนี้ออกมาได้

‘เนี่ยลี่’นั้นมีเคล็ดวิชาลับที่สามารถเพิ่มระดับความแข็งแกร่งให้สูงขึ้นหลายเท่าได้

นี่เป็นครั้งแรกที่’จอมมาร’รู้สึกถึงอันตราย พลังระดับนี้มีมากพอที่ทำลายเขาให้สิ้นซากได้ ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยมีความกังวลใดๆต่อ’เนี่ยลี่’ ในมุมมองของเขา แม้ว่าเขาไม่อาจที่จะฆ่า’เนี่ยลี่’ได้ แค่เพียงฆ่าเหล่าสหายของ’เนี่ยลี่’ก็พอแล้ว ถ้าหาก’เนี่ยลี่’อยู่อย่างโดดเดี่ยว ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะสามารถคุกคามจอมมารได้อีกต่อไป

แต่ว่า เขาคิดผิด เขาไม่เคยคิดว่า ‘เนี่ยลี่’จะสามารถเรียกพลังอันแข็งแกร่งออกมาได้ถึงเพียงนี้

‘เนี่ยลี่’คำรามกึกก้องด้วยความโกรธ  เขาจับดาบเทพอัสนีดาวตกในมือของเขา และฟันไปที่จอมมาร สายฟ้าขนาดใหญ่ทะลวงท้องฟ้าและผ่าลงมา พร้อมกับสร้างความกดดันให้จอมมารเป็นอย่างมาก

ในทันที’จอมมาร’ได้นำอาวุธคู่ใจของเขา ที่เป็นกระบองคู่ออกมา และใช้พลังสัจธรรมแห่งนรก เพื่อที่จะรับมือกับสายฟ้า

*ตูม!*

ท้องฟ้าแทบจะแยกออกจากกัน พลังงานถูกกระแทกกระจัดกระจายไปในทันที ‘ตู่ซื่อ’ ‘ลู่เพียว’ และคนอื่นๆ ถูกพัดกลิ้งออกไป
พลังระดับนี้ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะรับมือได้ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในระดับตำนานแล้วก็ตาม ราวกับว่าพวกเขาเป็นเพียงใบไม้ที่ถูกคลื่นสินามิโหมกระหน่ำ

“นี่มันพลังอะไรกันนี่!”

‘ตู่ซื่อ’และคนอื่นๆต่างก็รู้สึกตกใจ

สายฟ้าขนาดยักษ์ ฟาดลงมาอย่างหนัก ราวกับว่ามันกำลังจะทำลายโลกเลยทีเดียว

‘จอมมาร’ไม่อาจที่จะทนต่อการโจมตีที่ทรงพลังนี้ได้  ด้วยกระบองคู่ของเขา และมันก็หลุดลอยออกไปจากมือของเขา ผลกระทบจากสายฟ้า กัดกินร่างกายของเขาและทำลายแขนเขาไปบางส่วนโดยทันที

 “อ๊ากกก!”

‘จอมมาร’ กรีดร้องอย่างน่าสังเวช

สายฟ้าได้ทำลายแขนของ’จอมมาร’  จากนั้นมันก็พุ่งผ่านไปที่หน้าอกของเขา ทันใดนั้นก็เปร่งแสงระยิบระยับ ทำให้เขาลอยไปในทันที

‘จอมมาร’ถถ่มน้ำลายออกมาคำหนึ่ง มันเต็มไปด้วยเลือด สร้างความตกใจแก่เขาจนปรากฏออกมาทางสายตา พลังของสายฟ้านี้มันแข็งแกร่งมากเกินไปแล้ว มันไม่ใช่สิ่งที่เขาจะทนได้ นี่ถ้าไม่มีของวิเศษของเขา ของวิเศษนี้จะมีพูดถึงในอนาคต เขาคงถูกทำลายไปด้วยสายฟ้าพวกนั้นแล้ว

‘เนี่ยลี่’ราวกับสืบสายเลือดมากจากเทพอสูร ทำให้คนอื่นๆเหมือนกับเป็นคนธรรมดา ที่ไม่อาจจะทำอะไรได้

เมื่อเขาตระหนักว่า’จอมาร’ยังมีชีวิตอยู่ ‘เนี่ยลี่’กวัดแกว่างดาบเทพอัสนีดาวตกอีกครั้ง ปรากฏเป็นเส้นโค้งไปทางตัวของจอมมาร

*ตูม!*

‘จอมมาร’ถูกส่งให้ลอยขึ้นไปบนฟ้าอีกครั้ง คราวนี้ขาทั้งสองของเขา และแม้แต่หัวของเขาก็ถูกทำลายด้วยแท่งสายฟ้าเหล่านั้น
อย่างไรก็ตาม เพราะของวิเศษทำให้ร่างกายของเขายังได้รับการคุ้มครอง ทำให้ทำให้เขากลายเป็นแสงพุ่งไปยังทิศทางอื่น

“ข้าจะฆ่าเจ้า!”

‘เนี่ยลี่’ยังคงอยู่ในสภาพที่บ้าคลั่ง เขาระดมยิงเสาสายฟ้าของเขา ไล่ตามแสงที่พุ่งไป ฟ้าผ่าจำนวนนับไม่ถ้วนโปรยลงมาราวกับเม็ดฝน

*ตูม!* *ตูม!* *ตูม!*

สายฟ้านับไม่ถ้วน ผ่าลงมาเป็นแนวบนพื้นดิน มันยังคงแหวกท้องฟ้าออกมาจากนั้นก็หายลับไปในขอบฟ้า

“จอมมาร แม้ว่าเจ้าจะหลบหนีไปจนสุดขอบโลก ข้าก็จะไล่ล่าและกำจัดเจ้าให้สิ้นซาก จนกว่าข้าจะมั่นใจว่าแกจะไม่มีทางได้มาเกิดใหม่อีกชั่วนิรันด์ ”

เสียงอันโกรธเกรี้ยวของ’เนี่ยลี่’ดังไปทั่วขอบฟ้า

ของวิเศษของ’จอมมาร’นั้น อย่างน้อยก็นับว่าเป็นอันดับ 3 ของสิ่งป้องกันของอณาจักรซากมังกร ในโลกเล็กๆแห่งนี้

นอกจากผู้เยี่ยมยุทธที่แข็งแกร่งดั่ง เจ้าแห่งนครใต้พิภพ ไม่มีใครที่สามารถฆ่า’จอมมาร’ได้ ในตอนนี้’เนี่ยลี่’ไม่อาจที่จะกำจัดจอมมารได้นอกเสียจากว่าเจ้าแห่งนครใต้พิภพ จะช่วย’เนี่ยลี่’ฆ่าจอมมาร เรื่องเช่นนั้นก็ไม่อาจที่จะเป็นไปได้

ในสายตาของผู้เยี่ยมยุทธอย่าง เจ้าแห่งนครใต้พิภพ ทั้ง’เนี่ยลี่’และ’จอมมาร’ อยู่ในฐานะที่เท่าเทียมกัน พวกเขาต่างก็มีความสามารถ นั่นคือทั้งหมดที่เขาสนใจ  โดยเฉพาะการที่จะเข้าไปยังอาณาจักรซากมังกร และหากมีความแข็งแกร่งมากพอ ผู้เยี่ยมยุทธเหล่านั้น ก็จะไม่มีสนใจเรื่องอื่นใด

‘เนี่ยลี่’จ้องมองไปยังขอบฟ้า ด้วยความประหลาดใจ จิตสังหารในตัวเขาค่อยๆหายไป ‘เอียเซิ่ง’ตายแล้วงั้นเหรอ?

เมื่อช่วงเช้าก่อนหน้านี้เขายังคงพูดคุยกับ’เอียเซิ่ง’

แต่ตอนนี้ เวลาแค่เพียงอึดใจเดียว มันรวดเร็วจนเกินไป ‘เนี่ยลี่’ยังไม่อาจยอมรับความจริงที่ว่า เขาก็ไม่ได้อยู่บนโลกนี้อีกแล้ว…

จบตอน

แปลโดย นายมะพร้าว

คลิกเพื่อไปหน้าโฆษณาสนับสนุนเพจ

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments