Chapter 15 Episode 2: Exodus / Chapter 15: Encounter (2) TL: Myoni Edited: Myoni, Yoni     The three people who came down were the unemployed 31-year-old Kim Chulho, an elderly man and a middle-aged woman
สามคนที่ลงมาคือคนที่ไม่มีงานทำคิมชูลโฮอายุ 31 ปีและหญิงวัยกลางคนวัย 31 ปี
 Choi Hyuk listened to their situation
Choi Hyuk ได้ฟังสถานการณ์ของพวกเขา
 Unexpectedly, the situation outside the school was completely different
สถานการณ์นอกโรงเรียนแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
 First, there wasn’t anything like the Ring of Rebirth or the Throne Game
ประการแรกไม่มีอะไรที่เหมือนกับ Ring of Rebirth หรือ Throne Game
 “Ring? I don’t know about that
"แหวน? 
 Just the television didn’t work and some weird words appeared but nothing happened
เพียงแค่โทรทัศน์ไม่ได้ผลและมีคำแปลก ๆ ปรากฎ แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
 In the morning
ตอนเช้า
” “Once it became night, the monsters attacked
"" เมื่อมันกลายเป็นคืนที่มอนสเตอร์โจมตี
 Like the one you fought just now
เช่นเดียวกับที่คุณต่อสู้เพียงแค่ตอนนี้
” “Besides that, there was a re~ally big monster
"" นอกจากนั้นแล้วยังมีมอนสเตอร์ตัวใหญ่อีกตัวหนึ่ง
 It only appeared for a second… I’m telling you it was the size of an apartment
มันเกิดขึ้นเพียงครั้งที่สอง ... ฉันบอกคุณว่ามันเป็นขนาดของอพาร์ทเม้น
 I couldn’t see it very well because it was dark… but light shined out from its eyes and mouth… yeah
ฉันไม่สามารถมองเห็นได้ดีเพราะมันมืด ... แต่แสงส่องออกมาจากตาและปากของเธอ ... ใช่
 A dinosaur
ไดโนเสาร์
 It was like a dinosaur
มันเหมือนกับไดโนเสาร์
” “That exaggeration! I didn’t see anything like that!” “I didn’t see it either…” “I’m telling you I saw it!”   Choi Hyuk was deep in thought
"" การพูดเกินจริงที่! 
 How many slashes would it take to kill an apartment-sized monster? Would that be enough? Anyways, that was all the useful information they had
มีท่อนกี่ตัวที่จะฆ่ามอนสเตอร์ขนาดพาร์ทเมนต์? 
 “I understand
"ฉันเข้าใจ
 I am going to Shinmyung Middle School
ฉันไปโรงเรียนมัธยมชินมินส
 What are you going to do?” The three looked at each other
คุณจะทำอะไร? "ทั้งสามมองไปที่กันและกัน
 In the end, the elderly man decided to stay in the apartment while the middle-aged woman and Kim Chulho followed him
ในที่สุดชายชราก็ตัดสินใจที่จะอยู่ในอพาร์ตเมนต์ขณะที่หญิงวัยกลางคนและคิมชูลโฮไปตามเขา
 It looked like the middle-aged woman held some expectations that her husband and child might be there
ดูเหมือนว่าหญิงวัยกลางคนคาดหวังว่าสามีและลูกอาจอยู่ที่นั่น
 They were currently imagining Shinmyung Middle School as a refugee shelter
ตอนนี้พวกเขากำลังจินตนาการถึงโรงเรียนมัธยมชินมินสึเป็นที่พักพิงผู้ลี้ภัย
 However, in reality, that place was a war zone
อย่างไรก็ตามในความเป็นจริงสถานที่แห่งนี้เป็นเขตสงคราม
   ** There were quite a few people who found the message that appeared in front of their eyes unusual
** มีคนไม่กี่คนที่พบข้อความที่ปรากฏอยู่หน้าตาของพวกเขาผิดปกติ
 Since it didn’t only appear for them
เนื่องจากมันไม่เพียง แต่ปรากฏสำหรับพวกเขา
 On top of that, all communication was cut and those who wanted to leave Gangdong district were blocked by a weird wall
จากนั้นการสื่อสารทั้งหมดถูกตัดออกและผู้ที่ต้องการออกจากย่าน Gangdong ถูกบล็อกโดยกำแพงแปลก ๆ
 A situation they couldn’t understand… That was why people gathered at the assembly area, Shinmyung Middle School
สถานการณ์ที่พวกเขาไม่เข้าใจ ... นั่นคือเหตุผลที่ผู้คนชุมนุมกันที่บริเวณชุมนุม Shinmyung Middle School
 Those who arrived at Shinmyung Middle School received a message
ผู้ที่มาถึงโรงเรียนมัธยมชินมินได้รับข้อความ
   ——————– [Throne Game + Survive and Escape] All of Gangdong district has become a war zone
------- [เกมบัลลังก์ + Surviveand Escape] เมืองฮุงดองทั้งหมดกลายเป็นพื้นที่สีเขียว
 You cannot go past Gwangjin bridge in the north and the stadium in the south
คุณไม่สามารถไปทางทิศเหนือและทิศตะวันตกเฉียงเหนือไปทางทิศเหนือกวางโจวทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
 On the 30th day, the locations of escape codes will be announced
ในวันที่ 30 จะมีการประกาศสถานที่ของรหัสหลบหนี
 Only the troops who have obtained the escape code may escape
เฉพาะทหารที่ได้รับรหัสหนีอาจหลบหนี
 Occasionally, locations of places with living supplies will be announced
บางครั้งจะมีการประกาศสถานที่ตั้งของสถานที่ที่มีวัสดุเหลือใช้อยู่
   ——————–   Besides the fact that they had yet to receive the locations of the supplies, the message was the same as the one the students received
------- นอกจากข้อเท็จจริงที่ว่าพวกเขายังไม่ได้รับตำแหน่งของวัสดุสิ้นเปลืองข้อความก็เหมือนกับนักเรียนคนหนึ่งที่ได้รับ
 At the same time, they received a message and their bodies filled with strength
ในเวลาเดียวกันพวกเขาได้รับข้อความและร่างกายของพวกเขาเต็มไปด้วยความแข็งแรง
 [You have arrived at the assembly area
[คุณมาถึงที่บริเวณแอสเซมบลีแล้ว
 Karma has been distributed
กรรมได้รับการแจกจ่ายแล้ว
]   At Shinmyung Middle School, there were many supplies necessary for battle
] ที่โรงเรียนมัธยมชินมียองมีอุปกรณ์มากมายที่จำเป็นสำหรับการสู้รบ
 Food, weapons, item order requests as well as a 3-day ‘Barrier of the Weak’
อาหารอาวุธคำสั่งซื้อสินค้ารวมถึง "Barrier of the Weak" ระยะเวลา 3 วัน
 The ‘Barrier of the Weak’ was especially important
"Barrier of the Weak" เป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะ
 While the barrier was in effect, abilities of monsters that entered the school would be reduced to less than half
ในขณะที่อุปสรรคมีผลบังคับใช้ความสามารถของมอนสเตอร์ที่เข้าโรงเรียนจะลดลงเหลือน้อยกว่าครึ่ง
 If that wasn’t the case, with the stats of these people who had just received karma, they would no be able to avoid annihilation on the first monster attack
ถ้าไม่ใช่กรณีที่มีสถิติของคนเหล่านี้ที่เพิ่งได้รับกรรมพวกเขาจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการทำลายล้างในการโจมตีครั้งแรกของมอนสเตอร์ได้
 But, even these weakened monsters were too strong for these people
แต่แม้กระทั่งเหล่ามอนเตอร์ที่อ่อนแอเหล่านี้ก็แข็งแรงเกินไปสำหรับคนเหล่านี้
 When night fell, monsters came while these people were buzzing in confusion and anxiety
เมื่อคืนตกอสุรกายมาถึงขณะที่คนเหล่านี้หงุดหงิดสับสนและวิตกกังวล
 That was when hell broke loose
นั่นคือตอนที่นรกแหกปาก
   “Gahhhhhh!” “Aaaahhhhh!” “This bastard!!” The battlefield rampant with curses and screams
"Gahhhhhhh!" "Aaaahhhhhh!" "ไอ้คนนี้!" สนามรบอาละวาดด้วยคำสาปแช่งและเสียงกรีดร้อง
 The actions of the monsters, crooks, were similar to wolves
การกระทำของมอนสเตอร์เหล่าร้ายก็คล้ายกับหมาป่า
 They were shrewd
พวกเขาฉลาด
 They never fought humans head-on
พวกเขาไม่เคยต่อสู้มนุษย์บนศีรษะ
 First, people blockaded themselves in the school
ประการแรกคนปิดกั้นตัวเองอยู่ในโรงเรียน
 But the crooks stepped on each other as they jumped onto the 2nd floor
แต่พวกโจรก้าวข้ามกันขณะกระโดดขึ้นไปบนชั้น 2
 Although they were distributed karma, the old and the weak who weren’t mentally prepared were located on the 2nd floor
แม้ว่าพวกเขาจะแจกจ่ายกรรม แต่คนแก่และคนที่อ่อนแอซึ่งไม่ได้เตรียมจิตใจอยู่ในชั้น 2
 It resulted in massive losses
ส่งผลให้เกิดการสูญเสียมาก
 As the people at the frontlines hurriedly gathered on the 2nd floor, the crooks fell back to the field like a receding tide
ขณะที่คนที่แนวหน้ารีบรีบไปรวมตัวกันที่ชั้น 2 พวกทรยศก็ทรุดตัวลงไปที่ทุ่งเหมือนน้ำที่ตกลงมา
 The crooks excelled in psychological warfare
โจรที่เก่งในสงครามจิตวิทยา
 They all disappeared together and once people relaxed due to their absence, they launched a surprise attack
พวกเขาทั้งหมดหายไปด้วยกันและเมื่อคนผ่อนคลายเนื่องจากการขาดพวกเขาเปิดตัวโจมตีแปลกใจ
 This battle continued on the whole night
การรบครั้งนี้เกิดขึ้นต่อเนื่องตลอดทั้งคืน
 Now people no longer set up a blockade in the school building but rather herded them into the field and started a bloodbath
ตอนนี้คนไม่ได้ตั้งการปิดล้อมในอาคารเรียนอีก แต่นำพวกเขาเข้าสู่สนามและเริ่มนองเลือด
 They had realized that instead of fighting in narrow hallways, it was more effective to fight in formation in a large area
พวกเขาได้ตระหนักว่าแทนที่จะต่อสู้ในทางเดินแคบก็มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการต่อสู้ในการก่อตัวในพื้นที่ขนาดใหญ่
 One-third of the people died in vain before they realized this
หนึ่งในสามของผู้คนเสียชีวิตโดยเปล่าประโยชน์ก่อนที่พวกเขาจะตระหนักถึงเรื่องนี้
 Although it was a fight between around 2000 people and 60 monsters, currently there were 1371 people and 46 monsters left
แม้ว่าจะมีการสู้รบระหว่าง 2,000 คนกับ 60 มอนสเตอร์ แต่ในปัจจุบันมีผู้เสียชีวิต 1371 คนและอีก 46 คน
 Luckily, if not for the fact there were many men who had military experience[1], it wouldn’t have been strange for them to be annihilated that night
โชคดีถ้าไม่ใช่เพราะข้อเท็จจริงที่ว่ามีผู้ชายหลายคนที่มีประสบการณ์ทางทหาร [1] คงจะไม่แปลกที่จะถูกทำลายในคืนนั้น
 An unorganized group was no better than delicious candy for them
กลุ่มที่ไม่มีการรวบรวมไม่ได้ดีไปกว่าลูกอมแสนอร่อยสำหรับพวกเขา
   However, such dire situations were opportunities for outstanding individuals to showcase their talent
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ที่เลวร้ายเช่นนั้นคือโอกาสสำหรับบุคคลที่โดดเด่นในการแสดงความสามารถของพวกเขา
 “Fucking monster bastards…” Kang Dongsoo was like that
"ไอ้ตัวผู้โง่เขลา ... " คัง Dongsoo เป็นแบบนั้น
 He who had become acknowledged by everyone for his command felt that it was time to end the fight
ผู้ที่ได้รับการยอมรับจากทุกคนสำหรับคำสั่งของเขารู้สึกว่าถึงเวลาที่จะจบการต่อสู้
 Although they obtained a mystical power known as karma, after prolonged skirmishes and brawls, everyone was extremely exhausted
แม้ว่าพวกเขาจะได้รับพลังลึกลับที่รู้จักกันในชื่อกรรมหลังจากการต่อสู้และการทะเลาะกันเป็นเวลานานทุกคนก็เหนื่อยมาก
 It was obvious that if this was to continue, they would crumble like a sand castle
เห็นได้ชัดว่าถ้าจะดำเนินต่อไปพวกเขาจะพังทลายเหมือนปราสาททราย
 So Kang Dongsoo organized a suicide squad[2]
ดังนั้นคังดองโซจึงจัดทีมฆ่าตัวตาย [2]
 ‘While we still have strength, we need to clear out the crooks and rest a bit
'ในขณะที่เรายังคงมีกำลังใจเราจำเป็นต้องล้างออก Crooks และพักผ่อนสักหน่อย
’ However, that wasn’t easy
"อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย
 ‘The biggest problem is that the crooks fall back when they are at a disadvantage
ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดคือโจรกลับถอยหลังเมื่อพวกเขาเสียเปรียบ
’ The crooks would fall back even if they were slightly disadvantaged
พวกโจรจะถอยกลับไปแม้ว่าพวกเขาจะด้อยโอกาสเล็กน้อยก็ตาม
 There was nothing they could do
ไม่มีอะไรที่พวกเขาสามารถทำได้
 Since they weren’t faster than them nor could they leave the Barrier of the Weak
เนื่องจากพวกเขาไม่เร็วกว่าพวกเขาและไม่สามารถออกจาก Barrier of the Weak
 The moment they left the barrier, against the crooks that regained their true strength, humans would break apart like tofu
ขณะที่พวกเขาออกจากกำแพงกั้นกับโจรที่ฟื้นพลังที่แท้จริงของพวกเขามนุษย์จะแตกสลายเหมือนเต้าหู้
 There was another problem
มีปัญหาอีกอย่างหนึ่ง
 The crooks recovered much faster than humans
พวกโจรฟื้นตัวเร็วกว่ามนุษย์
 That was why they would run out of the barrier, recover then charge back in
นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาจะวิ่งหนีออกจากกำแพง
 The crooks would become energetic while the humans became sluggish
คนโกงจะกลายเป็นพลังในขณะที่มนุษย์เริ่มซบเซา
 ‘I have to stop them from retreating
"ฉันต้องหยุดพวกเขาไม่ให้ถอยออกไป
’ That was why the role of the suicide squad was important
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมบทบาทของทีมฆ่าตัวตายจึงมีความสำคัญ
 The suicide squad’s mission was simple
ภารกิจของทีมฆ่าตัวตายนั้นง่ายมาก
 Secretly leave and hide and once the crooks charged into the field, they were to cut off their retreat
แอบซ่อนและซ่อนตัวและเมื่อโจรเข้าหาทุ่งนาพวกเขาก็จะตัดการล่าถอยออกไป
   “We will end it with this! Let’s go!” “Go! Kill those bastards!” “Oorahhh!” The moment Choi Hyuk’s group arrived at Shinmyung Middle School was when these 300 people of the suicide squad were desperately trying to block the crooks’ retreat
"เราจะจบเรื่องนี้! 
   “Gaaaah!” “Stop them!” “We can’t let them pass!!” The surround crooks ferociously lashed out but like their name, the suicide squad blocked their retreat with their lives
"Gaaaah!" "หยุดพวกเขา!" "เราไม่สามารถปล่อยให้พวกเขาผ่าน !!" คนโกงคร่ำแย่ล้อมรอบอย่างดุเดือด แต่เหมือนชื่อของพวกเขาฆ่าตัวตายหมู่บล็อกการล่าถอยด้วยชีวิตของพวกเขา
 Because of that, they were able to kill an additional 7 crooks
ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงสามารถฆ่าคนร้ายอีก 7 คนได้
 However… the suicide squad was dying at a rate much faster than that
อย่างไรก็ตาม ... ทีมฆ่าตัวตายกำลังจะตายเร็วกว่านี้
 Choi Hyuk looked at the scene and said one thing
Choi Hyuk มองที่ที่เกิดเหตุและพูดสิ่งหนึ่ง
 “…They’re going to break through
"... พวกเขากำลังจะผ่านพ้นไป
” At the same time, his body shot forward
"ในเวลาเดียวกันร่างกายของเขายิงไปข้างหน้า
 Kim Chulho and the middle-aged woman who were suddenly left behind in this dangerous place quickly hid
Kim Chulho และหญิงวัยกลางคนที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังในสถานที่อันตรายนี้อย่างรวดเร็วซ่อนตัว
   ‘Fuck… This won’t be enough…’ The leader of the suicide squad, Kang Dongsoo, felt nervous
'Fuck ... นี่คงไม่พอ ... ' หัวหน้าทีมฆ่าตัวตาย Kang Dongsoo รู้สึกกังวล
 It would be dangerous if this continued
มันจะเป็นอันตรายถ้านี้ต่อไป
 They had to at least reduce them to a single digit for them to be relieved but at this rate, there would be at least ten left
พวกเขาต้องลดจำนวนอย่างน้อยหนึ่งตัวให้เหลือเพียงตัวเลขเดียวเพื่อให้พวกเขาโล่งใจ แต่ในอัตรานี้จะเหลืออีกอย่างน้อย 10 ครั้ง
 He put more strength into it
เขาใส่ความแข็งแรงมากขึ้นในนั้น
 Due to his insufficient Stamina, the karma relaxed but he gritted his teeth as he brought out more power
เนืองจากไม่เพียงพอความแข็งแกร่งกรรมผ่อนคลาย แต่เขาก็กรีดกรายฟันของเขาขณะที่เขาดึงพลังออกมา
 “Stop them!” Just when the shield user in front of him was pushed away, Kang Dongsoo stabbed the monster’s forehead
"หยุดพวกเขา!" เมื่อผู้ใช้โล่ที่ด้านหน้าของเขาถูกผลักออกไป Kang Dongsoo แทงหน้าผากของมอนสเตอร์
   Pusch! It definitely was an E rank sword made from the ‘item order request’
Pusch! 
 If it was an F rank weapon, it wouldn’t have been able to penetrate its skull and would have slipped off… the sword pierced its forehead
ถ้าเป็นอาวุธอันดับ F มันจะไม่สามารถเจาะกะโหลกศีรษะของมันได้และจะหลุดออกไป ... ดาบแทงหน้าผากของมัน
   “Dongsoo hyung[3]! Watch out!” The suicide squad member behind him shouted out
"พี่ Dongsoo [3]! 
 He became startled
เขาเริ่มตกใจ
 He looked and found a crook charging towards him
เขามองและพบว่ามีการโกงตัวต่อหน้าเขา
 It made his blood freeze
ทำให้เลือดของเขาแข็งตัว
 Facing a perilous situation, Kang Dongsoo’s cognitive ability exploded into full gear
เมื่อเผชิญกับสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยอันตรายความสามารถด้านความรู้ความเข้าใจของคังอินซูโซก็เข้าสู่วงการเต็มรูปแบบ
 The oncoming crook seemed to move in slow motion
คำโกงที่กำลังมาถึงดูเหมือนจะเคลื่อนที่ช้าๆ
 What was tragic was… that unlike his cognitive ability, his physical abilities didn’t improve
สิ่งที่น่าเศร้าคือ ... ที่แตกต่างจากความสามารถในการรับรู้ความสามารถทางกายภาพของเขาไม่ดีขึ้น
 Dongsoo tried to avoid it by rolling backwards… his speed couldn’t match that of a crook’s
Dongsoo พยายามหลีกเลี่ยงมันโดยย้อนกลับไปข้างหลัง ... ความเร็วของเขาไม่สามารถตรงกับที่ของ Crook ของ
 In his focused state, Kang Dongsoo looked at the crook as it slowly came closer
คัง Dongsoo มองในขณะที่ค่อยๆเข้ามาใกล้ ๆ
 ‘So this is how I die
'นี่เป็นวิธีที่ฉันตาย
’ Just when all kinds of thoughts were flashing through his mind, something jumped over Kang Dongsoo
เมื่อความคิดทุกอย่างกำลังกระพริบอยู่ในใจของเขาบางสิ่งบางอย่างก็กระโดดลงเหนือ Kang Dongsoo
 He couldn’t even see him in the slow motion he was seeing the world in, On top of that, he was swiftly wielding a blade
เขาไม่สามารถแม้แต่จะเห็นเขาในการเคลื่อนไหวช้าที่เขาได้เห็นโลกในด้านบนที่เขาได้อย่างรวดเร็วควงใบมีด
 Slowly, the crook began to split apart
ช้าคดเริ่มแยกออกจากกัน
   Splash!   The crook that was split in two slipped past both sides of Kang Dongsoo
สาด! 
 “Wh…what? Who?” Only then did he wake up from his stupor
“Wh ... อะไร? 
 However, the person, Choi Hyuk, had already moved on to the next crook
อย่างไรก็ตามคน Choi Hyuk ได้ขยับตัวไปที่ข้ออ้างครั้งต่อไป
   “What the… I feel lighter than before?” Choi Hyuk who didn’t know the existence of the Barrier of the Weak felt strange
"สิ่งที่ ... ฉันรู้สึกเบากว่าที่เคย?" Choi Hyuk ที่ไม่ทราบว่าการมีอยู่ของ Barrier ของอ่อนแอรู้สึกแปลก
 He put a lot of strength into it since he thought they would be as tough as the one he killed at the apartment but if it was like this, he could use less strength
เขาใส่ความแข็งแรงมากในมันตั้งแต่เขาคิดว่าพวกเขาจะเป็นยากเป็นคนที่เขาฆ่าที่อพาร์ทเม้น แต่ถ้ามันเป็นเช่นนี้เขาสามารถใช้ความแข็งแรงน้อย
 “Good… Anyways, I should finish this as fast as I can
"ดี ... อย่างไรก็ตามผมควรจะจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
” Choi Hyuk started to squeeze out the karma in his body
"Choi Hyuk เริ่มบีบกรรมที่อยู่ในร่างกายของเขา
 One in the apartment, another just now, he had only killed two crooks but his Control was already at 92
หนึ่งในอพาร์ทเม้นอีกเพียงตอนนี้เขาได้ฆ่าคนร้ายเพียงสอง แต่การควบคุมของเขาได้แล้วที่ 92
 Every time he killed one, his Power would increase by 5, speed by 4 and the rest would increase by 3
ทุกครั้งที่เขาฆ่าคนหนึ่งพลังของเขาจะเพิ่มขึ้น 5, 4 โดยความเร็วและส่วนที่เหลือจะเพิ่มขึ้น 3
 Even his stamina that didn’t rise rose by 0
แม้ความแข็งแกร่งของเขาที่ไม่ได้เพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นเป็น 0
1
1
   ——————– [Choi Hyuk] Power: 81 (+5)   Speed: 83 (+5)  Control: 92 Endurance: 76  Stamina: 0
------- [Choi Hyuk] พลัง: 81 (+5) ความเร็ว: 83 (+5) การควบคุม: 92 ความอดทน: 76 ความแข็งแกร่ง: 0
2 (★)  Recovery: 96 (+10) [Before killing monsters] Power: 71 (+5)   Speed: 75 (+5)  Control: 86 Endurance: 70  Stamina: 0 (★)  Recovery: 90 (+10)   ——————– With a Control stat that exceeded his Power and Speed, he was able to freely control the karma in his body
พลังชีวิต: 71 (+5) ความเร็ว: 75 (+5) การควบคุม: 86 ความอดทน: 70 ความแข็งแกร่ง: 0 (★) การกู้คืน: 90 (+10) -> 
 Therefore, it was possible to momentarily squeeze out the karma in his body
ดังนั้นจึงเป็นไปได้ที่จะค่อยๆบีบกรรมในร่างกายของเขา
 He thought of this after seeing Choi Junsung’s [Lightning Strike]
เขาคิดถึงเรื่องนี้หลังจากได้เห็น [Lightning Strike] ของ Choi Junsung
   ‘If you use Power exceeding that of your Stamina, your muscles will relax and you will have to wait until you can use karma again
ถ้าคุณใช้ Power มากกว่าความแข็งแรงของคุณกล้ามเนื้อของคุณจะผ่อนคลายและคุณจะต้องรอจนกว่าคุณจะสามารถใช้กรรมอีกครั้ง
 And if your Stamina is similar to your Power and Speed, you can only go all out for 5 minutes
และถ้าความแข็งแกร่งของคุณใกล้เคียงกับ Power and Speed ​​คุณสามารถออกได้ทั้งหมด 5 นาที
 So it means that my consumption of Stamina is similar to before
นั่นหมายความว่าการบริโภค Stamina ของฉันมีความคล้ายคลึงกับก่อน
 But, Choi Junsung would pant after a single use of [Lightning Strike]
แต่ Choi Junsung จะหอบหลังจากใช้งาน [Lightning Strike]
 Why was that? Was it that if you used your Control stat to completely control your body, even if it is for one strike, you could bring out enough strength to make your body unable to use karma for a short time?’ Before he knew it, Choi Hyuk was figuring out the basics of the skills ‘they’ received
ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น? 
 And that understanding was currently coming to play
ความเข้าใจดังกล่าวกำลังมาถึงแล้ว
 Techniques he felt he didn’t need when facing other humans
เทคนิคที่เขารู้สึกว่าเขาไม่จำเป็นต้องเผชิญกับมนุษย์คนอื่น
 However, his opponents, this time, were monsters
อย่างไรก็ตามฝ่ายตรงข้ามของเขาในเวลานี้เป็นมอนสเตอร์
 He had prepared this move to make up for the difference in size
เขาได้เตรียมการนี้เพื่อสร้างความแตกต่างในด้านขนาด
 On top of that, it provided the best impact in reversing the attitudes of people who were being pushed into a corner
นอกจากนี้ยังมีผลกระทบที่ดีที่สุดในการพลิกกลับทัศนคติของผู้ที่ถูกผลักดันเข้าสู่มุม
   The problem was his Stamina… Choi Hyuk was most confident in his Stamina
ปัญหาคือความแข็งแกร่งของเขา ... ชอยฮยอกมั่นใจมากที่สุดในความแข็งแกร่งของเขา
 And for some reason, they were weaker than the one he encountered at the apartment
และด้วยเหตุผลบางอย่างพวกเขาอ่อนแอกว่าที่เขาพบในอพาร์ตเมนต์
 ‘7… no, if it’s like this, I can use it 14 times
'7 ... ไม่ถ้าเป็นแบบนี้ฉันสามารถใช้มันได้ 14 ครั้ง
’ Choi Hyuk relaxed his strength a little more
"Choi Hyuk ผ่อนคลายความแข็งแรงของเขาอีกหน่อย
 Even though he said he relaxed, the karma in his body seemed to inflate to an abnormal degree
แม้ว่าเขาจะบอกว่าเขารู้สึกผ่อนคลาย แต่กรรมที่อยู่ในร่างของเขาดูเหมือนจะพองไปถึงระดับที่ผิดปกติ
   Choi Hyuk’s body momentarily exploded out as his blade swung downwards
ร่างของ Choi Hyuk กระเด็นออกมาขณะที่ใบพัดของเขาเหวี่ยงลงไป
   Splaash!   The monster’s claw ripped apart
Splaash! 
 The D rank Predator’s Blade didn’t even chip after ripping apart its claw
ใบมีดของ Predator's Blade ไม่ได้แม้แต่ชิปหลังจากฉีกกรงเล็บของมัน
   “Two down…” Mumbled Choi Hyuk
"สองลง ... " Mumbled Choi Hyuk
 By his calculations, he could still kill 12 more but there was a chance that he would in pain until tomorrow if he did that
โดยการคำนวณของเขาเขายังคงสามารถฆ่า 12 เพิ่มเติม แต่มีโอกาสที่เขาจะเจ็บปวดจนถึงวันพรุ่งนี้ถ้าเขาทำอย่างนั้น
 So
ดังนั้น
 ‘Let’s kill 8 more
'ฆ่า 8 กันเถอะ
’ ‘In a single strike
"ในการนัดหยุดงานครั้งเดียว
’   Choi Hyuk’s blade seemed as if it was on fire
ใบมีด Choi Hyuk ดูเหมือนราวกับว่ามันกำลังถูกไฟไหม้
   [1] Korean men have mandatory military service
[1] คนเกาหลีมีหน้าที่รับราชการทหาร
 [2] Sorry I couldn’t resist xD [3] Honorific
[2] ขอโทษนะครับไม่สามารถต้านทาน xD [3] Honorific
 Younger male to older male
ชายหนุ่มแก่ชายที่มีอายุมากกว่า